๏ ร่วมแรงเราร่วมร้อย ......... ร่วมกัน ร่วมศึกร่วมฝ่าฟัน .............. ร่วมสู้ ร่วมรบประจญประจัน ......... ร่วมทุกข์ สุขเฮย ร่วมผนึกใจกอบกู้ ............. ร่วมทั้ง โพยมสยาม !. ๏ โอ้ละเห่เอละช้าข้าจะกล่าว เป็นเรื่องราวกลกลอนขจรว่า ตั้งแต่เนิ่นนานเนาว์เรามีมา ประเทศข้าแคว้นสยามอยู่ร่มเย็น ๏ แล้วอุบาทว์มาอุบัติระเบิดบ้า เอาละเหวยพวกชาติหมาสัตว์หน้าขน ไพร่ระยำพรรคตำบอนมาประจน ให้อึงอลอ่วมระอาประชาไทย ๏ เอานารีขี่ตะกวดมาสมานฯ แต่สันดารลำพองคะนองสนาม ไฟลามเมืองน้ำลามทุ่งเห็นดีงาม ไพร่สถุนบ่ห้ามปล่อยตามใจ ๏ โอ้ละเห่โอละช้าข้าจะกล่าว ถึงเรื่องราวคราวจบเป็นบทว่า หากไทยยังนั่งเอื่อยอยู่เฉื่อยชา เดี๋ยวเถิดหนาลูกหลานจักบรรลัย.! ________________ พิพัฒนชัย ๒๖ / มกราคม / ๒๕๕๕ คำว่า เนาว์ / เนา นั้นมีความหมายเดียวกัน เนานั้นคือภาษาเขมร ส่วนเนาว์น่าจะเป็นภาษาสันสกฤต�ซึ่งแปลว่า อยู่ เช่นกัน ตัวอย่างเช่น "พระอภิเนาว์นิเวศน์" �ซึ่งเป็นพระราชมณเฑียร � ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ� ให้สร้างขึ้นภายในพระบรมมหาราชวัง และยังมีจารึกอีกคือ " หมู่พระอภิเนาว์นิเวศน์�"ซึ่งคล้ายคลึงกันแต่ราชมณเฑียรแห่งนี้จะสร้างด้วยเครื่องไม้ประกอบอิฐ ปูนเป็นหลัก�เมื่อเวลผ่านไปจึงผุกร่อนจนต้องรื้อลงเกือบทั้งหมดและปรับพื้นที่เป็นสวนดังเช่นปัจจุบัน ฯลฯ
26 มกราคม 2555 01:19 น. - comment id 1222050
๏ เอานารีขี่ตะกวดมาสมานฯ แต่สันดารลำพองคะนองสนาม แก้ไขคำว่า สันดาร เป็น สันดาน ครับ ต้องขออภัยฯ
26 มกราคม 2555 01:24 น. - comment id 1222052
โอ้ต้องขออภัยอีกครั้งจริงๆครับ กลอนบทที่สองบาทที่สองคำที่เก้า คำว่าประจน ต้องเป็น ประจญ ครับ ดึกเเล้วตาลาย ไม่ทันสังเกตุ ขออภัยจริงๆครับ !
26 มกราคม 2555 02:17 น. - comment id 1222053
สังเกตุ....,มรึงเอามาจากตำราเล่มไหน ตำราของพวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ เหรอ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
26 มกราคม 2555 02:20 น. - comment id 1222054
รีบเข้านะลูกหลานบรรลัยแน่ๆ พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่ อน ออกมากอบกู้ชาติแล้วววววววววววววววววววววว จะจะมายึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ยึดราชดำเนิน แล้ววววววววววววววววววววว อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
26 มกราคม 2555 02:21 น. - comment id 1222055
พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน จะออกมากู้มาโกงแล้วววววววววววววววววววว จะออกมาแอบเช็ดเมียเพื่อนแล้ววววววววววววววววววว
26 มกราคม 2555 02:29 น. - comment id 1222056
ไทยอย่านั่งเอื่อยนะพี่น้องงงงงงงงงงงงงง นิ่งเอื่อยแล้วไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ จะออกมายึดสนามบิน และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนจะออกมากู้มาโกง ออกมาเข่นฆ่าคนชาติเดียวกัน อย่านิ่งเอื่อยกันนะ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
26 มกราคม 2555 02:33 น. - comment id 1222057
ไพร่ระยำ....นี่มันแย่จริงๆ มาถีบหัวส่ง อ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนซะได้ พรรคตำบอน.....ของพวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ มันชอบแอบเช็ดเมียเพื่อนมานานเนาว์ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ้วกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นานเนาว์เลยนะพี่น้องงงงงงงง ถ้าไม่ใช่พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน เขียนนานนานเนาว์ไม่ได้นะจ๊ะ ข้ากกกกกกกกกกกกกกกกก ถุยยยยยยยยย
26 มกราคม 2555 02:36 น. - comment id 1222058
แล้วอุบาทว์มาอุบัติระเบิดบ้า.......เพราะไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ ไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ขันทีอัปรีย์ชั่ว ปล้นชาติ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน.. ล้วนพวกระยำ.. ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
26 มกราคม 2555 02:37 น. - comment id 1222059
พวกชาติหมาสัตว์หน้าขน................ ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ ไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ขันทีอัปรีย์ชั่ว ปล้นชาติ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน..............
26 มกราคม 2555 02:38 น. - comment id 1222060
อึงอลอ่วมระอาประชาไทย...............ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ ไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ขันทีอัปรีย์ชั่ว ปล้นชาติ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน............... .
26 มกราคม 2555 02:40 น. - comment id 1222061
ไอ้พวกชั่วๆอย่าง.............. ไอ้พวกพันธมารชั่วปากคาบโกเต็กซ์สนับสนุนพวกชาติชั่ว ................ ไอ้พวกพันธมารชั่วทำลายชาติปากคาบโกเต็กซ์มันชาติชั่ว.................. ไอ้ ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ชาติชั่วโกงกินชาติ................. ไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนนั่นมันรับใช้อำมาตย์ .
26 มกราคม 2555 02:51 น. - comment id 1222064
๏ แฉกหนึ่งสันติอหิงสา แฉกสองระเบิดบ้าสาไถย แฉกหนึ่งประชาธิปไตย แฉกสองรับใช้เผด็จการ ๏ แฉกหนึ่งด่าใครได้คล่อง แฉกสองว่าสองมาตรฐาน แฉกหนึ่งสังคมอุดมการณ์ แฉกสองอันธพาลป่วนบ้านเมือง ๏ แฉกหนึ่งปากไพร่ใจทาส แฉกสองมหาอำมาตย์มาดเขื่อง แฉกหนึ่งหัวโล้นหัวเรือง แฉกสองเศกเรื่องรุนแรง ๏ แฉกหนึ่งสะอาดมาดหมดจด แฉกสองรากษสสยดแสยง แฉกหนึ่งกระหายเลือดเดือดแดง แฉกสองแอบแฝงมนต์ดำ ๏ สองฉากสองช่องลิ้นสองแฉก สองตีนสองแตกสูงต่ำ ตีนหนึ่งตีนตบเริงรำ ตีนหนึ่งเหยียบย่ำประเทศไทย !. ...................................
26 มกราคม 2555 02:53 น. - comment id 1222065
ไปหลับไปนอนได้แล้วไพร่แดง ระยำสัตว์ เดี๋ยวตื่นไปโรงเรียนสาย
26 มกราคม 2555 02:58 น. - comment id 1222071
ไอ้พวกชั่วๆอย่าง ไอ้พวกควายเหลือง พันธมารชั่วปากคาบโกเต็กซ์สนับสนุนพวกชาติชั่ว ไอ้พวกพันธมารชั่วทำลายชาติปากคาบโกเต็กซ์มันชาติชั่ว ไอ้ ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ชาติชั่วโกงกินชาติ ไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนนั่นมันรับใช้อำมาตย์ 2 ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ ไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ขันทีอัปรีย์ชั่ว ปล้นชาติ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน..
26 มกราคม 2555 03:03 น. - comment id 1222072
ภาษาไทยมรึงน่ะกระจอก ถุยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คำพวกนี้ นานเนาว์ สังเกตุ กรูเรียนกับหลวงตาตั้งแต่อายุ ๔ ขวบ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มรึงเขียนได้เท่าเนี้ยเหรอ ทำสะเออะมาด่าไพร่ มรึงน่ะมันไอ้พวก..... ไอ้พวกควายเหลือง พันธมารชั่วปากคาบโกเต็กซ์สนับสนุนพวกชาติชั่ว ไอ้พวกพันธมารชั่วทำลายชาติปากคาบโกเต็กซ์มันชาติชั่ว ไอ้ ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ชาติชั่วโกงกินชาติ ไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนนั่นมันรับใช้อำมาตย์ ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ ไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ขันทีอัปรีย์ชั่ว ปล้นชาติ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน.. เขียนมาอีก กรูจะได้ขำชิกหาย ได้เห็นความโง่ของพวกมรึง โง่ชิกหาย ภาษาง่ายๆๆยังโง่ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เรียนจบที่ไหน โคตรกระจอกว่ะ มาเรียนที่วัดลิงขบของกรูสิ จะไม่โง่แบบมรึงงัย ปากคาบโกเต็กซ์เหรอจึงปัญญาด้อย สมองเท่า เม็กแตก มดว่ะ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
26 มกราคม 2555 03:07 น. - comment id 1222073
มึงเรียนกับหลวงตาตอนอายุ ๔ ขวบ โถ่... ถุ้ย! ๔ ขวบนี่มึงหย่านมแม่มึงหรือยังวะไอ้กุ๊ย? อย่ามาอ้างพระดึงสงฆ์ลงไปเกี่ยวสิเว้ย นรกจะแดกกะบาลเหง้ามึง ไอ้จัญไรชาติ!
26 มกราคม 2555 03:08 น. - comment id 1222074
พวกมรึง...ไอ้พวก ไอ้พวกควายเหลือง พันธมารชั่วปากคาบโกเต็กซ์สนับสนุนพวกชาติชั่ว ไอ้พวกพันธมารชั่วทำลายชาติปากคาบโกเต็กซ์มันชาติชั่ว ไอ้ ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ชาติชั่วโกงกินชาติ ไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนนั่นมันรับใช้อำมาตย์ ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ ไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ขันทีอัปรีย์ชั่ว ปล้นชาติ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน.. ทำไมมันโง่กันจังวะ กรูสมองเท่าฮีมดแบบมรึงนะ เอาหัวทิ่ม ฮีหมาดีกว่าว่ะ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขำยาวว่ะ มรึงอยากเก่งภาษาไทยไหม คลานมากราบส้งตรีนกรู ไพร่ชาวนารากหญ้าสิ จะไม่เขียนผิดๆถูกๆแบบมรึงอีกต่อไปว่ะ มรึงมันกินน้ำมนต์แช่โกเต็กซ์มากเกินไปนะสิ จึงสมองเท่าเม็ดแตกมดน่ะ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
26 มกราคม 2555 03:10 น. - comment id 1222075
เห่าเก่งจังนะมึงไอ้ไพร่จันฑาล เที่ยวระราน. อันธพาลคนอื่นไปทั่ว โถ ไอ้ขยะ ไอ้ขี้เรื้อนแห่งจันฑาล คุณกระจอกมากๆครับ 555555555
26 มกราคม 2555 03:13 น. - comment id 1222076
ทำไมวาจาที่มึงพ่นออกมาอุบาทว์อัปปรีย์จังไอ้ไพร่แดง อายแทนพ่อแม่มึงจริงๆเลยหว่ะ สมเพชพ่อแม่มึงด้วย คงเลี้ยงลูกมาแบบต่ำๆหยาบๆ มึงได้หยาบเหมือนพ่อแม่มึงสินะ เพราะเด็กมักเรียนรู้จากพ่อแม่ ซึ่งเป็นสถาบันแรกของมึง 555555555
26 มกราคม 2555 03:13 น. - comment id 1222077
มรึงบอกมาสิ ไอ้ควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์ สังเกตุ นานเนาว์ มรึงเอามาจากตำราเล่มไหน ตำราของพวกไอ้พวก..... ไอ้พวกควายเหลือง พันธมารชั่วปากคาบโกเต็กซ์สนับสนุนพวกชาติชั่ว ไอ้พวกพันธมารชั่วทำลายชาติปากคาบโกเต็กซ์มันชาติชั่ว ไอ้ ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ชาติชั่วโกงกินชาติ ไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนนั่นมันรับใช้อำมาตย์ ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ ไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ขันทีอัปรีย์ชั่ว ปล้นชาติ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน. มรึงน่ะมันโง่ พวกรากหญ้าเสื้อแดงเขาไม่โง่แบบมรึงหรอก จิงป่ะ . หลวงปู่ที่วัดลิงขบบ้านนอกสอนกรูมาว่า พวกโง่ๆควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์ น่ากลัวกว่า หมาบ้าขี้เรื้อนอีก ให้หลบพวกมันห่างๆๆ กรูเพิ่งมารู้ที่มรึงนี่แหละว่ะ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กรูเดาได้เลยว่ามรึงน่ะ พวกสะตอเน่า ควายเหลือง พวกมรึงจะโง่ ขี้อิจฉาริษยา จิงป่ะ ขำยาวเลยว่ะ ขำความโง่ของมรึงงัย อ้วกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
26 มกราคม 2555 03:17 น. - comment id 1222078
ความคิดเห็นที่ 18 : กรูไพร่จันฑาล ทำไมรู้ภาษาไทยมากกว่ามรึง แสดงว่ามรึงน่ะ ควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์ ขี้เรื้อนจัณฑาลสิใช่ป่ะ กรูเที่ยวระราน. อันธพาลคนอื่นไปทั่วน่ะ มีใครมรึงบอกมาไอ้สะตอเน่าควายเหลือง กรูไอ้ขยะ ไอ้ขี้เรื้อนแห่งจันฑาล คุณกระจอกมากๆน่ะ ทำไมเห็นความโง่ของมรึงล่ะ จิงป่ะ 555555555
26 มกราคม 2555 03:21 น. - comment id 1222079
ความคิดเห็นที่ 19 : วาจาที่กรูพ่นออกมาอุบาทว์อัปปรีย์กับพวกสะเน่าควายเหลืองแบบมรึงเท่านั้น ไอ้ควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์ กรูสิต้องอายแทนพ่อแม่มึงจริงๆ ที่สอนลูกยังงัยจิงโง่ปานนี้ กรู สมเพชพ่อแม่มึงด้วย คงเลี้ยงลูกมาแบบโง่ๆๆมึงได้โง่เหมือนพ่อแม่มึงสินะ เพราะเด็กมักเรียนรู้จากพ่อแม่ ซึ่งเป็นสถาบันแรกของมึง จิงป่ะ 555555555 ท่านนายกทักษินไม่ตายง่ายๆหรอก ต้องกำจัดพวกชั่วๆสะตอเน่าควายเหลืองก่อน บ้านเมืองเจริญก่อน จิงป่ะ
26 มกราคม 2555 03:24 น. - comment id 1222080
บอกกรูง มาสิ พ่อแม่มรึง ครูอาจารย์มรึงสอนภาษาไทย สังเกตุ นานาเนาว์ เหรอ กรูไม่เคยเห็นว่ะ มรึงมันสะตอเน่าควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์ จึงโง่งัย จิงป่ะ
26 มกราคม 2555 03:29 น. - comment id 1222081
กรูรู้เลย พวกสะตอเน่าควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์ สมุนไอ้พวกพันธมารชั่วทำลายชาติปากคาบโกเต็กซ์มันชาติชั่ว ไอ้ ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ชาติชั่วโกงกินชาติ ไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน ส่วนมากจะโง่ จิงป่ะ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หางจุกตูดไปแล้ว มรึงหนีไปซุกที่ห้าเหรอ ควายบ้านนอกของกรูยังฉลาดกว่าพวกสะตอเน่าควายเหลืองเล้ยยยยยยยยยยยย ขำชิกหายเลยว่ะ ขำยาวว่ะขำขี้แตกขี้แตนเลย พี่น้องงงงงงงงงงงงงงงง รีบเข้ามาดูอาการ หางจุกตูดหน่อยยยยยยยยยยยยยย
26 มกราคม 2555 03:32 น. - comment id 1222082
ภาษาไทยอย่างมรึงนะ ถ้าหลวงตากรูรู้นะ ท่านเสียใจตาย ครูอาจารย์ พ่อแม่มรึงรู้ภาษาไทยมรึงแค่เม็ดแตกมด เขาเสียใจไหม รึสถาบันครอบครัวมรึงสอนกันมาได้แค่นี้
26 มกราคม 2555 03:35 น. - comment id 1222083
เขียนมาอีกนะ เขียนมาเยอะๆๆ ไอ้สะตอเน่าควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เปื้อนประจำเดือน กรูชอบ กรูสนุก กรูภูมิใจตัวเองมากที่เห็นพวกมรึงเป็นแบบนี้ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
26 มกราคม 2555 03:37 น. - comment id 1222084
ภาษาไทยมรึงทำไมอ่อนจังวะ รึมรึงมันปัญญาอ่อนวะ ไอ้สะตอเน่าควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์
26 มกราคม 2555 03:38 น. - comment id 1222085
สนุกจังโว้ยยยยยยยยยยยยยยย ได้เห็น ไอ้สะตอเน่าควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์ ปัญญาอ่อนวะ
26 มกราคม 2555 03:41 น. - comment id 1222086
มรึงน่ะไปนอนฝันร้ายแล้วเจอกะกรูเด็กวัดบ้านนอก ป ๔ คนชั้นรากหญ้าเสื้อแดงปลายแถวของท่านนายกทักษิน ชินวัตร ของท่านนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สถาบันครอบครัวของมรึงควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์จะอายกรูไหม
26 มกราคม 2555 03:43 น. - comment id 1222087
อ้าวเฮ้ยย กลับมาก่อน มาเอาโกเต็กซ์เปื้อนประจำเดือนของมรึงไปคาบต่อด้วยซิวะ หนีกันง่ายๆเลยเหรอ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขำชิกหายเลยว่ะ ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์ เสียชื่อสะตอเน่าควายเหลืองหมดเลยว่ะ
26 มกราคม 2555 03:45 น. - comment id 1222088
คืนนี้กรูนอนหลับสบายเลย อ่ะ คนรัยวะ โง่ชิกหาย
26 มกราคม 2555 10:03 น. - comment id 1222096
แหมม ราดน้ำร้อนใส่ตะกวดขี้เรื้อน ซะ ดิ้นพราดๆๆๆๆๆเรย
26 มกราคม 2555 14:00 น. - comment id 1222137
สองสัญชาติผู้ดีขี่ม้าม่วง โดยผลพวงเผด็จการทหารกล้า เขามองเห็นประชาชนคนต่ำช้า ต้องเข่นฆ่ากวาดล้างเปิดทางโกง เขากู้เงินล้านล้านหนี้บานแบะ ยังค่อนแคะเงินช่วยผีตายโหง ดีแต่พูดแต่ละวันล้วนจรรโลง แต่เมื่อถูกเปิดโปงกลับไม่อาย สถิติเขาทำช่างล้ำยุค จับเอาคนเข้าคุกก็มากหลาย อนุมัติโครงการอย่างมากมาย สองร้อยกว่าอนุมัติได้ในวันเดียว มูลค่างานมากมายหลายแสนล้าน ให้คนอ่านแผนผังก็ยังเสียว ใช้เวลาอนุมัตินาทีไม่ถึงเสี้ยว ประเทศไทยถูกเคี้ยวขย้ำกลืน จะขุดรากถอนโคนโจรการเมือง เลิกโครงการทุกเรื่องไม่ต้องฝืน งบประมาณหลายแสนล้านเรียกกลับคืน ประชาชนควรตื่น มาดูแล.. อิอิ อนุมัติได้ไงเกือบสามร้อยโครงการในวันเดียว อ่านชื่อโครงการยังแทบไม่ครบเลย แข่งเวลายุบสภาเพื่อพวกพ้องทำได้สงสารประเทศไทยต้องยกเลิกทบทวนโครงการทั้งหมดใหม่ ถึงจะเรียกว่า ขุดรากโจร
26 มกราคม 2555 14:38 น. - comment id 1222143
ความคิดเห็นที่ 32 : ราดน้ำร้อนใส่ตะกวดขี้เรื้อน ส้นตรีนอะไร ดิ้นพราดๆๆๆๆๆเรย นั่นน่ะ พ่อกับแม่มรึงตั่งหากจิงป่ะ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
26 มกราคม 2555 15:03 น. - comment id 1222172
คำต่อคำ "คนเคาะข่าว" 24 ม.ค.2555 จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคนเคาะข่าว วันนี้เรายังตามกันต่อเรื่องประเด็นข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ที่ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ และคิดว่าวันนี้สังคมไทยอาจจะแตกแยกและรุนแรงยิ่งขึ้น เพราะข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์แต่ละข้อนั้นบ่งบอกถึงการแก้ผ้าล่อนจ้อนให้เราเห็นว่ากลุ่มนี้เขาต้องการอะไรกันแน่ บางคนถึงกับบอกว่า ถ้าอยากต่อสู้เพื่อทักษิณก็เปิดเผยตัวออกมาเสียดีๆ อย่ามาเอามาตรา 112 มาเป็นข้ออ้าง หรือว่านี่มันอยู่ในจิตใต้สำนึกของเขามาแต่ไหนแต่ไรแล้วหรือเปล่า เขาอยากจะแก้ไขมาตรานี้ ยกเลิกมาตรานี้ โดยเฉพาะล่าสุดก่อนหน้านี้ก็มีข้อเสนอออกมาว่า ห้ามพระมหากษัตริย์มีพระราชดำรัสต่อสาธารณะ และล่าสุดที่เพิ่งจะออกมาและทำให้คนรู้สึกว่าไม่พอใจอย่างมาก มีหลายกลุ่มออกมาต่อต้าน นั่นก็คือ พระมหากษัตริย์ต้องสาบานตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง นี่จึงทำให้อาจจะเรียกได้ว่าใกล้ฟางเส้นสุดท้ายแล้วที่คนที่ยังรัก และยึดมั่น เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เริ่มทนไม่ได้แล้ว วันนี้มีหลายกลุ่มออกมาต่อต้านอย่างที่เรียนไป แต่นับจากวันนี้ไป บทบาทของคณะนิติราษฎร์จะออกมาเป็นอย่างไร เราคงจะต้องติดตามกันต่อ ถึงแม้ว่าหลายคนจะบอกว่า เลิกสนใจ ไม่ต้องไปทำข่าว และไม่ต้องสนใจกลุ่มนี้อีกต่อไปแล้ว ก็คงจะไม่ได้นะคะ เราอยากจะรู้ว่าแนวคิดของกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นอย่างไร และจุดประสงค์ เป้าหมายใหญ่ของเขาคืออะไร วันนี้เราจะลองมาวิเคราะห์กันดู และก้าวต่อไปที่เรา คนในสังคมจะต้องตั้งรับ และดูพฤติกรรมของคนเหล่านี้ ควรจะทำตัวอย่างไร กับแขกรับเชิญ 4 ท่านด้วยกัน ท่านแรก คุณคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ท่านต่อมา คุณพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และอีกท่าน ทนายความพันธมิตรฯ คุณสุวัตร อภัยภักดิ์ และนักวิชาการด้านนิติศาสตร์โดยตรง รศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ คณบดีคณะนิติศาสตร์ นิด้า สวัสดีทั้ง 4 ท่านค่ะ ต้องเรียนคุณผู้ชมนะคะว่าวันนี้ทั้ง 4 ท่านมา ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เราอาจจะคุยกันถึง 2-3 ชั่วโมง คุณผู้ชมอย่าเพิ่งง่วงก่อนนะคะ แต่เรื่องนี้คงจะไม่ทำให้ใครง่วงนอนแน่ๆ เพราะหลายคนกำลังจับจ้องว่าวันนี้เราจะทำอย่างไรกันดีกับกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ อาจจะต้องเรียนถามความรู้สึกของทั้ง 4 ท่านก่อน คำนูณ - ผมคิดว่าผมจะช่วยเปิดประเด็นแล้วให้ทุกท่านช่วยกันวิจารณ์ก็แล้วกันนะครับ ผมไม่เห็นด้วยกับคุณแอนว่านิติราษฎร์ออกมาแล้วทำให้เราไม่สบายใจ ผมนี่สุดแสนสบายใจเลย จินดารัตน์- ทำไมคะ คำนูณ - และต้องขอบคุณนิติราษฎร์ คือที่เขาพูดออกมาเกือบหมด มันแสดงให้เรารู้ว่าเกือบทั้งหมดที่เขาคิดอยู่ คืออะไร คือเวลาพูดถึงแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มันเบลอร์ๆ เพราะถ้าพูดเดี่ยวๆ เราอาจจะเห็นด้วยบ้างในบางประเด็น หรืออย่างน้อยเป็นเรื่องที่หารือกันได้ แต่ทีนี้พอเขาพูดถึงโครงสร้างของรัฐธรรมนูญแล้ว โดยสรุปก็คือเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิรูปสถาบันศาล เลิกองค์กรอิสระ ปฏิรูปกองทัพ ทุกสิ่งทุกอย่างเขาให้ผูกอยู่กับการเลือกตั้ง ผูกอยู่กับสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีสภาเดียว หรือถ้าจะมี 2 สภา ก็มาจากการเลือกตั้งทั้งสองสภา ฟันธงไปเลยนะครับว่า สิ่งที่เขาคิด ผลที่จะเกิดขึ้นก็คือยกประเทศให้กับกลุ่มทุนผูกขาด เจ้าของพรรคการเมือง ถามว่าระบอบประชาธิปไตยบ้านเรามีปัญหาไหม ตอบได้ว่ามีปัญหามาโดยตลอด ไม่เคยเป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง การปฏิรูปองค์กรต่างๆ หรือแม้กระทั่งสถาบัน เป็นสิ่งที่ควรจะพูดกันไหม ตอบว่าพูดได้ แต่สิ่งหนึ่งที่นิติราษฎร์ไม่เคยพูดเลยก็คือ ด้านปฏิรูป หรือด้านแก้ไขทางด้านนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง หรือกระบวนการเลือกตั้งซึ่งในโลกที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเขาเชื่อถือได้ แต่ในโลกของประเทศไทย คือใครมีเงิน ใครซื้อก็ซื้อเอา ในรูปแบบต่างๆ สำนักคิดของ อ.