. ~ โคลงกลบท ระลอกแก้วกระทบผั่ง ~ เฉลียวรัก ~ ( โคลงกลบท ๖ ) ระลอกแก้วกระทบฝั่ง ต้นกำเนิดเป็นกลบทกลอน แบบกลอนเก้า ลักษณะ กลบททำให้เกิดเสียงอ่านเป็นระลอก ๓ กลุ่มๆละ ๓ พยางค์ เมื่อมองโครงสร้าง ของกลบท และจินตนาการตามชื่อกลบท รู้สึกเสมือนว่าสองกลุ่มแรกเป็นระลอก คลื่น ส่วนกลุ่มท้ายเป็นฝั่ง ช่างไพเราะยิ่งนัก... ละลอกแก้วกระทบฝั่ง บังคับของกลบทนี้คือ ซ้ำเสียงพยัญชนะ ๑-๒-๓ ไปลงที่ ๔-๕-๖ โดยจะ ต้องซ้ำเสียงสระจาก ๓ไป๕ และ ๖ไป๘ ส่วนสัมผัสระหว่างวรรคกลอนเลื่อนไป รับต่ำแหน่ง ๖ เมื่อเขียนกลบทนี้เป็นโคลงจำเป็นต้องใช้คำสองพยางค์ที่พยางค์หน้าเเป็นลหุ เพื่อให้ได้พยางค์เสียงครบตามกลบท ในแง่ของคำจะถือเป็นลูกเก็บอ่านรวบไปเสมือนเป็นหนึ่งคำหรือไม่ก็ได้ เป็นทางออกที่จะปรับกลบทนี้ให้สอดคล้องกับฉันทลักษณ์ของโคลงสี่สุภาพ พิจารณาสัมผัสระหว่างวรรคของกลอนที่เลื่อนไปรับในตำแหน่ง ๖ เทียบกับสัมผัสระหว่างบาทของโคลงซึ่งอยู่ในตำแหน่งท้ายวรรคหน้า ก็ต้องถือว่าช่างเหมาะเจาะกันดี ขอยกตัวอย่างสักหนึ่งบาท คู่คำตอนบนคือซ้ำเสียงพยัญชนะ คู่คำตอนล่างคือซ้ำเสียงสระ จะว่ายากหรือไม่ยากต้องลองเขียนใจเย็นๆครับ ระ...........เร่ ลอก.........แล้ว แก้ว.........เกี่ยว ระลอกแก้วเร่แล้วเกี่ยว เฉลียวหัน แก้ว....แล้ว เกี่ยว...............เ ลียว "เฉลียวรัก" ~ ระลอกแก้วเร่แล้วเกี่ยว เฉลียวหัน กระทบฝั่งกระทั่งฝัน กระนั่นพ้อง สลวยสับสลับสรรค์ สวรรค์เสก ประหนึ่งคีตประณีตคล้อง ละล่องพลิ้วละลิ่วเทียว ~ เฉลียวรักฉลักร้อย ชะรอยจัก ประสานพบประสบภักดิ์ ตระหนักเจ้า ฤดีรับระดับรัก สมัครมุ่ง เสนาะคิดสนิทเคล้า ครุ่นเย้าหยอกไฉน ป.ล. ต้นบทที่สอง "เฉลียวรักฉลักร้อย ชะรอยจัก ประสานพบประสบภักดิ์" ลองขับโคลงดู ปรากฏว่าเหมือนร้องลิเกมาก ขำๆดีครับ คุณยาแก้ปวด : ระยิบรับระยับร้าย .......... ฉงายฝัน สะท้านก่อนสะท้อนกัน ... สนั่นฟ้า กระเทือนสบกระทบสัน ... ตะวันโด่ง ชะโงกแหล่ชะแง้หล้า ...... บ่กล้าฤาไฉนฯ สลวยรักสลักไร้ .............. ฤทัยหา เสน่ห์ล่องสนองลา .......... ชะล่าให้ ประดับติดประดิษฐ์ตา .... อปราพ่าย ใจฤา หทัยหม่นหากทนไหม้ .... มอดไซร้เสน่หาฯ คุณก้าวที่...กล้า : สฤษดิ์รักสลักร้อย ............ สลอยรา สวาดิพร่างสว่างพา ........... สง่าพ้อง ประหวัดติดประวิตรตา .... คณาแต่ง ระทึกในฤทัยน้อง ........... ละล่องคล้ายละลายขวัญ .
