ประพจน์ประพันธ์บทเกริ่นกวีศรีหวังจะไว้เกียรติงามนามสตรี
แก้วฤดีนฤมลอุบลการ
นางสดับรับฟังคำครูสอน
พลันร่ายกลอนอ่อนช้อยสร้อยประสาน
เสมือนตนเป็นเอกประสบการณ์
ท่องวิมานเมืองแมนทั่วแคว้นมา
แลหมู่มิตรชิดชมภิรมย์รื่น
อุระชื่นจิตแจ่มแอร่มนาสา
จึงละเลงเล่นบทรจนา
ดุจดาราแวววับประดับชน
ต่างดื่มด่ำกำซาบทาบอรรถรส
บริบทสะพรั่งดั่งสายฝน
สดับโสตรสนองสั่งดั่งต้องมนตร์
ประจักษ์ผลยลยินถวิลความ
ประสาทล้ำคำคมบรมค่า
อนึ่งว่าชำนาญชาญสนาม
วางกระบี่หลอกล่อเล่นล้อตาม
สุดจะห้ามเด็กดื้อผู้ถือดี
เสมือนม้าขาดแส้แร่ผิวหนัง
ทุ่มพลังผาดโผนกระโจนหนี
เหมือนม้าคึกนึกคะนองจะลองดี
สละเกือกเลือกจะหนีเข้าดงไพร
หากทิวาราตรีมิพ้นผ่าน
กระแสธารไหลเชี่ยวอยู่เปลี่ยวไฉน
จะมองเมียงลุกนั่งระวังภัย
รจนาจะบรรลัยณ.บัดนาว...
อย่ากระนั้นวิ่งเหยาะเลาะทางกลับ
โสตรสดับตาจ้องมองแสงขาว
สะดุ้งตื่นฟื้นสติพี่ร้องปาว
"แกนอนยาวเกินไป...ตื่นได้แล้ว"
^___________________^