นิรันดรนิรันดร์กาล มนุษย์ผลาญประหาญหาย กระทำความวิบัติร้าย สนองเหตุกิเลสตน สะเทือนทั้งสยุมภู ก็อาดูรและสับสน อุทกร้ายหทัยชน ทะลักโลกและท่วมธรรมฯ มิหยุดอยากมิหยุดหย่อน มิยอมผ่อนกิเลสล้ำ วิกฤตกล้าก็ครอบงำ ตะครุบใจมิให้งาม พระธรรมหมองมิมองหมาย กิเลสร้ายมิไถ่ถาม ก็โจมจู่และวู่วาม พระธรรมลับสลายเลือน ฤทัยชั่วมิเห็นธรรม ระทมกรรมวิบัติเกลื่อน ทะลักล้นกิเลสเปื้อน มิพ้นช่วง ณ บ่วงกรรมฯ
11 ตุลาคม 2545 17:03 น. - comment id 86431
ครับ...ละกิเลสไม่ได้ ก็ยังคงเวียนว่ายตายเกิดครับ ตามกฎแห่งธรรมชาติ
11 ตุลาคม 2545 21:01 น. - comment id 86602
นั่นคือ ..เวรกรรม.. *..จากใจไคริ..*
12 ตุลาคม 2545 23:54 น. - comment id 86986
นับถือ คุณจริงๆนะคะ แต่งกลอนได้กินใจมากค่ะ เป็นสัจธรรม สอนให้ข้อคิด นับถือในการแต่งกลอน และ เนื้อหาค่ะ
13 ตุลาคม 2545 12:28 น. - comment id 87099
ธรรมานุภาวะไกร พิเศษใสพิศุทธิ์ศรี กระจ่างแจ้งแห่งวิถี ณ มรรคมี แปดประการ ทศพลยุคลบาท สีหนาทประหัตถ์หาญ กิเลสร้ายสิลาลาญ พระทรงญาณประธานธรรม
13 ตุลาคม 2545 20:58 น. - comment id 87287
http://www.thaipoem.com/web/poemdata.php?id=24402 ++ กฏแห่งกรรม+++ บุษราคัม สุรีย์ศรี รวีส่อง ผ่องอำไพ สว่างไสว ใสสด จรดหล้า ทินกร รอนๆแสง สุริยา หมู่นกกา พากันผิน บินกลับรัง สนธยา มาเยือน เพื่อนรัตติกาล รวิวาร ผ่านไป ไม่กลับหลัง รัชนีกร จรสู้ฟ้า มาอีกครั้ง เปรียบได้ดัง ดั่งมนุษย์ ไม่หลุดกรรม ต้องเวียนว่าย ตายเกิดไป ไม่จบสิ้น คนเดินดิน ไม่สิ้นภพ บรรจบซ้ำ เพราะกิเลส เหตุวิบาก จากผลกรรม จึงกระทำ ให้จำต้อง ล่องห้วงเวร สู่วัฏฏะ อบาย ไม่คลายทุกข์ บ่พบสุข ปลุกใจ ให้เกษม ต้องชดใช้ ไปตามกฎ หมดกรรมเวร คือหลักเกณฑ์ ไม่เอนเอียง เที่ยงแท้เอย --------------------------------------------------------- อ่านกลอนของส่องหล้าแล้วเกิดแรงบันดาลใจค่ะ บุษ ชอบอ่านกลอนแนวปรัชญา ศาสนา ค่ะ ให้เป็นกำลังใจให้คุณ สรรค์สร้างกลอนดีมีประโยชน์ ไปเรื่อยนะคะ ชื่นชมความสามารถของคุณค่ะ
14 ตุลาคม 2545 13:35 น. - comment id 87491
ขอขอบคุณทุกท่านอย่างยิ่งครับ