บรรเจิด สิงคะเนติ หรือแม้กระทั่งสำนักคิดอย่างของผู้จัดการเอง ถ้าใครที่ติดตามมา เราไม่เคยเรียกระบอบปัจจุบันว่าระบอบประชาธิปไตย เราอาจจะเรียกว่าระบอบเผด็จการรัฐสภาบ้าง หรือตั้งแต่ปี 2536 กลุ่มผู้จัดการเป็นกลุ่มแรกๆ ผมเองเป็นคนแรกๆ ที่ใช้เรียกคำว่านักการเมือง ว่านักเลือกตั้ง และก็บอกว่าระบอบประชาธิปไตยบ้านเราก็คือระบอบเลือกตั้งธิปไตย ไม่ใช่ประชาธิปไตยหรอก เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต่อสู้มาตลอดก็คือ เราต้องการให้เกิดมีการปฏิรูปการเมือง เกิดมีการปฏิรูปประเทศ เพื่อที่จะจำกัดอำนาจของผู้ใช้อำนาจรัฐที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นการเลือกตั้งที่พิกลพิการ กรอบโครงสร้างของรัฐธรรมนูญพิกลพิการมาโดยตลอด เอาง่ายๆ สั้นๆ เลย ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่เหลือในโลกขณะนี้ที่บังคับให้ผู้สมัคร ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมือง แล้วในเมื่อพรรคการเมืองเป็นของกลุ่มทุนไม่กี่กลุ่ม หรือไม่กี่คน คนดีๆ ที่เขาอยากเข้ามาเล่นการเมืองก็ไม่สามารถจะเข้ามาได้ ถ้าเผื่อไม่ยอมตนไปเป็นทาสของนายทุนเจ้าของพรรคการเมือง นี่คือสิ่งที่ต่อสู้มาโดยตลอด แล้วประเทศไทยมันก็มีวิวัฒนาการในการต่อสู้เรื่องเหล่านี้ตั้งแต่ปี 2535 , 2537 จนเป็นส่วนหนึ่ง พลิกผัน ผกผัน เกิด คภป.ของ อ.ประเวศ วะสี เกิด ส.ส.ร. จนกระทั่งเกิดรัฐธรรมนูญ 2540 รัฐธรรมนูญ 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่ไว้วางใจนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญจึงให้กำเนิดสิ่งที่เรียกว่าองค์กรอิสระขึ้นมา เพราะเห็นว่านักการเมือง โดยสภาผู้แทนราษฎรควบคุมรัฐบาลไม่ได้ เพราะว่าท่านมาจากพรรคเดียวกัน เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ก็คือรัฐบาล แล้วเมื่อบังคับสังกัดพรรคการเมือง มีกฎข้อบังคับของพรรคที่เข้มงวด มันก็คือสิ่งที่ในทางวิชาการเขาเรียกว่าระบอบเผด็จการรัฐสภา หรือตอนหลังก็มาต่อเติมกันว่าเป็นเผด็จการรัฐสภาของนายทุนเจ้าของพรรคการเมือง สิ่งเหล่านี้ คณะนิติราษฎร์ ที่เป็นด็อกเตอร์ นักเรียนทุนอานันทมหิดล ท่านแกล้งโง่ หรือท่านโง่จริงผมก็ไม่รู้ หรืออย่างน้อยก็คือ ท่านจงใจที่จะละเลย ไม่พูดถึง แล้วท่านก็บอกว่า ผมเคยเจอกับ อ.บรรเจิด ในไทยพีบีเอส ผมก็พูดประเด็นนี้ ท่านก็ยอมรับนะ แต่เรื่องนี้ไว้พูดกันทีหลัง ผมอยากให้ทีมงานหาการ์ตูนบัญชา คามิน ในผู้จัดการรายวันฉบับนี้มาขึ้นให้ดู ก็คือ ท่านบอกว่า เรื่องนี้ไว้พูดกันทีหลัง แต่ว่าเราต้องเอาเกณฑ์ประชาธิปไตยตามสากลโลกก่อน ทุกอย่างผูกกับการเลือกตั้ง ทักษิณ อย่าไปกลัวเขาเลย เขาเป็นนายกฯ ไม่กี่ปีก็ตาย ทักษิณไม่เป็นปัญหาหรอก เป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่คือต้องทำ ต้องปฏิรูปเรื่องอื่นก่อน ถ้าทักษิณเป็นปัญหามากนัก เดี๋ยวนิติราษฎร์จะจัดการเอง ผมก็ตั้งคำถามว่า ไอ้คนที่พูดอย่างนี้นี่นะ ถอนคำว่าไอ้ .. ท่านที่พูดอย่างนี้ ผมก็ตั้งคำถาม มันมีสองอย่างครับ ไม่บริสุทธิ์ ไร้เดียงสาสุดๆ มันก็ฉ้อฉลสุดๆ แล้วผมก็เกิดไอเดียว่า ที่เขาเสนอว่าให้พระมหากษัตริย์ต้องสาบานตนก่อนเข้ารับตำแหน่งนั้น ความจริงถ้าดูคลิปดีๆ ระหว่างที่พูดท่านก็พูดด้วยความที่เหน่อมา พอพูดเสร็จก็มีเสียงปรบมือเชียร์ ผมก็อยากจะบอก คือผมนึกขึ้นมาวันนั้นมันเป็นเช้าวันตรุษจีนนะ ก็เกิดสติปัญญาแว่บแปร๊บขึ้นมา ผมก็บอกว่า พระมหากษัตริย์ของเราไม่เคยมีรัฐธรรมนูญที่บังคับให้ต้องสาบานตน เพราะมันเป็นระบอบพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ระบอบประธานาธิบดี แต่นั่นไม่เป็นไร แต่พระองค์ก็ทรงปฏิญาณตน หรือทรงสาบานตนต่อหน้าประชามหาชน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ดังคำที่เราเกือบจะขึ้นใจอยู่ว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม และที่สำคัญก็คือว่า ตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ 60 ปีของพระองค์ ไม่เคยทรงผิดคำสาบาน ไม่เคยผิดคำปฏิญาณตน หรือใครบอกพระองค์ผิด ก็ว่ามา แสดงตัวออกมา กล้าๆ หน่อย แต่ว่านักการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างผม อย่าง ส.ส. อย่างรัฐมนตรีต่างหาก รัฐธรรมนูญบังคับให้ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง ทั้งปฏิญาณในสภาฯ ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ทั้งปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์พระองค์ ในกรณีที่เป็นรัฐมนตรี ดีๆ ทั้งนั้น ทำได้ไหม ไม่เคยทำได้ครับ ประเทศชาติก็พินาศฉิบหายลงไปทุกวัน เพราะฉะนั้น มันเทียบกันไม่ได้ครับ อันนี้เป็นประเด็นที่ผมคิด ที่อยากจะบอกว่า การพูดอะไรเพียงด้านเดียว พูดความจริง หรือพูดด้านที่ควรปรับปรุง หรือหารือเพื่อการปรับปรุงเพียงด้านเดียว ถ้าไม่ไร้เดียงสาสุดๆ ก็ฉ้อฉลสุดๆ การปฏิรูปประเทศมันมีได้ มันหารือกันได้ แต่มันจะเริ่มต้นนับ 1 บนโต๊ะใดโต๊ะหนึ่งก็แล้วแต่ มันต้องเริ่มต้นด้วยทุกคนที่เข้ามาพูดคุยกัน คุณต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเองก่อน ถ้าคุณกล้าพูดถึงด้านอัปลักษณ์ของการรัฐประหารของกองทัพ ด้านที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ในความหมายของสถาบัน จำเป็นจะต้องปรับบทบาทไปตามวิวัฒนาการของโลก วิวัฒนาการของระบอบการเมืองที่ปรับเปลี่ยนไป ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา จาก 2475 ก็ปรับกันมาเป็นช่วงๆ มีขึ้น มีลง ด้วยเหตุผลต่างๆ ซึ่งเดี๋ยวผมจะกล่าวต่อไป จะปฏิรูประบบศาล จะเลิกระบบศาลคู่ จะเป็นศาลเดี่ยว หรือจะให้ประธานศาลแต่งตั้งโดยนายกฯ รับรองโดยสภาฯ อะไรก็แล้วแต่ คิดไปได้ทั้งนั้นล่ะครับ แต่ว่าคุณจะต้องพูดถึงด้านที่มันเป็นปัญหาของสังคมไทย และเป็นบ่อเกิดของปัญหาที่เป็นมานับสิบๆ ปี ก็คือด้านการเมือง ด้านนักการเมือง ด้านกลุ่มทุนเจ้าของพรรคการเมือง ที่เข้ามามีบทบาท ในยุคสมัยที่ทหารเริ่มเฟดออกไป แต่ก็ยังไม่หมดเสียทีเดียว นี่เป็นปัญหาที่ .. ถ้าเราพูดถึงแต่ด้านอัปลักษณ์ของสิ่งหนึ่ง โดยไม่พูดถึงด้านอัปลักษณ์ยิ่งกว่า ของอีกสิ่งหนึ่ง มันก็คือการยกบ้านเมืองให้กับด้านอัปลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ระบอบประชาธิปไตย 4 วินาที ระบอบการเลือกตั้งที่ยังไม่มีการปฏิรูป ระบอบที่เราปล่อยให้คนที่มีเงินมหาศาลสามารถจะทุ่มเงินเข้ามา โดยอาศัยความไม่รู้ของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นพิธีกรรม เข้ามาครองอำนาจรัฐ และฉ้อฉลอำนาจนั้นต่อไป อันนี้ผมว่าคณะนิติราษฎร์ ผมตอบไม่ได้ครับ ไม่กล้าตอบจริงๆ ว่าท่านบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาสุดๆ หรือท่านฉ้อฉลสุดๆ นี่ประการหนึ่ง อีกประการหนึ่ง พูดสักเล็กน้อยถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ผมเชื่อว่าเราเป็นนักวิชาการกันพอสมควร เราพร้อมที่จะพูด แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงข้อนี้นะครับ ว่า พระมหากษัตริย์ท่านไม่ได้ทรงรู้เห็นอะไรด้วย 2475 เกิดการปฏิวัติ เปลี่ยนแปลง ระหว่าง 2475 ถึง 2490 หรือ 2493 ด้วยซ้ำไป พระมหากษัตริย์แทบไม่ได้มีบทบาทต่อการเมือง รัชกาลที่ 7 สละราชย์ รัชกาลที่ 8 ยังพระชนมายุน้อย รัชกาลที่ 9 ยังพระชนมายุน้อย เสด็จฯ ทรงศึกษาอยู่ต่างประเทศ คณะราษฎร์ ผมกับ อ.บรรเจิด ก็ศิษย์ธรรมศาสตร์และการเมือง เคารพท่านผู้ประสาทการ อ.ปรีดี พนมยงค์ เหมือนกัน เคารพหลัก 6 ประการของคณะราษฎร์เช่นกัน แต่ถามว่าในยาม 2475 จนถึง 2490 หรือ 2493 บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์หรือเปล่า ก็ไม่ใช่ ทั้งๆ ที่พระมหากษัตริย์ก็ไม่ได้เสด็จฯ ประทับอยู่ในประเทศไทย คณะราษฎร์ก็ขัดแย้งกันเอง บางช่วงบ้านเมืองก็กึ่งๆ จะเป็นเผด็จการด้วยซ้ำไป มันก็เป็นปัญหาทางประวัติศาสตร์ จากนั้น 2490 เกิดการรัฐประหาร จนกระทั่งช่วงระหว่าง 2490-2500 สถาบันกษัตริย์ก็ยังไม่ได้มีบทบาทที่สูงเด่นขึ้นมา อาจจะมีการยกระดับขึ้นมาบ้าง เพราะว่าคณะราษฎร์ปีก จอมพล ป.