๐ สุดโหยหา ๐ ๐ ชีวิตล่วงผ่านกาลดั่นด้นฝัน เพื่อรอวันซาบซึ้งตรึงสิ่งหมาย หวังวันคืนเดือนปีกลับมิคลาย สิ่งแปรกลายเวิ้งว้างจนว่างใจ ๐ โลดแล่นเดี่ยวอ้างว้างมิว่างเว้น ซ่อนห้วงเด่นสุขสันต์อันสดใส หมายสิ่งเร้นหมกสร้างสู่วางใน เพียรเฉิดไว้จริงจังพบพังทลาย ๐ หลับตาคิดวางหลีกปลีกซ่อนเร้น มิอยากเห็นสายใยพึงใฝ่ขยาย ดุจฝนหล่นมากล้นจนประปราย แล้วพลันหายเหมือนใจไร้คนเมิน ๐ ฟ้าเอ๋ยฟ้าดินคือถิ่นแว่นแคว้น ยากโลดแล่นค้นหาพาใจเขิน ห้วงแห่งใจมากนักรักที่เกิน สุดเพลิดเพลินคงไว้ในเอกา ๐ ท้องฟ้าครึ้มดื่มด่ำด้วยน้ำฝน ใยยากทนน้ำใจแสนไขว่หา สิ่งแน่แท้เคยหวังครั้งเจตนา โดยนำพาผลกรรมล้ำเกินทน ๐ อนาถหนอชีวิตยามคิดสร้าง เหลืออ้างว้างฝากไว้มิคล้ายสน ทนโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจในระคน แสนยากบ่นเหลือไว้คล้ายน้ำตา. ๐ สุดโหยหาสิ่งว้าง.........ลวงหา โปรยสิ่งซึ้งปราถนา........ว่างเว้น ฝันคว้าซึ่งผ่านมา...........สิ่งซ่าน เลือนนอ คงฝากในสิ่งเร้น.............พร่ำไว้เดียวดายฯ ๐ ลมโชยสะบัดพลิ้ว.......รักเลือน หวังสิ่งกลับแชเชือน.......มากแท้ จำต้องโดดเดี่ยวเยือน.....ฝากสิ่ง ครวญแฮ สิ้นสุดหนทางแล้............แผ่นฟ้าท่องดินฯ ๐ ฟ้าเอ๋ยฟ้าบ่ร้าง............ดินแดน ใยจักฝากเมืองแมน.......แด่ข้า จันทร์ยังมีดาวแสน........ส่องสว่าง ช่วยเอย ใจซิข้าอ่อนแล้.............สิ่งซึ้งอวลถวิลฯ ๐ คืนวันร้างผ่านแล้ว.......คำนึง มิอาจต่อฝากถึง..............สิ่งสร้าง ฝากฝันใฝ่สู่ตรึง..............ผ่านสู่ ห้วงแล หยาดหยดมิอาจคว้าง......ไขว่คว้าหวนตรึงฯ ๐ ชีวิตล่วงผ่านซึ้ง..........ดั่นฝัน เกิดก่อคำนึงกัน.............มากล้น เพียรสร้างว่างเว้นวัน.......ยากยิ่ง จริงแฮ หวนพลิกมิอาจพ้น.........บ่วงซึ้งหทัยฯ ๐ดินเอ๋ยอย่าทอดทิ้ง.....ดุจนวล ถิ่นที่เคยแอบอวล.........ซาบซึ้ง ใจฤาบ่ล้างหวน..............ต่อสิ่ง ฝังแฮ หยดหยาดจากห้วงบึ้ง.....มอบแล้วเดียวดาย.๐ ๐ แก้วประเสริฐ. ๐
12 กรกฎาคม 2554 15:41 น. - comment id 1199608
........... สวัสดีจ้าครู จากการตามอ่านงานหลายๆ กระทู้ของครูมานี่ รู้สึกครูบอกว่าไม่สบายหลายครั้ง เป็นอะไรมากหรือเปล่าจ๊ะ ครูพักผ่อนเยอะๆนะ รักษาสุขภาพด้วย อย่าโพสกลอนตอนดึกๆ นักนะจ๊ะ
12 กรกฎาคม 2554 10:48 น. - comment id 1201786
เดียวดายอ้างว้าง.......... กลอนเพราะมากเลยครับ
12 กรกฎาคม 2554 13:51 น. - comment id 1201797
คุณ ดวงจันทร์ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ ผมก้เล่น ไปเพราะความเพลิดเพลิืนเท่านั้นแหละครับ ขอบคุณที่ชมนะครับ แก้วประเสริฐ.
10 กรกฎาคม 2554 15:54 น. - comment id 1202429
10 กรกฎาคม 2554 17:58 น. - comment id 1202433
10 กรกฎาคม 2554 19:03 น. - comment id 1202440
กราบครูครับ มาเยี่ยมยล พร้อมนึกภาพ สวัสดีมิตรบ้านกลอนด้วยนะครับ
10 กรกฎาคม 2554 19:27 น. - comment id 1202444
10 กรกฎาคม 2554 19:49 น. - comment id 1202447
โหยหาให้ห่วง หนักหน่วงแน่นหนัก เรียมร่ำรอรัก ถามทักถึงเธอ สบายดีนะครับ ครู แวะมาทักทาย จึงขอแจมหน่อยนะครับ
10 กรกฎาคม 2554 20:43 น. - comment id 1202455
เยื่อใยแห่งอดีตกรีดใจลึก ให้รู้สึกโหยหาพาหวั่นไหว ไม่อาจเห็นอนาคตที่กว้างไกล เห็นแต่ความเป็นไปอดีตกาล ความเดียวดายกลายเป็นเช่นห้องขัง ความโดดเดี่ยวลำพังสร้างสุสาน ความผิดหวังฝังใจใต้พื้นดาล จึงโหยหาทนมานเพียงเดียวดาย แอบแวะเข้ามาทักทายค่ะคุณแก้วประสริฐ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
11 กรกฎาคม 2554 02:25 น. - comment id 1202476
ทักทายครับผมผมผมผมผม
11 กรกฎาคม 2554 08:10 น. - comment id 1202481
อรุณสวัสดิ์ค่ะครู กลอนดูเหงาๆอะค่ะ ครูสบายดีหรือเปล่าค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
11 กรกฎาคม 2554 13:51 น. - comment id 1202519
คุณ เดือนดวงเดิม ขอบคุณมากนะครับที่มาเยี่ยมเสมอๆ ขอบคุณมาก แก้วประเสริฐ.
11 กรกฎาคม 2554 13:53 น. - comment id 1202520
คุณ กลั่นแก้ว หากมีเวลาว่างก็ไม่อ่านกระทู้ที่ตอบไว้ ในเรื่อง อทิสมานกายตอน ๙๕ ๙๖ ด้วยนะ ด้วยผมไม่ค่อยสบาย ยังไม่รู้เลยว่าจะถึงเวลา เท่าไหร่จะทำงานด้านนี้ได้นะ รักศิษย์เรา มากๆๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
11 กรกฎาคม 2554 13:55 น. - comment id 1202521
คุณ สุญญะกาศ ศิษย์เอ๋ย ด้วยครูป่วยรู้สึกจะมากๆด้วยนะ หากมีเวลาว่างก็ไม่อ่านกระทู้ที่ตอบไว้ ในเรื่อง อทิสมานกายตอน ๙๕ ๙๖ ด้วยนะ ด้วยผมไม่ค่อยสบาย ยังไม่รู้เลยว่าจะถึงเวลา เท่าไหร่จะทำงานด้านนี้ได้นะ รักศิษย์เรา มากๆๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
11 กรกฎาคม 2554 13:58 น. - comment id 1202523
คุณ salukphin ขอบคุณมากครับ ที่ให้เกียรติมาเยี่ยม ผมในช่วงระยะไม่สบายค่อนข้างมากครับ ขอบคุณมากๆครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 กรกฎาคม 2554 14:00 น. - comment id 1202524
คุณ อรุโณทัย การฝึกฝนคือการสร้างทักษะเราให้เพิื่ม ขึ้นดีแล้ว หัดเข้าไว้เถิดจะเกิดผลแก่ตัวเรา ไม่มากก็น้อยจ้า รักศิษย์เสมอ แก้วประเสริฐ.
11 กรกฎาคม 2554 14:04 น. - comment id 1202525
คุณ ดอกแก้ว สวัสดีครับนับเกียรติอย่างสูงนักที่คนที่ ผมนับถือมาเยี่ยมเยียนนะครับ และยังมอบ สิ่งที่ดีๆให้แก่ผมไว้ด้วย ต้องขอขอบคุณ ในระยะนี้ผมไม่ค่อยสบายเป็นไปตามสังขาร ร่างกายที่กำลังปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปใน ระยะโรคเข้ามาเยือนเหลืออีกสายใยเดียว ที่ต้องเผชิญต่อไปครับ แต่เป็นของธรรมดา สำหรับผมแล้ว ด้วยผมเองไม่ประมาทตาม คำตรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าไว้เสมอ ด้วยการเจริญสมาธิพิจารณาไว้ตลอดครับ ไม่มากก็น้อยตามแต่ร่างกายจะอำนวย ให้ครับ อย่างไรก็ตามนับว่าบุญยังมีที่ ยอดหญิงนักธรรมมาสนทนาด้วย บอก ตรงๆว่าผมแสนจะดีใจมากครับ ขอบคุณ อย่างสูงครับ รักมากๆเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
