ดอกสีเหลืองของนนทรีมีเต็มต้น และกำลังร่วงหล่นอย่างช้าช้า เหลือเรืองรองผ่องเด่นเต็มนัยน์ตา เตือนให้รู้ถึงเวลาต้องลากัน สายลมแห่งเหมันต์พัดผันผ่าน คิมหันตกาลแทนเข้าร้าวใจฉัน เคยเรียน-เล่น-พบเพื่อนอยู่ทุกวัน เคยสุขสันต์เคยชิดใกล้เคยไยดี ดอกนนทรีดอกน้อยค่อยค่อยหล่น ใจฉันหม่นหมองเศร้าร้าวเหลือที่ ความผูกพันที่คงมั่นนั้นคงมี แต่คราวนี้ถึงเวลาต้องลากัน ชมพู-เขียวถิ่นรักจักลาแล้ว จำคลาดแคล้วขอเพียงใจเราคงมั่น ลูกสามเสนเทิดทูนสถาบัน แม้ห่างกันห่างไกลใช่ห่างเลย
8 สิงหาคม 2545 02:11 น. - comment id 65822
พี่ชอบมาอ่านกลอนนิว... เพราะนิวเขียนได้เพราะดีจัง
31 กรกฎาคม 2547 01:48 น. - comment id 145409
ดอกนนทรีสีเหลืองเรืองอร่าม ร่วงหล่นตามแรงพลิ้วปลิวลมไหว ดอกนนทรีกลาดเกลื่อนเหมือนเตือนใจ รำลึกไว้ใกล้เวลาต้องลากัน สายลมแห่งเหมันต์พัดผันผ่าน คิมหันตกาลแทนเข้าร้าวใจฉัน เคยเรียน-เล่น-พบเพื่อนอยู่ทุกวัน เคยสุขสันต์เคยชิดใกล้เคยไยดี ดอกนนทรีดอกน้อยค่อยค่อยหล่น ใจฉันหม่นหมองเศร้าร้าวเหลือที่ ความผูกพันที่คงมั่นนั้นคงมี แต่คราวนี้ต้องจากไกลใจอาทร ระลึกถึงความรักอันอบอุ่น ความการุณย์จากคุณครูผู้สั่งสอน ศิษย์ต้องจากลาไปใจอาวรณ์ น้อมรับพรจากคุณครูด้วยดวงใจ มองหน้าเพื่อนยิ่งแสนเศร้าร้าวดวงจิต เพื่อนคู่คิดมิตรยามยากหากหวั่นไหว ของจงรู้ว่าเธอนั้นยังมีใคร เป็นแรงใจให้กับเธอเสมอมา ลมโชยพลิ้วปลิวพัดนนทรีร่วง ให้จิตห่วงทรวงช้ำร่ำไห้หา จำใจจากจำพรากไกลจำใจลา ให้รู้ว่าใจเราเฝ้าผูกพัน ชมพู-เขียวถิ่นรักจักลาแล้ว จำคลาดแคล้วขอเพียงใจเราคงมั่น ลูกสามเสนเทิดทูนสถาบัน แม้ห่างกันห่างไกลใช่ห่างเลย