พระยาราม

ไร้อันดับ

1012254623275K_narasuan_s.jpg
พุทธศักราชสองหนึ่งหนึ่งสอง
บุเรงนองนำทัพมานับแสน
หวังจะบุกรุกถิ่นเหนือดินแดน
รวมผืนแผ่นกรุงศรีฯ จึงกรีธา
  
แบ่งออกเป็นเจ็ดทัพหมายทำศึก
ฝ่าด่านลึกแม่ละเมาบุกเข้าหา
ล้อมกรุงศรีฯ สี่ทิศอนิจจา
นักรบกล้าก่อเกิดเปิดตำนาน
           --------------
พระยารามถูกสั่งให้ตั้งมั่น
เฝ้าประจันไพรีบุกตีด่าน
เหนือกำแพงกรุงศรีฯ ปรีชาชาญ
เพราะชำนาญการศึกที่ฝึกปรือ
จะบุกมาตอนค่ำก็ย่ำฆ้อง
ใช้ไฟส่องต้องร่างจนครางอื้อ
เตรียมทหารเชี่ยวชาญชำนาญมือ
ต่างก็ถือหอกธนูไว้สู้มัน
จะบุกมากลางวันประจันหน้า
นักรบกล้าท้าทายด้วยหมายมั่น
เลือดต่อเลือดเชือดฆ่าด้วยท่าฟัน
จะห้ำหั่นฟันฟาดประกาศชัย
ด้วยสองมือถือดาบเข้าปราบศึก
ต่างผนึกใจกันไม่หวั่นไหว
นักสู้แห่งกรุงศรีฯ ยังมีใจ
ไม่ให้ใครเหยียบย่ำมากล้ำกลาย
แผ่นดินแห่งกรุงศรีฯ เป็นที่รัก
จะปักหลักด้วยเลือดแม้เหือดหาย
ให้กระดูกและหนังข้าฝังกาย
พร้อมถวายกายข้าต่อฟ้าดิน
จนห้าเดือนล่วงผ่านต่อการรบ
ใต้แสงคบเพลิงไฟที่ในถิ่น
ข้าถูกเขาจับมาน้ำตาริน
ต้องสูญสิ้นอิสระถูกระทำ
บุเรงนองส่งสารมาเมื่อวานนี้
จะคืนดีหยุดรบในพลบค่ำ
พระมหินทร์ฯ ทรงสดับและรับคำ
โดยให้นำข้าไปให้ไพรี
เพื่อเป็นการหยุดรบสงบศึก
จึงได้ปรึกษากันในวันนี้
แล้วจับข้าฟาดโบยแต่โดยดี
มัดมือเท้าที่มีแล้วตีตรวน
เขามัดกายที่ยับแล้วจับส่ง
เข้าในดงที่มีไพรีด่วน
ข้าฝืนกายเลือดกลบขึ้นทบทวน
แต่ทุกส่วนร่างข้ามันชาไป
    ------------------------
พุทธศักราชสองหนึ่งหนึ่งสอง
อยุธยาเลือดกองและนองไหล
เดือนสิงหากรุงศรีฯ ไม่มีใคร
นักรบไทยไม่สยบเป็นศพเรียง...
             -----------------
             (ไร้อันดับ)  
  				
comments powered by Disqus
  • ไร้อันดับ

    17 มิถุนายน 2554 18:56 น. - comment id 1199574

    ในตำนานได้เขียน
    เรื่องราวเกี่ยวกับพระยารามว่า
    "พม่าล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ได้ห้าเดือน 
    ยังไม่สามารถตีหักเข้าไปได้ พระเจ้าบุเรงนอง
    จึงออกอุบายเกลี้ยกล่อมให้
    สมเด็จพระมหินทร์ ฯ ยอมเป็นไมตรี
    โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือขอตัวพระยาราม
    ผู้มีความสามารถรับผิดชอบการรักษา
    พระนครอย่างเข้มแข็ง สมเด็จพระมหินทร์ ฯ 
    ทรงยินยอมมอบตัวพระยารามแก่พม่า 
    แต่ทางพระเจ้าบุเรงนองกลับตระบัดสัตย์ 
    ไม่ทำตามข้อตกลง " 29.gif
  • มัสลิน

    17 มิถุนายน 2554 19:41 น. - comment id 1199578

    16.gif
    
            เข้ามาอ่านก่อนกลับบ้านค่ะ.....
    
    ในใจคิดถึงเรื่องพม่ากับไทย
    
    ตอนนี้ไปไหนก็มีแต่คนพม่าเข้ามาทำงานเยอะแยะไปหมด
    
    เรื่องราวในอดีต พอย้อนกลับมาดูอีกที
    
    ต่างมีที่มาและที่ไป...สมองคนเรานี่จดจำเรื่องราวต่างๆได้เยอะจริงๆนะคะ
    
              ดูแลสุขภาพนะจ๊ะ 
    
                        คิดถึง
    
    
                        16.gif
  • ปู่กิ่ง

    18 มิถุนายน 2554 06:31 น. - comment id 1199627

    ขอบอ่านแนวนี้ครับพี่ไร้  แฝงข้อคิดได้ดีจัง เรื่องความสามัคคี
  • แก้วประภัสสร

    18 มิถุนายน 2554 09:10 น. - comment id 1199631

    สมัยเรียนสอบตกวิชาประวัติศาสตร์คะพี่ชาย
    
    แต่ตอนโตก็กลับมาย้อนอ่าน
    
    ก็ได้ความรู้พอคุยกับคยอื่นได้บ้างค่ะ
    
    เขียนมาอีกนะคะ ตามอ่านค่ะ
    
    29.gif36.gif16.gif11.gif
  • แก้วประเสริฐ

    18 มิถุนายน 2554 14:51 น. - comment id 1199673

    36.gif16.gif36.gif
    
       หากจะนับด้วยฝีมือแล้วไทยเราไม่เคยแพ้
    แก่ใครๆ  ประวัติศาสตร์ซึ่งว่าไทยเสียกรุงถึง
    สองครั้งในประวัติของพม่าไม่จารึกไว้ ชาว
    พม่าไม่เชื่อว่าไทยจะเสียกรุงให้แก่พม่าเลย
       มาทราบเมื่อมาอ่านจารึกของไทยเท่านั้น
    ทั้งสองครั้งไทยเราเสียกรุงเพราะความโลภ
    ของผู้เป็นใหญ่ทั้งสองครั้งคือพระยากลาโหม
    ทั้งสองครั้ง ครั้งนี้เขาฆ่าทิ้งเสียกล่าวว่า
      กูไม่อาจจะชุบเลี้ยงมึงได้ แม้แต่แผ่นดิน
    ของมึงยังทรยศได้นับประสาอะไรกับกู
    มึงจะไม่ทรยศ โน่นสมบัติที่มึงต้องการกู
    มอบให้มึงแล้ว แล้วสั่งให้ทหารเองไปฆ่า
    ตัดหัวเสียบประจาน  อิอิ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    18 มิถุนายน 2554 14:53 น. - comment id 1199674

    36.gif16.gif36.gif
    
      ภาพที่ลงไว้นะเป็นพระองค์ดำจ้า ตอนตี
    ค่ายพม่า เรียกว่าพระแสงดาบคาบค่าย ไม่
    ใช่ท่านพระยาขุนรามเทพเน๊อะ เพราะภาพ
    วาดไม่มีมีแค่ประวัติเท่านั้นเอง เขียนได้ดี
    เน๊อะ
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แกงฯ

    20 มิถุนายน 2554 08:37 น. - comment id 1199888

    แวะมารับความรู้ค่ะ....1.gif
  • ไร้อันดับ

    20 มิถุนายน 2554 09:38 น. - comment id 1199914

    36.gif คุณมัส
    
    เรื่อง พระยาราม
    เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์
    ที่ผมมักตั้งคำถามต่อตัวเอง
    ถึงวิรบุรุษที่ต่อต้านข้าศึก
    อย่างเข้มแข็ง ตลอดห้าเดือนเต็มๆ
    แต่กลับถูกส่งตัวให้ข้าศึก 
    
    สมองคนเราจดจำสิ่งต่างๆ เยอะจริงๆ
    แต่เรามักเลือกจะคิดถึง
    ในสิ่งที่เราอยากคิดครับ 
    มันทำให้คนเราเดินต่อไปด้วย
    กำลังใจที่มั่นคงครับ 
    
    ขอบคุณครับ 11.gif
    
    ดูแลสุขภาพดีดีนะครับ 16.gif
  • ไร้อันดับ

    20 มิถุนายน 2554 09:41 น. - comment id 1199916

    36.gif คุณกิ่ง 
    
    ประวัติศาตร์ มักย้อนรอยเดิม
    เป็นคำพูดของบิดาแห่งประวัติศาตร์
    
    ทำให้คนเราต้องศึกษาประวัติศาตร์
    เพื่อเข้าใจและหาแนวทางไว้ครับ
    
    ขอบคุณครับ 11.gif
  • ไร้อันดับ

    20 มิถุนายน 2554 09:45 น. - comment id 1199919

    36.gif คุณแบม 
    
    สมัยเรียนผมชอบฟังนิทาน
    เลยพาลมาชอบประวัติศาตร์
    จำได้ว่าตอนเลือกเรียนปริญญา
    ก็เลือกเอกประวัติศาตร์ก่อน
    ที่จะมาเปลี่ยนเอกที่ใช้ในการทำงาน
    ในภายหลังครับ 
    
    เรื่องต่อไป พอมีอยู่บ้าง
    แต่เวลายังไม่อำนวยครับ
    
    ขอบคุณครับ 11.gif
  • ยาแก้ปวด

    20 มิถุนายน 2554 09:55 น. - comment id 1199929

    17.gif17.gif17.gif
    
    อ๊ะ จ๊ากกก
    
    สหายตูมาแนวฟิกชั่นจินตนาการ อิอิ
    
    เอ้ย ไม่ใช่ มาแนวฮิสทอริโคลเรียวริตี้ อิอิ
    
    ไม่ต้องสงสัยอาไร ตูมั่ว 555
    
    ปล สายคอมยังเจ้งอยู่เลยอ่ะ
    นี่ไปขโมยสายรุ่นน้องมาเล่นเด่วคืนเขาแระ
    บ่ายนี้จาพยายามซ่อมคอมให้เสร็จ 
    ช่วงนี้ ไป แผลงกลิ้งกะยาหยีอยู่ อิอิ
    
    74.gif74.gif
  • ไร้อันดับ

    20 มิถุนายน 2554 09:56 น. - comment id 1199930

    5 , 6 
    29.gif คุณครูแก้ว 
    
    ผมชอบฟังเรื่องประวัติศาตร์
    ยิ่งได้คนที่มีความรู้อย่างครู
    มาคุยให้ฟังยิ่งสนุกใหญ่ครับ
    
    การเสียกรุงทั้งสองครั้ง
    ล้วนมาจากไทยแตกแยกสามัคคี
    ครั้งที่หนึ่งนี้ มีพระยาจักรีที่
    ไปอยู่กับพม่า และกลับเข้ามา
    เป็นใส้ศึก ทำให้กรุงศรี ฯ ต้องเสียไป 
    ในที่สุดกรรมก็ตามสนอง 
    อย่างที่ครูได้บอก
    
    หลังจากเสียกรุงฯ
    พระมหินฯ ก็ทรงถูกจับเป็นเชลย
    และได้สิ้นพระชนม์ระหว่างทาง
    ทรงครองราชย์ ได้เพียง 1 ปี
    