ยังอยู่ แต่ก็มาร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ จวบจน 2500 บทบาทหรือสถานภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์จึงค่อยๆ ยกระดับขึ้นมาและแปรเปลี่ยนไปในยุคเผด็จการจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ แต่ตั้งแต่วันนั้นจวบจนบัดนี้ มันก็เป็นระยะเวลา 50 กว่าปีมาแล้ว และมันก็เป็นเหตุผลทางประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องที่พัฒนาการเป็นต้นมา แล้วพระองค์ โดยเฉพาะพระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบัน พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองอยู่รอดปลอดภัยมาได้ จากภัย สงครามเย็น ภัยการต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แน่นอน อาจจะมีเหตุการณ์ที่นักศึกษารุ่นผม ต้องบาดเจ็บล้มตายในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 แต่ถ้าพูดกันจริงๆ ตรงไปตรงมาแล้ว การบาดเจ็บล้มตายของนิสิต นักศึกษา มันก็แยกไม่ออกจากบริบทการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ซึ่งก็จะต้องว่ากันเป็นกรณีๆ ไป ถามว่า ในวันนี้เราจะเปลี่ยนแปลงสถานภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์ จากที่ยกระดับขึ้นมาเมื่อ 50 ปีก่อน กลับไปสู่ก่อน 2500 หรือกลับไปสู่ก่อน 2490 จะทำกันชั่วข้ามคืน สังคมไทยในส่วนที่เหลือเขาจะรับได้มั้ย เขารับไม่ได้ แล้วถามว่า เราเป็นคนไทย ถ้าเรามีความกตัญญูรู้คุณต่อพระมหากษัตริย์ ในยามที่พระองค์ทรงประชวร พระองค์ทรงพระชนมายุสูง เราสมควรจะเอาเรื่องเหล่านี้มาเป็นประเด็นสาธารณะขณะนี้หรือไม่ ถามว่ามันเป็นประเด็นความเป็นความตายของบ้านเมืองหรือไม่ สถาบันพระมหากษัตริย์ บทบาทในขณะนี้ สถานภาพในขณะนี้ มันเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไข หรือว่าบทบาทของกลุ่มทุนเจ้าของพรรคการเมืองที่สยายปีกเข้ามา ผ่านพิธีกรรมการเลือกตั้ง แล้วก็เข้ามาเสวยอำนาจ แล้วก็ครอบงำอำนาจ ทั้งทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ อย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ถามว่าอะไรเป็นภยันตรายต่อบ้านเมืองมากกว่ากัน ถามว่าบทบาทของพรรคการเมือง บทบาทของประชาชน ความรับรู้ของประชาชนต่างๆ ของเรามันอยู่ในมาตรฐานของระบอบประชาธิปไตยอย่างที่เราชอบไปยกตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสวีเดน เป็นอังกฤษ หรือเป็นสหรัฐอเมริกา หรือไม่ อันนี้คือประเด็นภาพรวมที่ผมอยากจะพูดเกริ่นว่า ที่จริงแล้วเราต้องตอบโจทย์ว่า อะไรคือภยันตราย หรือตัวอันตราย หรือสิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดของบ้านเมืองในขณะนี้ นี่เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ผมเชื่อว่าทุกท่านพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนกันได้ จินดารัตน์- ที่ผ่านมาเรารับรู้อยู่แล้วว่าบ้านเมืองเราวอดวายกันขนาดนี้เพราะว่านักการเมือง พรรคการเมือง แต่นิติราษฎร์ไม่พูดถึง คำนูณ - คือนักการเมืองดีๆ ก็มี แต่ระบบ โครงสร้างแบบผูกขาดอำนาจ เอาง่ายๆ ที่สุดนะ คนอย่างพี่สุวัตรนึกอยากจะสมัครผู้แทนฯ บางแว่บอาจจะนึกอยาก แต่ถ้าพี่สุวัตรจะต้องไปเป็นลูกน้องของไอ้/อี ที่เป็นนายทุนเจ้าของพรรคการเมืองเหล่านั้น พี่คงไม่ไป ว่าความเปล่าๆ ดีกว่า แต่ถ้าเผื่อระบบมันเปิดโอกาส สมัครอิสระก็ได้ นี่เอาง่ายๆ นะ ผมก็เชื่อว่ามีคนที่พร้อมที่จะเข้าไปอีกจำนวนหนึ่ง คนดีๆ หลายคนที่คิด่จะเข้าไปสู่ในระบบ เมื่อเข้าไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องเก็บความดีของตัวเองไว้ในบางขณะ ต้องหลับตาเสียข้างหนึ่งในบางขณะ อยู่ไปก็อาจจะต้องหลับตาทั้งสองข้าง และในที่สุดก็ต้องเสียประพฤติไป คือถ้าไม่ทำอย่างที่เขาทำกัน มันก็อยู่ไม่ได้ อันนี้มันเป็นปัญหาซึ่งทำให้ระบบการเมืองของเรามีปัญหา รัฐธรรมนูญ 40 พยายามแก้ ก็ไม่สำเร็จ รัฐธรรมนูญ 50 ก็พยายามแก้ ก็ยิ่งไม่สำเร็จ เพราะมันมาจากการรัฐประหารที่ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ก็ร่างรัฐธรรมนูญมา ไปคุมเข้มขึ้นมาอีก มันก็ไม่สำเร็จอีก มันต้องตอบโจทย์ข้อแรกก่อนว่าอะไรคือปัญหา นิติราษฎร์กำลังจะบอกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือบทบาทต่อสถานภาพในปัจจุบันนี้เป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองที่จะต้องแก้ไขก่อน ศาล องค์กรอิสระ และอะไรต่อมิอะไรที่ท่านเสนอจะแก้ไขเปลี่ยนแปลง เป็นปัญหาใหญ่ แล้วท่านก็ไปโยนทุกสิ่งทุกอย่างไว้ที่การเลือกตั้ง การเลือกตั้ง การเลือกตั้ง สภาผู้แทนๆๆ ท่านพูดมาหมดครับ แต่ผมคิดอยู่ในใจอย่างเดียวว่า ที่นิติราษฎร์ยังไม่ตอบ หรือตอบแบบเลี่ยงๆ ก็คือ ผมโยนคำถามไปว่า ท่านพูดถึงรัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 บ่อยๆ หรือท่านคิดว่าจะไม่เอามาตรา 8 ไว้ในรัฐธรรมนูญ จะเอาแบบมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 หรือเปล่า ท่านก็บอกว่ามาตรา 8 ยังมี แต่มันต้องภายในบริบทนั้น บริบทนี้ คือผมว่านาทีนี้นะ เอายังไง คิดยังไง ผมชื่นชมท่านนะ พูดออกมาให้หมด ผมจะสบายใจมากกว่านี้ เพราะว่ามันก็มีคนบางกลุ่ม คนบางท่าน ซึ่งผมก็โอเคนะ ที่เขาพูดออกมา ก็ได้พูดมาโดยตลอดถึง 8 ข้อเสนอในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ คงไม่จำเป็นต้องพูดในรายละเอียด เดี๋ยวมีเวลาค่อยว่ากันไป ก็ดีครับ ชัดเจนออกมาแบบนี้ เราก็จะได้ สำหรับผมน่ะสบายใจ เพราะว่าเมื่อเขาชัดเจนมาแบบนี้ ผมก็รู้สึกว่าสิ่งที่ผมคิด สิ่งที่ผมเชื่อ สิ่งที่ผมสู้มา ไม่ผิดหรอก มันยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่าปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองเราจะเรียกว่านักการเมือง ก็อาจจะดูใจร้ายไปสักนิดหนึ่ง เอาเป็นว่า ก็คือเป็นปัญหาระบบเผด็จการรัฐสภาของนายทุนเจ้าของพรรคการเมือง หรือปัญหาใหญ่ก็คือกลุ่มทุนเจ้าของพรรคการเมืองที่สยายปีกเข้ามาครอบงำสังคม อย่างนั้นจะดีกว่าครับ จินดารัตน์ - ในฐานะที่ อ.บรรเจิด เองก็คุ้นเคยและรู้จักทุกคนที่นั่งหน้าสลอนวันนั้น ที่แถลงข่าว ต้องเรียนถามว่าในคำถามของคุณคำนูณว่า ไม่ไร้เดียงสาที่สุดก็ฉ้อฉลที่สุด ในความรู้สึกของอาจารย์สำหรับกลุ่มนี้ หมดหรือยังคะ หรือว่าเขายังอยู่ในโลกแห่งความฝันของเขา หรือเขาอยากจะย้อนกลับไป 2475 หรืออย่างไร บรรเจิด - ผมพูดในภาพรวมสัก 3-4 ประเด็นนะครับ ที่ผมอยากจะแลกเปลี่ยนตรงนี้ในภาพรวมก่อน ประเด็นแรก ก็คือเรื่องของบทบาทของนักวิชาการว่าเป็นอย่างไร ประเด็นที่ 2 การวิเคราะห์สังคม วิเคราะห์อย่างไร ประเด็นที่ 3 ก็คือ สภาพปัญหาที่แท้จริงของสังคมคืออะไร และประเด็นสุดท้ายผมอยากจะดูข้อเสนอในภาพรวมว่าเป็นอย่างไร มันจะนำไปสู่อะไร ประเด็นแรก ผมมองว่าบทบาทที่กำลังทำกันอยู่นั้น ไม่ใช่บทบาทของนักวิชาการ เพราะถ้าเป็นบทบาทของนักวิชาการ เวลาเราจะพูดสีดำ ถ้ามันดำ มันอยู่ซ้ายและขวา เราก็ต้องบอกว่าดำมันอยู่ทั้งซ้ายและขวา ไม่ใช่บอกว่าสีดำอยู่เฉพาะด้านซ้ายนะ ขวาที่ไม่มีเลย หรือไม่พูดถึง หรืออะไร ตรงนี้เอง ผมคิดว่าความซื่อสัตย์ในทางวิชาการอาจจะผิดเพี้ยนไปแล้ว อย่างนี้ไม่ใช่บทบาทของนักวิชาการที่มีความซื่อสัตย์ในทางวิชาการ เพราะว่านักวิชาการควรจะต้องชี้บอกว่าสภาพปัญหาของเรื่องนั้นมันเป็นอย่างไร ด้านซ้ายถ้าจะไป ไปอย่างไร ผลจะเกิดอย่างไร ปัญหาด้านขวาเป็นอย่างไร ก็คือต้องให้ข้อมูลต่อสังคม แต่วันนี้ที่ทำ ผมว่าอาจจะไม่ใช่ในฐานะนักวิชาการแล้ว แต่ไปเป็นผู้ปฏิบัติการในทางการเมือง โดยมีความมุ่งหมายในทางการเมือง นี่เป็นประเด็นแรกที่อยากจะแลกเปลี่ยนว่าอาจจะไม่ใช่นักวิชาการในความหมายที่จะต้องให้ข้อมูลต่อสังคมอย่างรอบด้าน ประเด็นที่ 2 ผมมองว่าการที่วิเคราะห์สังคมแล้วมองว่าปัญหาใหญ่เป็นเรื่องของเผด็จการทหารนั้น เป็นการวิเคราะห์สังคมที่ไม่สอดคล้องกับยุคสมัย เพราะตั้งแต่ 2535 เรื่องของการกำหนดความเป็นไปของสังคมสั้น ไม่ได้อยู่ที่ตัวทหารแล้ว การกำหนดความเป็นไปของสังคมนั้นเคลื่อนมาอยู่ที่อำนาจทุนแล้ว และเมื่อเคลื่อนมาสู่อำนาจทุนแล้ว โดยเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ มันนำไปสู่การทำให้เป็นระบบเผด็จการโดยพรรคการเมืองนายทุน ซึ่งไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้วฐานตรงนี้ เพราะฉะนั้นฐานของการวิเคราะห์ขาวเป็นดำ ดำเป็นขาวในสภาพการณ์ปัจจุบันนี้เอง ที่ผมเรียกว่า เมื่อเริ่มต้นตั้งฐาน สมมติฐานของเรื่องผิด อาจจะโดยจงใจ หรือไม่จงใจ หรือมีมูลเหตุในทางการเมืองอย่างไร ผมว่าตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญในการมองสภาพปัญหา ว่าสภาพที่แท้จริงมันคือปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นตรงนี้เอง ใน2-3 เรื่องนี้ผมคิดว่ามันคือความแตกต่างระหว่างนิติราษฎร์ กับสยามประชาภิวัฒน์ ซึ่งเรามองสภาพการณ์ของสังคมแตกต่างกัน ประการที่ 3 สภาพปัญหาที่แท้จริงของสังคมนั้น ผมคิดว่า อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าหลังจาก 35 สภาพของอำนาจใหม่ที่เข้ามาในนามทุน ได้รับประโยชน์จากโครงสร้างในทางรัฐธรรมนูญต่างๆ แล้วเข้ามาผูกขาด ผมว่าจุดหนึ่งที่นิติราษฎร์พยายามจะเอาระบบ กรอบคิดทางตะวันตก มาวางอยู่บนพื้นฐานของสังคมไทย ซึ่งมีฐานที่แตกต่างมาก ผมยกตัวอย่างเช่น อย่างในประเทศเยอรมัน วัฒนธรรมของสังคมเป็นวัฒนธรรมแบบนิติรัฐ คือเคารพในกฎเกณฑ์ แต่ว่าวัฒนธรรมของไทยเรานั้นมันเป็นวัฒนธรรมแบบอุปถัมภ์ เมื่อเอาหลักการประชาธิปไตยหรือนิติรัฐมาวางบนสังคมที่มีความแตกต่าง ผลมันจึงแตกต่าง เพราะฉะนั้นตรงนี้เอง นิติรัฐก็ดี ประชาธิปไตยก็ดี ไม่ใช่อาหารสำเร็จรูป ฉีกซองมาต้ม แล้วสุก เหมือนกันทุกที่ ไม่ใช่ แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่มันเกี่ยวโยงกับสภาพสังคมวิทยา แต่ละสังคมวิทยา กฎหมายนั้นไม่ได้ลอยอยู่ในอากาศอย่างอิสระ แต่กฎหมายนั้นเป็นมาตรการที่เชื่อมโยงกับสังคมวิทยา จุดนี้เองเป็นจุดที่นิติราษฎร์นั้นมองจุดนี้โดยขาดความลุ่มลึกกับการเชื่อมต่อกับสังคมวิทยาของประเทศไทย ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีคุณค่า ผมเรียนว่าสังคมหนึ่งๆ มาดำรงมาได้ 6-7 ร้อยปี แล้วมันดำรงความเป็นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งนั้นต้องมีคุณค่า นี่คือมองในเชิงสถาบัน เพราะฉะนั้นการจะคิดจะปรับเปลี่ยนอะไรในเชิงกฎหมาย ก็ต้องเคารพคุณค่าต่อสิ่งที่มันดำรงมาได้ถึงทุกวันนี้ ผมเห็นว่าจุดนี้เป็นจุดสำคัญในการวางมาตรการทางกฎหมาย นั่นหมายความว่า มาตรการในทางกฎหมายต้องไม่ไปทำลายคุณค่าที่ดำรงอยู่มาได้ทุกวันนี้ มาตรการทางกฎหมายต้องไปพัฒนาสิ่งเหล่านั้นให้มีคุณค่ามากขึ้น นี่คือหลักคิดในทางกฎหมายของสายที่ไม่ได้มองว่ากฎหมายคือสิ่งที่มันลอยอิสระจากสังคม แต่ว่ากฎหมายเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับปรากฏการณ์ในทางสังคม ก็จะมองกฎหมายในรูปแบบอย่างนี้ นี่คือจุดยืนที่ผมคิดว่ามองต่างกัน ระหว่างทางกลุ่มพวกเรา ซึ่งเรามองคุณค่าของสังคมไทย มองกฎหมาย ก็คือส่วนที่เป็นมาตรการที่เชื่อมต่อกับมาตรการในทางสังคม เพื่อมุ่งจะรักษาประโยชน์ส่วนรวม จุดต่างๆ เหล่านี้ที่ผมว่าเป็นพื้นฐานที่เรามองต่างกัน ประการสุดท้าย ผมมองในลักษณะคล้ายพี่คำนูณ ก็คือว่า ผมมองข้อเสนอโดยรวมทั้งหมดแล้วผมค่อนข้างสบายใจ เพราะเหมือนกับได้เปิดไต๋ออกมาทั้งหมด แล้วการเปิดไต๋ออกมาทั้งหมดนั้นเองมันจะทำให้เห็นภาพที่ชัดเจน