วันมายา กลอน ๗ กลบทอักขระโกศล คล้ายว่าคล้ายวันใฝ่ฝันศานติ์ ดั่งผีดั่งพาลเซซานถอย ชนพร้อมชนพรั่งวาดหวังคอย เมฆเคลื่อนเมฆคล้อยไร้รอยตรม น้ำเพ็งน้ำผึ้งซาบซึ้งชื่น หมดขมหมดขื่นเริงรื่นสม อย่างนั้นอย่างนี้เปรมปรีดิ์ชม อารี อารมณ์สุขสมจินต์ โพยร้อนโพยเร้นห้อมเห็นไหม เจนชาญเจนใช้กลไกหิน จ้องฉ้อจ้องฉลมัวมลทิน เดี๋ยวเปลี่ยนเดี๋ยวปลิ้น ลมลิ้นอำ จัดหมวดจัดม็อบช่างชอบสรรค์ คอยเบียนคอยบั่นโรมรันย่ำ ออกโรงออกฤทธิ์ป้องปิดงำ คนชอกคนช้ำเจ็บจำกลืน อำนาจอำนวยชูช่วยมาก วางเม็ดวางหมากย่อมยากขืน ใครเหิมใครหือ ถ่อยถือปืน พลโหงพลหื่นอยู่ยืนรอ! (๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔) หมายเหตุ: กลอนกลบทอักขระโกศลนี้ มีปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยเรื่อง สิริวิบูลกิตติ์ ของท่านหลวงศรีปรีชา (เส้ง) ผมศึกษาแนวทางจากหนังสือกวีนิพนธ์ รอยทราย ของท่านอาจารย์วันเนาว์ ยูเด็น ครับ
3 กรกฎาคม 2554 20:46 น. - comment id 1201577
อำนาจอำนวยช่วยไม่ได้ หัวจิตหัวใจจะใฝ่ฝัน เสภาเสรีที่กังวาน เสนาะสนั่น..ณ วันนี้ ชีวันชีวี ..มีชีวา !
4 กรกฎาคม 2554 16:23 น. - comment id 1201649
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน ผ่านพ้นวันเลือกตั้งแล้ว ต่อจากนี้ก็คือการจัดรัฐบาลชุดใหม่หละครับ ติดตามกันตอไปเทอญ ผมว่า ยังมีอะไรให้ลุ้นอีกเยอะครับ สวัสดีครับ คุณศรีสมภพ ใจจริง ผมก็อยากเห็นฟ้าเมืองไทยอำไพผ่องครับ แต่โดยความเห็นส่วนตัว ศึกนี้ยังมิจบยกง่ายๆหรอก เมื่อฝ่ายซึ่งสูญเสียอำนาจไปครั้งรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ได้อำนาจคืน ดุจเดียวกับที่เคยได้มาแล้วเมื่อ ๒๕๕๑ (ยุคพรรคพลังประชาชน) อีกขั้วหนึ่งย่อมต้องมียุทธวิธีเด็ดเพื่อหักโก่นโค่นล้างปรปักษ์ ภาษิตเก่าๆท่านกล่าวว่า สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ทว่า สงครามการเมืองตั้งแต่ ๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบัน หากจะนับศพคนไทยก็เซ่นสังเวยไปแล้วหลายศพ เฮ่อ... สังเวชประเทศชาติเหลือเกินครับผม