อย่าไถ่ถามความเป็นมาแห่งข้านี้ ด้วยไม่มีสิ่งใดให้ถวิล อดีตลับจางหายคล้ายเมฆินทร์ แม้นโลกสิ้นคงแปลกหน้า...ตัวข้าเอง เจ้าอาศัยอันใดช่วงใช้ข้า ! ให้ชักกระบี่ออกมาอย่าข่มเหง ! กระบี่นี้มีไว้ใช่ขับเพลง ! มันละเลงอาบเลือดแห้งเหือดกรัง ! กระบี่นี้มีไว้ใช่ชมเล่น ! ชนเคยเห็นล้วนตกตายกายถูกฝัง ! จนบัดนี้หามีใครได้อยู่ยัง ! ด้วยทุกครั้งเห็นกระบี่ชีวีวาย ! เฉกเช่นบทกวีมีคุณค่า เพียงเยียวยาจิตใจใช่ค้าขาย เงินแสนล้านอย่าหมายซื้อถือง่ายดาย หากรู้ค่าความหมาย...กลับกลายฟรี... เบื้องหลังถ้อยภาษาอย่าแคลนหมิ่น ล้วนยลยินด้วยใจในวิถี ขับขานเพลงยอดยุทธ์ดุจวจี แต่คัมภีร์จริงแท้แลภายใน คือคัมภีร์ไร้ภาษาเกินกว่าถ้อย แทนร่องรอยไร้เงาเฝ้าสงสัย คือวิญญาณสร้างโลกโศลกไป แทนความนัยสรรพสิ่งอิงสัมพันธ์ จากสมบูรณ์สู่สัมพัทธ์วัดอิงอ้าง จากหนึ่งทางสู่หลากหลายพรายสร้างสรรค์ จากหยุดนิ่งสู่เคลื่อนไหวในวารวัน จากอนันต์สู่อัตตาบ่าไหลวน จากพลังงานสู่สสารสานวัตถุ จากบรรลุสู่หลับใหลใจสับสน จากความคิดสู่การสร้างทางวกวน จากทุกแห่งทุกหนสู่ตนตัว......
18 กันยายน 2553 10:59 น. - comment id 1156788
ขอต่อ(รอง)ท่านคีตากะ สิ่งที่เรามีต่อกันดันเรียกใช้ ! ที่คลั่งไคล้ไหลหลงคงเรียกมั่ว ! ยามผูกพันค่ำเช้าเรียกเมามัว ! ท่านน่ากลัวเป็น"กระบี่ที่ไร้ใจ" ท่านคีตาข้าน้อยฯนับถือบทประพันธ์ท่านอย่างยิ่งแต่ดวงตาท่าน..ไฉนช่างเย็นชายิ่งนัก
18 กันยายน 2553 11:44 น. - comment id 1156854
เพราะครับ เพราะมากเลยท่าน
18 กันยายน 2553 18:17 น. - comment id 1156954
ขึ้นกลอนซะท่านจอมยุทธ จบซะธรรมะเลย อิอิ
28 กันยายน 2553 08:39 น. - comment id 1159038