ผญา (11/53)
สุรศรี
ผญา
ว่าบ่มีควมเว้า เจ้าเอาหยังมาว่า
ว่าบ่มีผู้ท่า แม่นไผแท้นั่งอยู่นำ
ว่าบ่มีซายซ้อน เซิงแพรสังมาก่าน
หรือว่าลูกเจ้าด้าน หรือว่าหลานเจ้าดื้อ
แพรเจ้าจั่งก่านเซิง
ว่าบ่มีเครือเกี้ยว สังมาเป็นแหยบแย่ง
ว่าน้ำแก่งบ่ขึ้น สังมาได้ส่วงเฮือ....ฯ
....................
อธิบาย
ควมเว้า.........คำพูด
ผู้ท่า..............ผู้รอคอย
แม่นไผ.........แล้วใครหละ
นั่งอยู่นำ........นั่งอยู่ด้วย
ซายซ้อน.......คู่เชยชม
เซิงแพร..........ชายผ้านุ่ง ชายผ้าถือ
ก่าน...............สกปรก เปื้อน
ด้าน.............ดื้อด้าน ซุกซน
จั่ง.............จึง
เครือเกี้ยว.......ต้นไม้ เครือไม้ กระกวัด
แหยบแย่ง.......ขาดวิ่น
น้ำแก่ง.............น้ำขึ้น น้ำท่วม
สัง...................ทำไมถึง
ส่วงเฮือ............แข่งเรือ
.........................
ความหมาย
1..ปากน้องว่าไม่มีอะไรจะพูด แล้วน้องเอาอะไรมาพูดว่าไม่มีคนผู้คอยอยู่ข้างหลัง แล้วใครหละ
ที่นั่งพูดคุยด้วยกัน
2..ปากน้องว่าไม่มีแฟน แต่ทำไมชายผ้าน้องถึงเปื้อนหละ หรือว่าลูกหลานน้องมันซน ก็เลยทำ ให้ชายผ้าสกปรก
3..ปากน้องพูดว่าไม่มีแฟน ทำไมแฟนถึงเป็นพุ่มเป็นพวง ถ้าน้ำมันไม่ขึ้น ทำไมถึงไดแข่งเรือ
เป็นผญาเกี้ยวครับ ตัดพ้อต่อว่าของฝ่ายชายที่พูดให้ผู้หญิงว่าไม่มีคู่แต่ที่จริงแล้วไม่จริงเลยฝ่ายชายรู้ดีว่าผู้หญิงโกหกครับ