จ้องมองความหนาวเย็นเป็นสองนาน มองฝ่าความร้าวราน ด้วยตาพร่า มันหม่นหมองเมื่อมองผ่านม่านน้ำตา ทุกเวลา เห็นแต่เศร้ามาเย้าเยือน ในวันที่หมึกหัวใจใกล้จะหมด มันเลือนลดจางชืดและจืดเจื่อน เขียนกลอนรักเพียงรางรางอย่างเลือนๆ จะฟั่นเฟือนก็ยังเขียนเวียนไปมา จะคิดถึงก็เจ็บทรุดจนสุดใจ จะลืมไปก็เจ็บร้าวราวเป็นบ้า จะจำไว้ก็เจ็บจุกทุกเวลา และเจ็บกว่า ถ้าเธอเยือนมาเตือนจำ มาเตือนย้ำ ให้จำแม่นว่าแสนรัก ให้ตระหนักว่าเจ็บใจยังไม่หนำ เก็บทุกคำย้ำทุกเรื่องมาเนื่องนำ ยิ่งตอกย้ำกระหน่ำย้อนตอนหนาวเยือน ... จ้องมองความหนาวเย็นเหมือนเป็นบ้า ยังมองหาอยู่เรื่อยไป ไม่คลายเคลื่อน มองหารักด้วยสองตาอันพร่าเลือน เพียงเพื่อเตือน ว่าต้องเศร้าอีกหนาวแล้ว
20 ธันวาคม 2554 13:02 น. - comment id 1218428
กลอนไพเราะจัง.......
24 ธันวาคม 2554 13:15 น. - comment id 1218777
........... เธอมองความหนาวเย็นเหมือนเป็นบ้า แต่ทว่า...ฉันหนาวสั่น...จนหวั่นไหว เธอร้าวเหน็บเจ็ดทรุดจนสุดใจ ฉันดุจหนามตำให้หทัยตรม ในวันที่...หมึกหัวใจ...เธอใกล้หมด จึงรันทดกล้ำกลืนความขื่นขม สำหรับฉันหม่นหมองครองอารมณ์ ต้องระบมซ้ำซากวิบากรรม เธอย้ำให้จำแม่นว่าแสนรัก ให้ประจักษ์รักนั้นมันคมขำ เธอเก็บถ้อยร้อยเรื่องมาเนื่องนำ แต่ฉันกลับ...เจ็บช้ำ...มาย้ำเตือน เธอมองความหนาวเย็นเหมือนเป็นบ้า แต่ทว่าฉันคอยอย่างลอยเลื่อน เธอมองรักด้วยสองตาที่พร่าเลือน แต่ฉันเหมือนมืดบอดตลอดกาล ..............
24 ธันวาคม 2554 16:23 น. - comment id 1218795
แหม คุณ din แอบมาเงียบ แต่ โวหารเยี่ยมเลยนะครับ ของผมแค่ตาพร่าเลือน นี่ แซงไปเป็นตาบอดตลอดกาลเลย เยี่ยมมากครับ
26 ธันวาคม 2554 18:23 น. - comment id 1218977
......... หวัดดีจ้าคุณแรมฯ กลอนเพราะมาก อยากตอบทุกบทเลย แต่บางทีไม่ว่าง แล้วก็เป็นคนคิดช้าและเขียนช้า....ขอบคุณจ้ะ .............