แม้กายใกล้ ใจยัง เหมือนห่างเหิน เพราะเราเมิน มุ่งให้ สมใจหวัง มิเคืองข้อง หมองหม่น จนชิงชัง เพียงว่ายัง เง้างอน ซ่อนคำคม มาปรับคลื่น ของใจ ให้สัมผัส หาช่องชัด ความถี่ ที่เหมาะสม ทั้งภาพเสียง เพียงใคร่ ไว้ชื่นชม ก็รื่นรมย์ ดั่งใจ ที่ใฝ่ปอง ถามใจตน หม่นเหงา เศร้าหรือสุข เก็บซ่อนซุก สิ่งใด จึงได้หมอง ค้นหาความ ตามจริง ทุกสิ่งมอง กับกลั่นกรอง การใด สิ่งไหนควร ถ้ามีใจ ให้กัน ณ.วันนี้ หรือจะมี มานมล จนไห้หวน แม้ว้าเหว่ เอกา พารัญจวน คิดทบทวน ถามใจ กระไรดี สายน้ำยัง หวังไว้ ไหลทวนกลับ เพื่อมาซับ รับกมล ให้ล้นปรี่ มิต้องหม่น ทนช้ำ ย้ำอีกที ลบแผลที่ เขาฟาด ราดน้ำเกลือ ลมหายใจ รวยริน ใกล้สิ้นสูญ อยากเกื้อกูล ดวงแด แม้น้อยเหลือ สายสัมพันธ์ นั้นใช้ มัดใบเรือ รอลมเหนือ เพื่อล่อง... ท่องธารา
12 มีนาคม 2556 17:25 น. - comment id 1255120
หากว่าลมหายใจใกล้สิ้นสูญ คงอาดูรไหวหวั่นพรั่นผวา สายลมเหนือลอยล่องท่องธารา อาจพัดพาหทัยเราไกลกัน การปรับคลื่นหัวใจให้สัมผัส จะติดขัดหมองหม่นจนเสียขวัญ ไร้เสียงภาพซาบซึ้งตรึงชีวัน ความผูกพัน...จึงลางเลือน...เหมือนไม่มี
8 มีนาคม 2556 23:57 น. - comment id 1256376
แวะมาอ่านกลอนเพราะๆครับ
9 มีนาคม 2556 08:12 น. - comment id 1256408
ใกล้ตัว ใกล้ใจ คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงกระมังคะ
9 มีนาคม 2556 18:05 น. - comment id 1256443
ความเข้าใจและมองทุกสิ่งให้เป็นเรื่องธรรมดา ง่ายๆเท่านี้เองค่ะ
10 มีนาคม 2556 09:39 น. - comment id 1256458
จะปรับจูน ยังไง ก็ไม่ชัด เพราะพิกัด ความถี่ เขามีใหม่ ความถี่เก่าไม่เอา ไม่เร้าใจ ฟังแล้วไม่ รื่นหู ดังรู้กัน
10 มีนาคม 2556 14:05 น. - comment id 1256486
กลอนไพเราะจังเลยค่ะ
12 มีนาคม 2556 22:09 น. - comment id 1256527
เพียงว่าหวัง ตั้งใจ ให้คงมั่น คงสักวัน ปรับได้ ในความถี่ ลืมความหลัง ครั้งทน หม่นฤดี อย่าหลีกหนี ความจริง สิ่งในใจ ถ้าฤดี ที่หวัง ยังตั้งจิต ก็มีสิทธิ์ คิดหวล ทบทวนใหม่ คลื่นรบกวน ทั้งหลาย คงหายไป ภาพเสียงใส ในห้วง ดวงดวงมาน
13 มีนาคม 2556 17:23 น. - comment id 1256556
ความหวังใครปรับได้ดังใจเล่า ความโศกเศร้าคุกคามมันตามผลาญ ภาพอดีตกรีดกร่อนหลอนวิญญาณ จนร้าวรานซานซมจมน้ำตา ลมหายใจข้องขัดมันอัดอั้น สุดจะกลั้นคิดถึงคนึงหา แม้ใกล้ตัวใจห่างจึงร้างรา ดุจผืนป่ากั้นกลางระหว่างเรา
13 มีนาคม 2556 22:27 น. - comment id 1256558
เปิดใจกว้าง ต่างรับ กับเหตุผล ก็ต่างคน ถามใจ กันไหมเล่า ภาพอดีต กรีดซ้ำ ตามเป็นเงา คอยรุมเร้า วิญญาณ จนราญรอน หลับตานั่ง ตั้งต้น บนวิถี ถามฤดี ถามใจ สิ่งใดหลอน แม้คิดถึง คะนึงหา ยังอาทร ลองคิดย้อน เพียงหวาน เมื่อวานวัน จะแหวกผ่า ป่าเขา กั้นเราออก มิต้องหลอก ตัวตน ทนอดกลั้น คนไกลกาย แต่ใจ มีใกล้กัน ขอเรานั้น ทั้งใจกาย อยู่ใกล้เคียง
14 มีนาคม 2556 21:18 น. - comment id 1256587
ใจของใครกันแน่ที่แปรเปลี่ยน ใครวกเวียนเปลี่ยนคำทำส่งเสียง ว่ากายใจชิดอยู่เป็นคู่เคียง ทั้งที่เลี่ยงแปรผันผิดสัญญา อยากเปิดใจตั้งรับกับเหตุผล ให้อับจนไหวหวั่นกับปัญหา ความคิดถึงตรึงซ่านหวานอุรา พอไขว่คว้าที่แท้ก็แค่เงา
14 มีนาคม 2556 22:14 น. - comment id 1256590
เฝ้างอนง้อ ขอคืน ความชื่นหวาน แต่ดวงมาน กลับหม่น และปนเหงา อนาคต เมื่อมอง ทั้งสองเรา ดูบางเบา เลือนลาง บนทางเดิน ยังฝังใจ มิใช่ หลายปัญหา ผิดสัญญา เพียงครั้ง ด่วนห่างเหิน ถามจริงจริง จริงไหม ใจแข็งเกิน หรือหมางเมิน เพราะใครเล่า เขาแทรกแซง ต้องก้มหน้า ตาหลับ รับความหมอง มิเรียกร้อง สิ่งไร ไม่ฝืนแข่ง เราพ่ายเขา เข้าใจ ไม่ต้องแจง ด้วยว่าแบ่ง ใจพร้อม ต้องยอมตรม
15 มีนาคม 2556 11:18 น. - comment id 1256615
มิได้เคยปันใจให้ใครอื่น ความหวานชื่นครั้งก่อนตอนสุขสม ประทับในอุราอย่างปรารมภ์ กลับระทมเพราะเขาไม่เข้าใจ อนาคตหากมองทั้งสองฝ่าย เราแพ้พ่ายร่ำร้องอย่างหมองไหม้ ส่วนเรื่องใจแข็งนั้นมันแข็งใจ แม้ทรวงในเจ็บช้ำก็จำทน เพราะใกล้ตัวไกลใจใช่ไหมเล่า จึงอับเฉาด้วยเลศของเหตุผล เมื่อกายใจใกล้เคียงเพียงกมล ไยหมองหม่นโศกเศร้าเล่าที่รัก?
15 มีนาคม 2556 21:32 น. - comment id 1256667
คนที่หวง ห่วงใย ต้องใจช้ำ มีเงื่อนงำ สิ่งใด ไม่ประจักษ์ แล้วรู้ไหม ใจเรา ปวดร้าวนัก หม่นหมองหนัก หลายเท่า กว่าเขาเชียว เลิกแข็งใจ ไหม้หม่น เริ่มต้นใหม่ รู้ไร้ใคร เขาปอง มิข้องเกี่ยว ยังคงมั่น แน่แท้ ดวงแดเดียว แต่เปล่าเปลี่ยว เพราะใจ เราไกลกัน ขอให้เชื่อ สาบาน ต่อศาลไหน แหวะหัวอก ดูใจ เอาไหมนั่น ให้เฆี่ยนตี เข่นฆ่า สารพัน เพียงเรานั้น ใกล้ตัว ..และหัวใจ
16 มีนาคม 2556 21:42 น. - comment id 1256737
คงมิต้องสาบานต่อศาลดอก ใจมันชอกช้ำจนทนมิไหว หากใกล้ชิดเพียงตัวห่างหัวใจ วันนี้หรือวันไหนก็ไกลกัน เราหม่นไหม้อาดูรพูนเทวษ เขาปันเศษเมตตามาปล อบขวัญ คนถูกตีเข่นฆ่าสารพัน ใครคนนั้นเป็นฉันหรือว่าเธอ