6 พฤศจิกายน 2552 23:40 น. - comment id 1061123
เกิดไม่ทัน สมัยร้อง ยี่เก นี่สิครับ เลยขำไม่ลง อิอิ แต่เผอิญ อารมณ์ค้าง มานานเลย ขำๆๆ ท่านพี่พจน์ แต่งโคลงได้ ไพเราะ มากครับ แต่แต่งน้อยจัง
7 พฤศจิกายน 2552 14:49 น. - comment id 1061344
สราญกลสกนธ์ภักดิ์ รตีฝัน ประหนึ่งพึงประสานขัน ฉกาจพ้อง ฉลวยฝากฉนวนจรรจ์ ตะวันรุ่ง จรุงจิตเฉลียวคล้อง ดั่งต้องรดาดาว อิอิ......โคลงหนึ่งบท แทบหายไข้เลยค่ะ เอ...หรือจะสลบก็ไม่ทราบนะคะ
7 พฤศจิกายน 2552 22:52 น. - comment id 1061422
คุณปรางทิพย์ สราญกลสกนธ์ภักดิ์ รตีฝัน ประหนึ่งพึงประสานขัน ฉกาจพ้อง ฉลวยฝากฉนวนจรรจ์ ตะวันรุ่ง จรุงจิตเฉลียวคล้อง ดั่งต้องรดาดาว ....................................................... ~ สราญกลเสียงร่นก้าว ระนาวจรรจ์ ประหนึ่งขอประนอขัน สนั่นพ้อง ฉลวยฝากฉลากฝัน ตะวันรุ่ง จรุงคิดจริตคล้อง ดั่งต้องรดาดาว ผมก็เห็นด้วยว่ายากในการคิด-ค้นหาคำอยู่ไม่น้อย ถึงจุดจิดขัดก็ต้องยอมให้โคลงพาไปครับ ขอบคุณครับ
7 พฤศจิกายน 2552 22:40 น. - comment id 1061423
คุณกวีน้อยฯ ความจริงเขียนมากกว่าสองบท แต่เลือกเอาที่เหมาะจะเป็นตัวอย่าง แค่พอเข้าใจได้ก็พอมังครับ การฝึกเขียนกลบทมีประโยชน์ คุณกวีน้อยฯเขียนอยู๋คงรู้สึกได้ อ่ะ แถมอีกหน่อยก็ได้ครับ ~ ฉงนรักชะงักร้อย ละห้อยเขว ไฉนห่างเช่นนางเห เสน่ห์ร้าง กอปรไปดะกิจประเด ระเร่ม่อย ฤๅง่วงศัพท์ระงับสร้าง ขจ่างคล้ายขจายขวัญ
8 พฤศจิกายน 2552 00:00 น. - comment id 1061476
มาทักทายอ่านก่อนนอนค่ะ อิอิอิ
8 พฤศจิกายน 2552 03:06 น. - comment id 1061534
แหะๆ สมองเริ่มตันค่ะ คุณพจน์รำพัน พรุ่งนี้โอเลี้ยงมาใหม่ค่ะ คืนนี้ฝันดีค่ะ
8 พฤศจิกายน 2552 12:35 น. - comment id 1061706
สราญรมย์สมรื่นเร้า เสลารัก ประสบพบประสานภักดิ์ ประจักษ์เพ้อ สะเทิ้นชิดสนิทนัก สมัครมั่น ประหนึ่งฝันประหวั่นเก้อ ป่วนเพ้อ ละเลอครวญ... ...อิอิ..แบบว่า..อาจจะมั่ว ๆ นะครับ..อยากลองแต่งดูบ้างครับ..ยากจริง ๆ
8 พฤศจิกายน 2552 21:18 น. - comment id 1061834
ว๊า ช่วงนี้ไม่มีสมาธิแต่งโคลงเลย น่าสนุกๆ วันหลังจะลองดูนะคะ วันนี้ไม่รอด อิอิ
8 พฤศจิกายน 2552 23:45 น. - comment id 1061938
ฝากลบอันบนด้วยนะคะคุงพจน์ ระยิบรับระยับร้าย.....ฉงายฝัน สะท้านก่อนสะท้อนกัน...สนั่นฟ้า กระเทือนสบกระทบสัน...ตะวันโด่ง ชะโงกแหล่ชะแง้หล้า....บ่กล้าฤาไฉนฯ เอาใหม่ๆ มั่วสุดฤทธิ์จริงๆคุงยาแก้ปวด มาแก้ตัวใหม่ให้บ้ากว่าเก่า ปล น้องเฌอตามมาด้วยนะจ๊ะ
9 พฤศจิกายน 2552 02:19 น. - comment id 1061973
สลวยรักสลักไร้...........ฤทัยหา เสน่ห์ล่องสนองลา.......ชะล่าให้ ประดับติดประดิษฐ์ตา..อปราพ่าย ใจฤา หทัยหม่นหากทนไหม้..มอดไซร้เสน่หาฯ หนุก หนุก หนุก
9 พฤศจิกายน 2552 02:29 น. - comment id 1061974
สลวยรักสลักไร้...........ฤทัยหา เสน่ห์ล่องสนองลา.......ชะล่าให้ ประดับติดประดิษฐ์ตา..อปราพ่าย ใจฤา ฤทัยหม่นฤทนไหม้....มอดไซร้เสน่หาฯ อิอิ แก้ตัวอีกที ลืมไปต้องเป็นลหุ หนุกใหญ่แล้วค่ะ
9 พฤศจิกายน 2552 07:41 น. - comment id 1061991
5 คุณยายแม่มด นอนดึกนะครับเที่ยงคืน น้องเจ้าคุณฟังนิทานก่อนนอนหรือเปล่าครับ 6 คุณโอเลี้ยง โห.. ตีสามยังไม่นอนอีก มึนสิครับ ถ้าหลับแล้วคงไม่ฝันแน่ ขอบคุณครับ
9 พฤศจิกายน 2552 07:55 น. - comment id 1061994
7 คุณจะไม่เด็ด สราญรมย์สมรื่นเร้า เสลารัก ประสบพบประสานภักดิ์ ประจักษ์เพ้อ สะเทิ้นชิดสนิทนัก สมัครมั่น ประหนึ่งฝันประหวั่นเก้อ ป่วนเพ้อ ละเลอครวญ... ผมขออนุญาตแก้นิดหน่อย ให้เข้ากลบทนะครับ ตรงวรรคจบต้องเขียนชิดกันครับ สราญรมย์สมรื่นเร้า เสลารัก ประสบผ่านประสานภักดิ์ ประจักษ์เพ้อ สะเทิ้นชิดสิบทิศชัก สมัครมั่น บระหว่ากันประหวั่นเก้อ ป่วนเพ้อละเมอครวญ
9 พฤศจิกายน 2552 09:27 น. - comment id 1062027
ระดะดาวสกาวฟ้า.... จะลาแรง ระดะแสงฤาแกล้งแซง แจรงหล้า ระยิบหาวสกาวแขวง แทยงตา ท่ามนภาชะตาหล้า.....กลั่นฟ้าลออ สวัสดีค่ะ คุณพจน์รำพัน ดอกบัวขออนุญาตมาแบบมั่วๆ แวะมาทักทายค่ะ ให้มีแต่ความสุขในวันทำงานค่ะ
9 พฤศจิกายน 2552 09:44 น. - comment id 1062035
8-9-10-11 คุณยาแก้ปวด อ่านโคลงคุณยาฯเทียบตามเวลาแล้ว รู้สึกยิ่งดึกยิ่ง bright นะครับ คำ อปรา สวยมากครับ ถ้าเห็นผมใช้ก็คือจำไปจากคุณยาฯ ๙ ) ระยิบรับระยับร้าย.....ฉงายฝัน สะท้านก่อนสะท้อนกัน......สนั่นฟ้า กระเทือนสบกระทบสัน.....ตะวันโด่ง ชะโงกแหล่ชะแง้หล้า........บ่กล้าฤาไฉนฯ ๑๐ ) สลวยรักสลักไร้......ฤทัยหา เสน่ห์ล่องสนองลา...........ชะล่าให้ ประดับติดประดิษฐ์ตา......อปราพ่าย ใจฤา หทัยหม่นหากทนไหม้......มอดไซร้เสน่หาฯ ๑๑ ) สลวยรักสลักไร้......ฤทัยหา เสน่ห์ล่องสนองลา...........ชะล่าให้ ประดับติดประดิษฐ์ตา.....อปราพ่าย ใจฤา ฤทัยหม่นฤทนไหม้..........มอดไซร้เสน่หาฯ การใช้คำสองพยางค์ที่พยางค์หน้าเป็นลหุ ไม่ได้เป็นบังคับของกลบทนี้ แต่เมื่อมาเขียนเป็นโคลงจำเป็นต้องใช้ เพื่อให้นับจำนวนคำได้ตามแบบโคลง แต่ในวรรคหน้าของแต่ละบาทจะใช้สองคำหรือคำเดียวก็ได้ และจะใส่ตรงไหนก็ได้ครับ ~ ขยับเอื้อนเขยื้อนเอ่ย เฉลยคำ สนุกอ่านสนานอำ กระหน่ำยิ้ม ประพิมพ์ร่ายประพายรำ ประจำชื่น สลับพร่างสล้างพริ้ม รื่นลิ้มชิมโคลง ขอบคุณมากครับ
9 พฤศจิกายน 2552 09:49 น. - comment id 1062037
อยากเขียนด้วยจังค่ะ ดูยากแต่น่าสนุก เสียดายค่ะไม่มีเวลา ขออ่านเฉยๆก็แล้วกันนะคะ
9 พฤศจิกายน 2552 11:08 น. - comment id 1062091
9 พฤศจิกายน 2552 11:58 น. - comment id 1062098
สฤษดิ์รักสลักร้อย ...... สลอยรา สวาดิพร่างสว่างพา .... สง่าพ้อง ประหวัดติดประวิตรตา . คณาแต่ง ลิขิตใจฤไขจ้อง ......... ละล่องคล้ายละลายขวัญ ได้บทเดียวนะคะ ชุดนี้รู้สึกว่ามันยากจังค่ะ กลัวว่าเขียนไปเขียนมาจะจมมหาสมุทรอันเวิ้งว้างไปซะก่อน
10 พฤศจิกายน 2552 07:12 น. - comment id 1062348
14 คุณดอกบัว สวัสดีครับ มาแบบไหนตามสะดวก สบายๆครับ ผมขออนุญาตเกี่ยวก้อยไปด้วยแล้วกัน เนาะครับ ระดะดาวสกาวฟ้า.... จะลาแรง ระดะแสงฤาแกล้งแซง แจรงหล้า ระยิบหาวสกาวแขวง แทยงตา ท่ามนภาชะตาหล้า.....กลั่นฟ้าลออ ~ ระดะฟาวล์ระด่าวฟ้า ชลาแรง ระดะแส่งฤๅแดงแซง ชรแล่งหล้า ระยิบขวากร่มยากแขวง ทแยงต่อ ชาวตุลาชะตาล้า กลั่นฟ้าละอองดาว ขอบคุณครับ ขอให้มีสุภาพดี มีความสุขทุกๆวันครับ
10 พฤศจิกายน 2552 09:22 น. - comment id 1062389
