กลางทุ่งนาฟ้ากว้างเส้นทางรก..................ผืนแผ่นอกแผ่นดินชีวินเคลื่อน มีกระต๊อบโย้เย้เป็นเหย้าเรือน...................อยู่กลางเถื่อนทุ่งนาฟ้าแสนไกล พ่อแม่ลูกผูกรักใจรับรู้...........................การเป็นอยู่ง่ายงามตามวิสัย ลูกเพิ่งโตเติบกล้าเจริญวัย....................... ร่วมหัวใจพ่อแม่ลูกผูกชีวา เรียนโรงเรียนรกร้างข้างข้างวัด.................กว้างเกินขอบจำกัดจะจัดหา ได้เรียนรู้เติบโตบนพื้นนา....................... กว้างและไกลเกินกว่าจะคว้าดึง อนามัยอยู่ไกลในตลาด............................. เป็นโรงหมอผูกขาดอันดับหนึ่ง ใครป่วยไข้มีหมอไม่ดื้อดึง......................... ไปรักษาให้ถึงที่บ้านเรือน แล้ววันหนึ่งกลางนาเมื่อฟ้ามืด...................ใจเย็นชืดเหน็บหนาวเข้าเชือดเฉือน เมื่อลูกรักเจ็บไข้ได้มาเยือน........................ตัวร้อนเหมือนเปลวไฟที่ไหม้ลาม ยาหมอตี๋ซื้อมาก็กินหมด.............................ไม่รู้กฎเพียงพอในข้อห้าม ไข้ขึ้นสูงสูงไม่ลดเกินปลดปราม...................ต้องไปตามหมอมารักษาพลัน อนามัยไกลกว่าขาจะก้าว............................จักรยานช่วงยาวคราวคับขัน ผ่านคันนาป่าทุ่งมุ่งชีวัน.............................พ่อผู้ปั่นหมายหมอต่อชีวิน ถึงโรงหมอหมอรู้อาการร้าย........................คนวางวายไข้เลือดออกระอาถิ่น ปลิดชีวิตเด็กเด็กหลายชีวิน.......................ให้ดับดิ้นก่อนหมอต่อชะตา เครื่องมือหมอหยูกยาจัดหาพร้อม................หัวใจน้อมจิตนำยามรักษา พลีชีวิตดึกดื่นตื่นลืมตา...............................เป็นจรรยาฯ ของหมอต่อผู้คน ผ่านคันนาคันเก่าเล่าความแกร่ง.................สู่กระต๊อบโหว่แหว่งในเหล่งหน แม่และลูกรอหมอต่อชีพตน.........................แม่หัวใจสับสนและวุ่นวาย ไปไหนหนอหมอไม่มาชักช้านัก....................ไปจมปลักโคนบ่อพ่อจึงหาย ลูกเอ๋ยลูกเจ็บหนักไม่ผ่อนคลาย....................เพราะฤทธิ์ร้ายดิ้นชักจักเกินทน สายลมวูบวาบไหวหัวใจวาบ...........................ลมหายใจเยิบยาบอยู่ในหน ลมอื้ออึงตึงตังในกมล................................ลมหายใจหลุดพ้นสงบแรง หมอมาถึงเวลาที่ฟ้าพราก..............................ฉุดกระชากหัวใจให้หลุดแหล่ง ชีวิตน้อยรอหมอจนสิ้นแรง............................หัวใจแหว่งหวังหมอต่อชีวิน
7 กันยายน 2545 16:15 น. - comment id 74176
อ่านเต็มอิ่มเลย.... แต่ต้องพิมพ์ไปนะ.... มานตาลายจ้า
7 กันยายน 2545 17:13 น. - comment id 74189
ชีวิตชนบทแบบนี้ก็ยังมีให้เห็น... ระหว่างที่คนเมืองใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย คนบางคนกลับต้องการแค่ปัจจัยสี่ที่เพียงพอเท่านั้นเอง...อ่านแล้วก็รันทดเหมือนกัน
7 กันยายน 2545 21:14 น. - comment id 74245
...ชีวิตในชนบทลำบากมาก.. คนจนยังมีอยู่อีกมากมายการดำเนินชีวิต ที่ต่างกันจากในเมือง ..อ่านแล้วเศร้าค่ะ...
9 กันยายน 2545 10:22 น. - comment id 74678
^*^ ^*^ ^*^. ..เป็นชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่ง.... ที่บางคนอาจไม่เคยสัมผัส.. อ่านแล้วอินตามเลยอะจ๊ะ..^*^ .......................................