ฐีติจิต...จิตเดิมแต่เริ่มต้น พิสุทธิ์พ้นมลทินสิ้นสงสาร ดำรงอยู่อิสระสุดประมาณ เหนือห้วงกาลนานมาสถาวร ดั่งบิดามารดาพากำเนิด กายใจเกิดเป็นมาอุทาหรณ์ ชื่อมนุษย์สุดประเสริฐเลิศอาภรณ์ เที่ยวเร่ร่อนในวัฏฏะประดาชน ฐีติจิต...กอปรไปในความหลง จึงเสริมส่งอวิชชาพาก่อผล ปรุงแต่งเป็นสังขาร....อุปาทานดล ภพชาติวนเรียกว่าปัจยาการ จิตเดิมแท้กอปรหลงบ่งชี้เหตุ อุปกิเลสหมักหมมจมสงสาร อบรมจิตภาวนาพาเกิดญาณ จึงประหารโมหันธ์หักบรรลัย สังสารวัฏตัดขาดสิ้นชาติภพ สว่างสงบด้วยจิตพิศผ่องใส จากสมมุติเป็นวิมุตหลุดพ้นไป ประหนึ่งน้ำกลิ้งในใบบัวเอย... บางส่วนจากมุตโตทัย อาจารย์มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส ในปัญหาที่ว่า มนุษย์เกิดมาจากไหน เกิด เพราะอะไร พระพุทธเจ้าตรัสว่า ได้มีสิ่งที่เป็นปัจจัยต่อเนื่องกันมาเป็นเหมือนลูกโซ่ เรียกว่า ปัจยาการ, บางทีก็เรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท ดังนี้ ๑. อวิชชา (ความไม่รู้) เป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร ๒. สังขาร (การปรุง) เป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ ๓. วิญญาณ (ปฏิสนธิจิต) เป็นปัจจัยให้เกิดนามรูป ๔. นามรูป (ขันธ์ ๕) เป็นปัจจัยให้เกิดสฬายตนะ ๕. สฬายตนะ (อายตนะ ๖) เป็นปัจจัยให้เกิดผัสสะ ๖. ผัสสะ (ความสัมผัสกับสิ่งนอกตัว) เป็นปัจจัยให้เกิดเวทนา ๗. เวทนา (ความรู้สึกสุขทุกข์) เป็นปัจจัยให้เกิดตัณหา ๘. ตัณหา (ความอยาก) เป็นปัจจัยให้เกิดอุปาทาน ๙. อุปาทาน (ความยึดถือ) เป็นปัจจัยให้เกิดภพ ๑๐. ภพ (การถือกำเนิด) เป็นปัจจัยให้เกิดชาติ ๑๑. ชาติ (ความเกิด) เป็นปัจจัยให้เกิดความทุกข์ต่างๆ, คำบาลีว่า "อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ นามรูปปจฺจฺยา สฬายตนํ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส ผสฺสปจฺจยา เวทนา เวทนาปจฺจยา ตณฺหา ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ อุปาทานปจฺจยา ภโว ภวปจฺจยา ชาติ ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา.
12 กุมภาพันธ์ 2555 01:55 น. - comment id 1224419
สาธุ............ แวะมาส่งเข้านอนครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ
12 กุมภาพันธ์ 2555 02:05 น. - comment id 1224421
วิปัสสนาอยู่สิท่า อิอิ ราตรีสวัสดิ์ครับ
12 กุมภาพันธ์ 2555 17:21 น. - comment id 1224491
สาธุครับคุณ
12 กุมภาพันธ์ 2555 18:46 น. - comment id 1224504
สาธุ ครับ
17 กุมภาพันธ์ 2555 10:57 น. - comment id 1225096