ผญา ของจิตร ภูมิศักดิ์

สุรศรี

ผญา    วันละคำวันนี้ พูดถึง ผญา  ที่   จิตร  ภูมิศักดิ์  นักคิด  นักเขียน เคยแต่งเอาไว้ครับ
               จิตร  ภูมิศักดิ์  สมัยที่หนีเข้าป่าภูพาน เคยคลุกคลีกับชาวบ้านเคยศึกษาวัฒนธรรม พื้นบ้านน้อยคนนักที่จะรู้ว่า  ครั้งหนึ่ง เขาก็เคยแต่ง ผญาไว้หลายบท  ที่พบเห็นต้นฉบับนะ   ครับแต่ที่น่าเสียดายคือบันทึกของท่านขณะอยู่ในป่า ส่วนหนึ่งหายไป  ส่วนหนึ่งถูกทำลาย  ไม่อย่างนั้น  เราอาจได้เห็นผญาที่ ท่านแต่งออกมาเป็นเล่มก็เป็นได้ครับ 
                  ผมมีผญาของท่าน  2  บทครับ  วันนี้ เอา  1  บทนะครับ  ผมชอบมาก  ๆ  เลย ผมท่องเวลาที่ตนเองท้อแท้ ครับ
                 เถิงสิใหญ่ล้นฟ้า         สยองหยาดธรณี  
               ใหญ่ท่อใหญ่ฝูงผี            สิโสตายต่อสู้
                กูสิตามเพม้าง               ผลาญผีเผตห่า
                เถิงสิกีดแผ่นฟ้า            มือน้อยสิค่อยถาง  เอาแล้ว
    ศัพท์    เถิง                 หมายถึง          ถึง
                สยองหยาด    หมายถึง      ย้อยหยดลงมาจากฟ้าสู่พื้นดิน (ธรณี)
                 ท่อ                  หมายถึง         เท่า.
                   สิ                    หมายถึง         จะ
                  โส                  หมายถึง         ยอม
                 เพ  ม้าง          หมายถึง         พัง  ทำลาย
                 ผีเผต              หมายถึง          ผีเปรต
   แปล    ถึงจะใหญ่โตจนล้นฟ้า  หยาดลงมาสู่พื้นดิน  โตเท่าฝูงภูตผี   
              ข้าก็จะยอมตาย  ข้าจะตามทำลาย  ล้างผลาญพวกผีเปรต
              ถึงจะมีอุปสรรค  ขวางกั้น มือน้อยข้าก็จะค่อย ๆ ให้จงได้
    ความหมาย  สมัยนั้นจิตร  ภูมิศักดิ์  ท่านได้หนีเข้าป่าพร้อม  ๆกับเพื่อน  ๆนักศึกษาด้วยสาเหตุเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนหนึ่งเอารัดเอาเปรียบราษฎร ลัทธิคอมมิวนิสต์เพิ่ง   เข้ามา  ท่านคิดว่ามันน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี  ถึงพวกนายทุน  เจ้าหน้าที่ของรัฐพวกนี้   (ผีเผตห่า)  จะใหญ่โตคับฟ้าแค่ไหนถึงมันจะมีอุปสรรคแค่ไหน  ท่านก็จะต่อสู้ด้วย     สองมือน้อย ๆ  ของท่าน  แม้ตัวท่านจะตายก็ยอม  
            ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใดครับที่ท่านแต่ง ผญา ได้สุดยอดถึง
 เพียงนี้  แม้แต่ลัทธิมาร์กซิส ของเลนิน  ท่านยังสามารถอ่านได้อย่างแตกฉานเพียงใช้เวลาไม่นาน และเขียนวิจารณ์ แปลออกมาเป็นเล่มโต  ให้พวกที่สนใจได้  อ่านกันครับ   
         พรุ่งน้ค่อยว่ากันต่อครับ
                                                 สุรศรี				
comments powered by Disqus
  • กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

    22 พฤศจิกายน 2552 09:02 น. - comment id 1066858

    ไม่เคยได้ยิน ผญา ของจิตร ภูมิศักดิ์มาก่อน
    
    ดีใจที่ได้อ่าน ครับ
    
    ผมขอร่วม ผญา แนวใกล้เคียงกันหน่อย
    
    *นับแต่มื่อพวกเจ้าซิพ้อ   ซุมไพร่พาลชน
    คนบ่มีศีลกับธรรม       ซิเพิ่มนำมาเป็นล้าน
    รัฐบาลหาเงินไว้         หลายหลายเด๊อไว้ถ้าแบ่ง
    เลี้ยงมนุษย์ซุมพวกหมุ่นี้   ยามเข้าอยุ่ตะราง
    
    46.gif
  • เสียงหัวเราะ

    22 พฤศจิกายน 2552 11:22 น. - comment id 1066880

    บ่มีความฮู้ อย่าเว้าการเมือง
    บ่หมผ้าเหลือง  อย่าเว้าการวัด  39.gif21.gif
    
    แวะมาแจม...ค่ะ
  • สุริยันต์ จันทราทิตย์

    22 พฤศจิกายน 2552 12:26 น. - comment id 1066895

    แต่ละคนสุดยอดกันทั้งนั้นเลยครับ
    เรื่องผญานี่ผมอ่อนหัดมากเลย
    ชื่นชมครับ....ด้วยความจริงใจ6.gif
  • สุรศรี

    22 พฤศจิกายน 2552 14:39 น. - comment id 1066920

    ไม่เกี่ยวกับการเมืองครับ
    เพียงแต่ผมอยากนำมาเสนอว่า
    กวีผู้ยิ่งใหญ่อย่าง จิตร  ภูมิศักดิ์
    ยังหลงไหล ผญา และแต่งได้ดีด้วยครับ
  • ปติ ตันขุนทด

    22 พฤศจิกายน 2552 17:05 น. - comment id 1066969

    16.gif16.gif
    กรณีของจิตร......เข้าภาษิตไทยที่ว่า
    
    น้ำน้อย   ย่อมแพ้ไฟ
    ไม่ซีก   งัดไม้ซุง
    
    ขณะนั้นทั้งมหาดไทย   และกลาโหมใหญ่คับฟ้า
    
    ราษฎรก็กลัวคอมมูนิสต์ยึดไร่นา
    
    การต่อสู้ของจิตรจึงเป็นเพียงตำนาน
    
    การต่อสู้ปัจจุบัน  แม้แต่ทักษิณยังเดี้ยง  หาแผ่นดินไทยอยู่ไม่ได้   คาร์บอมเกือบบึม
    
    คำผญาการเมืองก็เป็นเรื่องน่าศึกษาครับ
    
    ไม่มีความรู้  ไม่พูดการเมืองไม่ได้ครับ
    ย่งไม่พูดยิ่งไม่รู้   ไม่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู
    
    ไม่ห่มผ้าเหลืองก็พูดธรรมได้ครับ  เพราะเราติดยี่ห้อว่า  นับถือศาสนาพุทธ  ในพระไตรปิฎกไม่มีตรงไหนห้ามคนธรรมดาไม่ให้พูดธรรมะ  เพียงแต่อย่าอุตริว่าตนบรรลุอรหันต์เท่านั้นพอ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน