บันทึกของ...เธอ

ต้ยนุ้ย

บนรถเมล์ 
ตัวหนังสือสามารถบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไปได้ดีกว่าคำพูดมากมายนัก 
จึงไม่น่าแปลกที่ฉันจะหลงใหลในเสน่ห์ของตัวอักษรมาหลายปีดีดักแล้ว 
ฉันมักจะเรียกตัวเองว่า คนเขียนหนังสือ อยู่เสมอไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันคงเพราะว่าฉันเขียนหนังสือไม่ดีพอที่จะเรียกตัวเองว่ากวี ได้ล่ะมั้ง 
โลกของตัวอักษรสวยงามนัก แค่มีปากกาสักด้าม เศษกระดาษสักแผ่น 
และมีเขาคนนั้นเป็นพระเอกของเรื่องสักคนก็คงเพียงพอ 
เรื่องราวความรักของฉันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ 
รู้เพียงแต่ว่าในสมุดบันทึกประจำวันของฉัน 
มีชื่อเขาตั้งแต่วันมอบตัวทีเดียว 
คงเพราะความบังเอิญที่ทำให้เราสองคนมักจะได้ทำอะไรด้วยกันเสมอ 
ได้เล่นละครด้วยกัน 
ได้นั่งคู่กันในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ 
หรือแม้กระทั่งไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้ง 
แต่เรากลับไม่ได้ใกล้ชิดกันเท่าที่ควร 
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 
จนวันหนึ่ง 
มีนอยากวาดรูปเหรอ เราสอนให้ก็ได้นะ 
นี่แหล่ะประโยคสำคัญที่ทำให้เราสองคนได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้น 
เขารีบกระวีกระวาดไปหากระดาษกับดินสอมาวางไว้ตรงหน้าฉัน 
ไม่รู้ว่าวิญญาณครูไปสิงอยู่กับชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน 
เขาลากเส้นเป็นตัวอย่างแล้วให้ฉันลองทำตามไปช้าๆ 
ลมที่พัดแรงทำให้ผมของฉันปลิวจนยุ่งไปหมด 
ขอโทษนะ 
เขาพูดแล้วเอื้อมมือมาหยิบปอยผมของฉันที่ปลิว 
เพื่อเหน็บหูของฉันไว้อย่างเดิม 
ขอบคุณนะเฟิร์ส ฉันพูดเขินๆ 
ใบหน้ากลายเป็นสีแดงระเรื่อ 
เขายิ้มบางๆเหมือนกับจะบอกว่าไม่เป็นไร 
หลังจากทนนั่งดูฉันลากเส้นที่ดูไม่ได้เอาเสียเลยมาเป็นเวลานาน 
เขาก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจแล้ว 
ส่ายหน้าไปมาอย่างหดหู่ 
แย่กว่าเราตอนฝึกวาดใหม่ๆซะอีก 
เขาทำท่าทางเหมือนครูที่กำลังดุนักเรียนอยู่ยังไงยังงั้น 
ก็คนมันไม่เก่งนี่นา 
ไม่ต้องสอนก็ได้นะ ฉันบ่นเบาๆแล้ววางดินสอลงแรงๆ 
เอาเหอะฝึกต่อไปละกันฮะ 
วาดรูปน่ะไม่ยากหรอกถ้ามีคนสอนดีๆอย่างเรา 
เขาบอกยิ้มๆ 
ฉันส่ายหน้ากับความหลงตัวเองของเขาหลงตัวเองจริงๆนะนายเฟิร์สจอมเก๊ก 
เราสนิทกันมากขึ้นทุกทีสนิทท่ามกลางเสียงแซวและวิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อนที่ 
ไม่เว้นแม้แต่ในคาบเรียนสวีทกันจังเลยคู่นี้ 
เสียงเพื่อนๆที่ดังมาจากด้านหลังห้องทำให้ฉันต้องวางดินสอลงอายๆ 
เฮ้ย! เธออย่าแซวซิ 
เราไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นสักหน่อย เฟิร์สแก้ตัวให้ 
เพื่อนๆทำสีหน้าไม่เชื่อ 
แต่พอเห็นหน้าตาเอาเรื่องของฉันก็เลยจำใจต้องสงบปากสงบคำแล้วเดินหนีไปคุยกันที่ 
อื่นแทน 
ช่างเขาเหอะ 
ฉันพูดเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาวาดรูปต่อไป 
มีนเรามีอะไรจะบอก เขาพูดท่าทางเขินๆ 
อารายเหรออออ 
ฉันเงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดลากเสียงยาว 
เราชอบผู้หญิงคนหนึ่งนะ 
สีหน้าอายๆของเขาทำให้ฉันแอบหวังอยู่ลึกๆว่านี่ 
คงจะเป็นวิธีการบอกรักทางอ้อมของเขา แต่. 
คนนั้นไง 
ว่าแล้วเขาก็ชี้ไปที่เพื่อนร่วมสถาบันคนหนึ่งที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู 
ฉันหันไปยิ้มล้อ 
บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยจนนิดเดียว 
อาจจะเป็นเพราะว่าฉันไม่เคยหวังให้เขามารัก 
แค่รู้สึกรักเขาอยู่ฝ่ายเดียวก็พอ 
เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น 
ฉันวางดินสอลงโดยอัตโนมัติ เรากลับแล้วนะ ฉันบอกเบาๆ 
ขอบคุณสำหรับการสอนวาดรูปและทุกๆอย่างนะ 
มีนพูดเหมือนสั่งลาเลย เขาพูดติดตลก 
อย่างกับเราจะไม่ได้สอนมีนอีกอย่างนั้นแหละ ใครจะไปรู้ล่ะ 
ชีวิตมันไม่แน่หรอกเฟิร์ส ฉันพูดทีเล่นทีจริง 
แล้วเดินไปปิดกระจก 
และประตูห้องเรียน เขาเดินมาช่วยอีกแรงหนึ่ง 
วันเสาร์เจอกันที่เรียนพิเศษแล้วกันนะ บ๊ายบาย 
เขาบอกลาแล้วโบกมือให้ 
ฉันยิ้มรับแล้วโบกมือตอบไป กลับบ้านดีๆนะจ้ะหนูมีน 
เสียงตะโกนของเขาที่ดังตามหลังมา 
ทำให้ฉันแอบอมยิ้มบางๆอย่างมีความสุข 
ฉันนั่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขานับตั้งแต่วันแรกที่รู้ 
จักกัน ตลอดเส้นทางกลับบ้าน 
ไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่แสนจะธรรมดาคนนี้จะกลายมาเป็นคนสำคัญของหัวใจ 
ถึงจะรู้ว่าเขามีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว 
แต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรเพราะฉันก็ยังคงมีความสุขที่จะรักเขา 
ที่จะได้เห็นรอยยิ้ม 
ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา 
มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันคนนี้แล้ว 
ฉันหยิบภาพเหมือนของฉันที่เขาวาดให้ตอนวันเกิดขึ้นมาดู 
สุขสันต์วันเกิดนะครับ 
ฉันยังจำเสียงใสๆของเขาที่บอกตอนเช้าตรู่ในวันสำคัญของฉัน 
มีความสุขมากๆนะครับมีน 
รอยยิ้มจริงใจของเขาในวันนั้นยังบันทึกอยู่ในความทรงจำของฉันเสมอมา.ไม่เคยลบเลือน 
โครมมมมมมม!!!!!! เสียงดังขึ้นที่ถนนสายหนึ่ง 
บรรดาไทยมุงต่างพากันมามุงดูเหตุการณ์รถคว่ำ 
ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งถูกหามออกมา 
กระดาษวาดเขียนตกลงมาจากมือที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดของเธอ 
ชายแก่คนหนึ่งหยิบขึ้นมาดู 
เห็นหยดเลือดเปรอะไปทั่วแผ่นกระดาษนั้น 
แต่ก็พอจะมองเห็นลางๆ ว่าเป็นภาพวาดของหญิงสาวที่กำลังยิ้มสดใสในชุดนักเรียนโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดัง 
มีลายมือที่เขียนไว้ใต้ภาพอย่างสวยงามว่า 
เพียงความทรงจำเฟิร์ส 
ชายแก่คนนั้นทิ้งภาพไว้ที่เดิมอย่างไม่ใคร่สนใจใยดีนัก 
ลมเริ่มพัดกระหน่ำแรงขึ้นเรื่อยๆ 
จนทำให้กระดาษแผ่นนั้นปลิวตกลงไปบริเวณลำคลองริมถนนและค่อยๆจมหายลงไปใต้ผืนน้ำนั้น 
ผมได้สมุดเล่มนี้มาจากเพื่อนสนิทของเธอ 
ผมเลยขอเขียนเรื่องนี้ให้จบด้วยมือของผมแทน 
เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา 
ผมไปเรียนพิเศษก็นึกแปลกใจอยู่ตะหงิดๆว่าทำไมเธอถึงไม่มาเรียน 
เพราะปกติเธอไม่ใคร่จะชอบหยุดเรียนนัก 
ก็บังเอิญผมไปพบเพื่อนสนิทของเธอเข้าพอดิบพอดี 
เฟิร์สรู้เรื่องมีนหรือยัง 
เขาถามผมทันทีที่พบกัน 
สีหน้าของเขามีแววเศร้าๆปรากฏอยู่ ตาก็ดูบวมแดงผิดปกติ 
ยังครับ มีนทำไมเหรอ ผมถามยิ้มๆ 
เธอก็คงไม่สบายแต่อาจจะหนักหน่อยถึงยอมขาดเรียนวันนี้ผมคิด 
มีนรถคว่ำ 
ตอนนี้อยู่ห้อง ICU โรงพยาบาล. เขาบอก 
ผมอึ้งไปสักพักใหญ่ๆ 
พอได้สติอีกทีก็มายืนอยู่หน้าห้อง ICU 
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งข้างๆเพื่อนสนิทของเธอคนเดิม 
เขาจัดการเป็นธุระไถ่ถามพยาบาลถึงเตียงของเธอเพราะไม่เห็นเธออยู่ที่เตียงเดิม 
เสียใจด้วยนะคะ คุณมีนาหัวใจล้มเหลวเมื่อ 15 
นาทีที่แล้วค่ะ 
หูผมอื้อไปหมดจนไม่ได้ยิน 
เสียงพยาบาลที่พูดอธิบายเรื่องราวต่อจากนั้น 
ถ้าจะถามผมว่าวินาทีนั้นผมรู้สึกเช่นไร 
ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน 
รู้เพียงแต่ว่าน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาท่วมใบหน้าของผมตั้งแต่ได้รับรู้ว่า 
เธอจากไปแล้ว .... 
.......... 
ผมอ่านบันทึกเล่มนี้หลังจากที่ร่างของเธอฌาปนกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว 
ผมเพิ่งรู้ว่าเธอรักผม 
แต่ทำไมเธอถึงไม่รู้เลยว่าคำพูดที่ผมพร่ำบอกกับเธออยู่บ่อยครั้งว่า 
รักกับชอบแตกต่างกัน 
มันคือสิ่งที่ผมอยากให้เธอรับรู้ 
ผู้หญิงคนที่ผมเคยชี้ให้เธอดูคือคนที่ผมชอบ 
แต่ผู้หญิงคนที่ผมรักคือ 
เธอคนนี้ 
เธอคนที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ผมอยู่เสมอ 
เธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าผมคิดอย่างไรกับเธอ 
ถ้าผมสามารถขอพรวิเศษใดๆได้ 
ผมอยากจะขอแววตาคู่นั้นที่เคยจ้องมองผมด้วยความรู้สึกดีๆอยู่เสมอ 
รอยยิ้มที่เคยมีให้เวลาผมท้อแท้ 
เสียงหัวเราะที่เคยทำให้โลกทั้งโลกดูสดใส 
ผมอยากจะขอให้เธอกลับคืนมา 
เธอคือรักครั้งแรกของผม 
อาจต้องใช้เวลามากสักหน่อยในการทำใจว่า 
ต่อจากนี้จะไม่มีเธออยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว.... 
ไม่มีคนที่เข้าใจและคอยห่วงใยผมตลอดมา 
แต่ผมรู้เสมอว่าเธอจะคอยจ้องมองผมอยู่ห่างๆเหมือนอย่างเคย 
เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอเรียกมันว่าความสุข 
และเธอจะรอผมอยู่ ณ ที่แห่งนั้น 
ตรงดินแดนแห่งความรักที่สร้างไว้สำหรับเราเพียงสองคน 
สักวันผมจะไปหาเธอ 
หลับให้สบายนะครับมีน 
หลับตาเถอะนะแล้วเราก็จะพบกันอาจเป็นเพียงฝันก็พอใจ 
หลับตาเถอะนะถึงตัวเราจะแสนไกลห่างกันเพียงไหนก็ใกล้เธอ 
ชีวิตขีดเส้นทางไว้ให้เราเจอกันขีดทางที่ผกผันให้มีวันห่างไกล 
หลับตานานนานคิดถึงวันเก่าจะยังมีเราสองคนหลับตาเถอะนะคนดี				
comments powered by Disqus
  • sHoCKsHiT!!!

    18 กันยายน 2545 21:29 น. - comment id 77663

    ซึ้งอย่างแรง..อ่านไปร้องไห้ไป..เฮ้อ..เส้า..

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน