สนามหญ้าม้ายาวสีขาวหม่น ชายสองคนนั่งอยู่แต่ดูห่าง ชายชราตาเศร้าเหงาลางลาง ชายหนุ่มกางหนังสือที่ถือมา ทั้งสองคนเคียงกันเย็นวันหนึ่ง วันที่ซึ่งความเงียบขึ้นเทียบฟ้า สายลมเอื่อยเฉื่อยฉิวพัดพลิ้วพา หัวใจล้าโรยแรงใต้แสงเงา ชายชรานั่งเหงามองเงาลูก เจ้าบุญปลูกนั่งนิ่งก็ยิ่งเหงา ความอ้างว้างในจิตสถิตเนา นึกถึงวันวัยเยาว์พาเจ้าเดิน มือของเจ้าที่ถือคือมือพ่อ เราเดินต่อตามทางไม่ห่างเหิน ปากเจ้าตั้งคำถามข้อความเพลิน พ่อยังเขินตอบไปไม่ได้ความ วันนี้พ่อถามเจ้า ว่าเซ้าซี้ บอกไม่มีที่ให้ฟังใครพล่าม หัวใจพ่อหรือกล้าพยายาม ตั้งคำถามต่อเจ้าแม้เหงาจัง ในความเงียบม้ายาวสีขาวหม่น มีหนึ่งคนทนเหงากับเงาหลัง รออีกคนหันกลับมารับฟัง เขายังนั่งตรงนี้ในที่เดิม. ------------- (ไร้อันดับ)
13 มิถุนายน 2554 15:13 น. - comment id 1197838
ยกป กินไข่มาก ระวังหน้าเหมือนไข่นะ
13 มิถุนายน 2554 11:18 น. - comment id 1197923
จำขึ้นใจเลย.......กลอนบทนี้ ขอนั่งนิ่งๆสักพักนะเพื่อไว้อาอัย ให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ "รออีกคนหันกลับมารับฟัง เขายังนั่งตรงนี้ในที่เดิม." เขียนเห็นภาพเลยนะคะ นึกถึงตัวเองเข้าไว้คุณไร้อันดับ คิดถึง.....รู้หรือเปล่า??? หือ???
13 มิถุนายน 2554 15:56 น. - comment id 1198441
คุณบูม ถ้าให้เขียนถึง 300 บท ผมแนะนำ คุณฤทธิ์ครับ คนนี้ สุดยอดมาก ทั้งการใช้คำ ทั้งพล็อตเรื่อง ผมยังติดตามผลงานเขา มาตลอดเลยครับ ถือว่า เป็นงานที่ทำให้ผมมีกำลังใจ สร้างงานของตัวเองขึ้นบ้าง จริงๆ แล้วงานคุณบูม ผมก็ว่าอยู่ในระดับน่าสนใจ ไม่น้อยครับ ลองแต่งยาวๆ ให้ผมอ่านบ้างซิครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่ให้กันครับ
10 มิถุนายน 2554 12:02 น. - comment id 1198501
มาดูคนบนม้านั่งค่ะ
10 มิถุนายน 2554 12:05 น. - comment id 1198502
ชอบกลอนนี้จัง... พ่อของพิมไม่ค่อยพูด เวลาไปหาท่านจัดแจงเอาของฝากให้ทาน เสร็จแล้วพ่อลูกนั่งมองหน้ากัน แต่ความรักและความผูกพัน ยากที่จะบรรยายค่ะ
10 มิถุนายน 2554 12:06 น. - comment id 1198503
มันเป็นช่วงวัยและเวลาสหายเอ๋ย เด่วในที่สุดเวลาและวัย ก็จะพบกันได้เอง ปะปะ ลุกจากม้านั่ง ไปหาสาวๆกันดีกร่า...ระหว่างรอมังเข้าใจชีวิต
10 มิถุนายน 2554 12:21 น. - comment id 1198506
อยากบอกรัก ท่านเหมือนกัน แต่ก็ไม่ทันแล้ว ท่านไปท่องเที่ยวไกลมากๆๆ ไม่มีรถเมล์สายไหนผ่าน กลอนบทนี้ความหมายดีมากๆๆๆค่ะ...
10 มิถุนายน 2554 12:58 น. - comment id 1198517
ดีจร้า...ขอรับ...ท่านพี่ รอด บทกลอนยอดเยี่ยม...จร้า... ถามเพื่อนๆ... ลูกชายของชายชราชื่ออะไร...อิอิ
10 มิถุนายน 2554 13:18 น. - comment id 1198527
คุณครูกระดาษทราย ขอบคุณที่มาดู คนบนม้านั่ง สบายดีนะครับ
10 มิถุนายน 2554 13:21 น. - comment id 1198531
คุณน้ำตาล ความรักในครอบครัว ยังมีให้ต้องพูดถึงอีกมากมาย ได้สบตาคนที่เข้าใจกัน บางครั้งก็มีค่า เกินกว่าจะใช้คำบรรยายใดๆ ผมเข้าใจครับ ขอบคุณครับ
10 มิถุนายน 2554 13:22 น. - comment id 1198532
สหายยา อยากนั่งอีกสักพัก ว่าแต่ว่างไหมล่ะ มานั่งเป็นเพื่อนกันนะ
10 มิถุนายน 2554 13:25 น. - comment id 1198533
คุณแกงฯ ถ้าจะบอก ท่านคงอยากฟัง เพราะเป็นเสียงที่ดังจากดวงใจ ขอบคุณครับ
10 มิถุนายน 2554 13:25 น. - comment id 1198535
.......... กลอนไพเราะและให้ข้อคิดดีจังเลย ..............
10 มิถุนายน 2554 13:27 น. - comment id 1198536
กลอนสื่อความหมายได้ดีจังครับพี่ไร้ฯ
10 มิถุนายน 2554 13:27 น. - comment id 1198537
คุณ กรต ลูกของชายชรา อาจชื่อหทัยชนก ถึงชื่ออาจไม่ใช่แบบนี้ แต่ลูกก็เป็นดวงใจ ของพ่อ แม่ เสมอว่าไหมครับ ขอบคุณครับ
10 มิถุนายน 2554 13:31 น. - comment id 1198540
คุณdin คนสองคน อยู่เคียงข้าง แต่บางครั้ง เหมือนห่างกัน หันไปใส่ใจความรู้สึกกันบ้าง โลกคงน่าอยู่อีกเยอะ ขอบคุณครับ
10 มิถุนายน 2554 13:33 น. - comment id 1198541
คุณกิ่งฯ ครอบครัวดี เป็นจุดเริ่มของสังคมดี ถ้าครอบครัวมีสุข สังคมคงมีสุขไปด้วย ว่าไหมครับ ขอบคุณครับ
10 มิถุนายน 2554 13:34 น. - comment id 1198542
ชอบจังเลยคะบทนี้ ชอบมากๆความทรงจำเกี่ยวกับพ่อของกระต่ายมีมากมายขออนุญาตแปะไว้สักเรื่องนะคะ นิทานกลางแสงจันทร์ กระต่ายใต้เงาจันทร์ ในยามราตรี ที่ความมืดมิดเริ่มมาเยือน เราจะมองเห็นดวงดาวน้อยใหญ่ กระพริบพร่างพรายอยู่บนท้องฟ้า ทักทายกลุ่มหมู่เมฆและดาวเดือนน้อยใหญ่ ดวงจันทร์ใสกระจ่างแสง แต่ไม่ได้ กระจ่างนวลผ่อง ไปเสียทั้งหมด บางส่วนคล้ายถูกแต่งแต้ม ด้วยม่านหม่น เลือนลางเหมือนเงาชีวิต นิทานกลางแสงจันทร์ ถูกแต่งเติมต่อเติม จาก บันทึกของพ่อ ตามฝันและจินตนาการ พ่อเคยเล่าว่า ภูเขา แม่น้ำ ลำธาร ล้วนมีชีวิต มองดูสิลูก มองท้องฟ้า มีดาวกี่ดวง ดาวดวงไหนกันน่ะที่จะเปล่งประกายสุขใส เหมือนแววตาของผู้คนที่มองดูด้วยความสุข และดาวดวงไหนกัน ที่คนเราจะให้นำทุกข์จากไปพร้อมกับดวงดาวที่กำลังจะลับหาย ฉันนั่งตักพ่อยิ้มอย่างมีความสุข มือข้างหนึ่งกอดพ่อพ่อเอาไว้ แหงนหน้ามองตาพ่อฟังอย่างตั้งใจ พ่อใช้มือโอบกอดด้วยแขนข้างหนึ่ง ส่วนมือขวาของพ่อ วาดนิ้วไปบนท้องฟ้า คุยเกี่ยวกับดวงดาว การเดินทาง ของผู้คน ที่อพยพมาใช้ชีวิตความเป็นอยู่ ตั้งถิ่นฐาน พ่อมักแฝงข้อคิด ไว้ทุกครั้ง แสงจันทร์เป็นแสงที่เย็นงดงาม