. ~ โคลงกลบท อักษรล้วนล้วน ~ เฌอรัก ~ ( โคลงกลบท ๘ ) การเขียนกลบทโคยใช้พยัญชนะต้นตัวเดียวกันตลอดทั้งบท หรืออาจต่อเนื่องไปหลายบทนั้น มีรูปแบบการเขียนเหมือนต่อยอดมาจากกลบทอักษรล้วนที่มีมาแต่ดั้งเดิม ซึ่งจะล้วนเฉพาะในแต่ละวรรคกลอน หรือแต่ละบาทโคลงเท่านั้น เมื่อมีความแตกต่างกันก็น่ามีชื่อเรียกให้ชัดแจ้ง เคยอ่านการเขียนอักษรล้วนทั้งบทหลายที่ ก็ไม่พบว่ามีชื่อเรียกเฉพาะแต่อย่างใด จึงขอเรียกให้เฉพาะเจาะจงไปเสียเลยว่า "อักษรล้วนล้วน" เพื่อให้เป็นที่เข้าใจร่วมกันว่า เป็นแบบล้วนทั้งบท หรือต่อกันไปหลายบท สำหรับการเขียนโดยใช้พยัญชะที่มีเสียงเหมือนกัน เช่น ข-ค-ฆ ซ-ทร-ศ-ษ-ส ผ-พ-ภ ปนอยู่ด้วยกันในบท ก็เป็นอีกแบบหนึ่งที่ยังไม่มีชื่อเรียกเฉพาะ ดูๆแล้วแบบนี้น่าเรียกว่า "อักษรเสียงล้วน" ครับ ~ รักรุกข์รอมร่มรื้น ..... รายเรียง เร้ารื่นรมย์ร่ำเรียง ......... รจน์ร้อย รวยรินระเรื่อยเรียง ....... รวงเรข ร้องเรียกรักร่วมร้อย ...... ร่ายร้องเรื่องราว ~ รักรุกข์รุกรักษ์รั้ง ....... รุกราน ราญรุกข์รุกข์ราบราน ..... ร่อยร้าง ร้างรุกข์เรื่องร้ายราญ ...... ระเรื่อย ระเรื่อยรา ร้อนเร่งแรงเร่งร้าง .......... รีบรู้รณรงค์ ~ คำโคลงควรคล่องคล้อง ....... คมความ โคลงคลุกควันคลุมคาม ........... คละคลุ้ง คำคราญคละโครมคราม ......... คละคล่ำ ความครากคาแควคุ้ง .............. ควั่งคว้างโคลงเคลง ~ ครูเครงคุยครอบคล้าย ..... ใคร่ครวญ ความคิดเคลือบแคลงควร ...... คัดค้าน คนครุ่นคิดโคลงควณ ........... ครบเครื่อง คึกแค่ครื้นคงคร้าน .............. ใคร่ค้อมใครครู ~ ครูคราวเคยแค่คุ้น ......... คนคราญ เครียวใคร่คนโคลงควาน ..... ควับคว้า ควักคว้างคว่ำคลุกคลาน ...... คลาดเคลื่อน เคอะแค่นคำเคยค้า ............ โค่งโค้งโคลงครวญ ~ ใคร่ครวญคำคดเคี้ยว ...... เคราคาง คนคบคุยคอมฯคราง ........... ค่อยค้อย ครูเคยแค่นใครคลาง ........... แคลงครอบ คราครุ่นคาคั่งคล้อย ............ คั่งค้างคลางแคลง ~ คุณคอมฯคุณค่าค้ำ ..... เคียงครู ครูเคิ่ล*คือคุณครู ............ คล่องค้น ค้ำคนคลี่คุยคู ................. คลุกครู่ คราแค่คำคลิกค้น ............ คล่ำคล้องครูความ ( * ครูเคิ่ล = Google ) ~ ครืนครืนคราคลื่นครื้น ..... เครงครา คลาคล่ำคลอเคลียคลา ........... เคลื่อนคล้อย ครวญครางเคลิบเคลิ้มคา ....... คืนค่ำ คำคลื่นครวญค่อยค้อย .......... ครุ่นคล้ายใครคราง ~ ครวญคร่ำคราเครียดค้อน ..... เคืองใคร คราวเคราะห์คลุมคล้ายใคร ........ คั่นคั้น คอยคล้อยเคลื่อนคลาไคล .......... แคล้วคลาด ความคลี่คลายคืบครั้น ............... ค่อยคว้าครอบครอง การเขียนกลบทไม่ว่าจะเป็น อักษรล้วนล้วน หรือ อักษรเสียงล้วน ก็ตาม พึงหลีกเลี่ยงการใช้คำสองพยางค์ที่ใช้พยัญชนะเสียงอื่น เพราะเหตุว่าเมื่ออ่านแล้วรู้สึกได้ว่าสะดุด ลองพิจารณาตัวอย่าง ( 1 ) หรีดหริ่งเรไรภิรมย์ ..... รื่นร้อง ภิ เสียงลหุ เป็นลูกเก็บ ( 2 ) หรีดหริ่งเรไรระงม ...... ร่ำร้อง งม เสียงครุ นับเป็นพยางค์โคลง มองในเชิงของการเขียน ตัวอย่างที่ 1 ดูดีกว่า 2 แต่เมื่ออ่านออกเสียงแล้วก็รู้สึกสะดุดพอกัน ว่าไปแล้วสำหรับกลบทนี้ การใช้คำรับสัมผัสที่ซ้ำคำกันหรือจะให้รับสัมผัสเลือน ยังจะน่าสนใจเสียกว่าที่จะให้แปลกเสียง ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นเท่านั้น เชิญท่านลองเขียนดูครับ ท่านอาจสนุกกับกลบทนี้อย่างนึกไม่ถึง อักษรล้วนล้วน คุณดอกบัว เกาะเกลากลอนกิ่งกว้าง ....... เกรียงไกร กรองกลุ่มกลแกว่งไกว ........ เกี่ยวก้าน กอบกลก่องกานท์ไกล .......... กุมกก ก้าวกิ่งแกมกรอกกร้าน ........ แกร่งใกล้กลัวเกรง ขีดเขียนขับข่มข้อง ......... ขลังขาน ขลุกขลุ่ยข้นขับขาน ......... ข่มข้อ ขอนเข้าแข่งเข็นขาน ....... ขวักไขว่ ขานขู่เข็นขับข้อ .............. ข่มไข้แข็งขืน คิดโคลงคลีคืบคล้อง ......... คำคลอ ค้นเคร่งโคลงคับคอ .......... ใคร่ค้ำ ครวญคำแค่คืบคลอ ........... คละครอบ เคลิ้มเคร่าเค้นโคลงค้ำ ....... ครั่นคร้านครามครัน คุณเพียงพลิ้ว : เพียงพอ เพลิดเพลินพจน์พากย์พลิ้ว ....... พาพัน พักตร์พี่พราวแพรวพรรณ ........ เพ่งพริ้ม พิศพรรคเพื่อนพงศ์พันธุ์ .......... พานพึ่ง เพราเพริศพบเพชรพริ้ม ........... พร่ำเพ้อเพียงพอ ... แกมกานท์ ไกลเกรียวกราวกล่อมก้อง ........ แกมกานท์ กอกลิ่นกลมเกลียวการ ............ เกาะเกี้ยว เก็บกลอนแก่กรองกานต์ .......... เกลากลั่น ไกวกรุ่นกรูกลเกี้ยว ................. กิ่งแก้วกอดกลืน คุณแก้วประเสริฐ คิดคว้าครองคละคลุ้ง .......... คลอนแคลน คาดเครื่องค้นครบแคน ........ ค่อนค้าน คลายเคียงครบคงแคลน ....... เคียงคู่ ความคิดเคลียคงคร้าน ......... ครบค้นคงคลาย. คุณก้าวที่...กล้า ชมชวนชมช่างช้อย ....... เชิญชวน ชูช่อชันชักชวน ............ ช่วงใช้ ชนเชยชิดช่ำชวน .......... ชมชอบ ชอมชื่นเชอเช่นใช้ ......... ชื่อเชื้อชวนชม ชมชายชาญเชี่ยวชั้น ...... เชิงชาย เช่าช่วงเชิดชูชาย .......... ช่วยเชื้อ ชวนชิดเชื่อมเช่นชาย ..... ชาญเชี่ยว ชูช่อชวนชมเชื้อ ............ เช่นชู้ชัวชม ชมชัวเช่นช่วงเช้า .......... ชุ่มชล ชรชดช่ำชองชน ............ ชระใช้ โชติช่วงช่วยเชาวน์ชน .... เชียรช่อง ชมชอบชมเชยใช้ .......... ชุ่ยเชี้ยชวนชม ชมชวนชมชดช้อย ......... ชันชัย ชวยชื่นเชยชิดไชย ......... ช่วงชื้อ ชูช่อเชิดชมไช ............... ชีพชิต ชนชอบเช่นชลชื้อ ........... ชระใช้ชื่นชม อักษรเสียงล้วน คุณสุรศรี รักเราเรารักแล้ว ....... รักเลย รักร่าเริงเราเลย ........ รักร้อน รักรักรักรักเลย .......... เรารัก เรารักรักเราร้อน ....... รักไร้โรยรา คุณอัลมิตรา .....โคลงคมเคียงครั่นครื้น- ....... เครงความ ครวญคร่ำคลายขลาดขาม ........ ขุ่นข้อง โคลงคราญครั่นคุกคาม ............ ครวญใคร่ ครัดเคร่งโคลงเคียงคล้อง ......... คึกครึ้มขีดเขียน ฯ คุณเพียงพลิ้ว : เพียงพบ เพียงพานพบพักตร์พริ้ม ........ พรั่นเพริด พิศเพ่งพรรณเพลินเพลิด ....... ภักดิ์พร้อม พิงเพลาพี่พราวเพริศ ............ พลอดพร่ำ เพลงพัดพิณพรมพร้อม ......... พาดพลิ้วพึงพัน
17 ธันวาคม 2552 07:23 น. - comment id 1075079
มาศึกษางานโคลงครับ ขอคารวะและปรบมือให้กับความ อัศจรรย์ที่รังสรรค์ขึ้นครับ
17 ธันวาคม 2552 08:32 น. - comment id 1075090
รักเราเรารักแล้ว รักเลย รักร่าเริงเราเลย รักร้อน รักรักรักรักเลย เรารัก เรารักรักเราร้อน รักไร้โรยรา .................. ไม่ถนัดเลยไม่ร่ำรวยคำพอครับ คุณพจน์สบายดีนะครับ คิดถึงจังเลย คุณเคยให้แรงบันดาลใจผม เรื่องกลอนผญาครับ ผมพอจะแต่งได้แล้ว "เป็นไปไม่ได้" เป็นเพียงคำพูดของ คนขี้ขลาด ผมท่องจำคำนี้เสมอ ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ
17 ธันวาคม 2552 09:24 น. - comment id 1075106
มาดูงาน (อีกแระ)
17 ธันวาคม 2552 09:55 น. - comment id 1075117
มาศึกษาโคลงกลบทค่ะ ว่างๆสอนข้อยแหน่เด้อ..แต่งโคลงบ่เป็นเลย..
17 ธันวาคม 2552 11:25 น. - comment id 1075140
แค่โคลงสี่สุภาพ.... ก็ยังทำเอาโคลงเคลงไปแล้วค่ะ แต่จะว่าไปนะคะ ผู้ที่เขียนโคลง แล้วผูกเป็นเรื่องราวเนี่ย เก่งมาก ๆ นับถือค่ะ เที่ยวนี้ปรางเข้ามาศึกษาเจ้าค่ะ
17 ธันวาคม 2552 11:52 น. - comment id 1075152
โห.......พี่พจน์ครับ สุดยอดเลยนะเนี่ย...... นับถือนับถือ
17 ธันวาคม 2552 14:11 น. - comment id 1075191
คุณ พจน์รำพัน อันที่จริงในเวปฯไทยกลอน นี้ผมเองเป็นคนแรกที่นำมาลงไว้ โดยใช้พยัญชนะ ตัวเดียวล้วนๆ แต่งได้ แปดบท โดยใช้ตัว"ค" ตัวเดียว แต่ไม่ได้แต่งชื่อไว้ เพราะผมนิสัยแปลก บ้าๆบอๆบ๊องส์อยู่แล้ว เมื่ออ่านโคลงหรือกลอนที่ เขาเขียนไว้มักจะใช้ตัวช่วยคือ สำเนียงคล้ายคลึง ดังที่คุณยกมานั่นแหละ จะหา ที่ใช้พยัญชนะตัว เดียวไม่เคยมี แต่กว่าจะจบแปดบท เล่นเอา มึนศีรษะมากเชียวล่ะครับ จะเห็นก็มีคุณดอกแก้ว ที่ตอบโคลงพยัญชนะตัวเดียวของผมในเวปฯ ของเธอเอง แล้วบอกว่าแทบตาย ผมว่าสนุกดี อันที่จริงแล้ว การเขียนแบบนี้มีประโยชน์มาก มายยิ่งนัก ด้วยเพิ่มทักษะอักษรได้อย่างดีตลอด จนทำนองที่จะนำมาใช้ต้องผสมผสานในพยัญชนะ ตัวเดียว จนเป็น โคลงหรือกลอน หากไม่ชำนาญ จริงๆยากนักที่จะมาเล่นแบบนี้ได้ครับ ส่วนใหญ่ จะใช้ตัวช่วยกันซึ่งง่ายมากๆ หากเป็นแบบนี้ จะยากๆๆมากๆๆจริง เห็นคุณเล่นก็เลยแจ้งไว้ ในฐานะผมนำมาเล่นก่อนคนอื่นๆครับ ตั้งแต่ผมเล่นมาพยายามตรวจสอบดูว่าใครจะ เล่นบ้างก็ไม่มี ในเวปฯไทยกลอนนี้เห็นก็มี แต่คุณเท่านั้น ผมว่ายากกว่าเล่นกลบทมาก เสียอีกครับ หากไม่เชื่อให้เขาทดลองดูซิครับ แต่อย่างน้อยสุดเอาแค่ สี่ บท ก็พอ ก็จะรู้ว่า มันง่ายหรือยากครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
17 ธันวาคม 2552 19:51 น. - comment id 1075311
มึนค่ะ แต่งได้งัยเนี่ย เก่งจังค่ะ
17 ธันวาคม 2552 20:43 น. - comment id 1075333
ทำไมต้อง เฌอรัก ด้วยหล่ะคะ เฌอมาลย์เขาสงสัยค่ะ เป็น ยารัก ได้ไม๊คะ
17 ธันวาคม 2552 20:52 น. - comment id 1075340
เกาะเกลากลอนกิ่งกว้าง......เกรียงไกร กรองกลุ่มกลแกว่งไกว.......เกี่ยวก้าน กอบกลก่องกานท์ไกล......กุมกก ก้าวกิ่งแกมกรอกกร้าน.....แกร่งใกล้กลัวเกรง ขีดเขียนขับข่มข้อง.......ขลังขาน ขลุกขั่วข้นขับขาน......ข่มข้อ ขอนเข้าแข่งเข็นขาน.....เขี่ยวขยับ ขานขู่เข็นขับข้อ......ข่มไข้แข็งขื่น คิดโคลงคืบคลีคล้อง.....คำคลอ ค้นเคร่งโคลงคับคอ.......ใคร่ค้ำ ครวญคำแค่คืบคลอ......คละครอบ เคลิ้มเคร่าเค้นโคลงค้ำ.....ครั่นคร้านครามครัน ขมาเตอะอ้าย ขอให้คุณพจน์รำพันมีแต่ความสุขค่ะ
17 ธันวาคม 2552 21:24 น. - comment id 1075354
ค้างคาวแค่ขอเคียงคู่....................ข้างข้างคูคู คุดคู้เข้าแข่งขันข้างแคร่ ใครเคยขอดค่อนคงแคร์..............ขอควงโคมแข ขลาดแข้*คงเคี้ยวขาขาด แค๊กแค๊คราไข้ครวญคัด..............ครางครวญเคลื่อนคลาด คงขาดคู่ ข้าพฯ ขึ้นคาน คิกคิกข้ามคืนขับขาน....................คิดไขว่คว้าควาน ขอคานเคียงคลอคร่อมคราว ฯ ** แข้..เป็นภาษาถิ่นอีสาน แปลว่าจระเข้ ...................... แฮ่ม อ่านความคิดเห็นของคุณแก้วประเสริฐ ก็ให้นึกคันในหัวใจ การที่จะบอกว่าใครเป็นผู้ค้นคิดเป็นคนแรก มันจะได้ประโยชน์อันใด ที่จริงแล้ว คำเขียนอ่านได้ แต่ความหมายอาจไม่ได้ ตรงนี้ต่างหากที่สำคัญ เรื่องกลบท ไม่ยากหรอกหากจะเขียน มันยากตรงที่ เขียนแล้ว อ่านแล้วได้ใจความหรือเปล่า เอาเถอะน่า .. บรรยากาศกำลังดีเชียว อย่าเพิ่งมีอารมณ์บูดกันก่อนเสียล่ะ ปูเหลียวบรรดาสาว ๆ จะแตกตื่นตกใจเผ่นเสียก่อน
17 ธันวาคม 2552 21:27 น. - comment id 1075356
...รอนแรมฤาร่ำร้อง.........................เรไร เรรวน ระรื่นหลอกเราหลาย........................ล่วงเร้า หลงรักเรื่องเรียงราย.......................เรียมร่าย รจน์เริง ลดหลั่น...หลากลบร้าว......................ร่อนล้ำเริงรมณ์ ฯ
17 ธันวาคม 2552 21:29 น. - comment id 1075359
.....โคลงคมเคียงครั่นครื้น-..........เครงความ ครวญคร่ำคลายขลาดขาม............ขุ่นข้อง โคลงคราญครั่นคุกคาม................คิดใคร่ ครวญเคย ครัดเคร่งโคลงเคียงคล้อง............คึกครึ้มขีดเขียน ฯ
18 ธันวาคม 2552 09:31 น. - comment id 1075444
ไม่มีเพียงรักบ้างหรือคะท่านชาย คริๆ ยากจังนะคะ อ่านแล้วท่านชายเข้าใจโคลงกานต์ไหมอ่ะคะ เดี๋ยวถ้าว่างจะมาแจมใหม่ค่ะ
18 ธันวาคม 2552 11:14 น. - comment id 1075469
ไชโยคุณเพียงพลิ้วมาแล้ว ...เพียงเพียงเพียงพลิ้วพัด ผ่านมา ใจก็ฉ่ำอุรา ชุ่มชื้น ใยร้องนุชหายหน้า หนีห่าง เพียงสบหน้าก็ครื้น คึกให้ใจคะนอง ......ว่าเข้าไป..พี่ศรีก้อ
18 ธันวาคม 2552 11:55 น. - comment id 1075480
คุณ พจน์รำพัน อิอิ ขออาศัยเนื้อที่ตอบ ยอดหญิง หากการเขียนแบบอักษรล้วนนั้นต้อง ได้ใจความด้วยนะครับ ผมไม่กล้าล่วงเกินยอดหญิง หรอกครับ แต่ขอออกตัวเท่านั้นจ๊ะ เพื่อให้คนเขา เล่น ใช่แล้วการได้ใจความสำคัญมากอย่างยอด หญิงบอกแหละครับ แต่อยู่ที่ว่าเราจะค้นอักษรได้ ขนาดไหน เรียกว่าแม้ยากแต่ได้ประโยชน์มาก และสนุกด้วย ทำให้รู้จักทำนองอักษรผสมผสานกัน ได้อย่างดี หากนำไปประยุกต์กับการเขียนอื่น จะไม่ค่อยมีปัญหาครับ ขอนำตัวอย่างคุณ พจน์รำพัน มาแจม หน่อยนะครับ ( 1 ) หรีดหริ่งเรไรภิรมย์ ..... รื่นร้อง ภิ เสียงลหุ เป็นลูกเก็บ ( 2 ) หรีดหริ่งเรไรระงม ...... ร่ำร้อง งม เสียงครุ นับเป็นพยางค์โคลง หรีดหริ่งเรไรรมย์ ร่ำร้อง (รมย์มาจากคำ ว่ารื่นรมย์ ภิรมย์ก็ได้ครับ เพียงตัดคำหน้าออก ให้เหลือแค่ตัว " ร " เท่านั้นผมว่าความหมาย เหมือนกันคนอ่านจะรู้ครับ อย่างโบราณมักจะ ตัดคำหน้าออกเสมอๆครับ ทำนองเสียงจะสอด ึคล้องกันครับ และได้ความหมายไม่สะดุดด้วย ผมเรียกว่าซ่อนรูปครับ หากเขียนแบบคุณนั้น ก็จะเกิน ห้า คำไปจึง ได้เกิดแบบตัด อักษร การพลิกแพลง การหัก มุมอักษร ขึ้นมาครับ แต่มาสมัยใหม่ เขาไม่คำนึงหรอกครับ ผมเจอ มาหลายๆคน การนับคำโบราณเขานับทำนอง เป็นเกณฑ์ แทนคำนะครับ ส่วนที่ว่าลูกเก็บนั้น โบราณมักไม่นิยมครับด้วยผิดฉันทลักษณ์ไป จะว่าหลีกเลี่ยงก็ได้ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 ธันวาคม 2552 12:19 น. - comment id 1075493
คุณ พจน์ รำพัน ขอเพิ่มเติมเพื่อเสริมให้ดู ของบรมครูศรีปราชญ์ กล่าวไว้สุดท้ายว่า ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน เราศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง เราผิดท่านประหาร เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้คืนสนอง. จะเห็นได้ว่า คำ "ธรณี" หากถือกันจะเห็นว่า เป็นคำเดียว แต่โคลงจะนับสามคำ ธร+ระ+ณี นับสามคำหมายถึงทำนองครับ เป็นต้น การเขียนโคลงต้องให้คนอ่านเขาตีความกันเอา เองผมถึงเรียกว่าซ่อนรูปครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 ธันวาคม 2552 13:11 น. - comment id 1075512
มีโคลงอยู่บทหนึ่ง ที่อัลมิตราวางเมื่อคืน มันผิด ... รอให้จับผิดอยู่เนี่ย catch me if you can .. ha ha ..
18 ธันวาคม 2552 13:35 น. - comment id 1075519
1 คุณเสมอจุก ขอบคุณครับ แต่ว่าไม่อัศจรรย์หรอกครับ ที่คุณอัลมิตราเขียน นาฏกรรมในค่ำคืนหนึ่ง นั่นละอัศจรรย์ของแท้ แหะๆ 2 คุณสุรศรี ความคิดเหมือนแสงส่องทาง เมื่อได้ทำคือการก้าวเดิน ประสบการณ์คือความเพลิดเพลินจำเริญใจ .. ว่าไปนั่น อิอิ งานเขียนต้องใช้เวลาครับ ผมเปิดพจนานุกรมอยู่ตลอด นั่นละคลังคำของผม ขอบคุณที่แวะมาฝากโคลงรักไว้ครับ อืมม รักซะ .. 3 คุณ(น้ำตาลหวาน) อีกแระ ใช่เลยครับ อีกแระ
18 ธันวาคม 2552 14:12 น. - comment id 1075533
อิอิ... ขออาศัยเนื้อที่หน่อยนะครับ ผมเอง ให้เกียรติยอดหญิงผมเสมอมา มักจะไม่ค่อยตอบ ไม่ว่ากานท์ใดๆทั้งสิ้นนอกจากล้อเล่นเท่านั้น ผม ยกให้ไม่กี่คนเท่านั้น ที่มิบังอาจครับผมถือมาก เรื่องนี้ ครั้งหนึ่งยอดหญิงที่รักผมเคยแนะนำผม เมื่อเริ่มเล่นกลอนใหม่เพราะยังไม่เข้าที่เข้าทาง นึกอยากเขียนอะไรก็เขียนไม่มีฉันทลักษณ์ ได้ ยอดหญิงของผมนี่แหละแนะนำให้เสมอๆ จึงถือว่า เป็นผู้มีคุณคนหนึ่งของผม ฉนั้นใครกล้าล่ะจะไป จับผิดโคลงยอดหญิง ผมนะไม่กล้าบังอาจหรอก และก็คุณหมอวฤกอีกคนผมยิ่งไม่กล้าใหญ่ นั้น ยอดนักโคลงเชียวแหละครับ ที่เข้ามามากผิด ปกตินี้นั้นด้วยผมเอง รักงานด้านนี้มากครับ แต่ไม่เขียนด้วยเขาจะหาว่าบ้าๆยิ่งบ้าๆบอๆบ๊องส์ อย่างที่เขากล่าวไว้ด้วยนะครับ แต่ก็ดีไปอย่าง ทำให้ผมไม่ลืมตัวเอง จึงเล่นไปตามประสาคนบ้าๆ ครับ ผมจึงไม่ค่อยจะเหมือนใครเขาครับ บอก ยอดหญิงด้วยนะ ผมรักเสมอๆครับเช่นเดียว กับคุณ ต่อไปอนาคตผมรับรองว่าไกลแน่นอน กล้าทำในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน ฮ่าๆๆๆๆมี เพื่อนแล้วเรา อิอิ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 ธันวาคม 2552 14:25 น. - comment id 1075538
4 คุณครูพิม ผมจำได้นาครับ ที่คุณครูพิมเขียนโคลง และยังบอกว่ากำลังสอนนักเรียนเขียนโคลงสี่สุภาพอีกด้วย ผมเขียนได้แต่สอนไม่เป็นอะครับ .. แย่เลย 5 คุณปรางทิพย์ ครับ ศึกษาไปเขียนไป ก็ชำนาญในที่สุด ผมเขียนในพันทิปใหม่ๆก็มั่วอยู่หลายเดือนครับ แต่บ้าเขียน จนคุณรองเมือง มาบอกว่าสี่คำท้ายวรรคจบต้องเขียนชิดกัน และก็มีรุ่นน้องมาบอกว่าคำโทของโคลงถือตามรูปไม่ใช่ตามเสียง แถมเขียนโคลงให้อีก ว่ารุ่นพี่พารุ่นน้องดำน้ำ .. อิอิ นึกแล้วยังขำๆอยู่ 6 คุณสุริยันต์ จันทราทิตย์ โหย.. อย่าชมกันถึงขนาดน้าน ใช่ว่าจะเก่งกล้าสามารถอันใด ผมเขียนอยู่หลายวันนาครับ แก้ไปแก้มาตามอารมณ์ วันนี้ว่าอย่างนี้ดี อีกวันแก้ไขอีก หลายรอบครับ
18 ธันวาคม 2552 14:42 น. - comment id 1075552
7 คุณแก้วประเสริฐ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่ามือทำ .. อิอิ มาบอกผมเป็นครั้งที่สอง เรื่องโคลงอักษร ค ล้วนล้วน ขอชมเป็นขวัญตาหน่อยได้ไหมครับ 8 คุณใจปลายทาง น้องอ้อมพักหลังนี้หายหน้าหายตาเลยนะ พี่คิดถึงอยู่นา แหะๆ คงไม่มีใครมาว่าพี่นะ แค่บอกคิดถึงหน่อยเดียว 9 คุณยาแก้ปวด ได้สิครับ คุณยาฯ ตกลงๆ เดี๋ยวถึงอักษร ย ต้องเป็น ยารัก แน่นอนครับ ขอจองชื่อไว้แต่ตอนนี้เลย .. อิอิ
18 ธันวาคม 2552 15:50 น. - comment id 1075595
เมื่อกี้เสียงล้วน คราวนี้อักษรล้วนๆเลยค่ะ อิอิ พอได้ความไหมคะท่านชาย
18 ธันวาคม 2552 16:16 น. - comment id 1075617
คุณแก้วขา..วรรคที่สองที่ถูกคือ ...เราก็ศิษย์อาจารย์ หนึ่งบ้าง.. หมายฟามว่าท่านศรีฯ มีอาจารย์ชื่อว่าหนึ่งครับ แฮะๆๆ ..โอย..ประเทศไทย บอกหน่อยซีครับ ว่าเป็นหญิงเป็นชาย โอ้ย..ผมละปวดหัวแล้ว.. คุณอัลมิตาคุณเป็นคนที่ไหนกันแน่นะ ผมไม่จับผิดคุณหรอก ตาลายแล้วหละ คุณแก้วด้วยแหละอำกันตั้งนาน ..... เออว่าแต่ว่าผมชักสนุกเสียแล้วหละ บ้านเรามีงานเช้าแล้วนิ
18 ธันวาคม 2552 16:31 น. - comment id 1075630
อีกอันค่ะ พอมีเวลา อิอิ
18 ธันวาคม 2552 16:41 น. - comment id 1075636
ไม่เคยคิดจะเขียนเลยนะคะอักษรล้วนๆเนี่ย แต่งานนี้จะลองพยายามดูนะคะ ขอเวลาแป๊บบบบบบบ(ยาวๆค่ะ)
18 ธันวาคม 2552 17:05 น. - comment id 1075643
คิดคว้าครองคละคลุ้ง คลอนแคลน คาดเครื่องค้นครบแคน ค่อนค้าน คลายเคียงครบคงแคลน เคียงคู่ ความคิดเคลียคงคร้าน ครบค้นคงคลาย. แก้วประเสริฐ.
18 ธันวาคม 2552 19:24 น. - comment id 1075739
คุณสุรศรี.. อาราย มาถามว่าอัลมิตราเป็นคนที่ไหน แปลกพิลึกเชียว อัลมิตราก็เป็นคนเกิดในกรุงเทพฯ นี่แหล่ะค่ะ อยู่แถวยานนาวา เป็นผู้หญิงในบางครั้ง ผู้ชายในบางที แล้วแต่จะคิดเขียนกลอนบางครา ช่วยจับหน่อยน่า .. จับนิด จับหน่อย ไม่ว่ากันหรอก แต่อย่าจับแรงนะ อัลมิตรากลัวเผลอหักงวงไอยราเข้าให้ค่ะ แหะ แหะ .. หวังว่า คงไม่มีใครหึง เนอะ 555
19 ธันวาคม 2552 00:42 น. - comment id 1075842
10 คุณดอกบัว ครั้งนี้คุณดอกบัวขยันเขียนมาสามบทเลย ก-ข-ค สงสัยชอบกลบทนี้ ในบทที่สอง มีคำว่า ขั่ว กับ เขี่ยว ที่ไม่รู้ความหมายของคำ และ บาทสี่ แข็งขื่น เข้าใจว่าเป็น แข็งขืน ถ้าคุณดอกบัวจะแก้ไขบทนี้ให้อีก ก็น่าแก้คำ ขยับ เสียด้วยครับให้เป็น ข ล้วนๆ บทที่สามขออนุญาตสลับ คืบคลี เป็น คลีคืบ จะได้ถูกฉันทลักษณ์ ขอบคุณมากครับ และขอให้คุณดอกบัวประสบแต่ความสุขเช่นกันครับ 11-13, 18 คุณอัลมิตรา กาพย์แต่งแบบอักษรเสียงล้วน สงสัยจะเป็นกาพย์ฉบัง ๑๖ แต่ "คุดคู้เข้าแข่งขันข้างแคร่" คงเขียนคำไว้เกินหรืออย่างไรครับ โคลงทั้งสองบทก็เขียนแบบอักษรเสียงล้วน แต่สร้อยไม่ถูกต้องตามแบบสร้อยโคลง เป็นเจตนังทั้งหมดเลย โคลงใน คห.12 สัมผัสเลือน ไร-หลาย ซึ่งถ้ามือใหม่ก็ว่าไปอย่างนะครับ แต่นี่ระดับคุณอัลมิตรา สงสัยเอาของเก่าแต่สมัยไหนมาลงหรือเปล่านี่ ไม่ได้จับผิดนะครับ ว่ากันตามเนื้อผ้า
19 ธันวาคม 2552 07:57 น. - comment id 1075871
^ ^ สำหรับโคลงบทหลังมองเนื้อหาแล้วเหมือนเพิ่งแต่งใหม่ ขออนุญาตแก้ไขในบาทสาม คิดใคร่ ครวญเคย เป็น ครวญใคร่ ขอบคุณครับ
19 ธันวาคม 2552 08:51 น. - comment id 1075891
14 คุณเพียงพลิ้ว บทนี้น่าเสียดาย ผสม ภักดิ์ มาเพียงคำเดียวเลยไม่ พ ล้วนๆ อ่านเข้าใจครับ หากไปถึงลำดับอักษร พ ก็ชื่อ เพียงรัก ครับคุณกานต์ 15 คุณสุรศรี บาทสาม.. ใยร้องนุชหายหน้า ...... หนีห่าง ใย น่าจะเป็น ไย ในความหมายว่า ทำไม และตำแหน่งคำสัมผัส หน้า ต้องเป็นคำสุภาพครับ มีวรรณยุกต์ไม่ได้ ต้องหาทางเลี่ยงไปครับ จาก หายหน้า อาจใช้ หลบตา แทน เขียนโคลงต้องระวังเรื่องฉันทลักษณ์เป็นอันดับแรกครับ
19 ธันวาคม 2552 10:42 น. - comment id 1075926
16 คุณแก้วประเสริฐ ตามพจนานุกรม ภิรมย์ ตัดมาจาก อภิรมย์ ซึ่งเป็นคำกริยาว่า รื่นเริงยิ่ง, ดีใจยิ่ง, ยินดียิ่ง รื่นรมย์ เป็นคำวิเศษณ์ ว่า สบายใจ, บันเทิง รมย์ เป็นคำวิเศษณ์ ว่า น่าบันเทิงใจ, น่าสนุก, พึงใจ, งาม ที่คุณแก้วฯว่า รมย์มาจากคำว่ารื่นรมย์ ภิรมย์ก็ได้นั้น จริงๆแล้วรมย์ เป็นคำรากนะครับ รมย์ ไปสมาสกับ อภิ ก็เป็น อภิรมย์ รมย์ ไปใช้ประกอบกับคำ รื่น ก็เป็น รื่นรมย์ รมย์ ไปใช้ประกอบกับคำ เริง ก็เป็น เริงรมย์ ตัวอย่างที่ผมยกเอาไว้ ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า ไม่น่าเขียนอย่างนั้น เพราะจะมีเสียงแปลกปลอม แต่คุณแก้วเอาตัวอย่างผมมาพูดเรื่องลดรูป ก็จะพาให้ไขว้เขวไปเรื่องอื่นนาครับ และจะเข้าใจผิดว่าเขียน รมย์ เป็นการลดรูปคำ ซึ่งไม่ใช่นะครับ เพราะ รมย์ เป็นรากคำโดยแท้ ทีนี้อีกประเด็นหนึ่ง หากจะเขียนว่า หรีดหริ่งเรไรภิรมย์ ..... รื่นร้อง จะถือว่าคำเกินหรือไม่ คุณแก้วฯว่าเขียนแบบนี้คำเกิน ผมยืนยันว่าไม่เกินครับ เพราะ ภิ เป็นลหุ ออกเสียงรวบไปได้ จะดูของโบราณก็ได้ครับ จากลิลิตพระลอ ๒ บุญเจ้าจอมโลกเลี้ยง ..... โลกา ระเรื่อยเกษมสุขพูล ..............ใช่น้อย แสนสนุกศรีอโยธยา ............. ฤๅร่ำ ถึงเลย ทุกประะเทศชมค้อยค้อย ........ กล่าวอ้างเยินยอ ฯ คุณแก้วฯว่า ในบาท๒, ๓ และ ๔ คำเกินไหมครับ และบาทสามวรรคหน้า ตกเอก หรือไม่ เพราะอะไรครับ นอกจากนี้ผมขอยกตัวอย่างที่คุณแก้วฯเขียนเอง ในกระทู้คุณกวีน้อยฯดังนี้ เพ็ญพักตร์พร้อมเพริดพริ้ง แพรวพรรณ พิศเพ่งพ้องพฤกษ์พันธุ์ พี่พร้อม พานเพียงพบแพ้พนัน พอเพ่ง พนอพาดพานไพรพ้อม พ่ายแพ้พิษพาลฯ แก้วประเสริฐ. แก้วประเสริฐ 08 ธ.ค. 52 - 14:25 บาทสาม มี พนัน บาทสี่ มี พนอ ซึ่งเขียนผิด ต้องเขียนว่า พะนอ อย่างนี้คำเกินไหมครับ และในแง่ของกลบท จะถือว่าเป็นอักษรล้วนล้วน ก็ยังไม่ได้นะครับ ติดที่ พนัน และ พะนอ ผมมีความคิดเห็นดังนี้แหละครับ
19 ธันวาคม 2552 10:50 น. - comment id 1075931
กลบทอักษรล้วน ร-เรือ น่าบรรจุลงในหนังสือเรียนนะคะ ให้เด็กๆหัดพูด ร-เรือ น่าสนุกดีนะคะ
19 ธันวาคม 2552 11:22 น. - comment id 1075952
เกาะเกลากลอนกิ่งกว้าง......เกรียงไกร กรองกลุ่มกลแกว่งไกว.......เกี่ยวก้าน กอบกลก่องกานท์ไกล......กุมกก ก้าวกิ่งแกมกรอกกร้าน.....แกร่งใกล้กลัวเกรง ขีดเขียนขับข่มข้อง.......ขลังขาน ขลุกขลุ่ยข้นขับขาน......ข่มข้อ ขอนเข้าแข่งเข็นขาน.....ขวักไขว่ ขานขู่เข็นขับข้อ......ข่มไข้แข็งขืน คิดโคลงคลีคืบคล้อง.....คำคลอ ค้นเคร่งโคลงคับคอ.......ใคร่ค้ำ ครวญคำแค่คืบคลอ......คละครอบ เคลิ้มเคร่าเค้นโคลงค้ำ.....ครั่นคร้านครามครัน สวัสดีค่ะ คุณพจน์รำพัน พอดีวันนี้ วันหยุด เลยอยู่บ้านไม่ได้ไปสวนมนตืที่วัด ห่อของขวัญให้ลูกค้าอยู่ ก็เลยเข้ามาบ้านกลอนเสียหน่อย เห็นคุณพจน์แนะนำ ก็เลยมาแก้ไขค่ะ จริงๆ การเขียนโคลงอักษรล้วนๆดอกบัวไม่เคยอ่านหรอกค่ะ ที่เขียนไปนั้นดอกบัวก็คิด เขียนมาร่วมสนุกกับมิตรที่ดีมีความเกื้อหนุนกันเสมอมา ถึงจะไม่เคยเห็นหน้า และพบเจอ กันมาก่อน จริงๆ แล้ว ดอกบัวก็ไม่เคยเจอใครๆที่มีน้ำใจไมตรีต่อกันในนี้เลยสักท่านหนึ่งค่ะ แต่ทุกท่านใน ที่นี้ ก็มีความเอื้ออารีต่อกันทุกคำในอักษร มิตรภาพแบ่งปันจากออนไลน์ ดอกบัวกราบขอบพระคุณ คุณพจน์ค่ะ ที่ชี้แนะดอกบัวเสมอ ขอบคุณค่ะ ขอให้มีแต่ความสุขในวันหยุดค่ะ คุณพจน์ค่ะ ถ้า จะกรุณา ช่วยลบ สองกระทู้บนให้ดอกบัวด้วยค่ะ ดอกบัวพิมพ์อักษาทั้งผิด และคำตกไปค่ะ ขอบคุณค่ะ
19 ธันวาคม 2552 12:08 น. - comment id 1075995
แวะมาศึกษาค่ะ แบบลุ้นเกาะติดขอบ คริ คริ เสียวตกขอบ คงไม่มีใครดีดเฌอตกขอบนะคะ คริ คริ เป็นกำลังใจให้เจ้าของบ้านค่ะ เฌอรักเป็นเหตุ คิก คิก
19 ธันวาคม 2552 16:22 น. - comment id 1076102
17 คุณแก้วประเสริฐ ที่คุณแก้วฯยกโคลงของท่านศรีปราชญ์มา คุณสุรศรีได้ท้วงไว้ใน คห.24 ว่า.. บาทที่สองที่ถูกต้องคือ " เราก็ศิษย์อาจารย์ ...... หนึ่งบ้าง " ก็ถูกของคุณสุรศรีครับ ทั้งนี้อ้างอิงจากศิลาหินบริเวณสระล้างดาบ ที่ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามตัวอย่างโคลงท่านศรีปราชญ์ ถ้าคุณแก้วฯพิจารณาให้ถี่ถ้วนทั้งบท จะเห็นว่า ท่านศรีปราชญ์ก็มีลูกเก็บนะครับ บาทสี่วรรคจบ " ดาบนี้คืนสนอง " เมื่ออ่าน ดาบ-นี้-คืน-สะ-หนอง ออกเสียงห้าพยางค์ใช่ไหมครับ สะ เป็นลูกเก็บ มาดูอีกบทที่ท่านศรีปราชญ์แต่งต่อสองบาทหลัง อันใดย้ำแก้มแม่ หมองหมาย ยุงเหลือบฤๅริ้นพราย ลอบกล้ำ ผิวชนแต่จักกราย ยังยาก ใครจักอาจให้ช้ำ ชอกเนื้อเรียมสงวน วรรคจบ ชอกเนื้อเรียมสงวน ก็มีลูกเก็บอีกเห็นไหมครับ ทีนี้อีกประเด็นที่ว่า .... การเขียนโคลงต้องให้คนอ่านเขาตีความกันเอาเอง ในเรื่องนี้ ผมมีความเห็นว่า การเขียนโคลง ภายในกรอบ 30 คำต่อ หนึ่งบท จะต้องพยายามเขียนอย่างไรจึงจะ ให้เข้าใจได้ชัดเจน มีน้อยครั้งที่ผู้อ่านต้องตีความ ยกตัวอย่างเช่น ในลิลิตตะเลงพ่าย ที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงนิพนธ์ไว้ มีคำว่า " ถี่เท้า " อย่างนี้ก็ต้องมาตีความว่า หมายถึง วิ่ง ใช่หรือไม่ แต่หากว่าแต่งโคลงคลุมเคลืออ่านเข้าใจยาก แล้วยกให้ผู้อ่านตีความกันไปต่างๆร่ำไป อันนี้ไม่เห็นด้วยครับ
19 ธันวาคม 2552 20:20 น. - comment id 1076218
ใช่แล้ว ค่ะ เป็นงานเก่า สมัยยังเป็นละอ่อน พ.ศ.2546 หาอ่านได้ในกรุกลอนเก่า ซึ่งอัลมิตราไม่อายหรอกในความเฉิ่มนั้น ตะก่อน อัลมิตราสนุกกับการเขียนมากเกินไป ผิดตกยกเว้นให้กับตัวเอง สัมผัสสระไอและสระอาย ก็จับมาเถียงข้าง ๆ คู ๆ ว่าใช้ได้ ใช้ได้ เรื่องสร้องเจตนังก็เช่นกัน ก็ยังยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า เจตนานี่หว่า การที่อัลมิตราขุดของเก่ามาวางที่กลอนของคุณพจน์รำพัน ก็เพื่ออยากอุดรอยบางอย่าง ซึ่งดูเหมือนว่าจะส่งกลิ่นตุ ๆ เรื่องของผู้ชายสองคนที่อาจจะมีการปีนเกลียวกันเล็กน้อย ไม่ว่าต่างคนจะมีหลักเกณฑ์ประมาณว่าไม่ยอมให้ถูกขย่มได้ มันเข้าข่าย "อัตตา" ทั้งนั้น ต่อให้บอกว่า เขียนด้วยความบ้า ๆ บอ ๆ ก็เหอะ ผีย่อมเห็นผี ทว่าหมอผีย่อมเห็นมากกว่า .. เขียนให้สนุกสนานน่ะ ดีแล้ว แต่คร่ำเคร่งเขียนเพื่อให้ได้ข้อยุติ บางทีมันอาจไม่ยุติก็ได้นะคะ เท่าที่เห็นตอนนี้ มันก็วุ่นวายพอ ๆ กับความร้อนระอุของการเมืองนั่นแล มิน่าเล่า อยู่กรุงเทพฯ ร้อนชะมัด ที่อื่นเขาหนาวกันโครม ๆ ที่นี่ยังคงร้อนอยู่ บ้าตาย
20 ธันวาคม 2552 09:46 น. - comment id 1076410
23, 25 คุณเพียงพลิ้ว เพียงพอ ใน 23 พิศพรรคเพื่อนพงศ์พันธุ์ ..... พึงพึ่ง พาพาน มาเขียน พาพาน ต่อแบบนี้แล้วจะถือเป็นสร้อยโคลงไม่ได้ครับ ต้องเขียนทำนองว่า พึงพึ่ง พาเอย คือต้องใช้คำสร้อยประกอบ แต่เมื่อเขียนอักษรล้วนล้วน แล้วคำสร้อยเสียงต่างไปก็ไม่น่าฟัง สู้หาทางรวบความให้ได้จะดีกว่า ผมขออนูญาตแก้ไขแล้วกันครับ เป็นว่า พิศพรรคเพื่อนพงศ์พันธุ์ ..... พานพึ่ง แกมกานท์ ก็เรียบร้อยดีไม่มีอะไรต้องแก้ไข สังเกตว่า คุณกานต์แต่งทั้งสามบทใช้คำซ้ำในคู่โท ลองวางคำต่างกันบ้าง เช่น เกี้ยว-เกรี้ยว ... ขอบคุณครับ
20 ธันวาคม 2552 10:34 น. - comment id 1076430
มารับทราบ ล้วน ล้วน เลยครับ เรียกว่า ระดับเทพ ของแท้ และแน่นอน กวีน้อย รับประกันคุณภาพ อิอิ (เลียนแบบ โฆษณาเพลง)
20 ธันวาคม 2552 18:45 น. - comment id 1076606
***อาศัยช่วงชุลมุน....แฮ๊บไข่ออกไป*** 40 ชุ๊บ
20 ธันวาคม 2552 23:43 น. - comment id 1076774
26 คุณก้าวที่...กล้า ดูจากที่ผ่านมา ที่คุณก้าวฯเขียนไว้ เชื่อว่าคนติดตามอ่านไม่ผิดหวังครับ 27 คุณแก้วประเสริฐ โคลงนี้แบบอักษรล้วนล้วน ดูเนื้อหาคงพึ่งแต่งใหม่ ขอบคุณครับ 33 คุณโคลอน คุณโคลอนความคิดบรรเจิดจัง ผมมิได้ทำงานด้านการศึกษา แต่เห็นด้วยครับ ให้หัดออกเสียง -ร- ให้ติดตัวไปแต่เด็ก
21 ธันวาคม 2552 07:35 น. - comment id 1076806
34 คุณดอกบัว ฟังคุณดอกบัวเล่าแล้วเพลิดเพลินครับ เมื่อคิดดีทำดีก็ใจสงบมีแต่ ความสุขในใจ มิน่าหละคุณดอกบัวขอให้ใครๆมีความสุขอยู่เสมอมา และยังอ่อนน้อมถ่อมตนมากเลย ขอให้มิตรไมตรีออนไลน์งอกงามยั่งยืน และขอให้คุณดอกบัวมีความสุขมากๆยิ่งขึ้นครับ 35 คุณเฌอมาลย์ อิอิ กระทู้นี้ถึงอักษร ฌ นึกว่าคุณเฌอฯจะมารับบทนางเอก ที่ไหนได้ แอบอยู่หลังม่านเฉยเลยเนี่ย ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ถ้าเปลี่ยนเป็นโคลงสักบทสองบทได้ก็ดี อิอิ
21 ธันวาคม 2552 08:31 น. - comment id 1076828
37 คุณอัลมิตรา อย่าได้ร้อนใจไปเลยนะครับ โปรดวางใจ ความจริงและความถูกต้อง ย่อมดำรงอยู่เป็นหลัก และคลี่คลายความไม่เข้าใจต่างๆในที่สุด เพียงอาจใช้เวลามากบ้างน้อยบ้างเท่านั้นเอง ~ คนควบคุมครุ่นคร้าม ....... ความคา เครียวใคร่ความไคลคลา ...... เคลื่อนคล้อย ความคงคลี่คลายครา .......... คราบคลี่ ค้างคั่งคงค่อยค้อย ............. ครึกครื้นคืนคาม 39 คุณกวีน้อยเจ้าสำราญครับ คุณกวีน้อยฯมาก็ดีแล้ว ฝากความคิดถึงคุณญามี่ด้วยครับ 40 คุณโคลอน สงสัยจังครับ คุณฝนไปเก็บไข่ตามบ้านโน้นบ้านนี้ ที่บ้านขายไข่แน่เลย ว่างๆจะแย่งเก็บด้วยครับ อิอิ
21 ธันวาคม 2552 11:43 น. - comment id 1076911
ชมชวนชมช่างช้อย ....... เชิญชวน ชูช่อชันชักชวน ............ ช่วงใช้ ชนเชยชิดช่ำชวน .......... ชมชอบ ชอมชื่นเชอเช่นใช้ ......... ชื่อเชื้อชวนชม ชมชายชาญเชี่ยวชั้น ...... เชิงชาย เช่าช่วงเชิดชูชาย .......... ช่วยเชื้อ ชวนชิดเชื่อมเช่นชาย ..... ชาญเชี่ยว ชูช่อชวนชมเชื้อ ............ เช่นชู้ชัวชม ชมชัวเช่นช่วงเช้า .......... ชุ่มชล ชรชดช่ำชองชน ............ ชระใช้ โชติช่วงช่วยเชาวน์ชน .... เชียรช่อง ชมชอบชมเชยใช้ .......... ชุ่ยเชี้ยชวนชม ชมชวนชมชดช้อย ......... ชันชัย ชวยชื่นเชยชิดไชย ......... ช่วงชื้อ ชูช่อเชิดชมไช ............... ชีพชิต ชนชอบเช่นชลชื้อ ........... ชระใช้ชื่นชม
21 ธันวาคม 2552 15:07 น. - comment id 1076962
44 คุณก้าวที่...กล้า อักษร-ช-ล้วนล้วน สี่บทนี้อ่านดูแล้ว ค่อนข้างแน่ใจว่า คำในหมวดอักษรชคงทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว เดาครับว่า คงใช้อักษร ช เขียนเพราะเสียงเดียวกับ ฌ คือความช่างคิด ขอบคุณครับ
21 ธันวาคม 2552 16:40 น. - comment id 1077040
^ ^ ^ มารีเควส อ-อ่างค่ะ
21 ธันวาคม 2552 20:18 น. - comment id 1077178
^ ^ ของเก่านะครับคุณฝน ไปอ่านมาแล้วมังเนี่ย ไหนๆก็ไหนๆเนาะ ออดอ้อน ๏ อรเอนโอนอิดเอื้อน ..... เอียงอาย อรแอ่นเอวองค์อาย ........ อ่อนอ้อน อวลไออุ่นอิงอาย ............ อิงอุ่น อรอาจแอบแอบอ้อน ...... โอบเอี้ยวเอออวย ๚ อวบอิ่ม ๏ อกอึดอัดเอ่ยอ้าง- ......... อิงอร เอวอวบโอดโอยอร .......... อาจอ้วน อดอ้ำอดอิ่มอร ................ อิดออด แอบอิ่มอรเอิบอ้วน .......... อัดอั้นอรเอง ๚ อดอ้อน ๏ อายอวลอบอ่อนเอื้อ ..... อิงอร อิงแอบไออุ่นอร .............. โอบอ้อน โอบเอวเอ่ยเอวอร ........... อวบอืด อรอุบอิบเอียนอ้อน .......... อดอุ้มอรเอย ๚
1 กุมภาพันธ์ 2553 11:20 น. - comment id 1077182
^ ^ จัดไข่ให้แล้วครับ ชุดนี้ของคุณแดดเช้า เป็นผู้เขียนครับ อิดออด อ่อนอกอ่อนออดอ้อน ........ อุ่นไอ เอาอกโอบอาจไอ .............. อดอ้าง อาบอุ่นอิ่มเองไอ ............... อวลอบ อรอุดอวดเอ่ยอ้าง.............. อิดเอื้อนออกอาย. อุบอิบ อรเอียนองค์อดเอื้อน .......... อับอาย อ้อนออดอิงแอบอาย ............ อุ่นอั้น อกอึดอัดอุดอาย .................. แอบโอด อุบอิบออดอิดอั้น .................. อัดอั้นเอินเอน. แอบอ้าง อุบอิบออดเอ่ยเอื้อน ............ องค์อร โอยโอดอกอิงอร .................. อดอ้อน อิดออดอดโอบอร ................. แอบอุ่น โอ ... อาจอ้วนเอินอ้อน ........ แอบอ้างอับอาย. โอดโอย อรเอิบอิ่มอวบอ้วน ................ เอียงอาย เอนอาจอิงแอบอาย ................ อิดเอื้อน อดอิ่มอีกอื่นอาย ..................... อุ่นเอิบ อรอวบโอดโอยเอื้อน .............. อดอ้างอิ่มเอง. แดดเช้า 27 ส.ค. 49 - 13:30 IP 125.25.55.219
24 ธันวาคม 2552 13:30 น. - comment id 1078524
สวัสดีค่ะ คุณพจน์รำพัน ดอกบัวกราบงามๆค่ะ ที่เข้าไปแนะนำดอกบัว ดอกบัวมาบอกคุณพจน์ไว้ตรงนี้ก่อนค่ะ แต่ดอกบัวยังไม่ว่างแก้เลยค่ะ เดี๋ยวทำงานงานเสร็จค่อยมาเข้าไปแก้ไข พอดีเมื่อคืนกลับจากเล่นแบด เพื่อนๆน้องๆ ยังทำงานกันอยู่จนดึก ดอกบัวต้องรอปิดประตูบ้านก็เลยคิดที่จะเขียนกลอนธรรมะ ไปโพสต์ในพันทิป ข้อคิดธรรมะ คิดไปคิดมา ก็เลยลองเขียนโคลง อักษรล้วนค่ะ อิ อิ เดี๋ยวดอกบัวต้องไปแก้บล็อกด้วย ขอบคุณ คุณพจน์อีกครั้งค่ะ ขอให้คุณพจน์มีแต่ความสุขสมหวังค่ะ ขอบคุณค่ะ
2 มกราคม 2553 23:12 น. - comment id 1081430
สวัสดีปีใหม่ครับคุณดอกบัว ขอส่ง ส.ค.ส. ๒๕๕๓ ขอให้มีความสุขสมหวังตลอดไปครับ .
28 มกราคม 2553 21:51 น. - comment id 1092794
โอ้....ขอบคุณมากเลยค่ะ ฝนเพิ่งย้อนกบับมาอ่านอ่ะค่ะ ได้ยลอักษรล้วน อ อ่าง แระ ....อิอิ แอบเสียดายไข่นิๆโหน่ยๆ