น้ำนิ่งใส ในกลางบึง ซึ่งสงบ มีบอนหลบ แตกกอ หน่อน้อยน้อย ไม่อาจอวด อ้างองค์ ทรงต่ำต้อย คงต้องคอย ครวญคร่ำ ร่ำระทม เพราะรู้ค่า คู่ควร แค่มวลไม้ ใช่ยิ่งใหญ่ เช่นแปลงปลูก ถูกทับถม แค่บอนคัน ใบเขียวอ่อน ค่อนแคะข่ม ว่ากลิ้งกลม ดังหยดใส บนใบบอน ใครใครเขา พิศพึง แค่บึงบัว ชูช่อชัน หยันยั่ว กลั้วเกสร สีสัน สะดุดตา พาใจอ่อน ที่แทรกซ้อน สวยสม ชวนชมนัก น้ำลึก ยังเหยียดยอด ทอดเป็นสาย แผ่ขยาย เขตคาม รามสลัก บานเบ่ง ขึงขัง สะพรั่งสะพรัก ด้วยใจรัก เพียงปทุม กลุ่มผกา แล้วเมื่อ ถึงยาม ที่น้ำลง ปรามปลง คงเหมือน เดือนเมษา. อากาศร้อน ร้อนไล่ ในอุรา กอบัว ก็พา กันแห้งกรัง ก้านยาวสูง สลอน ต้องนอนราบ เปื้อนสาบโคลน คล้ำปน สิ้นมนต์ขลัง ใบกรอบเกรียม ต่ำตก รกรุงรัง แม้เหยียบย่าง ก็ยัง มิกล้ากราย เหลืออยู่เดียว ใบเขียวอ่อน เคยค่อนข่ม กลับมาชม สมชื่น รื่นบอนร้าย ผงาดใบ เขียวแก่ แผ่สยาย กรีดกราย แกร่งก้าน ต้านเหมันต์ น้ำน้อย น้ำนองเนือง เรื่องของน้ำ บอนใบบาง กลางต้อยต่ำ ย้ำเย้ยหยัน ยังชื่นยอด ชันชู อยู่อย่างนั้น ไม่หวาดหวั่น มิพึ่งพา ธาราลอย (ม้าก้านกล้วย)
10 กันยายน 2545 18:00 น. - comment id 75089
อิอิ เป็นกลอนธรรมชาติ ที่เสียดสีสังคมได้มีมากเลยค่ะ
10 กันยายน 2545 19:43 น. - comment id 75143
..ดีใจที่..ม้าก้านกล้วยกลับมาค่ะ.. ..ชอบอ่านกลอนของคุณมากค่ะ..^-^
10 กันยายน 2545 20:12 น. - comment id 75163
ช่ายๆ พี่ม้าก้านกล้วยหายไปไหนอ่า ไม่ค่อยเห็นเลย เจี๊ยก กลอนนี้เข้าใจเปรียบเทียบดีนะคะ บัวกับบอน อืม ใช้ได้กับหลายๆ เรื่องในโลกนี้ทีเดียว ล้ำลึกๆ
10 กันยายน 2545 20:29 น. - comment id 75180
เห็นด้วยค่ะ
10 กันยายน 2545 21:28 น. - comment id 75259
หายไปหนายมาหลายวันคะ.....ท่านอาจารย์
10 กันยายน 2545 21:55 น. - comment id 75278
ได้มาอ่านงานของม้าก้านกล้วยได้ศึกษาอะไรดีดีขึ้นมาก
10 กันยายน 2545 23:41 น. - comment id 75361
(o^___^o) เกินคำบรรยาย
11 กันยายน 2545 00:25 น. - comment id 75381
ในยามแสงจันทร์จับประทับฟ้า เหล่าดารา...แสงน้อย คอยหลบหลัง หาใช่ดาว จะลบหาย กายอยู่ยัง รอเวลา..จันทร์แรมร้าง...สว่างคืน แสงดาวของเจทท์ก็เหมือนใบบอน...ของพี่ม้า น่านหล่ะค่า พี่ม้าๆ เจทท์มีชื่อใหม่แล้วค่ะชื่อว่า ข้าวเจทท์ค่ะ ตะนี้ก็เปงลูกสาวคนโตได้แล้วนะคะ @^_____^@ ยิ้มหวาน...ยิ้มหวาน