คืนขึ้นค่ำ เมื่อวัน วสันต์สิ้น เห็นจันทร์บิ่น เหลือเสี้ยว เกี่ยวทิวไผ่ เพียงครู่เดียว พอพลบ ก็หลบไป ท้องฟ้าใส ด้วยดาว ดูพราวตา อาหารเย็น ยามค่ำ อิ่มหนำแล้ว ยินเสียงแว่ว ขลุ่ยใคร ร่ำไห้หา บทเพลงโศก สั่นผิว ลิ่วลมพา เหมือนหนึ่งว่า คนครวญ รัญจวนใจ ลมเหนือล่อง ต้องไผ่ กอไหวพลิ้ว เสียงหวีดหวิว สนโยก โบกไสว สิ้นเสียงอึ่ง จึ่งเพียง เสียงเรไร แลแสงไต้ ยิบยับ เทียบกับดาว คิมหันต์เหมือน เยือนย่าน ถิ่นบ้านนอก สัญญาณบอก ถึงครา ว่าต้องหนาว แค่ยามต้น ยลฟ้า ดาราพราว ดูวับวาว สุกใส เรียงรายกัน อยากรับลม ชมดาว ที่พราวพร่าง ดูเวิ้งว้าง สุดตา ยิ่งพาฝัน ราตรีกาล คืนใด ที่ไร้จันทร์ สร้างสวรรค์ บนดิน ถิ่นดงดอน แคร่ไม้ไผ่ ใต้เงา สะเดาขม จะชื่นชม นับดาว พราวสลอน หากคืนนี้ มีใคร ไหนเคียงนอน จะเอื้อมกร เก็บดาว ให้เขาชม
12 กันยายน 2555 13:05 น. - comment id 1244031
ขออย่าให้นับดาวกลางน้ำนะครับท่าน..
12 กันยายน 2555 12:01 น. - comment id 1244052
มาช่วยเก็บดาว ให้ครับ
12 กันยายน 2555 18:49 น. - comment id 1244504
ตอนนี้ที่บางปะอินกำลังลุ้นว่าน้ำจะมาถึงบ้านวันไหน ใจตุ๊มๆต่อมๆเลยครับ
12 กันยายน 2555 22:27 น. - comment id 1245013
อยู่ส่วนไหนของบางปะอินล่ะ...