แพรวพิลาส วิเวกแว่วหวามไหวในสิ่งซ่าน เสียงคลอผ่านอารมณ์บ่มสดใส เสนาะโสตสุดแสนซึ้งตรึงหทัย ปลุกห้วงใจซ่านฟุ้งจรุงอารมณ์ โลมรำลึกถึงวันกาลเศร้าหวาน สิ่งสำราญในวจีเปรมปรีดิ์ผสม ปลุกความนัยสำนึกตรึกเคยชม ผ่านภิรมย์จนพล่านสะท้านใจ ผสานเสนาะทำนองสนองแว่ว เสียงพริ้งแพร้วตรึงสั่นสุดหวั่นไหว ปลุกหวานซึ้งปนเศร้าเคล้าทรวงใน พลิกหวามไว้ผ่านชมภิรมย์ครวญ เสมือนประหนึ่งหัวใจคล้ายเร่ร่อน สุดสะท้อนวูบวาบอาบกำสรวล เพลินสำเนียงเคียงเคล้าสู่เย้ายวน เหลืออบอวลสิ่งหวานผ่านระทม ไฉนเสนาะเสียงผ่านเย้าสุดเฝ้าหา สุดหมายคว้าละเมอเผลอขื่นขม โถหลงเพ้อครวญคร่ำพร่ำอารมณ์ คล้ายฝากตรมผ่านห้วงดวงใจจาง ละโลดลิ่วค้นเสียงสำเนียงพลิ้ว ที่วาบหวิวนวลนางมิสร้างขนาง ช่างแพรวพรายสายตาซิเลือนราง อกเคว้งคว้างไหวหวั่นซ่านซึ้งใจ ลอบแอบชมหัวใจคล้ายปนเศร้า แว่วหวานเคล้าแช่มชื่นระรื่นใส สุดซาบซึ้งจนผวาพาแกว่งไกว สะท้านไหวไพเราะเสนาะตรึง ผ่านกาลสราญมิเป็นดั่งเช่นคิด แสนวิปริตฟุ้งซ่านผ่านหนามขึง ชวนอลวนป่วนหทัยล้วนใฝ่คนึง เสียงซ่านซึ้งเสนาะไว้ยากได้เคียง. * แก้วประเสริฐ. *
15 ตุลาคม 2553 18:36 น. - comment id 1162174
วลีถ้อยร้อยภาษามาเสกสรรค์ ช่างจำนรรจ์บันดาลคำหวานหอม รมณีย์รสแห่งบทกลอนนั้นเพียบพร้อม ยามอกตรอมถนอมในหทัยกาล...
15 ตุลาคม 2553 22:07 น. - comment id 1162190
หลานตัวจ้อยด้อยภาษามาเยือนถิ่น ดังโบยบินจากไปไกลสุดเหลือ มาครานี้ได้ร่มเงาลุงจุนเจือ โปรดเอื้อเฟื้อเมตตาภาษากวี แวะมาทักทายลุงแก้วจ้า^^ บทกลอนยังเสนาะเพราะหูเช่นเคย ขอเวลาไปเคาะสนิมซักสองครู่ จะมาเยือนใหม่555+
15 ตุลาคม 2553 22:10 น. - comment id 1162191
ลืมของฝาก หาข้าวสวยร้อนๆมากินกับแกงส้ม(เจ เข้ากับเทศบาล เอ๊ย เทศกาล)
15 ตุลาคม 2553 22:35 น. - comment id 1162206
ไพราะมากครับ
16 ตุลาคม 2553 08:55 น. - comment id 1162229
ขณะกรำศึก (งานครับครู) แว่ววิเวกสายฝนครับพรำๆเช่นกันเช้านี้ ครูสบายดีนะครับ เห็นครูหายไปพักหนึ่ง งานคุณอัลฯ ที่ไปสร้างฝายมา เหนื่อยแต่สนุก อิ่มใจดีครับครู .ไม่น่าเชื่อว่าคนสองร้อยเกือบสามร้อย จะทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างกลมกลืนและเรียบร้อย ...ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน สมาชิกบ้านกลอน(จริงๆ) ที่รู้จัก ไม่กี่คนเอง เช่นพี่กุ้งหนามแดง คุณแบม คุณร้อยฝัน หลวงลุงแทน และคุณอัลฯ อ้อ มีคุณหมอท่องเมฆา อีกท่านหนึ่ง แต่วันนั้นคนสองร้อยกว่าเหมือนกับรู้จักกันมาก่อน...เรียกได้ว่างานนี้ประทับใจครับ .. ๐ ยินเสียงน้ำมิซาหล่นกระชั้น นัยน์ซ้อนฝันสายเส้นโอนเอนสาว คล้ายระบำบ่ายคราบอกท่าคราว บรรเลงน้าวคลอเนื้อหวังเจือนำ ๐ เม็ดฝนพร่างร่วงพรูเพียงรู้หล่น ห้วงใจคนแล่นคว้างเริงถลำ ไม่รับเย็นรู้เยือกเกินเลือกจำ จิตเพียงย้ำถวิลโบยบินไกล ๐ แลหานุชอีกฝากเบื้องขอบฟ้า สายฝนสื่อนำพาคำขานไข ค่อยค่อยโลมโอบพรอดอ้อมกอดไอ- อุ่นแนบไว้แทนผวยช่วยห่มนวล ๐ ฝากกระซิบกำซับคำซาบซ่าน ว่าพี่รานด้วยโหยรักโรยหวน พิษคิดถึงทึ้งจารสุดรัญจวน ถ้อยเริงครวญขาดวิ่นเกือบสิ้นวาย ..แจมด้วยครับครู
16 ตุลาคม 2553 16:12 น. - comment id 1162272
มาลอบชมแพรวพิลาสค่ะคุณลุง คุณลุงสบายดีนะคะ
16 ตุลาคม 2553 17:50 น. - comment id 1162279
มี"จิ้งจอกน้อย"อีกคนด้วยค่ะครู สงสัยคุณกิ่งจะลืมค่ะ ร้อยฝันผ่านช่วงพ้น ด้วยดี ยิ้มชื่นรื่นฤดี ทุกผู้ เม็ดฝนหล่นโปรยมี เพียงฉ่ำ ทรวงนอ บานเบิกรับแรงรู้ ร่วมสร้างรอยฝันฯ อิ่มเอยอิ่มสุขล้น ปรีดา อิ่มเอิบจิตทุกครา ยิ่งแล้ว อิ่มบุญร่วมหนุนพา ถ้วนทั่ว จริงแฮ อิ่มกระชับรับแก้ว เพื่อนพ้องปองสมาน์ฯ ระลึกถึงครูเสมอค่ะ ครูดูแลสุขภาพนะคะ
16 ตุลาคม 2553 20:01 น. - comment id 1162287
คุณ ละไมฝน ขอบคุณครับ ผมฝึกมาในแนวทางนี้ ฉนั้นกลอนผมมักจะออกแนวโบราณเสีย เป็นส่วนมาก กลอนสมัยใหม่กับสมัยเก่า นั้นการใช้อักษรทำนองความหมายละเอียด ละออแตกต่างกันครับ กลอนสมัยใหม่นั้น มักจะออกแนวทางกระด้างๆครับ หรือไง ผมก็ไม่ทราบ นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของ ผมเองเท่านั้น หากขัดกับใครก็ขออภัยด้วย ก็แล้วกัน ผมเองแก่แล้วก็เล่นตามประสา คนแก่ๆครับ จะไปเขียนแนวสมัยใหม่นั้น บางครั้งเพื่อนไทยกลอนด้วยกันยังเย้า แหย่ผมเลยครับ ขอบคุณว่างๆหากชอบ แนวโบราณขอเชิญครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
16 ตุลาคม 2553 20:04 น. - comment id 1162290
คุณ หนูสน ไม่ได้พบกันนานเหมือนกันแต่ติดตาม ข่าวคราวเสมอๆครับ จากเบื้องต้นที่ตอบไว้ แหละครับ กลอนผมเป็นกลอนโบราณมัก จะไม่เร้าอารมณ์คนหรือถูกใจคนสมัยใหม่ เท่าใดนักครับ หากสมัยเก่าอักษรไม่จำเป็น ต้องใช้คำยากๆหรอก คำง่ายๆนี่แหละหากรู้ จักผสานกับทำนองให้กลมกลืนกันก็เข้า กับบรรยากาศและจะออกแนวอ่อนไหวครับ ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 ตุลาคม 2553 20:07 น. - comment id 1162291
คุณ หนูสน เห็นอาหารแล้วน่าจะอร่อยน่ารัปทาน นะครับ อาหารเจสมัยนี้ทำเหมือนจริงๆครับ เช่นปลา หรือเนื้อหมูหรืออะไรต่อมิอะไร ทำได้เหมือนจริงเชียวครับ ขอบคุณนี่มา ก็เย็นแล้วสองทุ่มกว่าๆ ใกล้เวลาทานอาหาร เย็นผมแล้วครับ ขอบคุณมากครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 ตุลาคม 2553 20:08 น. - comment id 1162292
คุณ พจนา ขอบคุณครับ ผมติดตามอ่านงานคุณ เห็นว่าเดี๋ยวนี้พัฒนาไปมากเลยครับ และ มาเยี่ยมผมประจำทำให้คนแก่สดชื่นครับ ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 ตุลาคม 2553 20:18 น. - comment id 1162296
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รักเราเอย ที่ครูให้ไปร่วมงานนี้ ด้วยเป็นงานที่มีการวางแผนงานได้อย่าง ยอดเยี่ยม อนึ่งสามารถนำไปใช้ในการ พัฒนางานประจำเราได้อีกต่างหาก และยัง ได้รู้จักคนมากหลาย ซึ่งแต่ละกลุ่มที่มาถึง แม้ว่าจะไม่รู้จักแต่พอไปถึงต่างก็แย้มยิ้มให้ แก่กันและกันดังกับคบกันมาเนิ่นนานเชียว ด้วยคนจัดนั้นมีประสบการณ์มากอยู่แล้ว จะ ได้รู้จักพบปะสังสรรค์ในฐานะคนหนุ่ม สาวด้วยกัน ครูเองไปต้องไปวิเวกคน เดียวหรือไปกับคนที่มีอายุ แต่ส่วนมาก จะบินเดี่ยว ลงรถปุ๊บหายปั๊บเลยล่ะ เป็น ไงงานเที่ยวป่าเขานอกจากได้รับบรรยากาศ ที่อบอุ่นแล้วยังได้รับธรรมชาติที่แสนจะ สดชื่นอีกมากมาย ซึ่งครูเองชอบ เอาล่ะมาพูดเรื่องกลอนกันดีกว่า กลอนศิษย์เรามักจะออกแนวโคลงเสีย เป็นส่วนมาก บางท่อนอักษรคำกับทำนอง จะขัดกัน ให้ระวังด้วย ครูย้ำเสมอกลอน จะพลิ้วอ่อนไหวได้ก็ด้วยต้องให้คำกับ ทำนองผสานกัน ฉนั้นไม่ใช่ว่าเราจะนึก คำที่ใช้แล้วทำนองไม่อำนวยก็จะขัดกัน การที่เขียนไม่มีสัมผัสในรับนั้น ทำได้ มิใช่ทำไม่ได้แต่ต้องให้อักษรกับทำนอง ผสานเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ก็จะทำ ให้กลอนเราลื่นไหลทั้งยังได้อรรถรสใน การอ่านอีกด้วย อ่อนไหวพลิ้ว ดุจกระแส ลมพัดเลยล่ะ ดุจหุ่นที่เราเชิดไว้ หากเชิด ผิดจังหวะก็จะทำให้หุ่นนั้นกระด้างไม่ อ่อนช้อยไปตามทำนอง สัมผัสในนั้นเขา มีไว้เพื่อแก้ไขให้กลอนนั้นไพเราะอ่อน ไหวพลิ้วจ๊ะ การเล่นโคลงแบบเล่นคำมากๆ เข้าหากไม่รู้การใช้ัคำกับทำนองก็จะเป็น กลอนของศิษย์เราบางบทจ๊ะ รักศิษย์ เรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 ตุลาคม 2553 20:22 น. - comment id 1162299
คุณ เพียงพลิ้ว หลานรัก ในการเขียนนี้ลุงเองร่างกาย ปวดเมื่อยไม่ค่อยสบายที่ห่างไปนั้นไม่ได้ ไปไหนหรอกพักรักษาตัวตามวัยแหละจ้า พอค่อยยังชั่วก็เขียน แม้จะไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็ทำให้จิตใจลุงเองผ่องใสขึ้นจ้า เห็น หลานเราให้นึกถึงท่านผู้เฒ่าทุกๆทีเลยล่ะ ลุงรักหลานมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
16 ตุลาคม 2553 20:27 น. - comment id 1162301
งดงามในการใช้คำเสมอเลยค่ะ ฝนตกหนักมาสองวันแล้ว ไปไหนไม่ได้ติดเกาะค่ะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
16 ตุลาคม 2553 20:29 น. - comment id 1162304
