ห้วงเวลาเงียบเหงาและเศร้าสร้อย ดาวเดือนคล้อยโน้มลงตรงปลายฟ้า สายลมเย็นโชยพลิ้วผิวแผ่วมา ดวงดารารายระยิบกระพริบพราว กับเหม่อลอยลอยไกลในฟากฟ้า กับน้ำตากล้ำกลืนในคืนหนาว กับงดงามราตรีที่มีดาว กับใจร้าวข้านี้สิทุกข์ทน กับวันคืนเดือนปีที่ผันผ่าน กับกลกาลหมุนย้อนผ่านร้อนฝน กับความหวังยังฝันมั่นกมล กับบางคนคอยหากลับมาเยือน เสียงกระซิบขับขานผ่านเวลา ความเหนื่อยล้าคู่ใจหาใดเหมือน มีดวงดาวท้องฟ้ามาย้ำเตือน ที่คลาเคลื่อนคือเวลาพาท้อทน เห็นดาวตกพุ่งพราวจากราวฟ้า เจ้าดาราทิ้งร่างลงกลางหน ความจีรังหรือมีกี่ผู้คน มิอาจพ้นร่วงร่างสู่กลางดิน ห้วงเวลาเงียบเหงากับเศร้าสร้อย ให้ล่องลอยดุจนกคราผกผิน ในเงียบงันจิตภวังค์ยังยลยิน เสียงยุพินกระซิบซ่านผ่านเวลา... ๒๕/๕/๕๓
25 พฤษภาคม 2553 09:37 น. - comment id 1129431
ช่างเงียบเหงาเศร้านัก ณ กาลนี้ วาดชีวีลงลายระบายฝัน จะฝั้นฟ้าประดับดาวพราวแสงจันทร์ บรรเจิดแสงอำพันส่องธรณิน
25 พฤษภาคม 2553 10:20 น. - comment id 1129457
สวัสดีคะ คุณบพิตร กลอนคุณ "ชั้นหนึ่ง" จริงไ ต้องขอ ให้คะ ใช้คำ...เหมือนจะหวาน แต่ผสมผสานไปด้วย...ความเศร้า เข้ามาเป็นกำลังใจให้นะคะ
26 พฤษภาคม 2553 22:22 น. - comment id 1129825
สวัสดีค่ะ คุณบพิตร กับศรัทธาค่าหมายปลายเหตุผล กับเล่ห์กลคนคอยอย่างหงอยเหงา กับความหวังพลั้งพลาดดูขลาดเขลา กับแสงเงาเฝ้ามองไร้ร่องรอย อ่านเสียงกระซิบแล้วให้ความหมาย มากมายค่ะ