หยิบงานเก่า เอามาเก็บ เหน็บมากอง ..

วลี..

. . . . 
 
เกี่ยว ..
20718  17 ส.ค. 45 - 12:14  
๑จากเขียวเข้มเหลืองแล้ว.... รวงทอง 
แขกร่วมลงจับจอง................ เกี่ยวข้าว 
ข้าฯขยับหมายปอง................. เคียงคู่..เจ้าเฮย 
เคียงเกี่ยวเหนี่ยวโน้มน้าว...  คงเข้าใจกัน 
ขาเข่าแขนเมื่อยล้า............ ยอมทน 
ก้มเงยเกี่ยวเสียจน.............. ยอกแล้ว 
เจ้ามิเหลียวสักหน................ คมเคียว..เขวนา
สกุณาพาเจี้อยแจ้ว............... ยิ่งย้ำคมเคียว..
 
... 
จินต์ ..  
21163  24 ส.ค. 45 - 14:21  
รุจิวิรงรองราวรุ้ง........... พรั่งพราว 
สิริรังสีขาว..................... พุ่งพร้อย 
นิมิตม่านจรดยาว.......... มวลเมฆ 
ขจีขจายย้อย...................พฤกษ์ระย้าระยับไพร 
 
...
ภาพ .. 
21187  25 ส.ค. 45 - 01:02  
เงาเมฆ ประกายน้ำ ................... เลื่อมพราย 
ริ้วคลื่นพลิ้วเส้นสาย .................. เพริดแพร้ว 
สายฝนพร่างสลาย ..................... คล้ายม่าน .. คั่นเฮย 
แม้นฝนผ่านเลยแล้ว ................. ภาพนั้น แปลงไป 
เงาเมฆ ประกายน้ำ 
งามลึกล้ำ ท่ามกลางใจ 
จดจำภาพสดใส 
เมฆครั้นครืน อนธกาล
พิรุณประพรมพร่าง 
งามดุจดั่ง ทิพย์พิมาน 
งามนี้ งามนั้นผ่าน 
ถอดถอนใจ ไม่คงทน ..
...
ครวญ..  
21246  26 ส.ค. 45 - 00:02  
๑ เพียงพิศเพียงเพริดแพร้ว........ พรรณราย
ชิดชื่นยิ่งละลาย............................. ใจต้อง
พลิ้วพลิ้วละลิ่วสาย-........................ ลมลู่ ไล้เฮย
เกสรชูช่อช้อง................................ ช่างเย้ยช่างหยันจริง 
๒ มวลผกาเกยก่ายท้า-................... ฟ้างาม
แดง ม่วง ส้มอมคราม...................... อย่างนั้น
ระย้าพวงชมพูลาม........................... ตามที่
ยืนชมโลมใจกลั้น............................ กรุ่นแก้มนวลปราง 
๓ หลิวแย้มลู่ลู่ไล้.............................. ริมธาร
ไกวแกว่งกิ่งประสาน........................ ชดช้อย
ผิวนทีกระเพื่อมขาน......................... หลิวลู่
ละลอกคลื่นระรื่นคล้อย...................... คนึงนี้เนินนาน 
๔ ฟ้าเอยหล้าเอยเจ้า........................ ฟังคำ
อีกหมู่มวลไม้งาม............................... ฟังข้าฯ
เขตขอบแห่งพรหมนำ........................ ข้าฯยอม
ขอเพียงแค่ บ่ ล้า................................ครวญนี้ จวบนิรันดร์ 
...
ฟังคำ ..  
21309  27 ส.ค. 45 - 00:56  
๑ สุริยัน และจันทร์เจ้า ....... จงฟัง 
ตราบชีพอสัญยัง ................. บ่ร้าง 
สองมือก่อรวงรัง .................. เพียงเพื่อ นวลเฮย 
ดินฟ้าข้าฯเอ่ยอ้าง ................ พยานรู้บ่เพียงคำ
๒ ยอดชู้ชีพพี่นี้ .................... อุทิศ
อาบเหงื่อจากดวงจิต ............. ลึกล้ำ 
มีนวล อยู่ แนบชิด ............... มิหวั่น ใดนา
ขอดินขอฟ้าค้ำ ...................... คู่เจ้าตราบนิรันดร์ 
...
เพลินไพร..
21379  27 ส.ค. 45 - 23:50  
๑ แต่ละย่างย่ำก้าว.......... ดุ่มไป 
เพลิดเพลินพนาไพร....... สุดยั้ง 
ยิ่งเดินยิ่งเฉไฉ............... ออกนอก..ทางนา 
ต้องหยุดเดินแล้วตั้ง........ จับต้นชนปลาย 
๒ ดั้นด้นเมื่อครู่ครั้ง.........จากธาร 
หลงทิศให้เนิ่นนาน......... แน่แล้ว 
ดีที่ไม่ถึงคลาน................. ฉุดคิด..ได้นา 
ให้นึกถึงพ่อแก้ว.............. ปกป้องคุ้มภัย 
๓ เถาวัลย์คล้องคบไม้..... ยาวเหยียด 
ยิ่งเยอะยิ่งเบียดเสียด..... รกร้าง 
ตะไคร่เขียวละเอียด....... เกาะกุม..ครึมเฮย 
ด่านนี่ผ่านคงค้าง............ ก่อตั้งฟืนไฟ.. 
๔ ใกล้ยังสนธยาฟ้า........ ห่มดำ 
เสียงเสนาะลำนำ............ จากหล้า 
หรีดริ่งเรไรพรำ............. พร้อมพรั่ง.สนั่น 
ดุจทักทายบอกข้าฯ.......... มาร้องรำกัน
...				
comments powered by Disqus
  • ละอองน้ำ

    5 กันยายน 2545 02:41 น. - comment id 73245

    ดูท่าจะชอบธรรมชาตินะ
  • windsaint

    5 กันยายน 2545 07:08 น. - comment id 73264

    เยอะแยะเยย
  • พนาไพร

    5 กันยายน 2545 20:01 น. - comment id 73497

    โอ้โหพี่วลี  ท่าท่างจะเก่งโคลงสุดๆเลยนะเนีย  ต้องขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์แล้วหยั่งเงีย(รับลูกศิษย์จอมซนคนนี้ไหนครับพี่วลี)
    
    อิอิอิอิ
  • ธนรัฐ สวัสดิชัย

    5 กันยายน 2545 20:22 น. - comment id 73508

    เก่งจังเลย...................

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน