พุทธประวัติเห็นชัดแจ้งแห่งธรรมสัจ พุทธองค์ทรงปฏิบัติขัดกิเลส ด้วยความหน่ายในกรงขังปลงสังเวช ไม่ปฏิเสธโลกิยะ ยากละพ้น แม้เสพสุขจนสุขสมยังจมปลัก ยิ่งหนาหนักเกินตะกายให้ฉงน พบทางออกบอกจริงๆ ต้องทิ้งตน ให้หลุดพ้นกามสุขที่ขลุกอยู่ ละทางโลก ให้ทางธรรมนำวิถี ใช้วิธีทรมานให้มันรู้ ละขั้วบวกมาขั้วลบครบสุดกู่ ตรึกตรองดูจนรู้ธรรมนำทางไป พบทางเลิศเกิดปัญญา.. ศรัทธามั่น ณ กึ่งกลางทางสองนั้น นั่นสิใช่ ! เลิกสุดโต่งหลงทางสองมองข้ามไป เส้นทางใหม่ มัชฌิมา .. วิชชาชี้ ..ทรมานกั้นกายก็ผ่ายผอม หรือสมยอมความอยากก็ยากหนี ทำย่อหย่อนผ่อนต่ำความพอดี อีกตึงตังตั้งตรงชี้ไม่ดีเลย มัชฌิมาปฏิปทา.. กล้าประกาศ ทางที่ชัดตัดขาดทุกข์ สุขวิถี เรารู้แจ้งแห่งธรรมความพอดี เดินสายกลาง..ทางนี้ที่พ้นทุกข์ พุทธศาสตร์ ที่ชัดแจ้งแห่งพุทธชน หากยังวนบนทางโต่งคงปราศสุข มัชฌิมา.. ทางนี้สิที่พ้นทุกข์ อย่ามัวขลุกฉุกใจคิด.. ปริศนาธรรม ! @@@@@@@@@@@@@@@@@@@ มัชฌิมาปฏิปทา แปลว่า ทางสายกลาง หมายถึง ทางปฏิบัติที่ไม่สุดโต่งไปในทางอุดมการณ์ใดอุดมการณ์หนึ่งเกินไป มุ่งเน้นใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา มักไม่ยืดถือหลักการอย่างงมงาย เช่น ถือวัตถุหรือจิตใจมีค่า ยึดสิทธิปัจเจกชนหรือสังคม สำคัญในทางพุทธศาสนาหมายถึงทางสายกลาง คือ อริยมรรคมีองค์ 8 เมื่อย่นย่อแล้ว เรียกว่า "ไตรสิกขา" ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ไม่ใช่ทางสายกลาง คือ สักแต่ว่ากลาง แต่ไม่กำหนดวิธีที่ถูกต้องเลย คือ การไม่ยึดถือสุดทางทั้ง 2 ได้แก่ อัตตกิลมถานุโยค คือ การประกอบตนเองให้ลำบากเกินไป กามสุขัลลิกานุโยค คือ การพัวพันในกามในความสบาย
9 มิถุนายน 2555 11:27 น. - comment id 1235633
ทางสายกลางมัชฌิมาน่าศึกษา ศีลปัญญาสมาธิตริตรองเห็น มรรคแปดครองตนไว้ไม่ลำเค็ญ เพียงพอเป็นความสุขไม่ทุกข์ใจ ฆราวาสไม่อาจตัดทุกกิเลส ไม่ถึงเขตนิพพานยาวนานไหม เพียงศีลห้ารักษากันทุกวันไป ชาตินี้ได้ผลบุญหนุนชีวา
9 มิถุนายน 2555 16:38 น. - comment id 1235648
เห็นเขารวย ล้นฟ้า อย่าอิจฉา นับเงินตรา ผู้อื่น อย่าตื่นเต้น รถยนต์เพื่อน คันโต โอ่เช้าเย็น มิใช่เป็น ทรัพย์เรา ไม่เฝ้ามอง เงินตนเอง มากน้อย ค่อยรู้ค่า ควรนำพา ด้วยเรา คือเจ้าของ จะจับจ่าย กี่ส่วน ล้วนสมปอง ลองไตร่ตรอง สักนิด พินิจเอา ลูกเมียใคร สะคราญ สวยปานไหน สุดไฉไล วิเศษ นั่นเหตุเขา พึงพอใจ ส่วนตัว ครอบครัวเรา อื่นใดเท่า เลือดเนื้อ เชื้อไขตน ภาคภูมิใน สิ่งที่ ตนมีอยู่ เลือกเดินสู่ สายกลาง ทางกุศล ตัดโลภโม-โทสัน อันมืดมน เลิกทุรน นึกแก่ง แย่งชิงดี แม้นรู้จัก มัธยัสถ์ ประหยัดใช้ ผลที่ได้ คือสงบ พบสุขี มัชฌิมา-ปฏิปทา ดังวาที เพียงแค่นี้ ก็แสนสุข ไร้ทุกข์ใจ (ขออนุญาตินำกลอนเก่ามาต่อครับ)
9 มิถุนายน 2555 20:07 น. - comment id 1235654
เราบุญพร้อม น้อมรับ กับโอวาท อันเปรื่องปราด ขององค์ ผู้ทรงศิล นำแสงทอง ส่องไว้ ในแผ่นดิน ดั่งทรัพย์สิน มีค่า น่านิยม ใครที่ได้ ปฏิบัติ จัดว่าเลิศ ถือประเสริฐ อยู่เย็น เป็นเหมาะสม จะตัดห่วง บ่วงรัก อันเป็นปม เลิกขื่นขม ยามพราก หรือจากไกล แต่ที่เห็น เป็นอยู่ ดูว่ายาก ต่างก็ลาก เอาเรื่อง ทำเขื่องไว้ จะทุกข์ยาก แสนเข็ญ เป็นยังไง ต้องยิ่งใหญ่ให้คนเห็น ว่าเป็นงาม
10 มิถุนายน 2555 01:04 น. - comment id 1235662
ทางสายนี้ แค่รู้ทุกข์ รู้ว่าสุข จิตไม่ขลุกนำมาคิดพินิจมั่น ละอดีตทิ้งอนาคต จดปัจจุบัน ทุกสิ่งนั้นมันว่างเปล่าใช่เจ้าของ อริยสัจชัดตรง.. อนงค์นาง จึงก้าวย่างมั่นหมายด้วยใจผ่อง เพราะรู้ธรรม รู้แล้วทำนำครรลอง หว่างทางสองจึงมองเห็นเส้นทางนั้น เจริญธรรมยิ่ง... ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ เห็นตัวตน จนสะท้อนสุนทรวิทย์ ไม่เคยคิดผิดผัน นั่นสิใช่ กลอนหวือหวา เจ้าชู้รู้สไตล์ แต่จิตใจฝักใฝ่ธรรม ย้ำตัวตน เจริญธรรม ....เจริญทำ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ บุญพร้อม คือผู้พร้อมจะโผล่พ้น พร้อมจะยลแสงธรรมอันล้ำเลิศ มัชฌิมาปฏิปทาจึงกล้าเกิด ความประเสริฐประสิทธิ์ให้.. ผู้ใฝ่ธรรม เจริญธรรมยิ่ง ..
11 มิถุนายน 2555 10:52 น. - comment id 1235733
http://www.snr.ac.th/sakyaputto/patija.htm ปฏิจจสมุปบาท ก่อให้เกิดปัญญาและ สมาธิพาให้ภาวนาดูสภาวธรรมอย่างตั้งมั่นและเป็นกลางค่ะ
11 มิถุนายน 2555 11:13 น. - comment id 1235734
ปฏิจจสมุปบาท.. เห็นชัดปัจจัยหลายรายต่อเนื่อง จากสิ่งนี้สู่สิ่งนั้นคล้ายฟันเฟือง ผูกพันเรื่องอาศัยกันนิรันดร์ไป ขอบคุณเว็บ ปฏิจจสมุปบาท.. เห็นแจ้งชัดตามจัดมา
11 มิถุนายน 2555 19:19 น. - comment id 1235748
สาธุครับ
12 มิถุนายน 2555 10:10 น. - comment id 1235778
ร้อยรู้ไม่สู้ หนึ่งทำ พุทธองค์ย้ำ ปฏิบัติ รู้แจ้งให้แจ่มชัด รีบเป่าปัดขัดเกลาตน ขอบคุณท่านสุริยันต์ที่มาเยือน...
23 มิถุนายน 2555 14:28 น. - comment id 1236557
............ ทางสายกลางสายธรรมน้อมนำจิต หากมุ่งคิดตริตรองลองดูไหม ถ้าลองฝึกจิตคิดพินิจนัย บุญหนุนให้ไกลทุกข์สุขมาเยือน ..................