ค่ำคืนในวันหนึ่ง เป็นวันซึ่งแสงจันทร์ส่อง โฆษณาประกาศก้อง ว่าคืนนี้มีหนังฉาย มีไอ้หนุ่มวัยรุ่น ที่มักคุ้นกันสี่นาย รวมเป็นสี่ยอดชาย ไปดูหนังฉายกลางแปลง กลับมาจากดูหนัง พระจันทร์ยังคงทอแสง เดินเรียงกันไม่แซง เลี้ยวเลาะลัดตัดทุ่งนา แสงเดือนทอจางจาง ไม่สว่างพอเห็นหน้า ทั้งสี่เดินเรียงมา พบขี้ควายคล้ายหมวกคว่ำ เพื่อนเกลอคนที่หนึ่ง พอไปถึงไม่พูดพร่ำ เอื้อนเอ่ยด้วยถ้วยคำ "หมวกใครหว่ามาทำหล่น" ก้มจับคว้าหมับให้ หวังเก็บไปใส่หัวตน ขี้ควายติดมือปน แล้วเอ่ยว่า"เฮ้ยหมวกขาด" อ้ายเกลอคนที่สอง บอกไหนลองใส่นวยนาด ถึงแม้หมวกจะขาด เก็บเอาไว้ใส่เล่นดี มุ่งตรงกองขี้ควาย ด้วยใจหมายเดินตรงรี่ ก้มลงคว้าทันที แล้วพูดว่า"เออ!..ขาดจริง" อ้ายเกลอคนที่สาม มันเดินตามบอกอย่าทิ้ง ถ้าแม้นหมวกขาดจริง จะไว้ใส่ไปดำนา ก้มหยิบที่หมวกขาด ด้วยหมายมาดปรารถนา ขี้ควายติดมือมา ร้องบอก"ว้า!ใช้ไม่ได้" ฝ่ายสหายคนที่สี่ เจ้าคนนี้ปรี่เข้าใส่ เมื่อหมวกใช้ไม่ได้ แล้วสูใยช้าเสียการ ว่าพลางง้างขาเหนี่ยว เตะเต็มเรี่ยวแรงชายชาญ ขี้ควายกระจายบาน อวสานเรื่องหมวกเอย
21 กรกฎาคม 2554 06:24 น. - comment id 1203702
นี่สิถึงจะเรียกว่าเขียนถูกใจจริงๆ
20 กรกฎาคม 2554 17:57 น. - comment id 1204040
คงจะคล้าย ๆกับนิทานสองสหายละมั๊ง สองสหยายก็คือ วัว กับ ม้า สมัยก่อนเป็นเพื่อสนิทสนมกันไปไหนไปด้วยกินไหนกินด้วย ดึกดำบรรถ์สัตว์ยังพูดได้ และก็มีความสามราถพิเศษสามราถถอดอวัยวะได้ สองสหายแน่แตกต่างกันตรงที่ วัว มีอวัยวะเพศใหญ่โต ม้า เล็กไม่ใหญ่เท่าทำให้เจ้าม้านึกอิจฉาอยู่ครามครัน วันหนึ่งสองสหายไปอาบน้ำในลำธารใหญ่แห่งหนึ่ง ทั้งคู่ก็ถอดอวัยวะเพศกองไว้ริมตลิงแล้วลงไปอาบน้ำสำราญใจเหมือนที่เคยทำมา แต่วันนี้เจ้าม้าคิดไม่ซื่อ รีบขึ้นมาก่อน แล้วฉวยเอาอวัยวะเพศของเจ้าวัวมาใส่แทยของ ตัว แล้ววิ่งไปอย่างคึกคนองร้องฮี้ ๆ สมใจอยาก เจ้าวัวขั้นจากน้ำมาทีหลังเห็นอวัยวะของเจ้าม้าอันเล็กวางอยู่ก็รู้ว่าเพื่อนทรยศเสียแล้วแต่ก็จำเป็นต้องเอาใส่ไว้ก่อนแล้วรีบวิ่งตามเจ้าม้าไปร้องว่า เอาของกูมา เอาของกูมา นาน ๆ จนถึงเดี๋ยวนี้ร้องจนเหลือ เอามา ๆ ๆ คนฟังไม่เข้าใจนึกว่ามันร้อง มอ ๆ ที่จริงมันร้อง เอามา ๆ ส่วนเจ้าม้า ไม่ต้องพูดถึง ยังร้องสำราญใจ ฮี้ ๆ ๆ ๆ จนเดี๋ยวนี้ น่าสงสารเจ้าวัวอิอิ นิทานเรื่องนี้ก็เลยยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน