ตะวันลอย คล้อยต่ำ ใกล้ค่ำแล้ว ก่อนเคยแว่ว กังวาล เสียงหวานใส มีทุกข์สุข ถามทวง ด้วยห่วงใย กำลังใจ ให้กัน ทุกวันมา สอนให้เดิน ทางดี มีความหมาย รู้สบาย เราก็ พอหรรษา หากป่วยไข้ ติดตาม ถามหยูกยา มินำพา หาหมอ พอบรรเทา เปี่ยมด้วยรัก และศรัทธา มากค่ายิ่ง หลากหลายสิ่ง มุ่งมอบ ปลอบยามเหงา สุขอยู่ใน โลกของ เพียงสองเรา มินานเนา กาลเปลี่ยน หมุนเวียนไป ณ วันนี้ ไร้เสียง สำเนียงขาน ถ้อยคำหวาน อยู่หน ตำบลไหน อยากจะหลอก ตนเอง ก็เกรงใจ มันแสนไกล กับวาน ที่ผ่านเลย ฤทัยเปลี่ยว เดียวดาย ยากคลายนัก ท้อใจหนัก ตัวข้า นิจจาเอ๋ย ยิ่งหวนถึง ถ้อนคำ พร่ำภิเปรย น้ำตาเคย รินแต้ม สองแก้มชาย อยู่อย่างคน ทนทุกข์ สุขเลือนลับ อยู่กันกับ ความเหงา เศร้ามิหาย เหมือนฤทัย ใจจะ มอดมลาย วันจะคลาย ทุกข์นี้........จะมีฤๅ
30 มกราคม 2553 00:54 น. - comment id 1093437
ไพเราะทีเดียวเชียว
30 มกราคม 2553 08:58 น. - comment id 1093493
อย่าเหงาเลย..ไปวัดกันดีกว่า
30 มกราคม 2553 09:51 น. - comment id 1093512
คุณ..นัยเนตร ชมภิรมย์ครับ เหมือนรู้สึกว่าเราเคยคุ้นชื่อกันดี..เมื่อสมัยที่ คุณ..รัตนทิพย์ พึ่งขยายและคุณเทพ เทวฤทธิ์ จัดรายการกลอนชี่อ เสียงสวรรค์วรรณศิลป์. ทางสวท.01 ดอนเมือง เราก็ส่งบทกลอนไป ออกอากาศที่นั่น..คงจำได้นะครับ แวะมาอ่านครับ
30 มกราคม 2553 22:00 น. - comment id 1093777
อยู่กับเหงาเฝ้าครวญหวนคิดถึง วันเคยซึ้งตรึงใจให้ทอดถอน กาลเวลาพาเวียนเปลี่ยนตัดรอน แม้เว้าวอนอ้อนหาสุดล้าแรง