ผมสรุปได้เลยนะครับว่า แก้รัฐธรรมนูญวันนี้ ภายใต้กรอบคิดของนิติราษฎร์ จะนำไปสู่ระบบเผด็จการโดยพรรคการเมืองนายทุนโดยเบ็ดเสร็จ พูดได้คำเดียวว่าโดยเบ็ดเสร็จ คือวันนี้เป็นแบบยังไม่มีคำว่าเบ็ดเสร็จ แต่ถ้าใช้กรอบวิธีการแก้ไขเหล่านี้ นำไปสู่การแก้โดยเนื้อหาอย่างนั้น ต้องบอกได้ว่า ใส่คำว่าโดยเบ็ดเสร็จเข้าไปได้เลยในสังคมไทย เพราะฉะนั้นผมคิดว่าในภาพรวมมันมีรายละเอียดมากเลย แต่ว่าผมเรียนภาพรวม 4-5 ประเด็นที่ว่านี้ เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ว่ามันมีฐานความคิดในการมองที่แตกต่างกันมาก เรียนสรุปสุดท้ายก็คือว่า เรื่องการวางหลักมาตรการในทางกฎหมายมหาชนนั้น เราไม่มีทางประสบความสำเร็จในการอิมพอร์ตหลักเข้ามาโดยไม่ดูบริบท วัฒนธรรมทางสังคม นี่เป็นจุดที่ยากในการออกแบบในทางกฎหมายมหาชน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเพิกเฉยจากข้อเท็จจริงในทางสังคม หรือการให้คุณค่าในทางสังคมวิทยาแล้ว ผมคิดว่ามันยากมากที่จะประสบความสำเร็จ และยากมากที่จะดำรงคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ในสังคมให้มีคุณค่า เพราะฉะนั้นนี่คือผมคิดว่าเป็นความแตกต่างระหว่างทางนักวิชาการนิติราษฎร์ กับสยามประชาภิวัฒน์ จินดารัตน์ - คือคนก็กำลังพยายามที่จะคิดว่ากลุ่มคนเหล่านั้นเขาคิดอย่างนั้นจริงๆ เขาอยากได้อย่างนั้นจริงๆ หรือว่ามันมีเหตุปัจจัยอื่นที่อยู่เบื้องหลัง คนๆ หนึ่งอยากจะให้กลุ่มนี้ทำงานให้ มีเงินเข้ามาอุดหนุนจุนเจือกัน แล้วก็ให้มีการแถลงข่าว เปิดโต๊ะ เปิดห้องประชุมกัน อะไรแบบนี้ อาจารย์คิดอย่างไร บรรเจิด - ผมคิดว่าจุดหนึ่งในทางวิชาการด้วยกัน เราก็เคารพในเรื่องเสรีภาพวิชาการที่ต่างฝ่ายต่างก็มีเสรีภาพในทางวิชาการ แต่จุดที่จะมากไปกว่านั้นผมว่าเป็นเรื่องของการวิเคราะห์ในทางสังคมว่าการดำเนินการต่างๆ ดังกล่าวนั้นมันมีที่ไปที่มาอย่างไร ผมว่าเป็นประเด็นในทางวิเคราะห์ แต่ว่าในทางวิชาการเราเคารพ แต่สิ่งทั้งหมดทั้งปวงนั้น กรรมจะเป็นเครื่องชี้เจตนา ผมอยากจะชี้ไปตรงนั้นมากกว่า กรรมต่างหากเป็นเครื่องชี้เจตนาว่าจะมีเจตนาอย่างไร ก็ดูจากการกระทำที่ได้กระทำออกมา จินดารัตน์ - นี่เพิ่งจะเริ่มต้นนะคะ เราต้องดูต่อว่าเขาจะทำอะไรกันต่อ / พี่สุวัตร ในฐานะเป็นทนายความ มองแล้วกฎหมายแบบนี้มันมีความเป็นไปได้แค่ไหน อย่างไร อย่างที่อาจารย์บอกว่าบริบทสังคมไทยมันไม่ได้เหมาะสม มันไม่ได้ไปด้วยกันได้เลย สุวัตร- เมื่อกี้ ส.ว.คำนูณ กับท่าน อ.บรรเจิด บอกว่าสบายใจ คำว่าสบายใจตรงนี้นะ สบายใจที่ได้เห็นสันดาน หรือเห็นธาตุแท้ของเขานะครับ ไม่ใช่สบายใจว่าจะให้รัฐธรรมนูญนี้ผ่าน เราต้องจับประเด็นให้ได้นะครับ บรรเจิด บอกว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา คุณแอนก็บอกว่า มีอะไรหรือที่อยู่เบื้องหลัง หรือผลักดันกลุ่มนิติราษฎร์ ถ้าคุณแอนย้อนไปดูในอดีต ตอนแรกเขาบอกจะแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตอนที่เขาชุมนุมกันอยู่ ซึ่งเราก็ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว 112 คำว่าดูหมิ่น หมิ่นประมาท พระมหากษัตริย์ คุณจะแก้ไปทำไม เราก็มาดู 112 ใช้ว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท หมิ่นประมาทนั้นพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า แสดงกิริยา วาจา ดูหมิ่น เหยียดหยามผู้อื่น เป็นความผิดอาญาฐานใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง คุณจะให้ยกเลิกมาตรานี้ หรือจะแก้มาตรานี้ คุณต้องการให้คนเขาดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อย่างนี้หรือ ถ้าคุณไม่ทำก็ไมผิด คำที่ 2 ที่ใช้ในมาตรา 112 ใช้คำว่าดูหมิ่น ดูหมิ่น พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน บอกว่า ดูหมิ่น ดูถูก เหยียดหยามผู้อื่น ดูหมิ่น ดูแคลน แสดงกิริยาท่าทาง พูดจา หรือเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร เชิงดูถูกว่ามีฐานะต่ำต้อย หรือไม่ดีจริง ไม่เก่งจริง คุณจะให้คนเขามาชี้หน้าด่าพระมหากษัตริย์ ไม่ดีจริง ไม่เก่งจริง อย่างนั้นแล้วไม่มีความผิด อย่างนั้นหรือ คำสุดท้ายที่ใช้ในตัวบทนี้ก็คือ อาฆาตมาดร้าย พจนานุกรมให้ความหมายว่า มุ่งพยาบาท มุ่งจะทำร้ายให้ได้ คุณจะให้คนที่มุ่งพยาบาทจะทำร้ายพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ไม่ต้องมีความผิดอย่างนี้หรือ คำในภาษากฎหมายนี่นะครับมันชัดเจนอยู่แล้ว เขาก็พยายามจะแก้มาตรา 112 ก็มีการคัดค้าน มาตรา 112 คือเป้าลวง ผมมองว่าระบอบทักษิณ หรือคุณทักษิณ ไม่พอใจสถาบันพระมหากษัตริย์ เริ่มแรกตรงที่ว่า คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ตั้งแต่ 19 กันยายน ตอนนั้นใช้ชื่อว่าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เหมือนว่าพระมหากษัตริย์ให้ท้ายในการยึดอำนาจจากเขามา จะเห็นว่าหลังจากนั้นจะมีเว็บไซต์ มนุษยดอทคอมเอย อะไรเอย เข้ามาโจมตีในช่วงนั้น จากต่างประเทศ แล้วต่อมาก็มาในประเทศ สถิติคดีก็เพิ่มขึ้นๆๆ คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เราเรียกนี่นะ จริงๆ ไม่ใช่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพนะ ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ใช้คำนี้ดีกว่านะครับ เมื่อคดีมันเพิ่มขึ้นๆ เขาก็บอกว่า เนี่ย คดีอากงเอย ดา ตอร์ปิโด เห็นมั้ยคดีดูหมิ่นพระมหากษัตริย์มันเพิ่มขึ้นตั้ง 400-500 คดี แล้วนี่เอาคนไปขังเยอะแยะไปแล้ว ต้องแก้ 112 มันไม่ใช่เป็นปัญหาที่กฎหมายนะ มันเป็นปัญหาที่นักการเมืองไปส่งเสริมคนที่ถือข้าง ให้ละเมิดต่อกฎหมาย คดีมันเพิ่ม ก็เพราะคุณไปยั่วยุ อย่างคดีอากง ลำพังอากงมีปัญญาเอารายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ของคุณอภิสิทธิ์ เลขาฯ คุณอภิสิทธิ์ ครม.ทั้งหมดเลย มาจากไหน เขาเอามาจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง พอชุมนุมเสร็จเขาก็แจกเบอร์ แล้วพวกนี้ก็จะโฟนอินเข้าไป ผมเองก็โดนส่งข้อความมาด่าพ่อล่อแม่ ข่มขู่ ไอ้หัวล้านบ้าง ไอ้อ้วนบ้าง มึงระวังระเบิดนะ เดี๋ยวกูจะไปวางระเบิดมึง ผมโดนอยู่เรื่อย แล้วก็เปลี่ยนซิมไป อย่างนี้ ซึ่งผมไปแจ้งความไว้ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ผมก็โดน แต่ที่โดนกับผมถือว่ามันเรื่องเล็กน้อย เราก็เป็นประชาชนธรรมดา แต่การส่งข้อความเช่นนี้ด่าพระมหากษัตริย์ 4 ครั้ง
26 มกราคม 2555 15:07 น. - comment id 1222175
ช่วงที่ 2 จินดารัตน์ - กลับมาอีกช่วงหนึ่งของรายการคนเคาะข่าวค่ะ เรากำลังพูดถึงเรื่องข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ทั้ง 15 ข้อ ในการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ อ.บรรเจิด มีข้อมูลบางอย่างอยากจะเล่าให้ฟังในอดีต ซึ่งไม่น่าจะลืมนะคะ อาจารย์หนึ่งในคณะนิติราษฎร์ ว่าเคยทำอะไรมาแล้วบ้าง บรรเจิด - พอดีพี่เขาพูดถึงว่า อาจารย์กลุ่มนี้เคยทำวิจัย เคยศึกษาอะไรมาหรือเปล่า ผมเรียนข้อมูลว่า ครั้งหนึ่งเราเคยได้วิจัยศึกษาเรื่องพันธกิจของศาลรัฐธรรมนูญ ก็คือไปวิเคราะห์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็มี อ.สุรพล เป็นหัวหน้าทีม มีผม มี อ.วรเจตน์ มี อ.ธีระ ประเด็นหนึ่งที่เราวิเคราะห์กันก็คือคดีซุกหุ้น 20/44 จากการวิเคราะห์คดีนี้ก็ลงในรายละเอียด ซึ่งก็ทำมาด้วยกัน การวิเคราะห์ เพราะว่าคดีนี้ 19/44 วินิจฉัยตอนเช้า 20/44 วินิจฉัยตอนบ่าย แต่ว่าประเด็นเดียวกัน ตอนเช้าไปอย่าง ตอนบ่ายไปอย่าง เพราะฉะนั้นประเด็นที่คุณพิภพพูด ประเด็นหนึ่ง เขาก็เคยทำวิจัย แล้วก็ได้มีการศึกษาเรื่องเหล่านี้ แต่ประเด็นใหญ่ที่ผมคิดว่าเป็นประเด็นสำคัญก็คือ ถ้าจะบอกว่าย้อนหลัง 19 กันยาฯ 49 นั้น ผมคิดว่าเป็นวันที่ลำเอียง ความจริงรัฐธรรมนูญถูกทำลายคือ สิงหาคม 44 คำนูณ - ผมขอแทรกนิดหนึ่ง เรื่องนี้ในรายงาน คอป.ชุดที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ ชุด อ.คณิต ณ นคร ก็กล่าวถึง บอกว่าบ้านเมืองก่อนรัฐประหารมันก็ขาดนิติรัฐ ขาดนิติธรรม แล้วท่านก็ยกตัวอย่างคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญตัวนี้ล่ะ คดีซุกหุ้นภาค 1 ที่มีบางคนไม่ออกเสียง แล้วเอาไปนับเป็นมติ ซึ่งโดยหลักการคุณทักษิณเสร็จตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว ก็เพิ่งรู้ว่า อ.วรเจตน์ ก็ร่วมวิจัยอยู่ด้วย แสดงว่าแกก็ลืมเนาะ บรรเจิด- เพราะฉะนั้นถ้าจะย้อนจริง สุวัตร - พลาดไปโดยสุจริต บรรเจิด - บกพร่องโดยสุจริต เพราะฉะนั้นถ้าจะย้อนจริงมันคือย้อนไป 21 สิงหาคม 44 แล้วการย้อนครั้งนี้หมายความว่าไงครับ หมายความว่าเราจะต้องดำเนินการเอาผิดกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ทำผิดกระบวนการยุติธรรม ความผิดต่อเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องรื้อขึ้นมา แล้วนำไปสู่การดำเนินการ ถ้าจะย้อน เพราะตรงนี้ที่บอกว่าย้อน 21 สิงหาคม 44 เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญนั้นเขาเปรียบเสมือนเป็นมงกุฎที่ครอบอยู่ เมื่อตัวศาลรัฐธรรมนูญถูกทำลาย การคุ้มครองหลักความเป็นกฎหมายสูงสุดก็พังหมด เพราะฉะนั้นนั่นคือสัญลักษณ์ของการทำลายรัฐธรรมนูญในทางเนื้อหา แล้วหลังจากนั้นก็ถูกทำลายมาเรื่อยๆ และถูกฉีกทิ้งจริงก็ 19 กันยาฯ แต่ว่าปฐมบทคือ 21 สิงหาฯ 44 คำนูณ - คือถ้าพันธมิตรฯ พูด คุณพิภพพูด คนอาจจะหาว่าลำเอียง ไม่เชื่อ แต่จริงๆ คำว่ารัฐธรรมนูญตายแล้ว เป็นชื่อหนังสือของคุณคณิน บุญสุวรรณ นะ เขียนปี 47 คำทักษิโณมิกส์ ปรากฏเป็นครั้งแรกในหนังสือเล่มนี้ แล้วก็ใช้คำว่าทศลักษณ์ทักษิโณมิกส์ การบริหารประเทศชาติโดยเอาอาณาจักรชินเป็นศูนย์กลางรวบรวมอำนาจการเมือง เศรษฐกิจ เขียนดีมากนะครับ เดี๋ยวนี้ขึ้นเวทีเสื้อแดงก็ไม่รู้ลืมหรือยัง หรือว่ารายงานที่ อ.บรรเจิด พูด ก็ปรากฏอยู่ในรายงานของ คอป. อ.คณิต ณ นคร นี่คือมันต้องพูดให้รอบด้าน แล้วพี่สุวัตรเมื่อกี้จะอ่านอะไร เดี๋ยวผมจะโชว์การ์ตูน สุวัตร - ระหว่างที่ท่าน ส.ว.