กลอน-เก่า-เก็บ
-ดิสยเมธา-
เคยจับเจ่าหลาบจำกับความเจ็บ
เขียนมันเก็บเป็นกลอนตอนสิบหก
คงเหลือเพียงรอยจางดูร้างรก
ฝุ่นเปื้อนเปรอะสกปรกแปดศกปี
ชักลิ้นชักอย่างละมุนยังฝุ่นคลุ้ง
มีฝูงยุงพุ่งออกมาพากันหนี
โอ้เจ้ายุงอย่าถือโกรษขอโทษที
ที่รุกรานสถานที่ที่เจ้าครอง
เศษกระดาษ-กระจัดกระจายมิได้จัด
จับยัดยัดสุมสุมเอาพร้อมข้าวของ
กองกระดาษขาดฉีกอีกหนึ่งกอง
คือสุดท้ายอันหมายปองขอมองชม
เพลินรอยทดบทกวีทีละหน้า
ล้วนขีด 'ฆ่า' ด้วยจิตข้ามันขื่นขม
เปลี่ยนสำนวนปรวนแปรแล้วแต่ลม
เหมือนอารมณ์แปรปรวนล้วนแต่เลว
บ้างร้อยเรียงไพเราะเพราะคัดใหม่
หากเขียนได้มินานนมก็ล้มเหลว
คนอย่างข้าจับจดโทษข้าเลว
จึงแหลกเหลวดั่งโคลนเลนเช่นชีวิต
เพียงบทเดียวบาทเดียวรวดเดียวจบ
สมบูรณ์ครบคล้องจองครรลองจิต
บรรทัดเดียวสองวรรคจากชีวิต
ขึ้นต้น'ดิส...' ชื่อเจ้าตามด้วยนามสกุล
นามเจ้าเพราะกว่ากวีแห่งสวรรค์
แม้นออกเสียงเพียงโลกันตร์ก็พลันหมุน
เปี่ยมสัมผัสนอกในอันหวานละมุน
ทั้งทารุณ-การุญข้ามานานปี
กลอนเก่าเก็บบทนี้แปดปีกว่า
เขียนขึ้นมาไว้ประจักษ์เป็นสักขี
เพียงบทเดียวรักเดียวคือเจ้านี้
ผู้เป็นอนุสาวรีย์แห่งหัวใจ