มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า

อัลมิตรา

 
((๑)
.....ยามใดใจห่มไข้.........................สรรพการ 
มาตรมุ่งจรุงสาน.............................ชื่นช้อง 
อาทรข่มทรมาน.............................วันหม่น คืนหมอง 
พลาดหยั่งกังวาลก้อง........................กู่ให้ใจรวน ฯ 
(๒)
.....หลับตาคราเนื่องให้.....................ใจถวิล 
ไกลห่างยังยลยิน..............................ถิ่นเจ้า 
เพียงพิศจิตโผผิน.............................บินสู่ ใจประสาน 
สรรค์สุขทุกข์รุมเร้า............................กล่าวซ้องปองหรรษ์ ฯ 
(๓)
.....นามเราคราวกู่ก้อง........................มองเมียง 
สดับกับพจน์เพียง..............................เพ่งแก้ม 
จักยืนชื่นรจน์เรียง.............................เสียงแว่ว กังสดาล 
ปราศใคร่หมายนัยแย้ม.......................เพื่อนเจ้าเรามี ฯ 
(๔)
.....นภาคราหม่นครึ้ม..........................ซึมซาน เมฆา 
ปกปิดจิตทรมาณ................................สั่นไข้ 
ลมบนปนเหน็บนาน............................พลันย่าง กรายเยือน 
กระชับจับมือให้..................................สลายเศร้า โศกศัลย์ ฯ 
(๕)
.....นามเราคราวกล่าวใกล้..................ใดเอย 
พึงเอ่ยเผยเฉลย.................................เอ่ยซ้ำ 
มินานลั่นเคียงเคย.............................เชยสู่ ประตูเรือน 
สดับรับลอบย้ำ...................................พร่ำเพี้ยงเสียงหวาน ฯ 
(๖)
.....ดีฤาคือรับรู้...................................มิตรภาพ 
พรรคเพื่อนเยือนเตือนตราบ................ขนาบฟ้า 
ใครใดใฝ่เทียมทาบ............................สับข่ม ซมหมอง 
เจ็บแสบแปลบใจล้า............................อย่าได้ไหวเอน ฯ 
(๗)
.....ดังใครหมายแย่งยื้อ........................ถือวิญญ์ ครองเอย 
พึงอย่าตรึงตราจิน-..............................ตะข้อง 
หยัดยืนละผละผิน...............................บินห่าง 
ขอมั่นครันคราวคล้อง...........................ผ่องแผ้วแวววาย ฯ 
(๘)
.....ดีฤาคือรับรู้...................................มิตรภาพ 
เคยเอ่ยเฉลยทราบ.............................ตราบฟ้า 
ปรีดาคราเคียงทาบ.............................เทียมเพื่อน เยือนใจ 
เพียงจิตคิดเอื้อมคว้า..........................ไขว่น้อมถนอมนาน ฯ 
(๙)
.....เกษมศานต์มั่นแม้น.......................แทนใจ 
เราชื่นเธอชมใน................................ใฝ่ถ้อย 
ดีฤาคือมิตรใด....................................หมายร่วม เริงรมย์ 
มิตรหนึ่งคนึงน้อย...............................กว่าร้อยชนพาล ฯ 
  
 				
comments powered by Disqus
  • ส่องหล้า

    16 พฤศจิกายน 2545 17:38 น. - comment id 95958

    มริกายื่นยื้อ..................มือมา
    ไปแด่อุสมาฯ..................จุ่งสร้าง
    รวมเป็นหมู่มิตรพา..........พิงพึ่ง..ฤาเพื่อน
    กราดเกลื่อนรักโลกบ้าง.....จุ่งคว้ามือครอง
  • windsaint

    16 พฤศจิกายน 2545 22:56 น. - comment id 95997

    ม่ายรุเรื่อง อิอิ
  • ครูไหวใจร้าย

    17 พฤศจิกายน 2545 06:13 น. - comment id 96024

    โอยยยย  คุณอัลมิตราคะ  คำผิดมากเหลือเกินค่ะ
    
    ห่มใข้ ใช้ ห่มไข้
    
    ทรมาณ ใช้ ทรมาน
    
    เพียงพิศม์ คำนี้เดาไม่ออกค่ะ ตั้งใจจะหมายถึง พิษ พรือ พิศ หรือ พิสมัย ล่ะคะ
    
    หม่นคลึ้ม ใช้หม่นครึ้ม
    
    สั่นใข้ ใช้ สั่นไข้
    
    โศกศันต์ ใช้ โศกศัลย์
    
    ดีฤา ใช้ ดีฤๅ
    
    ใดไฝ่ ใช้ ใดใฝ่
    
    พิเนาว์ แปลไม่ออกค่ะ เพราะว่า พิ = ดี ; เนาว์ = ใหม่ หรือเก้า พอรวมกันแล้วแปลไม่ออกจริง ๆ ค่ะ เดาจากบริบทก็ลำบากค่ะ
    
    ขอตีคำละทีนะคะ
    
    ไม่ใช่อะไรดอกค่ะ เกรงนายเพอจะเอาอย่าง :)
    
    
  • อัลมิตรา

    17 พฤศจิกายน 2545 10:15 น. - comment id 96052

    คิก คิก ..ตอนแรกคุณอกนิษฐ์ ชำแหละมารอบนึงแล้วค่ะ เดี๋ยวจะไปแก้ไขค่ะ คุณครู ..ขอบคุณค่ะ สร้อยเจตนังแยะนะคะ ชุดนี้ ..
  • อัลมิตรา

    17 พฤศจิกายน 2545 10:34 น. - comment id 96055

    แก้ไขแล้วค่ะ ส่วนคำว่า ..เพียงจิตพิเนาว์คว้า..เปลี่ยนเป็น เพียงจิตคิดเอื้อมคว้า .. ค่ะ
    
    ขอบคุณค่ะ คุณครูไหว(ใจดีจังค่ะ)
    
  • idaho

    17 พฤศจิกายน 2545 17:40 น. - comment id 96112

    侯月噢热,,差แปลว่า  เฮ้ยทำไมอันนี้เราไม่ได้มาโพสต์หว่า

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน