๐ แถข้าง...ถ่างขา...๐ ได้เวลา...จุดประทัด...โยนใส่เล้าไก่... ตามมาอ่านกันซะดีๆ...อย่าให้ต้องกระดิกนิ้วเรียก.. ไม่รู้..ร้องห่มร้องไห้ออเซาะกันเสร็จรึยัง... ท่าทางจะกล้องทีวีเลิกจับภาพ...น้ำตาจะหยุดไหลบัดเดี๋ยวนั้น...! ร้องไห้เสร็จแล้วก็เช็ดหน้าเช็ดตาซะ...เห็นน้ำตาแล้วรำคาญ ! แล้วอ่านกันซะ.... O แล้วอาการตะแบงก็แผลงฤทธิ์ ขึ้นปกปิดทัณฑ์โทษของโฉดฉล แล้วที่สุดขดหางของบางคน ก็คลี่ออกปอกตน..ให้ชนรู้ O รับได้หรือ-ใจคน..ว่าตนผิด จึงพูดบิดเบือน-แถ..เซ็งแซ่อยู่ ถูกล้วงไส้ตีแผ่ให้แลดู ก็ยังสู้แถก-ลิ้นให้ยิน..ฟัง O ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์..เฝ้าเบน-เลี่ยง คำทุ่มเถียงอาฆาต..ด้วยวาดหวัง- ว่า..จะเอาเลือดเนื้อ-เชื่องเชื่อ..บัง- ตัวตนผู้อยู่หลัง..คอยสั่งการ O โอ..นี่หรือผู้นำ..จะนำชน- เข้าปลิดป่นอำมาตย์อย่างอาจหาญ ? รอ-ก้าวย่างนำเดิน..อยู่เนิ่นนาน เห็นเพียงจิตวิญญาณ..หลังม่านเงิน O หรือย่างก้าวเหยียบย่ำ..ในต่ำใต้ นั้น-มีไว้แตะตื่นพวกตื้นเขิน- คอยแผดเสียงโก่งคอ..ฟังพอเพลิน ฟังถ้อยคำงกเงิ่น..หยอกเอินคน O มีปากไว้สร้างหวัง..ชนทั้งผอง ให้คอยร้องร่ำดัง..ทุกครั้งหน จำต้องนั่งอยู่ในหัวใจชน ให้พวกมันดิ้นรนเพื่อตัวกู O เห็นข้างบ้าน-ผู้หญิง..โง่ยิ่งนัก ยอมถูกกักในบ้าน..เนิ่นนานอยู่ ใครเล่าจะมองเห็นว่าเป็นครู- การต่อสู้เผด็จการในบ้านตน O ต้องบินไปบินมาอย่างข้านี่ เงินมากมีสั่งใช้..ย่อมได้ผล มัวลำบากตรากตรำต้องจำทน ให้ผู้คนเหยียบย่ำอยู่ทำไม O อุดมการณ์เพื่อชนผู้ทุกข์ยาก ใครมีปากอยากพูดก็พูดได้ อองซานซูจี...จะมีใด- เทียบชายไทยผู้กล้า..ใน-วาที O โอ นั่นโคลงสี่ของศรีปราชญ์ ใช้เท้าวาดถ้อยวรรค..เป็นสักขี สืบทอดนัยฝ่ากาลนับนานปี มาบัดนี้ยินดังอีกครั้งแล้ว O ต่างกันที่ครั้งนั้น..ถูกกลั่นแกล้ง ครั้งนี้แจ้งนัยเขา..ช่าง-เบาแผ่ว แรงอาฆาตคนบาป..กลับวาบแวว ปากเจื้อยแจ้วโคลงเก่า..อย่างเร้าใจ O จึงอาการตะแบง..เมื่อ-แผลงฤทธิ์ ย่อมโดยจิตมารยา, ถ้อยสาไถย- ก็จะยังตอกย้ำ..อยู่ร่ำไป เพื่อบอกให้คนรู้..เขาดูแคลน O จึงอาการตะแบง..เมื่อแผลงฤทธิ์ ย่อมโดยจิตหลอกลวง..ที่หวงแหน- ความมั่งคั่งโกงกิน..จากดินแดน หน้าที่แหงนเงยบอก..รอ - หลอกใคร ? อ้อ...บทต่อไปถ้าไม่ขี้เกียจนะ..."ลบเหลี่ยมคาง" จากคุณ : สดายุ... เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 21:47:39 A:125.25.5.152 X
6 มีนาคม 2553 21:48 น. - comment id 1107989
เจ๋ง มากพี่ น่าตบท้่าย ด้วย กลอน ศรีปราญช์ ซะหน่อย เอาแบบลบเหลี่่ยม จากคุณ : เหอะ ๆ ๆ (joe4638) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 22:01:36 A:183.89.129.92 X
6 มีนาคม 2553 21:49 น. - comment id 1107992
อยากจะบอก ให้ท่าน นั้นหยุดคิด จิตนิมิตร ที่ท่าน นั้นกล่าวว่า สิ่งเขาทำ นั้นมัน เลิศปัญญา อนิจา หมาหมู่ รุมกินตอม จากคุณ : เซ็งหัวใจ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 22:03:54 A:125.26.171.35 X
6 มีนาคม 2553 21:50 น. - comment id 1107993
เอาไว่แต่งให้อำมาตย์ฟังน่าจะเหมาะ หมดยุคแล้วแต่งกลอนน่ะ เอาตรงๆเลยพูดจริงทำได้จริงไม่เพ้อพบกระบวนกลอน จากคุณ : น้าเหลิม เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 22:06:30 A:124.121.63.93 X
6 มีนาคม 2553 21:51 น. - comment id 1107994
...สดายุ ลุแก่ อารมณ์หมาย ตะเกียกตะกาย แต่งกลอน ร้อนเกศา ขมุกขมัว ขมุดขมิด แน่นอุรา สุดระอา สดายุ....พิลึกจริง... จากคุณ : ป.ปาแปง เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 22:41:22 A:117.47.83.248 X
6 มีนาคม 2553 21:51 น. - comment id 1107995
สดายุ หยุดกร้าวร้าว ลงสักนิด สงบจิต แล้วไตร่ตรอง มองปัญหา หยุดบ้าคลั่ง ไร้สาระ ลงสักครา ใช้ปัญญา นำส่อง ครรลองธรรม... ยิ่งฟุ้งซ่าน สติแตก แบกโมหะ เพราะโลภะ อยากได้ ใจระส่ำ ใช้โทษะ นำทาง เหมือนสร้างกรรม จะชอกช้ำ เพราะนรก ตกสู่ใจ... การเยาะเย้ย ถากถาง ไม่ต่างจาก พวกที่ปาก นำพา เท้ามาให้ อาจเดือดร้อน ก่อนสมควร จะเป็นไป ด้วยนิสัย อันธพาล จะซานซม... โตๆแล้ว น่าจะรู้ ซึ่งผิดถูก ไว้สอนลูก สอนหลาน สำราญสม แสร้งบิดเบือน ไปใย คล้ายโง่งม ทำชื่นชม กงจักรเห็น เป็นดอกบัว... จากคุณ : ริมคันนา เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 23:05:30 A:124.121.121.66 X
6 มีนาคม 2553 21:52 น. - comment id 1107996
เห็นโลโก้ เหมือนจะเป็นภิเภกอินเตอร์ เมื่อก่อนเปล่า ถ้าใช่ผมก็แดงนะ แต่ข่าวคุณแต่ละครั้งมั่วได้ทีไม่เห็นมีอะไรเข้าเค้าสักเรื่อง จากคุณ : Area51 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 23:19:50 A:125.25.7.34 X
6 มีนาคม 2553 21:53 น. - comment id 1107997
อ่านบทกวีของท่านสดายุแล้ว ไหงพระเอกลิเกสาละวินพลันครั่นเนื้อครั่นตัว มิได้การฯ จึงขอร่ายลิเกผสมโรงสักบทสองบทละกันนะขอรับ ....................... ชะเอิงเอยเอ้อออเองเอยยยยยย ความเป็นธรรม...ของชน...ปล้นอำนาจ หรือยังอาจ...เรียกว่าธรรม...ตามพร่ำหา ใครก็รู้....ชนชั้น....อำมาตยา เหยียบพารา....เหยียบไพร่...ในอุ้งทีน สดายุ....หลบรู....อยู่รูไหน สำเหนียกไหม...แผนชั่ว...พวกกังฉิน ใครสุมหัว...บ้านใคร...ใครยลยิน รู้หมดสิ้น...ใครหัวหน้า...เขาว่ากัน ปฏิวัติ...ยัดข้อหา...น่าสังเวช จึงอาเพท...ทั่วแคว้น...สารขัณฑ์ คดีใด..พวกข้า...อย่าช้าพลัน คดีมัน...ช้าก่อน....ผ่อนเวลา ! สดายุ...แหละตะแบง...แสร้งเสียดสี สำคัญที่...สำเนียงพอ...ส่อภาษา เผด็จการ...ท่านรัก...ท่านศรัทธา เฉกพวกข้า...รักทักษิณ...ด้วยยินดี ให้สยบ...น้อม(รับคำตัดสิน)นั้น...ฝันไปเถิด อะไรเกิด...เกิดได้...ในทุกที่ วันแดงเดือด...ถ้วนทั่ว...ธรณี คือวันที่...สร้างศาล...ประชาชน ! เอ้อเอออเอ่อเอ้อเอิงเอยยยยยยยยย ด้วยคารวะ จากคุณ : สาละวิน เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 06:05:31 A:183.89.155.155 X
6 มีนาคม 2553 21:54 น. - comment id 1107998
7.08 น. ๏ เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ยามต้องอยู่รอด เข้าเมืองตาบอด ต้องบอดตาตาม จะรอดยามไหน เข้าเมืองผีบ้า ต้องบ้าผีตาม ยามผีบอกไหม เข้าเมืองบ้าใหญ่ ต้องใหญ่บ้าตาม ก้นเขาทุกยาม-บ้าฤๅ แลนาบารนี ๚ะ๛ (ปล่อยผีบ้าไป อย่าได้เล่นกับมัน ฮี่ฮี่) 07.24 น. ไม่ได้มาแก้ไขอะไรด๊อก ก็แค่เห็นผีบ้าใหญ่ สมควรให้ Give ถีบหน้าไปให้สมใจอยากจักดอกแน้ จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 07:25:42 A:119.31.121.87 X
6 มีนาคม 2553 21:55 น. - comment id 1107999
O เก็บอาการไม่อยู่ก็แผลงฤทธิ์ เคยปกปิดเหตุฉาวก็หลายหน กักไม่อยู่แล้วเฟ้ยแหล่มทุกตน สัปดนธาตุถูกแผ่..ให้ชนรู้ O รับได้หรือปวงชน..คนวิปริต ต้องคอยปิดบิดแถ..เซ็งแซ่อยู่ ใกล้ถึงวันถูกล้วงไส้ให้ชนรู้ รีบอุดหูอุดปากไว้ไม่ให้..ฟัง O คำก็อ้างกฎเกณฑ์..อย่าเบน-เลี่ยง คำก็อ้างคนอาฆาต..เพียงวาดหวัง- ว่า..จะสูบ เลือดเนื้อต่อ-เพื่อประทัง- อำมาตย์ผู้อยู่หลัง..คอยสั่งการ O โอ..นี่หรือผู้นำ..จะนำชาติ- อำมาตย์ขลาดซุกแอบอย่างอาจหาญ ? หนีบ-ก้าวย่างอยากนำเดิน..อยู่เนิ่นนาน เห็นแค่แอบอิงทหาร..มานานเกิน O คอยย่างก้าวเหยียบย่ำ..คนต่ำใต้ ใช้อำนาจศักดิ์บังมืดจนตื้นเขิน- ให้คนคอยเฝ้าโก่งคอ..ฟังพอเพลิน พ่นถ้อยคำงกเงิ่น..หลอกลวงคน O *(ใครกันแน่)..มีปากไว้สร้างหวัง..ชนทั้งผอง ให้คอยร้องร่ำดัง..ทุกครั้งหน จำต้องนั่งอยู่ในหัวใจชน ให้พวกมันดิ้นรนเพื่อตัวกู (บทนี้ชอบๆ..*ใครกันนะ) O อ้างข้างบ้าน-ผู้หญิง..โง่ยิ่งนัก ใครรักหนทางใด..เลือกสิงสู่ ไม่ต้องให้ใครเห็นว่าเป็นครู- รู้แต่สู้เผด็จการในใจตน O ไม่ต้องบินไปบินมาอย่างข้านี่ อำนาจมีสั่งใช้..ย่อมได้ผล ไม่ลำบากตรากตรำเพราะเหนือคน เหยียบย่ำชนผู้ต้อยต่ำร่ำร่ำไป O อุดมการณ์เพื่อชนผู้ทุกข์ยาก ก็ใช้ปากอยากพ่นก็พ่นได้ ยกอองซานซูจี...มาทำไม อ๋อ..ให้เทียบชายผู้กล้า..หลังเวที O โอ นั่นโคลงสี่ของศรีปราชญ์ ใช้เท้าวาดถ้อยวรรค..เป็นสักขี สืบทอดนัยฝ่ากาลนับนานปี ทุกวันวี่ยังดังหลายครั้งแล้ว O ไม่อาจบอกว่าครั้งไหนถูกกลั่นแกล้ง เลยเเจกแจงไม่ชัดว่าใครแป่ว อย่าอาฆาตคนธรรมดา..ที่ฉายแวว ปักธงแถวประหารหัต..ไม่ได้ใจ O หยุดอาการยุแยง..แผลงอิทธิฤทธิ์ หยุดใช้จิตมารยา, ถ้อยสาไถย- หยุดเหยียบย่ำตอกย้ำ..เถิดเพื่อนไทย จะบอกให้ ได้รู้..เขาดูแคลน O ไม่ได้มาตะแบง..เพราะไม่มีฤทธิ์ แต่มีสิทธิ์ตั้งแต่เกิด..ต้องหวงแหน- ไม่สนความมั่งคั่ง..จากดินแดน ไม่เคยแหงนคอ..รอ -ใครหลอกใคร ? เข้ามาเพิ่มเพื่อความสมบูรณ์ 1.*(ใครกันแน่).. 2.*ใครกันนะ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 53 11:21:58 จากคุณ : kopo เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 07:42:04 A:124.157.247.60 X
6 มีนาคม 2553 21:56 น. - comment id 1108002
หลงมาเที่ยวถึงนี้ กลับเถอะ จากคุณ : ไทยเดิ้ง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:24:05 A:117.47.53.204 X
6 มีนาคม 2553 21:56 น. - comment id 1108003
เข้ามาดูสาวกทักกี้ แถข้าง หลักการแต่งกลอนก็ห่วยแตก คริๆ ^ ^ จากคุณ : น้องหยาด เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:11:20 A:115.67.107.11 X
6 มีนาคม 2553 21:58 น. - comment id 1108004
**จำนรรจ์เจ็ด กลอนยับ จับไปซ่อน ด้วยวางกลอน การกาพย์ พอทราบหมาย ทางการเมือง เฟื่องฟุ้ง ปรุงบรรยาย ถูกอุ้มหาย หลายบท อดแสดง จากคุณ : ตาเป๋า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:47:19 A:192.168.15.169 X:203.172.178.15
7 มีนาคม 2553 09:52 น. - comment id 1108125
เยื่อมจริงๆๆๆๆๆๆ
8 มีนาคม 2553 21:00 น. - comment id 1108798
ไม่ชอบ.........จริงๆๆ และน่าจะมี สามัญสำนึกมากกว่านี้ ไร้สาระมากๆๆๆ
8 มีนาคม 2553 21:26 น. - comment id 1108811
ลานกวีแลว่าร้าง .................... ลางโรย แค่ขลาด วาดร่ายโดย ............ แบ่งข้าง ยินกู่ ไม่ไหวโวย ....................ลองแต่ง ลานใหม่ย่างกรายบ้าง............. เยี่ยมบ้านลานกวี. คนกวีวาดถ้อยร้อยจินต ไร้มือกะตีนกวาดวาดอักษร ยังสามารถถักถ้อยร้อยโคลงกลอน จรมาจารฝากงานลานกวี หลากกวีหมายมุ่งผดุงศักดิ์ ฉันประจักษ์เห็นตลอดไม่บอดสี นับถืองานการเมืองข้นคนกวี จะชั่วดีมีศรีศักดิ์รักโคลงกลอน หลายผู้นามประพันธ์เปรื่องเรืองถ้อยรูป ฉันหลงมาได้เสพสูบจูบอักษร จะใช่มือหรือตีนกวาดวาดโคลงกลอน อย่าแคลนคลอนจินตการงานกวี. จากคุณ : kopo เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 22:01:21 A:58.147.55.182 X
8 มีนาคม 2553 21:28 น. - comment id 1108812
๏ กระวีแลกระวาด เข้ามากวาดลานกวี การเมืองที่นี่มี อาวุโสมหาศาล เข้ามาถกการเมือง ไม่หาเรื่องไม่ระราน ใจเขาใจเราขาน ต่างก็ชอบเหตุผลชม กลอนดีเอาสะดวก อาจลวกลวกใช่ลมลม รูปคำไม่ขำคม ฉันทะลักใช่เลอะเลือน มีเกียรติต้องให้เกียรติ อย่าได้เบียดและบิดเบือน เรามีเขาก็เหมือน เอ็นดูเพื่อนอย่างเพียงพอ เห็นต่างใช่ต้องแตก มากระแทกคำด่าทอ หมูหมาหรือมอมอ อวดยกเท้าเข้าท้าทาย ผึ่งผายด้วยเหตุผล ถ้วนทุกคนไม่ระคาย ฟังต่างไม่ถึงตาย ฟังหลายคิดจึงเป็นคน ๚ะ๛ แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 53 23:43:32 จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 53 23:15:42 A:110.49.146.27 X