คุณ แก้วประภัสสร ไปงานคราวนี้ได้ประสบการณ์มามาก ด้วยศิษย์รักเรา ชอบในการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ย่อมต้องร่าเริง เป็นไงการท่องเที่ยวธรรมชาติ ป่าเขาถึงเหนื่อยแต่ก็สดชื่น เข้าไปอ่านการ เขียนเบื้องหลังงานแล้ว เห็นภาพแล้วชื่นใจ จริงๆ ครูบอกแล้วว่า ยายแก่อิมนั้นมีประสบ การณ์เรื่องนี้ยอดเยี่ยมมาก ให้คนมาก กว่านี้ ก็สามารถจัดการได้แหละเพราะ เคยเห็นฝึมือมาก็หลายๆครั้งแล้ว จึงให้ ศิษย์รักเราไป เอ๊ามาพูดเรื่อง โคลง น่าจะตีเสีย จริงๆหรือว่าเพลินไปกับการท่องเที่ยว ไม่รู้ ครูบอกย้ำเสมอว่า วรรคแรก คำที่ หกนั้น ห้ามใช้เสียงโทเด็ดขาด แต่นี่ยังมี ส่วนท่อนหลังเป็นโคลงกระทู้นั้น ควร จะมีคำสร้อยร้อยรับด้วย มีสองอย่างนี้ เท่านั้น ที่ว่าน่าตีคือ คำที่หกนั่นเองจ๊ะ รักศิษย์รักเรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 ตุลาคม 2553 20:36 น. - comment id 1162306
คุณ เฌอมาลย์ คิดถึงเจ้าหญิงเหลือเกินเห็นหายไป นานๆ จ๊ะการเขียนผมมักจะเน้นคำง่ายๆมา ใช้มากกว่าคำยากๆ คนอ่านก็อ่านง่ายไม่ต้อง มาค้นหาแบบไทยแปลไทย ซึ่งผมเองไม่ ค่อยชอบ หรือการเล่นคำเป็นต้นแม้แบบจะ ดูสวยงามแสดงภูมิรู้ก็ตาม แต่ก็หาใช่เจตนา ของนักเล่นกลอนเก่าๆ ซึ่งมักจะเน้นอักษร คำและทำนองเป็นหลัก ผมเองก็มาใน แนวทางนี้ เหมือนการแสดงลครรำนั่น แหละต้องใช้ปะแป้งทาหน้าเขียนปาก เขียนคิ้วการร่ายรำให้สัมพันธ์กับเรื่อง เป็นต้นจ้า หากใบหน้าสวยงดงามด้วย การแต่งแต่รำไม่เป็นก็หมดราคา อย่าง เจ้าหญิงนั้นไม่ต้องแสดงก็นับว่าสวยอยู่ แล้ว ความสวยนั้นผมจำแนกเป็นสอง อย่างคือ สวยภายนอก กับสวยภายใน เจ้าหญิงมีครบถ้วนแล้ว อิอิ ไม่้ต้องแต่ง ตัวมากหรอก การร่ายรำก็เก่งอยู่แล้วนี่นา จริงเปล่าครับ รักเจ้าหญิงมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
17 ตุลาคม 2553 09:28 น. - comment id 1162350
ขอบพระคุณมากครับครู สงสัย ผม จะติดสำนวนโคลงไปหน่อยครับ ครู ส่วนสัมผัสในพยายามจะเล่นแค่คู่เดียวครับครู แต่พ่วงเล่นอักษร คำที่ห้า กับคำที่แปดดูนะครับ กลอนผมห่างไปนานครับ ยังไงจะลองทบทวนเขียนกลอนอีกครั้งครับครู และขอบคุณครูแก้วมากครับ สำหรับคำแนะนำ
17 ตุลาคม 2553 12:53 น. - comment id 1162405
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รักเราครูเองก็ฝากงานนี้แก่เธอ ทั้งสองเป็นหลักในการสืบสานต่อไป เนื่อง จากครูเองรู้ตัวดีว่าอีกไม่นานหรอกก็จะต้อง วางมือลงแล้ว สุขภาพเป็นปัจจัยให้ต้องยอม รับต่อความเป็นจริงของร่างกายเรา การเล่นโคลงกับกลอนจะแตกต่างกัน แต่ก็มีส่วนคล้ายคลึงกัน การเล่นสำนวน โคลงนั่นเล่นยากก็จริงแต่ก็พลาดตกม้าตาย ง่ายๆเหมือนกัน สิ่งสำคัญในการเล่น สำนวนคำก็เหมือนกับการเล่นกลอน ด้วยการวางอักษรคำกับสำนวนต้องให้ สอดคล้องกันและกัน หากสามารถอ่าน ทำนองโคลงได้ ก็จะเป็นประโยชน์มาก เมื่อเราแต่งเสร็จก็ให้อ่านโคลงตามทำ นองโคลงหากติดขัดก็ให้แก้ไข ไม่ว่า โคลงหรือกลอนนั้นต้องมีทำนองเป็น หลัก แต่ในทำนองเดียวกันก็ต้องระวัง ด้วยทำนองมักจะพาให้กลอนตามไปหาก เราไม่รู้จักใช้อักษรบังคับการเล่นก็จะ กลายเป็นร้องกรองพาไป ด้วยทำนอง คือจังหวะเสียง หากไม่บังคับจังหวะเสียง เสียงก็จะนำหน้าอักษรคำที่เราจะใช้จ้า ฉะนั้นเธอทั้งสองครูถึงหมั่นตรวจตรา เป็นประจำ เพื่อจะได้เดินในทางที่ครูวาง ไว้เอง จึงมักจะจ้ำจี้จ้ำไชมากหน่อยอย่า เบื่อครูเสียก่อนล่ะ สิ่งเล็กๆน้อยๆอย่าคิด ว่าไม่สำคัญนะ ครูเองถือว่าสิ่งเล็กๆน้อยๆ สำคัญมากกว่ากฏเกณฑ์เสียอีก ฉนั้นศิษย์ เราจงระวังในการเขียนทุกๆครั้ง งานเขียน จะออกมาอย่างไรก็ได้ แต่ต้องให้คนอ่าน เขาได้รับความไพเราะซึ้งซาบในอรรถรส ที่เรากำหนดวางไว้ นั่นแหละเราถึงใน สิ่งที่เราปรารถนา จำไว้ในข้อนี้ให้มากๆ รักศิษย์ครูมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
17 ตุลาคม 2553 16:01 น. - comment id 1162447
เพราะจังค่ะ คุณครู
17 ตุลาคม 2553 17:10 น. - comment id 1162456
คุณ ครูกระดาษทราย ขอบคุณครับครู แหม๋ผมกำลังแต่ง โคลง แก้วรัศมี อยู่เชียว ขอยืมภาพไปลง ในโคลงด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 ตุลาคม 2553 03:37 น. - comment id 1162546
สวัสดีคะ คุณแก้วประเสริฐ ชื่นชมมากคะ เนื้อความในกลอนก็ปราณีตจนเกือบเพ้อตาม ไพเราะจริงๆ
18 ตุลาคม 2553 11:52 น. - comment id 1162660
คุณ Gimini58 ขอบคุณจ้า ทุกอย่างอยู่ที่การฝึกฝน หากเราฝึกฝนในสิ่งที่ถูกทางแล้วรู้จักเคล็ด ลับบางอย่างกลอนนั้นก็จะเป็นแบบนี้แหละ จ้า ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 ตุลาคม 2553 13:28 น. - comment id 1162689
คาราวะครูแก้วประเสริฐ ครูของพี่กิ่งกะพี่แก้วประภัสสร ผมเป็นน้องที่เจอพี่กิ่งกะพี่แก้วประภัสสร ในงานสร้างฝายครับ กลอนของครูแก้วประเสริฐไพเราะมากเลยครับ
18 ตุลาคม 2553 14:04 น. - comment id 1162695
คุณ เงาสายลม ดีครับไปทำบุญช่วยสังคมได้ทั้งบุญ และมิตรสหายหลายๆคน ใช่ครับทั้งสอง คนเป็นศิษย์เอกของผมในรุ่นนี้ที่ผมตั้งใจ เพื่อให้สืบสานทายาทอสูรจากผมไป เมื่อ ผมไม่สามารถจะเล่นร้องกรองได้อีกแล้ว ซึ่งคงจะไม่นานนักด้วยอายุอานามก็มากขึ้น แล้ว หากสนิทมีปัญหาเรื่องร้อยกรองถาม เขาได้หรือจะมาถามผมก็ได้ครับผมไม่หวง ความรู้ที่ผมมีหรอกครับ ขอบคุณที่แวะ มาเยี่ยมครับ หากชอบก็มาได้นะครับ และยังเป็นกำลังใจให้แก่ผมด้วยครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.