    ขอบคุณที่มาให้ความเห็นครับ 29.gif
    
    ปล.สำหรับรูปเป็นอย่างที่ครูบอกจริงๆ ครับ
    ผมหารูปพระยาราม ไม่ได้ เห็นรูปท่าน
    ดูองอาจ  สมเป็นยอดนักรบ
    จึงได้นำมาใช้ครับ 36.gif
  • ไร้อันดับ

    20 มิถุนายน 2554 10:39 น. - comment id 1199963

    36.gif คุณแกง ฯ
    
    เรื่อง พระยาราม
    เป็นเรื่องที่เกิดขี้น
    ช่วงปลายก่อนเสียกรุงฯ
    
    อีกคนที่เป็นเหตุให้เสียกรุงฯ คือ
    พระยาจักรี ที่เป็นใส้ศึก ครับ 
    
    ขอบคุณครับ 11.gif
  • ไร้อันดับ

    20 มิถุนายน 2554 11:35 น. - comment id 1199967

    36.gifสหายยา
    
    เรื่องนี้ อยากเขียนมานานแล้ว
    แต่เอาเวลาไปทำอย่างอื่น 
    
    เรื่อง นี้เป็นเรื่องจริง
    ผสมจินตนาการ 
    โดยคิดถึงนักรบที่ทำหน้าที่
    ต้านข้าศึกอยู่นานถึง 5 เดือน
    กลับถูกนำตัวไปแลก
    โดยคิดว่าข้าศึกจะยอมยุติ
    แต่ทีไหนได้ กลับต้องเสียกรุงฯ
    ในอีก 4 เดือนต่อมา 
    
    ใจของนักรบกล้าผู้นั้น
    จะคิดยังไงกันนะ 
    
    ปล. มีแผลงกลิ้งกะยาหยีด้วย
    ระวังเหอะ จะกลิ้งแล้วลุกไม่ขึ้น
    20.gif19.gif20.gif
  • อรุณสุข

    20 มิถุนายน 2554 11:43 น. - comment id 1199984

    2380193vf34iciwad.gif
    glitter-graphics.com
    
    พระยารามรณรงค์ผู้คงศึก
    ปัจนึกราญรอนสยอนแสยง
    นำทัพเรืออาทมาตเข้าลาดแทง
    ยังยุทธแย้งยืนยั่งเปี่ยมสังวร
    
    ยังเข้มแข็งแกร่งกล้าท้าศึกรบ
    จากอรุณถึงค่ำสบมิถ่ายถอน
    แม้นว่าน้อยด้อยพลรณจร
    ยังยกย้อนทัพไทยรบไพรี
    
    เพียงที่แพ้กลศึกเกินนึกกล่าว
    พระพ่อเจ้ามหินทราฯเสื่อมราศี
    จะถึงคราวสูญอาณาบารมี
    จึงไถ่ตัวท่านนี้กับศึกรบ
    
    สิ้นเจ้าคุณรณรงค์ฯจะยงยุทธ
    ก็สิ้นสุดนิยามความสงบ
    เลือดทหารท่วมท้องมหรรณพ
    ความสงบแผ่ซ่านเมื่อ บ้านพังฯ
    
    ขอบคุณ ท่านนักสืบ ครับ..อ่านสนุกทีเดียวฯ
    
    36.gif36.gif36.gif
  • อรุณสุข

    20 มิถุนายน 2554 12:03 น. - comment id 1199998

    มีเกร็ดเล่าต่อไปอีกนิด ว่า
    พระยารามรณรงค์สงครามเป็น
    ข้าหลวงเดิม ของพระมหินทราธิราช
    เข้าใจว่าเป็นพระราชครูด้านการรบ
    และยังโปรดให้ไปกินเมืองกำแพงเพชร
    ภายหลังได้ถูกเรียกประจำการที่กรุงศรี
    ซึ่งในขณะนั้น แม่ทัพมีชื่อได้เสื่อมสูญไปมาก
    ขณะที่ในกรุงก็ยังมี กลุ่ม ของ พระศรีเสาวราช
    น้องยาเธอ และ ออกญามหาเทพ ซึ่งเข้าใจว่า
    อริกันอยู่กับเจ้าคุณรามฯ จนเมื่อก่อนเสียกรุง
    ไม่นานเท่าใดนัก ก็ได้จับ พระศรีเสาวราช
    ประหารเสีย ออกญามหาเทพ ซึ่งเป็นนายทหารสนิท ของพระศรีเสาวราชจึงได้เข้ากับ
    พระ มหาธรรมราชา ในภายหลัง และได้ร่วม
    วางแผน เสนอ ให้บุเรงนองใช้กลศึก ขอตัว
    พระยามรามฯแลกกับการยุติศึก และพระมหินทร์ ก็ทรงเห็นชอบ หลังจากนั้น ก็ฝ่ายพม่า
    ก็ได้ส่งออกญาจักรี มาเป็นไส้ศึก การณ์ครั้ง
    กระทำได้โดยง่าย เพราะออกญาจักรีเป็นขุนนางผู้ใหญ่ รับราชการมาแต่ครั้ง พระมหาจักรพรรดิ และเป็นผู้เปิดประตูเมืองรับศึก
    เป็นผลให้อยุธยาต้องพ่ายสงคราม และเปลี่ยนราชวงศ์จาก สุพรรณภูมิมาเป็นพระร่วงเจ้า..โดยพระมหาธรรมราชา ซึ่งเป็น
    ราชนิกูลแห่งพระชัยราชาและยังสืบสายมาจาก วงศ์พระร่วงเจ้า แห่งสุโขทัย ด้วยอีกประการ ออกญามหาเทพ ภายหลังได้รับพระมหากรุณาแต่งตั้งเป็นออกญามหาเสนา สมัยพระมหาธรรมราชาธิราช..โดยมาเปลี่ยนตัวอีกครั้ง เมื่อ ออกญาราชมนู ได้รับโปรดเกล้าต่อมาสมัยสมเด็จพระนเรศวร .....ส่วนพระยารามฯไม่ได้กล่าวอีกเลย คาดว่าคงสิ้นชีพในคราวนั้น หรือไม่ก็คง เป็นเชลยศึก ในเมืองพม่า ...แต่เข้าใจว่าถูกประหารชีวิต เช่นกันฯ
  • ไร้อันดับ

    20 มิถุนายน 2554 13:58 น. - comment id 1200043

    15 , 16
    36.gifคุณอรุณสุข
    
    นักรบกล้าเกรียงไกรในกรุงศรีฯ
    ทำหน้าที่รักษาผู้ฝ่าด่าน
    ผ่านห้าเดือนผู้กล้าบัญชาการ
    ข้าศึกคร้านการรบจึงบทวน
    
    บุเรงนองวางกลหยุดพลรบ
    สารสงบศึกให้ส่งไปด่วน
    แลกกับพระยารามฯ ตามกระบวน
    ทรงฯ เห็นควร ยอมรับ จึงจับมา
    
    ไม่มีใครรู้ว่าผู้กล้าหาญ
    ท่านเบิกบานหรือเศร้าที่เขาหา
    เมื่อพระองค์ทรงห่วงปวงประชา
    นับรบกล้าอาจเบิกบานสำราญใจ
                  ------------
    
    ต้องขอบคุณทั้งกลอนและความคิดเห็น
    ของคุณอรุณสุข มากๆ ครับ
    
    จากความคิดเห็น
    ทำให้ผมได้ความรู้ใหม่ๆ ไม่น้อย
    แต่บางอย่างเกินที่จะไปวิพากย์วิจารณ์ครับ
    
    เพียงแต่อดคิดแทน
    นักรบที่ซื่อสัตย์ ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม
    แต่กลับได้ผลลัพธ์ คือถูกส่งตัวให้ข้าศึก 
    นักรบผู้นั้นอาจยินดี หรือ เสียใจ
    ผมไม่ทราบ จึงทิ้งท้ายกลอนไว้แบบนั้น
    