คำนูณ รออยู่นะ เมื่อกี้เราบอกว่าแล้วกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา เราต้องดูโมทีฟ บุพเจตนาจริงๆ นิติราษฎร์เขาต้องการอะไร นี่ผมไปได้เอกสารนี้มา อ่านให้ฟังนะครับ นายฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล นักวิชาการคณะนิติราษฎร์ กล่าวตอบว่า ข้อเสนอของนิติราษฎร์อยู่ตามหลักวิชาการ นี่มีผู้สื่อข่าวเขาถามนะว่ามีความเห็นยังไงเกี่ยวกับคุณทักษิณ เขาบอกว่าข้อเสนอของนิติราษฎร์อยู่ตามหลักวิชาการ เคารพกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นธรรม ซึ่งหลักการทั้งหลายเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งในนิติรัฐ และระบบประชาธิปไตย แต่หากผลดังกล่าวได้หรือเสียผลประโยชน์ ก็เป็นการได้หรือเสียผลประโยชน์บนพื้นฐานของหลักการและความยุติธรรม โดยจุดยืนของนิติราษฎร์ปฏิเสธการรัฐประหารถึงที่สุด เรื่องคำพิพากษาที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ คำพิพากษามีคดีเดียวนะครับ 2 ปีที่หนีไป คือที่ดินรัชดาฯ (ขีดเส้นใต้ตรงนี้นะครับ) เรื่องคำพิพากษาที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และพวก มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการรัฐประหาร จึงจำเป็นต้องเสนอให้ลบล้างคำพิพากษา เห็นไหมครับ ทำทั้งหมดนี้คือลบล้างคำพิพากษา เพื่อให้คุณทักษิณกลับมา 2 ปีที่ตัดสินแล้ว แล้วก็ยึดทรัพย์ แล้วก็ยังมีหมายจับ แล้วเขายังพูดต่อไปว่า เรื่องคุณทักษิณเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก พระเจ้าช่วยกล้วยทอด!! แล้วคุณทักษิณก็เป็นนายกฯ ได้อีก 50-60 ปี ก็เสียชีวิตแล้ว โอย จะอยู่อีก ปีนี้ทักษิณ 63 อยู่อีก 60 ก็ตะบันน้ำกินแล้วมั้ง และหากคุณทักษิณมีปัญหา พวกเราจะจัดการคุณทักษิณเอง นายแน่มาก โดยเราเพียงต้องการให้อุดมการณ์นิติราษฎร์อยู่ไปยาวนาน - นายฐาปนันท์กล่าว คำนูณ - ดูการ์ตูน จินดารัตน์ - ขอดูการ์ตูน บัญชา คามินทร์ สุวัตร - เอ้า เดี๋ยวมันจะเครียดมากเกินไป คำนูณ- มุมมองของบัญชา คามินทร์ นะ เขาเขียนว่า อหังการของลิงเก็บมะพร้าว ก็มีลิงตัวหนึ่งหน้าตาเหมือนใครผมไม่รู้ล่ะ บอกว่า "จัดการมะพร้าวลูกนั้นก่อน ทักษิณน่ะเรื่องเล็ก ถ้ามีปัญหาเดี๋ยวผมจัดการเอง" ไอ้มะพร้าวลูกนั้นคืออะไรครับ คือสถาบัน แล้วไอ้คนที่ถือไม้เรียวตี ดูท่าทางจะเป็นคน คอยไล่ลิงขึ้นไปเก็บมะพร้าว หน้ามันเหลี่ยมๆ แล้วหัวข้อของการ์ตูนเรื่องนี้ บอกว่า อหังการของลิงเก็บมะพร้าว อิจฉาคนเขียนการ์ตูนจัง เขาเขียนรูปเดียว คิดได้ยังไง พวกเราพูดกัน 2-3 ชั่วโมง จินดารัตน์ - แล้ววันนี้จากการประเมินดูเสียงที่พอเขาออกสู่สังคมแบบนี้ อยากให้ทั้งสี่ท่านประเมินเสียงตอบกลับของสังคมวันนี้ มันเป็นยังไง เราอาจจะเข้าใจว่ายังไงไม่ได้ มันก็ไม่เกิดหรอกแบบนี้ คำนูณ - คือผมว่าผมสบายใจ และผมเชื่อว่าในใจของผู้คนส่วนใหญ่เขาไม่เห็นด้วย เขาไม่เห็นด้วยแน่ๆ คือคนรุ่นผมนี่ก็อายุมากแล้วนะ แต่โตขึ้นมาก็เห็นพระราชสถานะ หรือบทบาทของกษัตริย์หลัง 2500 มาแล้ว เราโตมาพร้อมกับ เราเฝ้ารอวันที่ 4 ธันวาฯ นะ วันที่มหาสมาคมเข้าไปถวายพระพร ผมก็มีบุญได้เข้าไปอยู่ในช่วงที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา พอปีหลังๆ พอพระองค์ไม่ได้แล้ว เรารู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง แล้วคนไทยก็โตมากับการฟังกระแสพระราชดำรัสในการต่างๆ อยู่ดีๆ วันดีคืนดีก็มีคนกลุ่มหนึ่งมาบอกว่าต่อไปพระมหากษัตริย์จะมีพระราชดำรัสสดไม่ได้นะ เพราะว่า The King can do no wrong เพราะฉะนั้นจะพูดอะไรต้องมีผู้รับสนองหมด จะมาพูดเองไม่ได้ แล้วก็ยกตัวอย่างพระมหากษัตริย์ในต่างประเทศ ก็อยากจะบอกว่าเรื่องนี้พระองค์ก็ทรงรู้นะ คือในปี 2503 ก็เคยมีกระแสพระราชดำรัสองค์หนึ่งว่าพระองค์ก็แหวกประเพณี แต่ถามว่าสถานการณ์ในประเทศไทย ปี 2503 หรือตั้งแต่ปี 2500 มา มันเป็นยังไง มันหนักหนาสาหัสนะ โดยเฉพาะภัยของลัทธิคอมมิวนิสต์ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แล้วรัฐบาลก็ง่อนแง่น เป็นรัฐบาลเผด็จการ เพราะฉะนั้นถ้าพระมหากษัตริย์ไม่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างนี้นะ ผมว่าสังคมไทยเอาไม่อยู่หรอก ทีนี้อยู่ดีๆ มีคนมาเสนอจะเอาทฤษฎีแบบพระมหากษัตริย์ในประเทศตะวันตกมา แล้วจะเปลี่ยนทันที ผมว่าคนไทยจำนวนมากรับไม่ได้ หรือจะให้พระมหากษัตริย์ เป็นประมุขของรัฐ มาสาบานพระองค์ต่อรัฐสภาว่าจะปกปักษ์รัฐธรรมนูญ คือคุณคิดอะไรอยู่ คนเขารู้น่ะ ผมเชื่อว่าคนไทยรับไม่ได้ แต่อย่างหนึ่งที่ผมกลัวนะ ที่จริงไม่ค่อยอยากจะพูด ผมอยากให้สังคมไทยเจริญทางสติปัญญา คือเราสามารถตอบโต้ หรือโต้ตอบกับนิติราษฎร์ได้อย่างผู้มีปัญญา ได้อย่างสบายใจ และได้อย่างมั่นคงในหลักการทุกประการ เหมือนอย่างที่เราตอบกันอยู่นี่ ผมว่าทุกคนมีความชัดเจน คือผมเป็นห่วงว่าบางครั้งการเสนออะไรที่มันสุดโต่งแบบนี้ เวลาได้รับผลกลับ คนในสังคมมันมีหลากหลายความคิดนะ ถ้าเขาเกิดอารมณ์ขึ้นมา เขาไม่ประสงค์ที่จะพูดคุยแบบนี้ มันไม่ดี มันอันตราย ก็อยากจะวิงวอนสังคมว่าเราตอบโต้กันทางสติปัญญาได้ อย่าให้เกินเลยไปกว่านั้น ผมนึกยังไงรู้ไหม อ.บรรเจิด คือพี่พิภพ แกอยู่ในเหตุการณ์ผมนึกถึงเหตุการณ์ในช่วงหลัง 14 ตุลาคม 2516 จนถึง 6 ตุลาคม 2519 แน่นอนไม่มีใครปรารถนาเห็นเหตุการณ์นองเลือดแบบ 6 ตุลาคม 2519 แต่เราก็ต้องยอมรับว่า หลัง 14 ตุลาคม 2516 ประมาณ 1 ปี ถึง 2 ปี เอาเป็นว่า 1 ปีไป พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยก็ได้เข้ามาจัดตั้งขบวนการนิสิต นักศึกษา ในขณะนั้น เกือบจะเบ็ดเสร็จ เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผมเป็นคนที่นอกคอก ผมจะรู้ประวัติศาสตร์นี้ดี แล้วพรรคคอมมิวนิสต์ฯ ในยุคนั้น ก็เป็นพรรคคอมมิวนิสต์ฯ ที่เดินตามคอมมิวนิสต์จีน ยุคแก๊ง 4 คน ยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ยุคเรดการ์ด เพราะฉะนั้นทิศทางการดำเนินการอะไรต่างๆ ในขณะนั้นมันสุดโต่งไปหมด แล้วขบวนการนักศึกษาในยุคหนึ่ง เวลารับสิ่งต่างๆ มาเคลื่อนไหว เผาวรรณคดีอย่างนี้ อะไรต่อมิอะไร ทีนี้เมื่อมีปฏิกิริยา เมื่อมีการกระทำอย่างหนึ่งที่มันสุดโต่งไป แรงต้านจากสังคมที่มันสุดโต่งกลับมาเช่นกัน มันก็มี ผมเองไม่อยากเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ผมไม่อยากเห็นเหตุการณ์เกิดขึ้น คือคนที่อยู่ในขบวนการนักศึกษาในช่วงนั้น ผมเชื่อว่าจำนวนหนึ่งมีความคิด มีความเชื่อมั่นในอุดมการณ์โดยบริสุทธิ์ และขอโทษ บางครั้งก็โดยความไร้เดียงสา แต่ว่าในอีกทางหนึ่งคุณก็เข้าไปสู่การจัดตั้ง สู่สายจัดตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์ฯ อันนี้เป็นความจริงที่เป็นความเจ็บปวดที่เราต้องเอามาพูดกัน เพราะว่าเมื่อผมพูดแบบนี้ ผมเองผมก็ไม่เห็นด้วยกับทิศทางของขบวนนักศึกษาในขณะนั้น เพราะเขาก็ปักใจเชื่อว่ายังไงรัฐประหารแน่ และรัฐประหารจะเป็นผลดีต่อขบวนของเรา ผู้คนจะเข้าป่า ถ้ามีการปราบปรามก็ตายสิบเกิดแสน เพราะฉะนั้นทิศทางการเคลื่อนไหวมันจึงเป็นทิศทางที่ออกจะในลักษณะท้าทาย อะไรทำนองนั้น นี่เราอยู่ในคนร่วมสมัยเราจะเห็นเหตุการณ์ขณะนั้น ขณะนี้ พูดแล้วขนลุก มันมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกับ ผมถึงตั้งคำถามไงว่านิติราษฎร์ตกลงบริสุทธิ์ไร้เดียงสา จริงหรือเปล่า มันก็มีความเป็นไปได้นะ แต่ว่าสิ่งที่จะมีผลสะท้อนกลับ มันมี ไม่ได้มีคนคิดแบบพี่พิภพทุกคน ไม่ได้มีคนคิดแบบพี่สุวัตร ที่สู้ในทางกฎหมาย ไม่ได้มีคนคิดอย่าง อ.บรรเจิด ที่ตั้งหลักสู้ทางวิชาการ ไม่ได้มีคนที่คิดแบบผม คือเวลาจะพูดอะไร พยายามที่จะกลั่นกรองคำพูด พยายามที่จะเอาเหตุเอาผลในทางวิชาการหรือในทางหลักการที่เราจะพูดได้ มาพูดกัน คนที่เขารักพระเจ้าอยู่หัว คนที่เขาคิดว่ามีคนบางคนคิดจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไปไกลเกินไป เขาก็อาจจะมีปฏิบัติการหรือการกระทำบางอย่าง ซึ่งเราเห็นว่ามันไม่ถูก และมันไม่มีใครที่สามารถจะควบคุมได้ แล้วทุกคนก็เดินถนนกันหมด ผมว่านี่เป็นสิ่งที่อันตราย ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดสิ่งเหล่านั้นขึ้น แต่บรรยากาศบ้านเมืองมันคล้ายๆ กับช่วงสัก 1 ปีก่อน 6 ตุลาคม 2519 อันนี้เป็นสิ่งที่เป็นอันตราย เพราะฉะนั้นผมว่าก็เป็นภาระหนักของ อ.บรรเจิด และคณะ ผมอยากจะคิดนะ ไม่เคยคุยกับอาจารย์ข้างนอก แต่ติดตามอาจารย์ และท่าน อ.อมร จันทรสมบูรณ์ มาโดยตลอด ผมก็ศิษย์คนหนึ่งนะครับ ผมคิดว่าในสถานการณ์ที่ เราไม่ได้เห็นว่ารัฐธรรมนูญแก้ไม่ได้นะ มันแก้ได้ แต่แก้เพื่อนำไปสู่อะไร ภายใต้กรอบอะไร แก้เพื่อยกอำนาจเบ็ดเสร็จให้กับนักการเมือง พรรคการเมือง กลายเป็นจากระบบเผด็จการของนายทุนเจ้าของพรรคการเมือง กลายเป็นระบบเผด็จการเบ็ดเสร็จของนายทุนเจ้าของพรรคการเมืองอย่างที่ อ.บรรเจิด ว่า หรือว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูปประเทศ ผมว่าอาจารย์ต้องระดมสมอง แล้วก็ต้องเสนอโมเดล ว่าถ้าเราจะแก้รัฐธรรมนูญกัน ทำไมเราไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูปประเทศ เราผนวกเอางานของสมัชชาปฏิรูปของ อ.ประเวศ คณะกรรมการปฏิรูปฯ ของคุณอานันท์ หรือว่าตัวแบบร่างรัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูปประเทศที่อาจารย์เคยเผยแพร่ ผมว่ามี 2-3 ร่าง ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา คือเราก็ต้องสู้กันแบบนั้นว่า ในหนทางที่ทางปัญญามันมีอยู่ มันอาจจะพอที่จะช่วยอะไรได้ จินดารัตน์ - แต่ว่าเป้าหมายต่างกันอย่างสิ้นเชิงเหรอคะ คำนูณ- ก็อย่างน้อยก็มีตัวแบบไง ว่าเราพูดทั้งสองด้าน ในขณะที่ทางนิติราษฎร์พูดถึงด้านเดียว แต่ตัวแบบที่อาจารย์จะนำเสนอมา มันต้องเป็นการพูดถึงทั้งสองด้าน อันนี้ผมคิดว่าสำคัญที่สุด พิภพ- ต่อคุณคำนูณนิดหนึ่ง ก็ต้องขอบคุณที่ออกมาเตือนสังคมไทย ผมกับคุณคำนูณก็อยู่ในเหตุการณ์ พูดง่ายๆ เราก็เป็นสื่อ ตอนนั้น ทำหนังสือกัน ก็ต้องยอมรับว่าสมัยนั้นบางทีเราก็พูดด้านเดียว รวมทั้งตัวผมเอง เป็นสื่อที่พูดด้านเดียว การพูดด้านเดียวก็เกิดอันตราย คือทำให้เกิดความขัดแย้งสูง แล้วสื่อของกองทัพตอนนั้นก็มีวิทยุ 200 กว่าสถานี ก็พูดด้านเดียว ยานเกราะก็พูดด้านเดียว และถ้าวันนี้ อ.