คดขอบฟ้าโค้งดูเวิ้งว่าง ขอบฟ้ากว้างช่างว่างเวิ้ง เมฆร่วมตัวลดแสงกระเจิง เริ่มยังเชิงดูท่ากระแสลม ไกลไปทรวงจะล่วงเห็น ใกล้ใช่เป็นสิ่งหาเสาะสม ก้าวออกห่างอย่างอารมณ์ สู่ ณ ที่ชมว่าสมใจ คด คด ย้าย เมฆว่ายไปเกาะกลุ่ม หนาปิดหลุมเป็นกลุ่มใหม่ ฝนก่อตัวหัวหนาว วับวาบไฟ ฟ้าร้องใหญ่ คล้ายสั่งลาฤดูกาล ขอบฟ้ากว้างดูแคบแนบฝน ดูสับสนหม่นสีเมฆอลหม่าน สายฟ้าแลบ แปลบ แปลบ ผ่าน ลมประสานผสมโรงตรงโค้งฟ้า มายินดีหรือเสียใจในทุกข์ หลั่งฝนปลุกจิตใจที่อ่อนล้า ชโลมโศก สุข ทุกข์ เรื่องธรรมดา ตากน้ำฝนดีกว่าตากน้ำตาริน
11 พฤศจิกายน 2545 16:58 น. - comment id 95027
มากางร่มให้ค่ะ จะได้ไม่ต้องตากฝนและตากน้ำตาค่ะ ... :) ยิ้มไว้นะคะ โลกนี้จะสดใสยิ่งนักแล้วค่ะ
11 พฤศจิกายน 2545 17:14 น. - comment id 95030
แวะมาให้กำลังใจจ้า...นิติ บทก่อนไม่ได้login แต่ใช่ฟานะ
11 พฤศจิกายน 2545 18:40 น. - comment id 95051
ทำมัยดูเหงาจังเลยอะค่ะ
11 พฤศจิกายน 2545 23:50 น. - comment id 95132
ใช่ ตากน้ำฝนดีกว่า ตากน้ำตา ชอบมากครับ
12 พฤศจิกายน 2545 14:52 น. - comment id 95229
เมื่อเช้าฝนตกด้วยสิ นอนสบายที่สุดเลยยยยย เอาน่านอนอุ่นๆใต้ผ้าห่มดีกว่าจะออกไปตากฝนนะ เราว่าน่ะ ^_^
21 พฤษภาคม 2546 18:14 น. - comment id 139838
ยามที่ฝนพรมพรายลงผืนดิน กลิ่นดิน ไอฝนหอมหวลชวนชื่นใจ มวลแมกไม้ร่ายรำ ฉ่ำฝนใหม่ ฉันแอบเร้นกายนั่งมองสายฝนพรำ คิดถึงชีวิต คืนวันที่ผันผ่าน กี่กาลฝนสู้ทนด้วยหัวใจ ยิ้มทั้งน้ำตา หัวเราะ ปนร้องไห้ หลากดี ร้าย ลุยมาไม่ซ้ำกัน ฟ้ากว้าง ใจก็ว้างนะครับ ฟ้าฝนใจก็หม่น คนหนอคน คนเหงา
21 พฤษภาคม 2546 18:15 น. - comment id 139839
ยามที่ฝนพรมพรายลงผืนดิน กลิ่นดิน ไอฝนหอมหวลชวนชื่นใจ มวลแมกไม้ร่ายรำ ฉ่ำฝนใหม่ ฉันแอบเร้นกายนั่งมองสายฝนพรำ คิดถึงชีวิต คืนวันที่ผันผ่าน กี่กาลฝนสู้ทนด้วยหัวใจ ยิ้มทั้งน้ำตา หัวเราะ ปนร้องไห้ หลากดี ร้าย ลุยมาไม่ซ้ำกัน ฟ้ากว้าง ใจก็ว้างนะครับ ฟ้าฝนใจก็หม่น คนหนอคน คนเหงา