    ขอบคุณมากครับ 29.gif
  • อรุณสุข

    20 มิถุนายน 2554 17:14 น. - comment id 1200087

    ท่านสืบฯ
    
    พอได้ศึกษาจากหลายๆแหล่ง มีข้อมูลแตกต่างกันไปบ้าง ที่จะสะท้อนคุณสมบัติเฉพาะตนของท่านเจ้าคุณรามฯ แต่พอเห็นเค้าว่าท่านต้องมีฝีมือและความกล้าหาญ มากทีเดียวถึงกล้าต่อกรกับอริราชศัตรูที่มีกำลังอยู่มากทีเดียว แต่จากเค้าเรื่องการเป็นข้าหลวงเดิมทำให้คิดถึงว่า ความจงรักภักดีของท่านนั้น มากล้นประมาณ เมื่อคราวจับพระศรีเสาวราชสำเร็จโทษนั้นก็ด้วย เข้าใจว่าเป็นกบฏ ต่อสมเด็จพระมหินทรฯ ซึ่งก็เท่ากับก่อศัตรูภายในคือ ออกญามหาเทพ โดยตรงในระหว่างนั้น เข้าใจว่า คงมีการกระทบกระทั่งกันมานาน ด้วยพระศรีเสาวราชนั้น ก็เป็นขุนพลเจนศึกผู้หนึ่ง ที่ค่อนข้างจะสนิทสนมกับ พระราเมศวรแต่ก่อนมา ความบาดหมางครั้งสำคัญครั้งหนึ่งก็เมื่อคราวศึกบุเรงนองประชิดกรุง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิโปรดให้ที่ประชุมออกความเห็น เชื้อพระวงศ์และขุนนาง ก็แบ่งเป็นสองฝักสองฝ่าย ฝ่ายพระราเมศวรเป็นฝ่ายให้สู้ศึก  ฝ่ายสมเด็จพระมหินทรฯเป็นฝ่ายให้เจรจา ซึ่งหลังจากคราวนั้น ทั้งสองฝ่ายก็หมางใจกันมา พระราเมศวรท่านเสด็จพร้อมกับพระสุนทรสงคราม พระยาจักรี และไม่ได้กลับกรุงศรีอีกเลยเนื่องจากประชวรสวรรคตที่พม่า ส่วนพระสุนทรสงครามได้กลับมากรุงศรีอีกครั้ง และมีบทบาทในกรมวัง ส่วนพระยาจักรีก็ดังที่ทราบคือเป็นไส้ศึกและถูกประหารในกาลต่อมา ผลพวงจากความขัดแย้งครั้งนั้น ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพระมหินทรฯและพระศรีเสาราชแย่ลง รวมถึงข้าในพระองค์ของพระองค์ท่านด้วย ภายหลังจึงเกิดคดีพระศรีเสาวราชกบฏ และถูกสำเร็จโทษขึ้น ส่วนพระยารามฯและพระยามหาเทพ ก็อริกันมานับแต่นั้น จวบจนล่วงมาถึงสงครามครั้งที่สุด ที่บุเรงนองใช้กลศึกการขอตัวแม่ทัพแทนการสงบศึก และพระยารามก็ถูกส่งตัวไปให้ข้าศึกในคราวนั้น พระยามหาเทพ ท่านคงสนิทชิดเชื้อกับพระมหาธรรมราชา มาก่อน หรืออาจจะเข้าสวามิภักดิ์ภายหลังสิ้นพระศรีเสาราช ไปแล้ว เนื่องด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง พระมหาธรรมราชาและพระมหินทร์ไม่ดีด้วยประการหนึ่ง จึงภายหลังที่พระมหาราชารับบรมราชาภิเษกแล้ว พระยามหาเทพก็ไดรับ ตำแหน่งเจ้าพระยามหาเสนา ในการต่อมา อันนี้ก็ได้ข้อมูลจากหลายๆแห่งน่ะครับ มีบทวิพากษ์วิจารณ์กันไปหลายแขนงแต่ก็ประมวลมาแบ่งปันกับคุณสืบ ในฐานที่สนใจประวัติศาสตร์ด้วยกัน แต่เค้าลางข้อเท็จจริงคงได้มีการบันทึกไว้บ้างหาก หอหลวง ไม่ถูกเผาเราคงได้ทราบรายละเอียดมากกว่านี้มาก แต่เมื่อหลักฐานใหม่ๆปรากฏขึ้นประวัติศาสตร์ย่อมเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเรื่อง ศึกศิลาจารึก ที่วิพากษ์กัน มานาน เรื่องพระมหาธรรมราชาธิราช เรื่องมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามณี เรื่องพระมหาธรรมราชาลิไทและขุนหลวงพ่องั่ว ก็ล้วนแต่มีการวิพากษืกันมาก แต่ผลการวิพากษ์กลับเป็นเหมือนเหรียญสองด้าน ให้เราแตกฉานมากขึ้น เข้าใจเนื้อหามากขึ้นและสนุกที่จะศึกษาในชั้นรายละเอียดต่อไป ...ครับ..
  • ไร้อันดับ

    20 มิถุนายน 2554 21:10 น. - comment id 1200120

    36.gif คุณอรุณสุข
    
    ก่อนอื่นขอแก้กลอน
    ตอบความคิดเห็นก่อนครับ 74.gif
    
    นักรบกล้าเกรียงไกรในกรุงศรีฯ
    ทำหน้าที่รักษาผู้ฝ่าด่าน
    ผ่านห้าเดือนผู้กล้าบัญชาการ
    ข้าศึกคร้านการรบจึงทบทวน
    
    บุเรงนองวางกลหยุดพลรบ
    สารสงบศึกให้ส่งไปด่วน
    แลกกับพระยารามฯ ตามกระบวน
    ทรงฯ เห็นควร ยอมรับ จึงจับมา
    
    ไม่มีใครรู้ว่าผู้กล้าหาญ
    ท่านเบิกบานหรือเศร้าที่เขาหา
    เมื่อพระองค์ทรงห่วงปวงประชา
    นับรบกล้าอาจเบิกบานสำราญใจ
                  ------------
    
    ตกคำว่า "ทบทวน" ครับ
    
    จากที่คุณเล่าให้ฟัง
    ทำให้ผมพอทราบว่า
    พระยารามฯ คงมีความเป็นไปได้
    ทียอมเสียสละตัวเอง
    เพื่อส่วนรวม ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง
    คงต้องสรรเสริญถึงความกล้าหาญ
    ของท่านพระยาราม อย่างที่สุดมิได้ 29.gif
    
    ในยุคนั้น เจ้าเมืองสองแคว
    กลับไปยืนเคียงข้างฝั่งหงสา 
    ในประวัติศาสตร์ที่ผมอ่านมา
    แผนการให้นำตัวพระยารามฯ
    มาแลก ก็เป็นแผนการของ
    เจ้าเมืองสองแคว ซึ่งรู้ตื่นลึก
    หนาบางของกรุงศรีอย่างดี 
    ทำให้กรุงศรี ต้องเสียนักรบ
    คนสำคัญไปอีกคน
    
    ประกอบกับอย่างที่ครูแก้วว่า
    เจ้าพระยาจักกรี กลับเป็นไส้ศึก
    ประกอบกับพระมหินทร์ ฯ 
    ท่านทรงเชื่อคน ที่ไม่สมควรเชื่อ
    และทำร้ายคนที่ไม่สมควรทำร้าย
    ถึอเป็นบทเรียนอย่างหนึ่งจริงๆ ครับ
    
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดี
    ที่นำมาฝากกันครับ 
    
    ขอบคุณมากๆ ครับ  29.gif
  • ยกป

    20 มิถุนายน 2554 21:43 น. - comment id 1200131

    20
    
    48.gif
  • ไร้อันดับ

    21 มิถุนายน 2554 18:31 น. - comment id 1200249

    36.gif ยกป
    
    มาทำไร  
    กินไข่ละดิ 74.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน