สี่ห้าสิบ ปีก่อน ตอนนั้นหนุ่ม พอเข้ากลุ่ม กับใคร ก็ได้ผล เพราะเรือนร่าง หน้าตา เมื่อครายล จัดเป็นคน รูปงาม ตามมุมมอง คนเห็นชม สมพิศ อยากชิดใกล้ สาวอยู่ไกล สะกิดแม่ เหลียวแลจ้อง ทั้งวาทะ ท่วงที มีทำนอง เขียนร้อยกรอง กาพย์กานท์ ก็หวานจัง แต่มิเคย ทำให้ ใครชอกช้ำ อีกถ้อยคำ เชื่อได้ ไม่ผิดหวัง เพื่อนหญิงชาย หลายหน้า มาประดัง นี่คือยัง เมื่อตอน ที่อ่อนวัย พอวันนี้ ปีเดือน มันเคลื่อนผ่าน แสนเนิ่นนาน เวลา อายุขัย ก็พูนเพิ่ม เติมกัน ทุกวันไป ทุกอย่างเวียน เปลี่ยนใหม่ ไม่เหมือนเดิม ผมเคยดก ดำกลับขาว ราวดอกอ้อ ฟันหลุดหรอ ใบหน้า ตีนกาเพิ่ม ความสง่า ลาไป ไม่ต่อเติม ต้องคอยเสริม หยูกยา มาบรรเทา แม้คารม คมถ้อย ไม่ถอยหนี ถึงวลี กลอนกานท์ หวานกว่าเก่า แต่สู้คน หนุ่มไม่ได้ ไฟมันเบา ทำใจนะ ตัวเรา. ทนเหงาไป
4 พฤศจิกายน 2554 10:33 น. - comment id 1213734
คิดแง่ดีสิคะ แก่ประสบการณ์ วันเดือนปีเลยผ่านเนิ่นนานนั้น คงเปลี่ยนผันแค่กายปลายสังขาร ที่สั่งสมภูมิปัญญาประสบการณ์ ส่งต่อผ่านสู่ลูกหลานสานวจนา สุขุมนุ่มลึก เฉียบแหลมคม หยุดอารมณ์ควบคุมไฟตัญหา อายาตนะสงบกลบข่มโกรธา เปี่ยมเมตตา ลดลา อุปาทาน ฟันร่วงแลผมขาวราวมะลิ บ่งว่าสมาธิ ศิลแตกฉาน วจีคมสมขั้นปรมาจารย์ คำแว่วหวานขานกล่าวสาวหลงครัน ปลายปากกาตวัดวาดปาดอักษร กาพย์โคลงกลอนมากมายร่ายเสกสรร ตรวจตราฉันทลักษณ์ทุกวารวัน สมญานั้นขอเชิดชูครูกวี อย่าน้อยใจนะคะๆๆ รักน๊าค๊า จุ๊บๆ
4 พฤศจิกายน 2554 11:13 น. - comment id 1213744
มาตั้งชมรมผู้เฒ่ากันดีกว่าคุณคนกรุงศรี
4 พฤศจิกายน 2554 13:58 น. - comment id 1213774
ขอบคุณ ตาไร้แววที่ยาหอม ให้กำลังใจ เอาอย่างนั้นกีนเลยหรือ คุณสุนทรวิทย์ ชมรมคนเกิดก่อน