๑. กลับบ้าน o กี่ครั้งแล้วที่นับได้กลับบ้าน คงประมาณไม่มีปีละหน นานเท่าไหร่ไม่รู้อยู่กับคน ที่เวียนวนเพลิดเพลินการเดินทาง o หยิบกระเป๋าหนึ่งใบแบกใส่บ่า พร้อมศรัทธาข้างหลังหวังอยู่บ้าง มองเห็นแสงไฟเคลื่อนอย่างเลือนลาง เหงาอ้างว้างอบอุ่นละมุนใจ o ฤดูหนาวแบบเก่าย่างเข้ามา ทอดสายตาผ่านกระจกอกสั่นไหว ไม่อาจรู้และเห็นความเป็นไป จากคนไกลไปลับใกล้กลับคืน o ถึงหน้าบ้านใจสั่นหวั่นการพบ โผกอดซบตระหนกอกสะอื้น น้ำตาไหลไปพลางระหว่างยืน ที่กล้ำกลืนฝืนต่อการรอคอย o พ่อและแม่แก่ชราคงหว้าเหว่ ยังทุ่มเทงานหนักให้พักหน่อย ใบหน้ารับกับผิวเห็นริ้วรอย กำลังถอยทุกแห่งล้าแรงลง o มีของฝากจากเมืองอยู่เบื้องหน้า ซื้อกลับมาเพื่อให้อย่าไหลหลง โทรทัศน์ที่พร่ำตามจำนง เพื่อเสริมส่งความรู้ที่อยู่ไกล. ๒. กลับเมือง o มากับความมุ่งหวังกำลังล้า ด้วยแววตามุ่งมั่นถึงวันใหม่ หิ้วกระเป๋าเดินทางขึ้นอย่างไว ท่องเที่ยวในนครอันร้อนรุม o เสียงเครื่องยนต์บรรเลงเปิดเพลงรับ นั่งลงหลับพักตาเวลากลุ้ม อยู่ในโลกอ้างว้างนั่งข้างมุม ประมาณทุ่มกว่ากว่าตีตั๋วมา o ผ่านหมู่บ้านร้านค้าไฟฟ้าดับ เริ่มต้นนับการเดินเผชิญหน้า ความห่วงใยจดจำเพื่ออำลา เหลือเพียงว่าโชคดีทวีคูณ o มองเห็นตึกสูงใหญ่แล้วใจเศร้า ชีวิตเราอ่อนเพลียอาจเสียศูนย์ ในสังคมขาดเหลือไม่เกื้อกูล หลงเทิดทูนเงินทองและของแพง o มีของฝากจากหลังกำลังกรุ่น ข้าวเหนียวอุ่นไก่แนบมาแอบแฝง เติมกำลังห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง ให้ใจแกร่งหาญกล้าพร้อมฝ่าฟัน o เพื่อเริ่มต้นความฝันของวันใหม่ สู้ต่อไปพลั้งพลาดอย่าหวาดหวั่น กำลังใจสดชื่นที่ยืนยัน รอเพียงวันต้อนรับการกลับมา. .........................................
23 พฤศจิกายน 2553 22:47 น. - comment id 1170281
Welcome Home...คะ
24 พฤศจิกายน 2553 09:34 น. - comment id 1170298
แต่งได้น่าอ่านดีนะคะ นั่งรถทัวร์ตอนกลางวัน ชอบทานข้าวเหนียว ไก่ย่างค่ะ
24 พฤศจิกายน 2553 09:43 น. - comment id 1170301
นั่งรถยาวเลยนะคะ
24 พฤศจิกายน 2553 10:10 น. - comment id 1170303
เดินทาง โดยสวัสดิภาพ นะ
24 พฤศจิกายน 2553 15:50 น. - comment id 1170371
สวัสดีครับ....พงษ์ สุนันท์ ..มาแวะทักทายเพื่อนใหม่นะครับ....ยินดีที่ได้รู้จักคับ....การกลับบ้านคือการกลับไปหาหัวใจดวงเดิมที่เติมโตและได้สิ่งอบอุ่น...ไปหาหัวใจแห่งรักที่ยั่งยื่นครับผม....นั้นคือการกลับบ้านของทุกคนครับ.... ....อยากกลับบ้านจังเลย.....ไปหัวใจที่ยั่งยื่นกันดีกว่าเพื่อนๆๆๆ
24 พฤศจิกายน 2553 17:47 น. - comment id 1170417
ไปเลยเลยเหรอ...
24 พฤศจิกายน 2553 21:48 น. - comment id 1170458
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทาย และเป็นกำลังใจ
24 พฤศจิกายน 2553 21:54 น. - comment id 1170459
เมื่อคำกล่าวอำลาสิ้นสุดลง ความคิดถึงและความอาลัยอาวรณ์บ่งบอกบนใบหน้า รถเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆไม่มีแล้วเสียงร่ำลา เหลือไว้เพียงเสียงเครื่องยนต์คำรามหึ่มๆอย่างเงียบๆ แสงแดดในยามเช้าที่ส่องลงบนนาข้าวมองดูสีทองอร่ามคล้ายที่ผืนนั้นเต็มไปด้วยสมบัติอันมหาศาล เห็นชาวนาช่วยกันลงแรงอย่างแข็งขัน ฝูงนกบินโฉบเฉี่ยวไล่กินแมลงกลางท้องทุ่ง ภาพเหล่านี้ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้างสองข้างทาง การดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายบนวิถีของชาวนา ก่อนที่วิถีคนเมืองจะเข้ามากลืนกินทุกอย่างไป. .......................
26 พฤศจิกายน 2553 19:01 น. - comment id 1170734
สวัสดีครับคุณพงษ์ สุนนท์ ชื่นชมกลอนครับ