น้องคือดอกรักซ้อน..เมื่อตอนสาย
จ้อง - เจรียงคำ
อาจดูเหมือนหมางเมิน..เกินไปนิด
อาจดูเหมือนความคิด..ไม่เคยถึง
อาจดูเหมือนผ่านเลยเฉยบึ้งตึง
อาจเหมือนหนึ่งไม่เห็นเป็นสำคัญ
แต่ลึกลึกลงไป..ใจเล็กเล็ก
มิใช่เหล็กหล่อนูนหรือปูนปั้น
ปรารถนาภายในห้วงใจนั้น
แอบผูกพันกลายกลายทางสายตา
สิทธิ์มิอาจเผยออกแย้มดอกรัก
เพียงพักพัก เผลอไผล..มองใบหน้า
เพียงคิดคิด ไขว้เขว..บางเวลา
เพียงแอบหวง ห่วงหา..บางท่าที
วาสนาน้อยเอย..เคยร่วมสร้าง
จึงต้องร้าง-ห่างหน..คนละที่
ยิ่งเห็นสายตาน้องมองอย่างนี้
ราวสุมดวงฤดี..พี่ทรมาน
เมื่อเปลวเพลิงเริงล่อโหมก่อเลศ
โชนรอบเขตเก็บเชื้อ..เอื้อเพลิงผลาญ
องศาร้อนต้อนไล่เผ่าไหม้นาน
เจียนแทบจุดต้านทานทางความร้อน
แม้นดูเหมือนว่าพี่ไร้ทีท่า
โปรดสายตาอย่าทอดอย่างออดอ้อน
แม้นดูเหมือนเงียบงันมิสั่นคลอน
ก็โปรดอย่าเว้าวอนด้วยวาจา
หากแต่พี่ประสงค์ซ่อนกรงเล็บ
และชักเก็บหัวใจการไล่ล่า
แต่หากน้องนั้นหมายคิดทายท้า
เสืออาจเลือดขึ้นหน้าไร้ปรานี
ที่ดูเหมือนหมางเมินเกินไปนิด
ทั้งที่จิตคิดจองเป็นของพี่
หาใช่เพราะชิงชัง...แต่หวังดี
มิอยากทำย่ำยีราคีคาว
ตัดใจแต่วันนี้..น้องที่รัก
ลุกตั้งหลักเสียใหม่ก่อนใจก้าว
อาจความจริงยิ่งยวด..ความปวดร้าว
เก็บความรักสีขาว..พร่างพราวไว้
พรหมลิขิตสำรอง ..อาจหมองหม่น
เกินกว่าทนยิ้มรื่นหยิบยื่นให้
ถึงดอกรักปักจองเต็มสองใจ
เราต่างรู้ใช่ไหมไกลเกินจริง
โปรดเข้าใจท่าทีของพี่บ้าง
มีฐานะไม่ต่าง..เจ็บอย่างยิ่ง
ครอบครัวต้องมีหลักให้พักพิง
มิอาจทิ้งลาล้มให้ตรมตรอม
น้องคือดอกรักซ้อน..เมื่อตอนสาย
กลิ่นกำจายโชยฟุ้งจรุงหอม
สุดหลงใหลใฝ่ชมฝันดมดอม
พวงพะยอมแย้มยั่วก็กลัวช้ำ
จึงจำใจจากจรแต่ตอนต้น
อเวจีสีหม่นบนคืนค่ำ
สิ้นตรงจุดนัดพบจบเงื่อนงำ
ใต้ราตรีสีดำหน้าคอนโดฯ
....................................
ตัดใจจบหลบเลี่ยงก่อนเพลี่ยงพล้ำ
ตัดใจจำอำลาหน้าคอนโดฯ
~ ๒ มีนาคม ๒๕๕๔ ~