ดอกเอย...ดอกหญ้า
ประดับหล้ารื่นรมย์ให้ชมชื่น
เผยกลีบรับสุริยันทุกวันคืน
แต่ไม่ยืนยาวนักจักโรยรา
หมู่ภมรละเลยเมินเฉยดอก
จักช้ำชอกเพียงใดมาลัยหล้า
จักสูญเปล่าเสียสิ้นเสื่อมวิญญาณ์
โอ้ ดอกหญ้าเตี้ยต่ำระกำตรม
ต่างกันกับดอกฟ้าทิวาชื่น
ทุกค่ำคืนโสภาสง่าสม
หมู่ภมรหมายกลิ่นถวิลชม
มุ่งดอมดมดอกฟ้าสถาพร
ถึงดอกหญ้าดอกดินดูสิ้นศักดิ์
แต่ฉันรักมั่นหมายมิถ่ายถอน
แม้ถูกเหยียดถูกหยามนามกร
มิอาทรหยามหมิ่นใครนินทา
ดอกหญ้าต้องลมลู่แล้วชูช่อ
เหมือนตัดพ้อคำมั่นที่สรรหา
มิอยากเชื่อลมลิ้นสิ้นสัจจา
โถ บุปผาเตี้ยต่ำอย่าทำงอน
เจ้ามิรู้ข้าด้อยสุดต้อยต่ำ
ยิ่งกว่าคำเปรียบเปรยเผยสมร
แค่สวะโสโครกโศกอาวรณ์
หากตัดรอนคงม้วยด้วย...ดอกดิน
(เหมันตฤดู ๒๕๒๘)