น่าชม เหมือนกับมนุษย์ ถ้าเรารู้จักใจเย็น นุ่มนวล เมตตานั่นคือความงามที่อยู่ในจิตใจ แสงอาทิตย์รุ่มร้อน เผาผลาญ แต่ทรงพลังอำนาจ เหมือนมนุษย์อีกนั่นแหละ ที่ต้องรู้จักใช้อำนาจ ในทางที่ถูก ความรักก็เช่นกัน ถ้าลูกรู้สึก ว่า อ้างว้าง เหน็ดเหนื่อย จำไว้เสมอ พ่อวนเวียนอยู่ทุกอณูในห้วงอากาศ สายน้ำ ภูเขา หรือแม้แต่ใบไม้เล็กๆ อ้อมกอดของพ่อยังอยู่ในใจเสมอ ความรักพ่อ แทรกทุกอณูเนื้อของผิวทราย น้ำตาหลั่งออกมาได้ แต่เราอย่าความคิดที่เป็นทุกข์มาเหนือจิตใจ ความรักของพ่อความผูกพันธ์ของพ่อ ไม่เคยจางหายจากใจได้ นั่งมองแสงจันทร์ อยากจะเก็บความอ้างว้าง ความหวาดกลัว ในบางเรื่องให้ลบจากความทรงจำที่เลวร้ายให้เหมือนลิ้นชักที่ปิดตาย พ่อค่ะ บางครั้ง หนูก็สับสน บางครั้งหนูก็หวาดกลัว แต่บางอย่างด้วยเหตุผลบางประการ ที่หนูจำเป็นต้อง แข็มแข็ง อ้อมแขนของพ่อ นิทานของพ่อ เสียงของพ่อ สิ่งที่พ่อเคยปกป้องดูแลเสมอ เหลืออยู่ในแค่ความทรงจำ แล้วบันทึกเกี่ยวกับพ่อ วันแห่งความรักหรือวันไหนๆมีเพียงพ่อเท่านั้นที่อยู่ในใจหนูตลอดกาล
10 มิถุนายน 2554 13:48 น. - comment id 1198548
คุณกระต่าย อกของพ่อมีไว้ให้เจ้าซบ ให้เจ้าหลบหลีกห่างเส้นทางล้า มือของพ่อพร้อมเช็ดเกล็ดน้ำตา คอยโอบบ่าบอกเจ้าพ่อเข้าใจ แขนของพ่อพร้อมกางให้ร่างเจ้า โถมกายเข้าสู่อกยามหมกไหม้ หยดน้ำตาเปื้อนเสื้อปนเหงื่อไคล พ่อจะใช้มันเช็ดทุกเม็ดพราว หากจะร้องร้องไปให้เต็มที่ พ่อคนนี้อยู่ข้างทุกย่างก้าว เช็ดหัวใจลูกแก้วให้แวววาว ความปวดร้าวทั้งมวลให้ชวนมา พ่อจะขอแบ่งปันในวันทุกข์ ให้เจ้าซุกร่างสั่นหวั่นผวา จะโอบกอดกายสั่นให้ขวัญตา จนนิทราลาลับกับแสงเงา หากวันหนึ่งวันใดพ่อไม่อยู่ เจ้าจงดูท้องฟ้าเวลาเหงา พ่อจะอยู่ตรงนั้นเพื่อบรรเทา ความโศกเศร้าเข้ารุมจะคุ้มครอง เจ้าจงยิ้มให้ฟ้าต่อหน้าพ่อ และสัญญาว่าไม่ท้อพ่อขอร้อง พ่อจะอยู่ดูเจ้าคอยเฝ้ามอง นกสีทองของพ่อบินต่อไป.... กลอนนี้ผมเขียนให้ใครบางคน แต่พอมาอ่าน เรื่องของคุณ ทำให้อยากแบ่งปันกันอ่านอีกที ขอบคุณเรื่องงดงามที่นำมาให้อ่าน ขอบคุณมากครับ
10 มิถุนายน 2554 14:23 น. - comment id 1198555
เยี่ยม
10 มิถุนายน 2554 14:38 น. - comment id 1198559
แวะมาชวนไปนั่งตา กลม เล่นค่ะพี่ชาย
10 มิถุนายน 2554 14:40 น. - comment id 1198560
เอ๊า..ภาพไม่มา ลองอีกที
10 มิถุนายน 2554 14:48 น. - comment id 1198562
20
10 มิถุนายน 2554 14:51 น. - comment id 1198563
คุณคนกรุงศรีฯ ขอบคุณในกำลังใจ ที่ให้กันครับ
10 มิถุนายน 2554 14:53 น. - comment id 1198564
18 , 19 แม่แก้มแบ่มแบ๋ม มาชวนให้นั่งตากลม กลัวลมพัดเข้าตา นั่งทำตาหรี่ๆ แทนได้ไหมครับ
10 มิถุนายน 2554 14:55 น. - comment id 1198565
อาคุณยา มาลักไข่ ที่แม่แก้มแบ่มแบ๋ม วางแผนไว้ จนได้
10 มิถุนายน 2554 14:59 น. - comment id 1198566
20 หันไปตา กลม แปบเดียวเองงงง
10 มิถุนายน 2554 15:05 น. - comment id 1198568
คุณแบม ต่อว่าให้แล้ว แต่คนฟังไม่รู้สึก ยังหัวเราะคิกๆ คักๆ อีก
13 มิถุนายน 2554 16:09 น. - comment id 1198613
คุณมัส ดีใจจังที่คุณมา กลอนของ นักสืบ ไร้อันดับ ผมเขียนไปถึง 120 บท ซึ่งจริงๆ ผมคิดไว้แค่ 100 บท แล้วจะหยุด แต่วันก่อนคุยกับฉาง ฉางบอกว่า ผมยังสามารถ เขียนกลอนต่อได้ ผมก็มานั่งคิดตาม เลยเปิดบ้านในชื่อนี้ เพื่อจะเขียนงานต่อไป ตามที่ฉางบอก ผมจำได้ว่า ครั้งแรกที่จะเข้า มาเขียนกลอนที่นี่ ผมได้ฉาง กับ คุณมัส ที่ทำให้ ชื่อ นักสืบ ไร้อันดับ เกิดขึ้นในบ้านกลอน ผมไม่รู้จะกล่าวขอบคุณยังไงดี บอกได้แต่ว่า สิ่งที่ได้มา มันทำให้รู้สึกถึงคุณค่าของชีวิตตัวเอง จากคนที่ทำงานและอยู่ไปวัน มาสร้างสิ่งบางอย่าง จนกลายเป็นความฝันของตัวเอง ขอบคุณจริงๆ ครับ สำหรับกลอนบทนี้ ผมอยากให้ผู้อ่าน รู้สึกถึงความเหงา ของคนใกล้ตัว ที่เราอาจลืมใส่ใจอยากให้พูด ให้รับฟังพวกเขาบ้าง ว่าแต่ คุณมัส คิดถึงใครครับ ผมอยากรู้จัง อยากบอกว่าดีใจมากๆ อีกครั้งครับ
10 มิถุนายน 2554 22:52 น. - comment id 1198646
อยากกดไลร์กลอนนี้ซักร้อยครั้ง อ่านแล้วมันโดนใจให้คิดถึง ภาพของพ่อที่อยุ่ในใจให้ตราตรึง ได้คิดถึงเมื่ออ่านกลอนของพี่เอ๋ย....
11 มิถุนายน 2554 06:57 น. - comment id 1198670
ปลื้มมากชอบที่สุดครับ กินใจมากๆท่านไร้อันดับ
11 มิถุนายน 2554 07:51 น. - comment id 1198677
คุณนักสืบไร้ชื่อ ความผูกพัน ความรัก ความห่วงหา ในครอบครัว ผมเชื่อว่ามีอยู่อย่างมากมาย แต่บางครั้งขาดการแสดงออก น่าเสียดาย ว่าไหมครับ ขอบคุณครับ
11 มิถุนายน 2554 07:55 น. - comment id 1198678
คุณสุริยันต์ ความรักความผูกพัน ผมว่าไม่มีที่ไหนจะมากเท่ากับ คนในครอบครัวที่มีให้กัน ผมเชื่ออย่างนั้น แต่วันๆ ต่างคนต้อง ทำหน้าที่ของตัวเอง จึงลืมการแสดงออก ทำให้บางคนโหยหา สิ่งเหล่านั้น สบายดีนะครับ ขอบคุณครับ
11 มิถุนายน 2554 11:11 น. - comment id 1198694
30
12 มิถุนายน 2554 21:35 น. - comment id 1198964
จะเขียนอะไรได้....นอกจาก..รออ่านต่อค่ะ อยากอ่านแบบ...เป็นเรื่องยาว ๓๐๐ ตอนเลยค่ะ สำนวนท่าน...เป็นครูในการเขียนของบูม....ด้วยนะคะ จะแวะมารออ่าน...อีกนะคะ ........................................
15 มิถุนายน 2554 10:09 น. - comment id 1199121
แม้จะหลุดเฟรมไปแล้วก็มาตอบคำถาม ที่คุณนักสืบถามว่าคิดถึงใคร ก็คิดถึงคุณนั่นแหละ ป๊าดธ่อ ไม่ได้คุยกันนานแล้ว ทีนี้ควรรู้ว่าต้องทำอย่างไรนะ อย่าให้เสียเลือดเสียเนื้อ รีบกลับกรมรายงานตัวด่วน
15 มิถุนายน 2554 22:39 น. - comment id 1199242
คุณมัส มาตอบให้ทราบจริงๆ ขอบคุณครับ รู้แล้วครับว่าต้องทำยังไง แต่ยังหาทางกลับบ้านไม่ถูก ยังไง อย่าให้ผมต้องเสียเลือด เสียเนื้อนะครับ จะรีบกลับครับ