ประชาธิปไตยต้นสุดท้าย
กฤต บรรณาศรม
ณ ภายใต้ฝุ่นกากของซากเศษ
แห่งสังเวชอัปยศอันอดสู
ซึ่งฉ่ำชุ่มลุ่มโลหิตมิตร-ศัตรู
ขยับรู้โสม(ม์)เคลื่อนลอยเลื่อนไกล
ถึงวาระผงาดจากธาตุเน่า
เกิดแต่เถ้าต่อเนื้อเป็นเชื้อใหม่
จากเบื้องพื้นยืนกล้าผลิก้านใบ
เมื่ออุทัยอาทิตย์ประชิดปอง
ไม้ใบอ่อนกร่อนดินกร้านโดยหาญกล้า
สืบพฤกษารุ่นหน้ามาสนอง
ไม้ต่อไม้ใบสานซ่านฉ่ำนอง
นี้วิถีทำนองธรรมดา
โอ้...ฉงนปนฉงายกระไรนี่
ไร้ซึ่งร่มสุนทรีย์เหล่าพฤกษา
มีเพียงไม้ก่ายเกยมรณา
ร้างชีวากล้าพันธุ์บรรลัย
ทั้งสุรีย์สีสูญมิบูรณ์เด่น
อำพรางเร้นเว้นเงาภูเขาใหญ่
ธรณินกลิ่นสาบกำราบไว
โอ้...ต้นใหม่ไม้อ่อนสะท้อนใจ...
ณ วาระ 24 มิถุนา และความเงียบ
กระดาษเรียบถนนว่างแม่น้ำใส
สิ้นรอยยับรอยร้าวรอยอาลัย
สิ้นเสียงเศร้าโหยไห้ครั้งก่อนกาล
ณ ใต้เนื้อเรือนร่างทางสายนี้
ณ เส้นใยฉาบสีปรากฏขาน
ณ รอยรบลบรอยทรมาน
ณ ใต้หล้าปรากฏการธรรมดา
ตวัดสีลากเส้นบนกระดาษ
ท้องถนนฉาบวาดเงาเรขา
ประดิษฐ์ร้อยรอยร้าวเป็นมาลา
เพื่อสักการ์อากาศและธุลี
ณ วาระกระแสจงแห่แหน
มาเนื่องแน่นรอยราษฎร์บาทวิถี
มายืนย้ำล้ำรสบทกวี
แล้วขวบปีค่อยวกคืนคง
จึงกล้าพันธุ์เสรี ณ รอยเท้า
ที่สู้เจ้าย่ำเล่นค่อยเร้นหลง
แผ่นกระดาษพื้นดินสิ้นรอยลง
ณ วาระเปล่าปลงอุดมการณ์...
กฤต บรรณาศรม (20 มิถุนายน 2554)