11 กรกฎาคม 2554 14:06 น. - comment id 1202526
คุณ เปลวเพลิง ขอขอบคุณมากครับที่กรุณามาทักทาย เยี่ยมเยียน หวังในโอกาสต่อไปคงจะได้พบ กันอีกนะครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
11 กรกฎาคม 2554 14:10 น. - comment id 1202527
คุณ เทียนหยด ศิษย์ที่รักยิ่ง ใช่แล้วครูเคยเปรยไว้ ว่าการเขียนที่ดีนั้นต้องใช้ใจเขียนจึงจะได้ อารมณ์และจินตนาการ ที่เหตุดังนี้ด้วยครู กำลังป่วยค่อนข้างมาก ครั้นจะว่างเว้นหรือ ก็ไม่สมควรนัก ด้วยรักยายอิมเขาทั้งๆที่รู้ ว่าร่างกายไม่อำนวยก็ตามแต่ทำได้ก็ทำไป วันก่อนเขียนนิยายทิ้งไว้พร้อมตอบกระทู้ อีกวันหนึ่งค่อยมาเขียนกลอนส่งไว้่ ศิษย์เอ๋ย ด้วยครูป่วยรู้สึกจะมากๆด้วยนะ หากมีเวลาว่างก็ไม่อ่านกระทู้ที่ตอบไว้ ในเรื่อง อทิสมานกายตอน ๙๕ ๙๖ ด้วยนะ ด้วยผมไม่ค่อยสบาย ยังไม่รู้เลยว่าจะถึงเวลา เท่าไหร่จะทำงานด้านนี้ได้นะ รักศิษย์เรา มากๆๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
12 กรกฎาคม 2554 17:44 น. - comment id 1202580
คุณ ดิน ผมเป็นโรคแพ้อากาศ ตอนนี้เป็นอย่าง แรงมากครับ การแพ้นี้เกี่ยวกับการเปลี่ยน แปลงของอากาศเท่านั้น ที่นอนดึกผมชอบ ดูข่าวต่างๆครับ อีกอย่างหนึ่งคือโรคคนแก่ คือนอนไม่ค่อยหลับ พยายามหลายๆครั้งแล้ว ยิ่งสร้างความลำบากมากขึ้น จะเกิดอาการไอ หากไม่นอนจะไม่เกิดอาการไอ ไปเช็ค มาแล้วสุขภาพสมบูรณ์ครับ คงมีแต่เรื่อง ที่กล่าวไว้เรื่องเดียวเท่านั้นเองครับ รักมากๆเสมอครับ แก้วประเสริฐ.
13 กรกฎาคม 2554 09:36 น. - comment id 1202601
สวัสดีครับครู อ่านการตอบคอมเม้นของครู ดูเหมือนครูไม่สบายมาก เรื่องแพ้อากาศ คงต้องคอยดื่มน้ำอุ่นๆ ด้วยครับครู เพราะสองวันมานี้ผม ก็มีไข้เจ็บบคอ ทำงานไป ตาลายไปเลยครับ อากาศบ้านเราฤดูนี้ คงมีความชื้นเยอะเพราะ หน้าฝน อย่างไร ก็ขอให้คุณครูแก้ว รักษาสุขภาพร่างกายด้วยนะครับ ๏ เรือนกายไร้เสียดต้าน ...... แรงตรึง โหมนา ล้มทาบราบทอดถึง ......... ทุกข์ม้วย- มรณ์สิ้นชีพดับอึง ......... โอ้ด่าว แดเฮย ดายสู่ดูสิ้นด้วย ......... ดิ่งฟ้าดินฝัง ๚ะ ๏ เรือนใจหลั่งอ่อนล้า ....... เรื่อลง ปะทุฟูไฟปลง .......... ป่นฟุ้ง ผุยละเอียดแลผง ..... ปลิวพรั่น พื้นแฮ ทานหยัดทัดใยคลุ้ง .... โยกไคล้ไหวหรือ ๚ะ ๏ สองเรือนเลื่อนสู่ล้อม........ รวมกัน ยิ่งมอดขอดแทะขัน ........ ขบทึ้ง แปรเดียวเปลี่ยวแดอัน .... มืดดับ แสงเนอ คงจบพบก้นบึ้ง....... บทท้ายไผผลาญ ๚ะ
13 กรกฎาคม 2554 15:32 น. - comment id 1202656
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รักยิ่ง พยายามอ่านกระทู้ครูทั้ง ร้อยแก้วและร้อยกรองไว้ ครูตอบให้แก่ สุญญะกาศและกลั่นแก้วไว้ ด้วยจะทิ้งท้าย เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆแต่ยังไม่หมดหรอก ยังมีอีกมากพอประมาณ จะทำเท่าที่ทำได้นะ ส่วนใหญ่เธอก็รู้หมดแล้ว ใช่ครูเองระยะนี้แย่เอามากๆเสียด้วยแก่ แล้วความต้านทานน้อยลงไป ตอนนี้ครู ไม่ทานน้ำเย็นและนำแข็ง ทานชาแทน จึงค่อยยังชั่วหน่อย อ้อเขียนโคลงเธอนั้น ดีแล้วล่ะ แต่บางคำควรจะระวังไว้ด้วย โยกไคล้ไหวหรือ ๚ะ คำว่าหรือ นั้นควร จะใช้คำ ว่าฤา จะไพเราะกว่าจ๊ะ ด้วยเสียง จะคล้ายๆคลึงหรือกันความหมายหรือก็ ไม่แตกต่างกันมากนักด้วยนะ รักศิษย์ที่ครูหวังไว้มากที่สุดมากจ้า แก้วประเสริฐ.