เดือนสี่ค้อย ลมวอยวอยวอยพัดวี่วี่ ฮอดเดือนสี่หนาวสะบั้น กะสันโอ้เมื่อยมโน เมฆตั้งเค้ามีขี้ฝ้ามาบัง สายลมพัดใบตองตีต้อง มองท่งนาเหลืองแห้ง นกจิบเฟืองจับอยู่หง่า ฮ้องส่งเสียงอยู่แจ้วแจ้ว คะนิงซุ่โอ้อ่าวหา เห็นงัวควายกินหญ้า กลางท่งนาเป็นหมู่หมู่ เสียงกะแล่งดังก้องแก้ง ดังก้องทั่วท่งนา นกกะสายืนเทิ่ง กลางท่งนาน้ำเขินขาด นกกะเต็นจอบบ้อน ปลายไม้จอบสิหลอย มาลิโตนเจ้าของเด่ หัวอกเพคิดฮอดน้องของพี่ ฝนเดือนสี่หนาวสะบั้น ทรวงอ้ายฮ่ำคะนิง นั่งผิงไฟคิดฮอดน้อง อยู่เถียงนาปั้นข้าวจี่ ทาไข่เหลืองไว้ถ่าน้อง นางหล้าเจ้าอยู่ไส ตั้งแต่ไปบ่เห็นหน้า ศรีอำคาบ่พ้ออุ่น ตั้งแต่ข้าวขึ้นเล้า บ่เห็นเจ้าต่าวมา ภูลังกาถามข่าวน้อง หนองไชวานกะคิดจ่ม บึงของหลงถามข่าวเจ้า นางหล่าบ่ต่าวคืน ให้เจ้าคืนมาบ้าน บ่าวบ้านเฮาถ่าน้องอยู่ ศรีบุญชูนาถน้อง อ้ายคองถ่าเจ้าอยู่เฮือน...นางเอย ฯ
19 กุมภาพันธ์ 2553 16:09 น. - comment id 1102126
การรออาจจะทรมานน แต่ก้อคุ้มในการรอ...
19 กุมภาพันธ์ 2553 17:48 น. - comment id 1102167
เมื่อไรลุงศรีจะพูดชัด ฮี่ๆๆ
19 กุมภาพันธ์ 2553 19:39 น. - comment id 1102220
..พยายามอ่านค่ะ...จนเข้าใจความรู้สึกของผู้เขียนที่ถ่ายทอดอารมณ์...เป็นตัวอักษร...บางคำ..แปลความหมายไม่ค่อยออก..หากจะมีความหมายด้วย..คงจะดีไม่น้อยค่ะ..
19 กุมภาพันธ์ 2553 20:20 น. - comment id 1102233
อยากสิเว้าว่า นี่คือ บทผญาที่ม่วนคักม่วนแฮง อ้ายข้อย เก่งอีหลีเด้ออ สมกะเป้นปราชญ์อีสานบ้านเฮา ซั่นแหล่ว อ่านแล้ว น้ำตาจจะไหล 5555+ เห้ออ กวีน้อยฯ อ่อนไหว เพราะใครบางคน 5555+ ผมไม่ค่อยมีเวลา มาแต่งกลอน และมาเม้นท์ เนื่องจากว่า อยากเรียนให้จบซักที หลังจาก เล่นๆ ทำสิ่งไร้สาระ มาแสนนาน อยากจะโต สมวัย กะเขา ซักที น่ะครับ
20 กุมภาพันธ์ 2553 10:57 น. - comment id 1102404
ขอให้เธอคนนั้นกลับมาไวไวเน้อ...
20 กุมภาพันธ์ 2553 13:31 น. - comment id 1102430
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ ทำไมผมถึงไม่แปลให้ฟัง แบบว่ามันเยอะมากนะครับ วันหลังจะและคำและความให้ฟังครับ คุณราชิกา.........
20 กุมภาพันธ์ 2553 16:55 น. - comment id 1102530
อ่านไปซึ้งไป คำงามมากค่ะ อ่านพอเข้าใจอยู่ค่ะ สงสัยแต่ตรงนี้ว่าแปลว่าอิหยังค่ะ นกกะเต็นจอบบ้อน ปลายไม้จอบสิหลอย มาลิโตนเจ้าของเด่ พยายามแล้ว แปลบ่อออกค่ะอ้ายศรี แหะๆ
20 กุมภาพันธ์ 2553 17:43 น. - comment id 1102539
ผมขอ อนุญาติแปล ครับ อิอิ พอดี ว่างจากการทำงาน ผิดพลาดประการใด สุดแท้แต่ฟ้า จักปราณี แปลมั่วๆ เว่อร์ๆๆ ดังนี้ อิอิ ในเดือนสี่ผ่านไป ลมพัดมาเล็กน้อย เบาๆ นุ่มๆๆ (เริ่มจะมั่วแระ) 555+ จนถึงเดือนสี่หนาวแทบขาดใจ จนหนาวสั่นปวดในหัวใจ เมฆตั้งเค้ามีฟ้าสีเทามาปกคลุม สายลมพัดใบตองอยู่ไหวๆ มองท้องนาเหลืองแห้ง นกกระจิบจับอยู่กิ่งไม้ (กรณี เฟือง แปลมะออก) ร้องเสียงเจื้อยแจ้ว ทำให้หวนคะนึงหา เห็นวัวควายกินหญ้า กลางท้องนาเป็นฝูงฝูง เสียงระฆังดังก้องดังแก้ง (กะแล่ง เป็นอุปกรณ์ผูกใส่คอ ของ วัว หรือ ควาย เพื่อให้ได้ยินเสียง คล้าย ระฆังเล็กๆ) เสียงนั้นดังกังวานทั่วท้องนา นกกระสา ยืนอยู่ข้างบน (น่าจะบนหลังควาย..วัว) กลางท้องนาน้ำแห้งเเล้ง นกกระเต็บแอบที่จะโดดใส่ปลา (จอบบ้อน กรณีปลาโผล่ หรือ ดีใจ เมื่อมีน้ำหลาก หรือ มาสูดหายใจ) นกตัวนี้อยู่ปลายไม้แอบจะจับกินปลา ช่างน่าสงสารตัวเองยิ่งนัก ในหัวใจแหลกสลายด้วยความคิดถึงน้องนาง ฝนในเดือนสี่ตกมาทำให้หนาวสั่น ในหัวใจของพี่ ครุ่นคิดครวญหา นั่งผิงไฟคิดถึงน้องนาง ( หรือ น้องหล่า) ณ เถียงนาน้อย พี่ปั้นข้าว....เพื่อมา จี่ไฟ พร้อมทาไข่จนเหลืองเพื่อรอน้อง แล้วน้องนางเจ้าไปอยู่แห่งไหน ตั้งแต่เจ้าจากไปยังไม่เคยเจอหน้า...สักครั้ง ศรีอำคาบ่พ้ออุ่น....เอ่อ แหน่ะ แปลบ่ออก เว้ย เกี่ยวกับ อะไรสักอย่าง ทียังอุ่นไม่พอ เห้ออ เริ่มมั่วหนักแระ เรา นับแต่เอาข้าวขึ้นเล้า ไม่เคยเห็นน้องหวนกลับมาเลย ณ ภูเขาลังกา พี่ก็ยังถามข่าวน้อง น้องนางยังไม่เคยกลับมา อยากให้น้องกลับมาบ้านนา หนุ่มๆบ้านของเรารอน้องอยู่นะ ศรีบุญชูนาถน้อง....อีกแล้ววว แปลมะค่อยเก็ด พี่รอคอยเจ้าอยุ่บ้าน...แล้วนะ น้องนาง พี่สุรศรี กรุณา แปลประโยคที่ผม ตีความผิดพลาดได้ และอีกอย่าง ประโยคที่ผม แปลไม่ออก กรุณา มาแปลเพิ่มเติม เพื่อความกระจ่าง แห่งชาวอีสาน และ บ้านกลอนเทอญ อิอิ
21 กุมภาพันธ์ 2553 01:30 น. - comment id 1102684
มึนตึบ...
21 กุมภาพันธ์ 2553 09:16 น. - comment id 1102736
ขอบคุณน้องกวีครับที่ช่วยอธิบาย ขอแปลเพิ่มเติมดังนี้ครับ นกกระเต็น .......นกกินปลาชนืดหนึ่ง จอบ.....แอบ สิหลอย... (หลอนหลอก)ก็คือคอยให้เผลอ จอบบ้อนก็คอยอยู่บนกิ่งไม้ให้ปลาโผล่มาเหนือน้ำเพื่อตัวเองจะโฉบเอามาเป็นอาหาร ลิโตน.....สงสารตัวเอง(เจ้าของ)เหลือเกิน ศรีอำคา.....คำเรียกผู้หญิงครับ เช่น นาถน้องเนื้ออุ่น (พ้อ...พบ) ศรีบุญชู คำแพง (ทองคำที่มีค่ามาก แพง หมายถึงรักถึงชอบ หวงแหน ครับ) นกจิบเฟือง.....เฟือง คือฟางแห้งครับ นกจิบเฟือง เป็นนกชนิดหนึ่งตัวเล็ก ๆ ชอบหากินแมลงในทุ่งนา ตอนเกี่ยวข้าวเสร็จ ส่งเสียงร้องจิ๊บ ๆ ครับ เถียงนา ......กระท่อม ฮ่ำคะนิง........คร่ำครวญหา ต่าวคิน.........หวนคืน เล้า............ยุ้ง ฉาง มีอะไรอีกไหมครับ แฮะ ๆ ขอยอมรับข้อผิดพลาดครับ วันหลังจะแปลให้ละเอียดครับผม ขอบคุณที่ติดตามครับ