วรเจตน์ พูดด้านเดียว แล้วสื่อของเสื้อแดงก็ไปเสนอพูดด้านเดียว ก็อันตราย ก็ทำให้กลุ่มคนซึ่งไม่รู้ประวัติศาสตร์หรือไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้ และสอง คนซึ่งไม่เห็นด้วยกับกลุ่มของ อ.วรเจตน์ ก็อาจจะใช้ความรุนแรงได้ มีโอกาส เราก็ไม่อยากให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ทีนี้ทางออก พูดตาม อ.บรรเจิด เลย เพราะผมพูดกับนายทหารที่อยู่ในกลุ่มของ อ.บรรเจิด ว่าเหตุการณ์ตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 ถึง 6 ตุลาคม 2519 เราต่างฝ่ายต่างก็พูดด้านเดียว แล้วสุดท้ายก็นำไปสู่ความรุนแรง เพราะฉะนั้นวันนี้วิธีคาน นี่พูดประโยชน์สาธารณะ ทั้งในเฟสบุ๊คด้วย ต้องพูดสองด้าน สอง เอ่ย อ.บรรเจิด ขึ้นมา ในกลุ่มอ.บรรเจิด ก็มีนายทหาร ผมก็บอกพวกนายทหารว่า แม่ทัพบกออกพูดแสดงจุดยืนน่ะดี แต่ไม่พอ ทำไมจึงไม่นำเครื่องมือของกองทัพ ไม่ว่าทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ มีทั้งวิทยุ มีทั้งโทรทัศน์ ให้เขาไปอยู่ในกลุ่มทุนได้ยังไง เพราะฉะนั้นก็ทำแบบที่ ส.ว.คำนูณ เสนอสิ เรามาพูดกันทางปัญญา พูดทั้งสองด้าน เพราะฉะนั้นถ้ากลุ่มสยามสามัคคีใช่ไหมครับ บรรเจิด- คนละกลุ่ม สุวัตร - สยามสามัคคีของ พล.อ.สมเจตน์ พิภพ - ขอโทษที ผมก็พูดกับท่าน ท่านต้องพูดกับกองทัพ ว่ายุคนี้ต้องให้ความรู้ เอาสถานีโทรทัศน์ เอาสถานีวิทยุ ไม่ใช่ปล่อยให้ ASTV จัดเวทีเองอย่างนี้อย่างเดียว ผมถึงต้องขอบคุณ ส.ว.คำนูณ ว่าพูดอันนี้มีประโยชน์มาก เพราะว่าถึงแม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับ อ.วรเจตน์ ผมก็ไม่อยากให้กลุ่มนี้ ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มนิติราษฎร์ แต่ผมก็ไม่อยากให้กลุ่มนิติราษฎร์จะต้องประสบแบบกรณี 6 ตุลาฯ หรือขณะเดียวกัน เราก็ไม่อยากให้เกิดเหตุเหมือนช่วงพฤษภาฯ ขณะเดียวกันเราก็ไม่อยากให้เกิดเหมือนที่พันธมิตรฯ ถูกกระทำ ฉะนั้นให้ถกเถียงกันทางปัญญา แล้วถกเถียงทางปัญญานี่ต้องเพิ่มสื่อแล้ว เพื่อสื่อขึ้นมา ฉะนั้นการที่แม่ทัพบกออกมาแสดงจุดยืน ท่านต้องใช้สื่อ แล้วเปิดโอกาสให้มีการถกเถียงกัน จินดารัตน์ - สงสัยจะลำบากนะคะ เพราะว่าท่าน ผบ.ทบ.วันนี้นักข่าวไปถาม ท่านก็แว้ดใส่นักข่าว บอกว่าอย่าเอาทุกเรื่องมาให้ทหารยุ่งทุกเรื่อง ให้ไปถามตำรวจ พิภพ- ผมไม่ได้ให้ยุ่งแบบที่นักข่าวถาม ผมว่าทหารใช้สื่อที่ตัวเองอ้างตอนตั้ง อ้างว่าเพื่อความมั่นคง เพื่อชาติ เพื่อประชาชน และพระมหากษัตริย์ วันนี้ต้องใช้สื่อเพื่อการนั้น อย่าไปใช้สื่อเพื่อกลุ่มทุน พอเราวิจารณ์ทักษิณ แล้วเราบอกประชาธิปไตยว่าเป็นทุนนิยม ทหารก็ต้องออกมาจากกลุ่มทุน จินดารัตน์ - เคยมีคนย้อนถามท่านนะคะ แต่ไม่รู้ว่าท่านได้ยินหรือเปล่า ว่า แล้วทหารหน้าที่ชัดเจนว่าตกลงต้องปกป้องราชบัลลังก์มิใช่หรือ เดินสวนสนาม กล่าวคำปฏิญาณทุกปี ถ้าอย่างนี้ให้ตำรวจทำไม่ดีกว่าหรือถ้าท่านให้หน้าที่เป็นหน้าที่ตำรวจ พิภพ - หน้าที่ของตำรวจเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย จะเอายังไงแน่ครับ แล้วสอง ท่านมีสื่อ ทำไมไม่ใช้สื่อส่งเสริมสติปัญญา คำนูณ - ก็เอาไปขายหมดแล้ว จินดารัตน์- ขายสัมปทานไปหมดแล้ว คำนูณ - ขายเวลาไปหมดแล้ว สุวัตร - ดูเหมือนท่านจะพูดว่ามีผู้สื่อข่าวไปถามว่าจะดำเนินคดีกับพวกนี้มั้ย จินดารัตน์ - จะแสดงบทบาทอะไรบ้างมั้ย สุวัตร - เขาก็เลยบอกเป็นหน้าที่ตำรวจ เฉพาะคดี เรื่องนี้จริงๆ แล้ว ถ้าเราดูตั้งแต่เดือนธันวาคม ที่พวกเสื้อแดงบอกทหารฆ่าประชาชน กำลังจะไต่สวน แล้วก็ส่งให้อัยการแล้ว แล้วเลื่อนมาครั้งที่แล้ววันที่ 16 มกราคม ก็ได้เวลาอีกเดือนหนึ่ง 16 กุมภาพันธ์ จะไต่สวนว่าทหารฆ่าประชาชน แล้วอัยการเป็นคนยื่นต่อศาลไต่สวน ในขณะที่มีอีกคดีหนึ่ง ก็เป็นคดีที่พวกเสื้อแดงฟ้องเรียกค่าเสียหาย หาว่ากระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม กองทัพบก ฆ่าพวกเขาในการชุมนุม เป็นการละเมิด เรียกค่าเสียหาย ศพแต่ละศพเรียกมา 2,016,000 บาท ในคดีนี้บรรยายว่าทหารเป็นคนฆ่าพวกเขา อัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สู้ว่าไม่ได้ฆ่า แต่พวกเสื้อดำฆ่า ทีนี้สองคดีนี้สำนักงานอัยการสูงสุดจะวางตัวยังไง คดีไต่สวนชันสูตรตามวิธีพิจารณาความอาญา ตามมาตรา 150 ต้องไต่สวนว่าทหารฆ่า แต่สำนักงานอัยการสูงสุดสู้ในคดีแพ่ง ว่าทหารไม่ได้ฆ่า ชุดดำฆ่า ตรงนี้อัยการก็ส่งไปถึงคุณจุลสิงห์ ตั้งเป็นคณะทำงาน ให้อัยการสูงสุดเป็นคนชี้ขาด นี่คือจุดที่ว่า ถ้าสมมุติไต่สวนชันสูตรพลิกศพว่าทหารฆ่าประชาชน ก็ต้องหาว่าใครฆ่า ใครเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ใครเป็นแม่ทัพ ใครเป็นเสนาธิการตอนนั้น ต้องรับผิดชอบ ตรงนี้เราก็เห็นว่า อ.วรเจตน์ ไม่พูดเลย ต้องปรับปรุงสำนักงานอัยการสูงสุด เห็นไหมครับ เพราะอยู่ในมือเขาแล้วไง อัยการสูงสุดเป็นคนไม่ฎีกาคดีคุณหญิงอ้อ กับบรรณพจน์ ไง เพราะฉะนั้นนี่คือเป้าลวง จุดตรงนี้นะ ถ้าหากว่ามันมีอะไรเกิดขึ้น ผมเชื่อว่าขณะนี้ทหารกำลังอึดอัดใจอย่างที่สุด ทีนี้พอมีใครไปถามอะไรเขาคงอาจจะมีอารมณ์หน่อย ก็ให้อภัยเขาไปก่อน คือต้องเข้าใจความอึดอัดใจของเขา จินดารัตน์ - เรื่องความแตกแยกของผู้คนในสังคม เขาบอกมันเป็นการยั่วยุ ยั่วยุที่ค่อนข้างจะได้ผล ทหารหนึ่งล่ะ ประชาชนอีกหนึ่ง พี่สุวัตร กับ อ.บรรเจิด คิดยังไง มันสามารถสร้างให้เกิดแรงกดดันขนาดนั้นได้เลยเหรอ สุวัตร - ได้สิครับ คือเรื่องการยั่วยุมันก็เป็นเหตุให้เกิดการตีกันอยู่แล้ว อย่างเหตุการณ์ คุณแอนเห็นไหมว่าขณะนี้รัฐบาลย่ามใจ เขากระทืบหัวใจประชาชนมาเรื่อยๆ ตั้งแต่น้ำท่วมมา ไม่อะไร จะออก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ พอพันธมิตรฯ ค้าน จะไปชุมนุมเขาก็ถอน เขาจะออกนิรโทษกรรม พันธมิตรฯ ก็ค้าน จะแก้รัฐธรรมนูญ จะแก้มาตรา 112 ประชาชนก็ร่วมกันค้าน ก็เลยจะแก้รัฐธรรมนูญ ในขณะที่รัฐบาลขึ้นราคาน้ำมัน ขึ้นราคาก๊าซ NGV-LPG จากเมื่อก่อนเขาบอกเขาจะกระชากราคาน้ำมัน กระชากราคา LPG ให้ลง ลดเก็บเงินกองทุนน้ำมัน กระชากลงมาตั้งกี่วัน บัดนี้มันเลยไปจากตอนรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์แล้ว ล่าสุดก็ไปจุดชนวนอันหนึ่ง ที่ผมยกคดีนี้ไง ชี้ให้เห็นว่าเขาฟ้องมาแค่ 2 ล้านกว่า รัฐบาลนี้เอามติ ครม.ให้ 7,750,000 บาทต่อคน พวกเสื้อแดงเขาก็มั่นใจว่าถ้าเขาเป่านกหวีดอีก ใครตาย 10 ล้าน เขาจะมีกำลังคนของเสื้อแดงมากกว่าพวกพันธมิตรฯ กลุ่มหลากสี หรือกลุ่มอะไรทั้งหมดเลย สามารถชนกันได้เลย นี่ล่ะมันจะเกิดการนองเลือด เพราะว่าคุณถือท้าย นายเจ๋ง ดอกจิก ใครก็ตามได้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีกันหมด ชินวัฒน์ หาบุญพาด ขับแท็กซี่ก็เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี คุณณัฐวุฒิ เป๋าเลยๆๆ ถ้าเกิดอะไรผมรับผิดชอบเอง ก็เป็นรัฐมนตรีแล้ว จากไพร่มาเป็นอำมาตย์แล้ว ทีนี้ไอ้คนที่นั่งดู คนที่อยากมองเห็นความเป็นธรรม มันก็จะทนไม่ได้ คุรไปปูนบำเหน็จทางโน้น ในขณะที่พันธมิตรฯ คุณพิภพ ดูแลผู้บาดเจ็บ-ตายอยู่ ผมฟ้องให้ที่ศาลปกครอง เกือบ 300 คน อัยการลากคดี ลากจนบัดนี้ แต่กำลังจะตัดสินแล้ว และไม่เห็นออกมาพูดเลยว่าตายได้ 7,750,000 บาท แล้วเขาพูดอีกนะ คณะกรรมการเขาบอกว่าไม่ได้ พันธมิตรฯ น่ะ เพราะว่าพันธมิตรฯ รับไปแล้วบางส่วน 50 ล้าน ทั้งๆ ที่พ่อแม่น้องโบว์เขาไม่รับเลยนะ เขาไม่ต้องการเอาเงินภาษีอากรไง เขาถึงได้ฟ้อง เมื่อมันเกิดความไม่เป็นธรรมในสังคมอย่างนี้ มันเป็นเชื้ออยู่แล้ว พอต่อมานิติราษฎร์เสนอ ผมขออนุญาตพูดประเด็นตรงนี้เลยว่า สิ่งที่เขาออกมายั่วยุอย่างนี้ ทั้งหมด 15 ข้อของเขา ผมจะไม่พูดทั้งหมด เพราะผมดูแล้วผมเห็นด้วยกับ อ.คมสันต์ ที่มาออกรายการเมื่อวานนี้ หลายอย่างมันเป็นของเก่า ไม่ใช่ของใหม่หรอก แต่วัตถุประสงค์ของการแก้รัฐธรรมนูญนี้ก็เพื่อให้คุณทักษิณกลับมาโดยไม่มีความผิด แล้วก็ที่ยึดทรัพย์ไว้ 46,000 ล้าน ต้องคืน 46,000 ล้านได้คืน แล้วเลือกตั้งครั้งหนึ่ง 25,000 ล้าน ซื้อประเทศไทยได้ 46,000 ล้านทำไมจะซื้อไม่ได้ แล้วคุณทักษิณโกงไปเท่าไร เพราะฉะนั้นสิ่งที่มันจุดหัวใจประชาชนในข้อ 4 เขาบอกว่า หน้าที่ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญของกษัตริย์ โยนหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญเป็นของกษัตริย์ แต่ความเดิมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ พิทักษ์ ปกป้อง การปกครองรัฐธรรมนูญ เป็นหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ผลักไปให้กษัตริย์ กำหนดให้ประมุขของรัฐต้องสาบานตนว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และพิทักษ์ไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ก็คือให้กษัตริย์นั้นต้องสาบานตน นี่ก็อัปลักษณ์แล้วนะครับ สาบานตนต่อไอ้พวกเสือสิงห์กระทิงแรดในสภา วัฒนธรรมของเรา พระมหากษัตริย์เป็นสมมติเทพ สร้างบ้าน กอบกู้บ้านเมืองมา เป็นมาตั้งแต่อดีตกาลมา สิ่งที่เขาเสนอมาผมจะขออนุญาตพูดตอนนี้เลยว่า ที่กระทืบหัวใจประชาชนมาเรื่อยๆ คือเขาบอกว่า ผู้พิพากษาศาลสูง และตุลาการศาลสูง ต้องได้รับการเสนอชื่อโดยคณะรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีที่มีนายณัฐวุฒิ เป๋าเลยเนี่ยนะ เป็นคนเสนอให้แต่งตั้งศาลสูงเหรอ หรือตุลาการศาลสูง นี่รวมไปถึงศาลปกครองนะ คำว่าศาลสูงน่ะ คุณจะตีความแค่ไหน ศาลฎีกาอย่างเดียวเหรอ คำนูณ - คือเขาเอาแต่ได้น่ะ คือถ้าจะเอาแบบพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของรัฐ ก็ทำไมไม่ให้ผู้พิพากษาศาลสูง พระมหากษัตริย์แต่งตั้งล่ะ ทีอย่างนี้ทำไมให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งล่ะ คือด้านไหนได้ประโยชน์นักการเมือง กูเอา ด้านไหนที่ประมุขในต่างประเทศเขามีอำนาจของเขาอยู่ นิติราษฎร์ไม่เอา ประมุขของหลายประเทศนะครับ ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดี หรือพระมหากษัตริย์ สถานภาพของประมุข เขาก็จะให้สิทธิพิเศษประมุขนะ ประธานาธิบดีอเมริกาก็แต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงนะ ประธานาธิบดีอินเดียนะ ที่นั่งในวุฒิสภาซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเลือกตั้งตามแคว้นต่างๆ มีระบบของเขา ส่วนหนึ่งก็สงวนไว้ให้ประธานาธิบดีเป็นผู้แต่งตั้ง พระมหากษัตริย์ภูฏาน วุฒิสภาส่วนหนึ่งจะ 5 หรือ 10 คน ทรงแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย คือคุณพูดแต่ด้านที่จำกัด คุณไม่พูดถึงด้านที่ประเทศต่างๆ ที่คุณไปเอาเขามาในโลก ที่เขาให้อำนาจประมุข คุณไม่พูด อย่างเรื่องผู้พิพากษาศาลสูง ผมก็เพิ่งนึกได้ตอนนี้ว่าคุณพูดด้านเดียว สุวัตร - ส.ว.คำนูณ ดูต่อไปนะครับ เสนอชื่อโดยคณะรัฐมนตรี และได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ท่านผู้พิพากษานะ ต้องเสนอโดยคณะรัฐมนตรีนะ เขามองดูแล้วนี่สัดส่วนขนาดนี้ คณะรัฐมนตรีก็คือเพื่อไทย ถูกไหม รัฐสภาก็เพื่อไทย ถูกมั้ย เสียงข้างมากที่สุด แล้วผู้พิพากษานะมาจากไอ้เวรพวกนี้นะ ฉิบหายเลย คำนูณ - ตัดสินคดีตามมติพรรค สุวัตร - ไม่งั้นปลดออก ประการต่อไป กำหนดให้มีผู้พิพากษาสมทบที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน หรือองค์กรที่มีความชอบธรรมในทางประชาธิปไตยในศาลระดับล่าง คำนูณ- ประชาชนก็มาจากหมู่บ้านเสื้อแดง สุวัตรร - โอ้โห ผู้พิพากษามาจากการเลือกตั้ง เกิดเลือกตั้งไอ้คนขายหวยเถื่อนมาเป็นผู้พิพากษาศาลชั้นต้นล่ะ มึงเขียนคำพิพากษาเป็นมั้ย หลักการวิเคราะห์ กฎหมายลักษณะพยาน มึงรู้มั้ย จะชั่งน้ำหนักพยานโจทก์ พยานจำเลย อย่างไร ไอ้นี่มันโกหก มันสร้างเหตุการณ์เท็จมาใส่ความคนอื่นเขา มึงมีปัญญามั้ย มันไม่ได้ เพราะผู้พิพากษามันเป็นวิชาชีพพิเศษ มันต้องกลั่นกรองมานะ ใครซื่อสัตย์สุจริต ต้องบ่มมา ไม่งั้นต้องมีศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกามาทำไม ถ้าผู้พิพากษาต้องเลือกตั้งนะ ผมจะเสนอเลยว่า กูก็จะเลือกตั้งพ่อมึงให้กับแม่มึงด้วย ลักษณะเหตุการณ์บางเหตุการณ์ ลักษณะเลือกผัวให้เมีย มันเป็นเหตุการณ์เฉพาะ ไม่ใช่การเลือกตั้งแล้วมันแก้ปัญหาได้หมดทุกอย่าง ไอ้พวกนี้ไม่มองบริบทของสังคม อีกประเด็นหนึ่ง เขาก้าวล่วงไปถึงทหารนะ กำหนดให้มีผู้ตรวจการกองทัพ ซึ่งแต่งตั้งโดยสภาผู้แทนราษฎร รับรองสิทธิหน้าที่ของทหารในการปฏิเสธ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา นี่เขามองเหตุการณ์เดียวนะ เขาบอกที่ทหารยิงเขา คุณมีสิทธิ์จะปฏิเสธ ไม่ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาได้ แล้วถ้าเกิดรบกับเขมร ทหารคนนั้นมันกลัว นายสั่งขัดรัฐธรรมนูญ ต้องไปรอฟ้องก่อน คำนูณ- เพื่อนบ้านซึ่งเป็นชาติพันธุ์เดียวกัน เพราะฉะนั้นเราไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง สุวัตร - โลกไร้พรมแดนแล้ว คำนูณ - โลกไร้พรมแดนแล้ว สุวัตร- เรานับถือศาสนาเดียวกัน จะไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญก่อน แล้วมันไม่ออกไปรบ ทหารเดินหน้าได้มั้ย ในสงครามเขายิงกบาลทิ้งนะ เพราะฉะนั้นไอ้พวกนี้เพ้อฝันทั้งนั้นเลย จินดารัตน์ - มีการแต่งตั้งโยกย้ายด้วยนะคะ สุวัตร - แต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งสูงในกองทัพเป็นอำนาจคณะรัฐมนตรี เห็นมั้ย พ.ร.บ.กลาโหม มันอยู่ในสมองของนิติราษฎร์อยู่ตลอดเวลา มันคิดแบบเดียวกับทักษิณ มันคิดแบบเดียวกับรัฐบาล อีกประการหนึ่งบอกว่า กำหนดให้มีบทบัญญัติในหมวดว่าด้วยการลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยมีเนื้อหาสาระตามข้อเสนอคณะนิติราษฎร์เรื่องลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 อันนี้เพื่ออะไร เพื่อทักษิณไม่ต้องรับโทษติดคุก เพื่อคืนเงิน กลับมาอย่างบริสุทธิ์เลย กำหนดให้การแย่งชิงอำนาจสูงสุดของประชาชนเป็นความผิดอาญา จริงๆ แย่งชิงอำนาจมันก็เป็นความผิดอาญาอยู่แล้ว ภายหลังการรื้อฟื้นอำนาจที่ชอบกลับมาแล้ว ก็ให้ดำเนินคดีต่อบุคคลที่แย่งอำนาจสูงสุด หมายความว่า เมื่อเขาปฏิวัติแล้ว ออกคณะปฏิวัติ ต่อมา กลับมา เขานิรโทษกรรมไปแล้วนะ บอกว่านิรโทษกรรมไม่ได้ ถามว่ามึงไปฝันมั้ย เขาเอารถถังออกมา เขายึดอำนาจมาแล้วเขาประกาศฉีกรัฐธรรมนูญฉบับที่มึงร่างแล้ว ออกรัฐธรรมนูญใหม่แล้ว ศาลเขาจะตัดสินว่าประกาศคณะปฏิวัติเป็นกฎหมาย แล้วพอบอกว่าต่อมาจะต้องลบล้าง คือเขียนกฎหมายห้ามไม่ให้คนอุจจาระ กฎหมายมันมีสภาพบังคับได้มั้ย นี่ถ้าเด็ก ป.4 เขียน ผมไม่ว่าเลย นี่จบกฎหมาย จบด็อกเตอร์ มันแสดงความไร้... มันไม่มีความรู้เชิงวิชาการ ที่ท่าน อ.บรรเจิด พูด พอผมมาเห็นอย่างนี้แล้ว ผมว่าแกล้งโง่ ตั้งใจจะรับใช้อย่างเดียวเลย จินดารัตน์ - ฉ้อฉลสุดๆ สุวัตร - สุดๆ รอบนี้เอาแค่นี้ก่อน จินดารัตน์ - อ.บรรเจิด เชิญค่ะ บรรเจิด - คือในสังคมบางสังคมมันจะมีเรื่องที่สังคมอ่อนไหวไม่เหมือนกัน ประเด็นที่สังคมไทยอ่อนไหวเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นประเด็นหนึ่งที่สังคมอ่อนไหว เพราะฉะนั้นการพูดประเด็นนี้ไม่ถูกกาล แน่นอนมันอาจจะนำไปสู่ความแตกแยกได้ โดยเฉพาะการพูดในประเด็นเหล่านี้โดยมีความมุ่งหมายทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง อันนี้ผมว่าเป็นประเด็นอ่อนไหวมากนะในทางสังคม ทีนี้ผมอยากจะพูดในประเด็นข้อเสนอของนิติราษฎร์ ผมก็ไม่รู้จะสรุปว่าเขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าเพราะอะไร ผมยกตัวอย่างให้เห็นสักเรื่องเพื่อเป็นประเด็นชัดๆ ความชอบธรรมทางประชาธิปไตยขององค์กรตุลาการที่พี่สุวัตร พูด จริงๆ แล้วมันมีหลักที่มันมีคุณค่าเหนือกว่าที่ต้องรักษาไว้ยิ่งกว่าความชอบธรรมทางประชาธิปไตย ในกรณีองค์กรตุลาการ คือหลักความเป็นอิสระของตุลาการ ซึ่งหลักนี้มันมีคุณค่าเหนือกว่าจนเทียบไม่ได้กับความชอบธรรมทางวิชาการขององค์กรตุลาการ ผมยกตัวอย่างหลักนี้ของประเทศเยอรมัน เขาก็ทำนะ แต่เขาทำโดยเวลาผู้พิพากษาจะได้รับการสอบ เวลาแต่งตั้งเขาเอาตัวแทนของสภามานั่งเป็นกรรมการแล้วก็ถือว่ามีความเชื่อมโยงในความชอบธรรมในทางประชาธิปไตยแล้ว แต่ไม่ได้ผ่านกระบวนการตรงนี้ ผมคิดว่าตรงนี้เองเป็นการเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงที่ได้รับรู้มา เพราะปัญหานี้ไม่ใช่หรือที่รัฐธรรมนูญ 40 ถูกหักดิบไป เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่หรือ ผมเรียนตรงนี้นิดเดียว นี่คือจุดแตกต่างมากเลยครับว่าการที่เราเอาหลักการมาแต่
26 มกราคม 2555 17:32 น. - comment id 1222226
สวัสดีค่ะคุณพิพัฒนชัย ขอแนะนำวิธีแก้ไขเนื้อหาให้นะค่ะ การแก้เนื้อหาที่เขียนลง สามารถแก้ได้ โดยเข้าล็อกอินเสร็จเรียบร้อย เมื่อเข้าหน้าส่วนตัว หลังบทกลอน จะมีเครื่องหมาย สีเหลี่ยมอยู่สองอัน อันแรกคือ การแก้เนื้อหา ส่วนอันหลังคือการลบคอมเม้นท์ที่ไม่ต้องการ ถ้าสงสัย หรือไม่เข้าใจ สอบถามเพิ่มได้นะค่ะ
26 มกราคม 2555 19:29 น. - comment id 1222260
พอเห็นชื่อพิภพ ธงไชย ก็ไม่ต้องดูเรื่องอื่นแล้ว อิอิ ยิ่งมี สว. ลากตั้ง จบกัน
26 มกราคม 2555 20:13 น. - comment id 1222265
ผู้หญิงไร้เงาน่ารัก แนะนำสมาชิกใหม่แก้ไขกลอน :) ส่งคำขอไปแล้วน่ะค่ะ เจ้าจุก :)
26 มกราคม 2555 22:58 น. - comment id 1222303
ไม่ต้องแก้หรอกครับ รากฐานคำว่าเนาว์ มีหลายแบบนะครับ เนา - เนาว์ มีความหมายเดียวกัน เพียงแต่คำว่าเนานั้นเป็นภาษาเขมร และคำว่า เนาว์ นั้นน่าจะมาจากสันสกฤต ตัวอย่างเช่น "พระอภิเนาว์นิเวศน์" �ซึ่งเป็นพระราชมณเฑียร � ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ� ให้สร้างขึ้นภายในพระบรมมหาราชวัง และยังมีจารึกอีกคือ หมู่พระอภิเนาว์นิเวศน์� ซึ่งคล้ายคลึงกันแต่ราชมณเฑียรแห่งนี้จะสร้างด้วยเครื่องไม้ประกอบอิฐ ปูนเป็นหลัก� เมื่อเวลผ่านไปจึงผุกร่อนจนต้องรื้อลงเกือบทั้งหมดและปรับพื้นที่เป็นสวนดังเช่นปัจจุบัน � ที่ไม่มาเถียงเนี่ย ขี้เกียจครับ� อย่าเพิ่งทนงตน วางมาดอาดๆ มันทุเรศ
27 มกราคม 2555 16:07 น. - comment id 1222479
มรึงมันโง่ไม่หายงัย
27 มกราคม 2555 20:37 น. - comment id 1222511
มี สาวก สีแดง เผาบ้านเผาเมือง ได้ใส่หัวโขนด้วย 555555 คุณพิพัฒนชัย ว่าเปล่าอ่ะ กู้จม ท่วมหัว ตายไปเกิดใหม่ก็ใช้หนี้ไม่หมด 55555 สาวก สีแดง ใครได้ตำแหน่ง อะไรบ้าง เลียขาของใครแจ้งหน่อย
28 มกราคม 2555 08:32 น. - comment id 1222557
ความคิดเห็นที่ 42 ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ...... ไอ้พวกชั่วๆอย่าง....... ไอ้พวกควายเหลือง พันธมารชั่วปากคาบโกเต็กซ์สนับสนุนพวกชาติชั่ว ไอ้พวกพันธมารชั่วทำลายชาติปากคาบโกเต็กซ์มันชาติชั่ว ไอ้ ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ชาติชั่วโกงกินชาติ ไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนนั่นมันรับใช้อำมาตย์ ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ ไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ขันทีอัปรีย์ชั่ว ปล้นชาติ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน.. เนาว์ น่าจะเป็นสันสดฤต นะ เหมือน อภิเนาว์นิเวศน์ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ภาษาของพวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เปื้อนประจำเดือนนะครับพี่น้องงงงงงงงงงงงงงง คัลลอง ก็บาลี ครรลอง เชื่อได้ว่าเป็นสันสกฤต สังเกตุ เชื่อได้ว่าเป็น ภาษาอีก้อ ไม่อยากมาเถียง มันทุเรศนะ พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์ทำลายชาตินี่เองนะพี่น้องงงงงงงงงงงงงงงง คนเลวๆพวกนี้ไปสู่อบายแน่ๆๆ
28 มกราคม 2555 19:13 น. - comment id 1222589
ไอ้พวกชั่วๆอย่าง....... ไอ้พวกควายเหลือง พันธมารชั่วปากคาบโกเต็กซ์สนับสนุนพวกชาติชั่ว ไอ้พวกพันธมารชั่วทำลายชาติปากคาบโกเต็กซ์มันชาติชั่ว ไอ้ ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ชาติชั่วโกงกินชาติ ไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อนนั่นมันรับใช้อำมาตย์ ไอ้พวกควายเหลืองปากคาบโกเต็กซ์เสกของไอ้แกะทิลิ้มดอกทองโกงสิบทิศ ไอ้ปอ ประตูหลังจอมมารถั่วดำ ขันทีอัปรีย์ชั่ว ปล้นชาติ และไอ้พรรคเก่าแก่นรกแอบเช็ดเมียเพื่อน..