พี่เจ้าบทเจ้ากลอนน้องย้อนเยาะ พูดไพเราะคล้องจองน้องย้อนใหญ่ จำมาจากลิเก..เวทีใด น้องคลื่นไส้จริงค่ะ อยากอาเจียน คุณพี่พูดอะไร..ฟังไม่ชัด ตีสำบัดสำนวน..ชวนคลื่นเหียน ซ้ำยังชอบหยิบยก..พูดวกเวียน พี่คงเรียนจบด้าน..โบราณคดี เชยแล้วค่ะเขียนกลอนมันย้อนยุค เดี๋ยวนี้ต้องเฟสบุ๊คค่ะคุณพี่ ทวิตเตอร์ต้องแอดแชทบีบี เขียนกลอนคุยน้องยี้..แบบนี้เอ๊าท์ มัวเขียนกลอนคุยกันมันยืดเยื้อ บอกน่าเบื่อยากเย็นช้าเป็นเต่า ไฮสปีดเร็วแรงพุ่งแซงเงา- ของรากเหง้าเก่าแก่แต่โบราณ พี่เสียอกเสียใจรู้ไหมเอ่ย ว่าพี่เชยเฉิ่มนัก..พูดหักหาญ ไม่อินเทรนไม่รัก..พี่ดักดาน น้องขอผ่าน..หาอื่นมาชื่นชู พี่จึงมาเขียนกลอนสะท้อนพจน์ บรรยายความสลดและอดสู ใช่เพราะแปลบใจปวดชวดพธู แต่หดหู่เหลือเกินน้องเมินกลอน หากพี่ปองน้องเมิน..ก็เชิญน้อง แต่ขอร้องอย่าหักเมินอักษร อย่าทอดทิ้งชิงชังแววสังวร เถิดอาทรกาพย์กานท์..สืบสานที ส่วนตัวพี่นี้แม้..น้องแลข้าม จะไปตามทางหม่น..ที่ป่นปี้ หากน้องเห็นสักยาม..ถึงความดี กลับมาอ่านงานพี่..แค่นี้พอ ~ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ~
20 กุมภาพันธ์ 2554 09:35 น. - comment id 1161374
คนรุ่นใหม่ใช้เฟสบุ๊คสนุกสนาน สื่อสารผ่านเวปไซค์ทันใจหนอ แชทกระจายทั้งนายนางต่างคอยรอ หาผู้คนมาเติมต่อเจ๊าะแจ๊ะกัน คุยผ่านกลอนอ่อนหวานปานน้ำผึ้ง คิดคำนึงจากหัวใจมุ่งหมายมั่น แต่ละวรรคแต่ละตอนของกลอนนั้น มาจากจินต์ที่กรองกลั่นแล้วเป็นกลอน ผ่านเฟสบุ๊คสนุกสนั่นกันชั่วครู่ หรือจักรู้รสภาษาในคราก่อน เดี๋ยวก็มาแล้วก็ไปไม่อาทร มีสิ่งใดให้ยกย้อนตอนอยากจำ หากอนงค์น้องนางต่างว่าช้า ไม่ทันใจในแก้วตาดูน่าขำ แค่ภาษายังไม่รู้ในรสคำ จะซาบซึ้งอารมณ์ร่ำได้อย่างไร
12 กุมภาพันธ์ 2554 09:07 น. - comment id 1183719
เอื้อนเอ่ยคำให้สนุกทุกประโยค เหมือนเป็นโรคกานท์กลอนย้อนสมอง แม้ทักทายบอกรักมักคล้องจอง พูดน้ำลายแตกฟองพ้องลีลา คนโบราณผ่านมาลีลามี แต่งตัวดีเดินถนนคนอิจฉา เข้าไต่ถาม"แหวนนี้ท่านได้แต่ใดมา" ทั่วพาราทั้งหมดเจ้าบทเจ้ากลอน อิอิ อยากจะเป็นเหมือนเดิมจัง
9 กุมภาพันธ์ 2554 13:25 น. - comment id 1184175
อ่านกลอนพี่ทุกครั้งคลังภาษา ช่างสรรหาเหลวไหลให้หัวร่อ ต้องทบทวนครวญคร่ำจนฉ่ำคอ แต่ต้องรอนานที..กลอนมีมา อย่าน้อยอกน้อยใจ ในfacebook มันเป็นยุคไอทีนะพี่จ๋า โลกมันยั่วตัวน้องอยู่ท้องนา เรื่องหน้าตาต้องสร้างเพื่องกว้างไกล ต่อกลอนพี่ทุกเวป..จนเล็บฉีก มิเคยหลีกตามปลอบ..ถ้าตอบไหว ฝีมือไม่ยอดเยี่ยมทัดเทียมใคร จึงทำใจแอบอ่านแล้วผ่านเลย คืนนี้ขอ twitter เจอกับพี่ รัฐขยี้..ชายแดนใช้แผนเห่ย ฆ่ากันเอง+ฆ่าสกุลที่คุ้นเคย จะลงเอย..เอาหัวรอด..ไอ้ยอดเลว ......(พอดีกว่า..พี่..เดี๋ยวบานปลาย) ......(บูมไปสนามอื่น..ดีก่า) .............รอกลอนท่านเสมอ...
9 กุมภาพันธ์ 2554 13:38 น. - comment id 1184178
สวัสดีครับน้องบูม มาเร็วไปเร็วจัง แต่ก็แหมทุกครั้งที่มาก็ชื่นใจพี่ชายจริงๆ ก็อย่างว่าละครับ จ้อง เจรียงคำ นี่ครับ ก็ต้องจดๆจ้องๆ..นานหน่อยกว่าจะมาทีเนอะ เรื่องอื่นก็นะ...เอาใจช่วยพี่น้องร่วมโลกเราแล้วกันนะ..ให้คลี่คลายโดยเร็ว อย่างอื่นก็ต้องบอกว่า..เวรก๊ำ..เวรกรรมเน้อ
9 กุมภาพันธ์ 2554 13:46 น. - comment id 1184179
ถูกใจแซมอีกแล้วค่ะ.. แซมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ติดตามงานของพี่จ้องเสมอมา..แซมอยู่ไกล ไม่ค่อยมีโอกาสได้อ่านงานเขียนที่ดีๆ บ่อยนัก.. ส่วนใหญ่เมื่อแซมมีเวลา แซมก็เข้ามาอ่านที่ Thaipoem นี่แหละค่ะ.. งานเขียนดีๆ ของพี่ๆ เป็นแรงใจให้แซมมาเขียนกลอน..แซมแค่ผู้ฝึกหัดเท่านั้นเองค่ะ..ยังต้องเรียนรู้อีกมากมาย.. ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ.. แซมค่ะ
9 กุมภาพันธ์ 2554 14:14 น. - comment id 1184184
สวัสดีครับคุณน้องแซม ปลื้มใจครับถ้างานที่พี่ตั้งใจเขียนนั้น ทำให้น้องแซมสนุกตามก็ยินดีมากๆครับ แต่งานของน้องแซมก็สวยงามและจับใจเลยทีเดียวนะครับขอบคุณเช่นกันครับ ที่แบ่งปันแลกเปลี่ยนความสุขกันและกัน
9 กุมภาพันธ์ 2554 14:19 น. - comment id 1184186
สวัสดีครับคุณน้องแซม ปลื้มใจเสมอครับที่งานที่พี่ตั้งใจเขียนถูกใจน้องแซมก็เป็นกำลังใจกันและกันครับ ผลงงานของน้องแซมเองก็สวยงามและจับใจเช่นกันครับ..ก็ถือว่าแบ่งปันกันนะครับ
9 กุมภาพันธ์ 2554 15:31 น. - comment id 1184199
กลอนเพราะมากเลยค่ะ เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็หาว่ากลอน..โบราณ แต่หนูคนนึงแหละ ที่รักในการแต่งกลอน แต่งไม่เก่งหรอกค่ะ แต่ก็ชอบ
