ดวงตาอันว่างเปล่าเฝ้าจับจ้อง ยังเหม่อมองเพียงเธอเอ่อความหมาย แต่ภาพเบลอแห่งฝันพรรณราย รั้งใจกายเธอสิ้นทั้งอินทรีย์ มืออันอ่อนแรงล้ายังคว้าไขว่ กุมเธอไว้ยามเศร้าเฝ้าถอยหนี แต่วัตถุฉุดกระชากลากคนดี จนไม่มีแม้เวลาชายตามอง บทเพลงซึ้งปนเศร้าเฝ้าขับขาน เพียงมอบแด่ดวงมาลย์วารหม่นหมอง แต่เสียงแห่งภูตพรายหมายจับจอง คงครอบครองโสตเธอจนเพ้อเลือน หัวใจรักหนึ่งดวงอันห่วงหา แทรกลมมามอบเธอเสมอเหมือน แต่รักลวงรุมเร้าเฝ้าบิดเบือน เธอจึงเชือนแชฉัน...ไม่หันมา...
9 ธันวาคม 2555 09:00 น. - comment id 1252316
บางเวลายิ่งเดินเข้าหา ยิ่งห่างออกไปนะคะ
10 ธันวาคม 2555 22:40 น. - comment id 1252405
ผมก็เคยมีความรู้สึกเช่นนี้ ชีวิตคล้ายกำลังดิ้นรนอยู่ในทะเลทุกข์ เวลาเราปรารถนาสิ่งใดก็เหมือนเรายื่นมือออกไปคว้าไขว่ แต่สายน้ำนั้นก็พยายามถอยหนีออกไป ขณะยามที่เราผลักออกไป มันกลับพุ่งตรงเข้ามา ยิ่งเราออกแรงมากเท่าไรก็รู้สึกเหนื่อยล้าและผิดหวังมากเท่านั้น โลกเป็นแบบนี้... เดี๋ยวนี้ผมก็ทำแค่ปล่อยให้มันเป็นไป อยู่นิ่งๆ และเฝ้าดู แม้เราจะยังคงอยู่ในน้ำแต่เราก็มีผลกระทบน้อยกว่า กล่าวคือไม่เสียและไม่ได้อะไร อิอิ ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นนะครับ