ขยับปีกบินวนบนเวหา ทอดสายตาเบื้องล่างอย่างเย้ยหยัน สัตว์น้อยใหญ่เดินวิ่งแย่งชิงกัน ช่างน่าขันชีวิตพวกติดดิน เดินวนเวียนโลกกว้างใหญ่คงไม่รู้ บ้างขุดรูบ้างซุกกายใต้เพิงหิน บ้างดำน้ำผุดว่ายไม่ยลยิน บ้างหากินตามพงหญ้าก้มหน้าเดิน เจ้าอินทรีย์มองไกลวิสัยทัศน์ มิจำกัดทิศทางกางปีกเหิน มองผืนดินแผ่นฟ้าพาเพลิดเพลิน ผ่านโขดเขินแนวป่าร่าเริงใจ ถลาลมล่องผ่านกาลเวลา ยามอ่อนล้าโผลงตรงไม้ใหญ่ จับเกาะกิ่งหลบร้อนซ่อนเงาใบ ฟ้ากว้างใหญ่ใยมาหลบคบคาไม้???
27 ตุลาคม 2553 17:00 น. - comment id 1164419
แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ
27 ตุลาคม 2553 17:07 น. - comment id 1164423
เยี่ยมครับสหาย และสุดท้ายก็ตายเหมือนกันอยู่ดี เนาะ
27 ตุลาคม 2553 17:21 น. - comment id 1164434
แวะมาอ่านกลอนเพราะๆค่ะ...
28 ตุลาคม 2553 02:54 น. - comment id 1164529
หากบนฟ้ามีคาคบให้หลบร้อน คงไม่ร่อนลงมาให้ว่ากล่าว คงไปสร้างรังรวงริมดวงดาว อยู่บนฟ้าสกาวไปนิรันดร์ แต่ว่าฟ้ากว้างใหญ่ไร้คาคบ พ่อแม่เหยี่ยวก็หลบคบคานั่น เหยี่ยวก็เกิดบนโลกใช่ดวงจันทร์ อยากจะบินเหมือนกัน ก็จงบิน เจ้ารู้ได้อย่างไร? เหยี่ยวเย้ยหยัน สัตว์น้อยใหญ่แย่งชิงกันแทบทั้งสิ้น บินบนฟ้าก็มองหาอาหารกิน ใช่ว่าบินแล้วยิ้มเยาะหัวเราะใคร ถ้าดูถูกตัวเองก็จะดูถูกคนอื่น ภาษิตโบราณว่าไว้นานแสนนาน หรือว่าท่านบพิตร กำลังดูถูกตัวเอง? มาจิบชากันดีกว่า
28 ตุลาคม 2553 05:43 น. - comment id 1164543
สวัสดีคะ คุณบพิตร เข้ามาทักทายคะ