9 กุมภาพันธ์ 2554 15:35 น. - comment id 1184201
เจ้าจะเกลียดชังอย่างไรพี่ไม่ว่า ขอก้มหน้าเขียนกลอนอักษรสาส์น ถึงทรามวัยจะหัวเราะเยาะกลอนกานท์ แต่วิญญาณกลอนไม่สิ้นจากถิ่นไทย.......... ........................................................ ก็ต้องยอมรับความจริงที่แสนเจ็บปวดครับว่าการสื่อสารยุคใหม่ทำให้เสน่ห์ของบทกลอนอาจเปลี่ยนไป.....แต่วิญญาณเจ้าบทเจ้ากลอนของคนไทยมันอยู่ในสายเลือดทุกดีเอ็นเอผมไม่เชื่อว่ามันจะขาดหายไป แต่อาจเปลี่ยนรูปไปบ้างก็ถือเป็นเพียงสีสันเท่านั้นครับ......... ...............คุณจ้องครับฝีมือยังเฉียบเหมือนเดิมครับลื่นไหล ใช้คำง่าย ๆ และสัมผัสในทุกวรรคมีคำภาษาอังกฤษปนแต่กลมกลืนมาก....ขอชมเชยด้วยใจจริงครับ.......เออ..รูปแบบใหม่...บทกาพย์พี่คิดขึ้นใหม่ครับกาพย์แสงสุริศรี (กาพย์ที่มีความงามดุจแสงตะวันยามรุ่งอรุณ)....ลองเข้าไปอ่านในผลงานเรื่อง.......บุญกองข้าว...เป็นกลิ่นอายของพื้นบ้านครับ.. ด้วยรักครับ
10 กุมภาพันธ์ 2554 10:50 น. - comment id 1184352
กลอนสนุกครับ ชอบครับ
11 กุมภาพันธ์ 2554 08:16 น. - comment id 1184481
สวัสดีคุณตะวันยามเย็นครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คงได้คุยกันอีกนะครับ สวัสดีครับท่านสุรศรี..ต่อกลอนท่านสักบทนะครับ เจ้าจะเกลียดชังอย่างไรพี่ไม่ว่า ขอก้มหน้าเขียนกลอนอักษรสาส์น ถึงทรามวัยจะหัวเราะเยาะกลอนกานท์ แต่วิญญาณกลอนไม่สิ้นจากถิ่นไทย..(ท่านสุรศรี) แม้นวิญญาณ์ข้าแหลกสูญแตกดับ ล่วงลาลับอัตตะสิ้นสมัย แต่วิญญาณกานท์กลอนจักจรไป อยู่คู่ลมหายใจ..มวลมนุษย์ (จ้อง) ว่างๆจะเข้าไปศึกษาผลงานดีๆของท่านแน่นอนครับ สวัสดีคุณกามนิตครับ สบายดีนะครับ
15 กุมภาพันธ์ 2554 12:04 น. - comment id 1184937
น่าน้อยใจ นะคนไทยสมัยนี้ ลืมความดี วลีกลอนอักษรสาส์น บรรพ์บุรุษจุดประกาย ในดำนาน ลืมสืบสาน แค่ผ่านตา ไม่มามอง ยังบ่นบอกตอกใส่หน้าว่าคนเขียน ช่างพากเพียรเขียนคิดจิตบกพร่อง มัวเล่นศัพท์ เล่นคำ ใจลำพอง สัมผัสพ้อง มองอย่างไร ไม่จำเป็น หารู้ไม่ ในวรรคตอนของกลอนนั้น กว่าขับขาน คิดอ่านหนักแสนยากเข็ญ เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนแสนลำเค็ญ กว่าจะเป็นกาพย์กลอน ..แทบอ่อนใจ!