รู้อยู่แก่ใจ
อ.วรศิลป์
นั่งคิดเล่นเล่น ถ้าได้เห็นสวรรค์
คงได้รู้ว่าคนบนนั้น มีใครบ้างหนอ
มีเศรษฐี ข้าราชการ นักการเมือง หรือ หลวงพ่อ
เทือกเถาเหล่ากอคนดัง หรืออย่างไร
คืนหนึ่งฝันไปว่า ได้ขึ้นไปบนสวรรค์
ก็รู้นะว่าฝัน แต่ตอนนั้นดูจริงจังเหมือนจะใช่
บนสวรรค์จำได้ว่าเห็นวิญญาณมากมาย
ด้วยอยากรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร จึงได้คุยกัน
ข้อมูลจากการซักถามด้วยความสงสัย
ทำให้เข้าใจว่า คนส่วนใหญ่บนสวรรค์
ก็คือตาสีตาสา คนธรรมดาสามัญ
ส่วนคนเคยรวย คนเคยสำคัญ บนสวรรค์น้อยเต็มที
คนรับจ้าง กรรมกร หาเช้ากินค่ำ
บนสวรรค์เดินกันคลาคล่ำ แต่ไม่ค่อยเห็นเศรษฐี
บังเกิดความสงสัยมากมายในฤดี
แต่ก็ไม่รู้ที่รู้ทาง หาความกระจ่างใจ
บังเอิญสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงไก่ขัน
ลืมตามองหน้าต่างบ้าน เห็นสัญญาณของวันใหม่
แสงแดดอ่อนผ่านผ้าม่านอันรำไร
คิดในใจฝันมากมายไฉนกัน
อันคนเราล้วนต่างมีจุดหมายหลังความตาย
ดินแดนสุดท้าย คือ เมืองแมนแดนสวรรค์
ซึ่งมีเงื่อนไขหลายอย่าง เพื่อเปิดทางไปที่นั้น
และไม่ต้องไปถามใครกัน เพราะเราท่านต่างรู้อยู่แก่ใจ