แม้อยู่ห่างต่างถิ่นแผ่นดินเกิด วันนี้เปิดประเด็นใจเผยให้เห็น ความวุ่นวายในบ้านเมืองเรื่องลำเค็ญ จึงจำเป็นต้องทำให้ไทยรักกัน เริ่มจากเราสองคนเป็นต้นแบบ มีรักแนบเคียงกมลบนลานฝัน จะใส่เสื้อสีอะไรไม่สำคัญ ความจริงนั้นคือคนไทยสายเลือดเดียว แตกต่างทางความคิดเป็นสิทธิ อย่าทิฐิดึงดื้อถือข้องเกี่ยว ยึดมั่นในสามัคคีที่กลมเกลียว ภาพห่อเหี่ยวสลดใจจะไม่มี เพียงแค่ยิ้มให้กันวันละหน สุขก็ล้นหัวใจได้ทุกที่ ความคิดเห็นเปิดกว้างอย่างเสรี แผ่นดินนี้จะไม่ต้องนองน้ำตา คืนรอยยิ้มพิมพ์ใจให้สยาม ให้สมนามรุ่งเรืองเฟื่องคุณค่า รู้จักรัก สมัครมั่นด้วยปัญญา รู้ปัญหา และรู้ที่จะคลี่คลาย แล้วเธอละเห็นด้วยกันกับฉันไหม ลองเผยใจออกมาอย่าแหนงหน่าย สำหรับฉันรักมั่นจนวันตาย เพราะนี่หมายถึงสังคมชาติร่มเย็นฯ
6 ตุลาคม 2554 22:01 น. - comment id 1210616
6 ตุลาคม 2554 22:19 น. - comment id 1210621
หลงรักดินแดนวรรณศิลป์ ของแผ่นดินสยามงามเสรี รอยยิ้มพิมพ์ใจแถมด้วยไมตรี ดั่งวารีรินน้ำใจในถิ่นงาม.... พอได้ไหมค่ะคุณบางบอน
7 ตุลาคม 2554 09:32 น. - comment id 1210650
คิดเห็นเหมือนกันค่ะ มีแต่คนพูดว่าควรทำเพื่อชาติ อยากรู้จัง...เขาบอกใคร สิ่งนั้นจะเป็นไปได้ ต้องเริ่มที่ตัวเรา แค่เราเปิดใจให้กว้าง จะเห็นต่างก็ไม่แปลก สังคมจะไม่แตกแยก เมื่อคนไทยรักกันดังเดิม
8 ตุลาคม 2554 13:44 น. - comment id 1210780
เห็นด้วย.... แวะมาทักทายนะครับ
8 ตุลาคม 2554 17:37 น. - comment id 1210796
รักทุกคนที่รักบทกลอน ขอบคุณที่ทักทายกัน
9 ตุลาคม 2554 21:32 น. - comment id 1210840
เรารักชาติเรารักชาติประกาศลั่น แล้วใครกันจริงจังดังที่กล่าว เห็นมีแต่คำพูดสูตรยืดยาว บ่นปาวปาวแต่ไม่ยักจักทำจริง สังคมนี้เป็นอะไรไปกันหมด บ้างเก็บกดบ้างงึมงำทำแน่นิ่ง มิมีใครสักหนึ่งพอพึ่งพิง แต่เรื่องชิงผลประโยชน์เก่งโคตรเลย