16 คุณเพียงพลิ้ว ~ ขยายเพียงคำเยี่ยงพลิ้ว ละลิ่วเพลง สนองกิจสนิทเกรง ระเร่งเกื้อ เขม็งโฉงโขมงเฉง ประเลงว่าง สิรีบคิดสฤษดิ์เคื้อ ครุ่นเนื้อนวลโคลง คุณกานต์รีบทำงานให้เสร็จไวไวเน้อครับ
10 พฤศจิกายน 2552 09:32 น. - comment id 1062392
17 คุณ(น้ำตาลหวาน) ~ ดวงดาวดื่มด่ำฟ้า ฝันหวาน มดย่อมหมายน้ำตาล ไต่ห้อม พจน์ปองอ่านโคลงปาน เป็นเหน็บ เถิดแม่ลองซักซ้อม สักน้อยหนึ่งสนอง
10 พฤศจิกายน 2552 09:58 น. - comment id 1062401
18 คุณก้าวที่...กล้า แต่งได้ประณีตประทับใจครับ สฤษดิ์รักสลักร้อย ........ สลอยรา สวาดิพร่างสว่างพา ...... สง่าพ้อง ประหวัดติดประวิตรตา ... คณาแต่ง ลิขิตใจฤไขจ้อง ............. ละล่องคล้ายละลายขวัญ มีตกเอกหลงมาที่นึงครับ (ลิขิต)(ใจ)(ฤ)(ไข)(จ้อง) นับคำแบบนี้ - ตกเอก (ลิ)(ขิต)ใจ)(ฤ)(ไข)(จ้อง) นับคำแบบนี้ - ไม่ตกเอก แต่คำเกิน เพราะ ฤ กับ ไข เป็นคนละคำกัน ~ สลักจิตสฤษดิ์แจ้ง ระแนงราย ระเรื่อยเสกระเรขสาย ระร่ายคล้อง พิสุทธิ์เลศพิเศษลาย สยายล่าม เสน่ห์เพาะเสนาะพ้อง ชระล่องช้อยชะรอยสมาน มหาสมุทรเวิ้งว้างตัวจริงอยู่ที่นี่แหละครับ ขอบคุณครับ
10 พฤศจิกายน 2552 10:29 น. - comment id 1062414
(ลิ)(ขิต)(ใจ)(ฤไข)(จ้อง) อ่านฤไข แบบเร็วๆไม่ได้หรือคะ คำก็ครบ ไม่ตกเอกด้วย คุณพจน์ถ่อมตัวจังนะคะ ผู้น้อยมิบังอาจกล่าวเช่นนั้นไปได้ 'จมมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง' ใช้เฉพาะกับตัวเองอ่ะค่ะ
10 พฤศจิกายน 2552 17:53 น. - comment id 1062492
ปัญหาในข้อนี้ ผมมองว่าขึ้นกับนัยของคำและพยางค์คำ (ลิขิต) ถือเป็นหนึ่งคำ แต่สามารถแยกเป็นสองพยางค์คำได้ (ลิ)(ขิต) (ฤ) ถือเป็นคำหนึ่ง (ไข) ก็อีกคำหนึ่ง ถึงอ่านรวบได้ ก็ยังเป็น (ฤ)(ไข) สมมติว่าเป็น "ระทึกใจฤทัยจ้อง" นัยของคำคือ (ระทึก)(ใจ)(ฤทัย)(จ้อง) ซึ่งสามารถเลือกที่จะแยกพยางค์คำตรงระทึก (ระ)(ทึก)(ใจ)(ฤทัย)(จ้อง) ถ้าเป็นแบบนี้ ก็จะไม่ตกเอกครับ สรุปก็คือจะเอาคำสองคำมารวมให้เป็นหนึ่งคำโดยการอ่านเร็วๆไม่ได้ครับ ลองดูตัวอย่างจากลิลิตพระลอ บุญเจ้าจอมโลกเลี้ยง โลกา ระเรื่อยเกษมสุขพูล ใช่น้อย แสนสนุกศรีอโยธยา ฤๅร่ำ ถึงเลย ทุกประเทศชมค้อยค้อย กล่าวอ้างเยินยอ บาทสาม (แสน)(สนุก)(ศรี)(อโยธยา) แบ่งตามนัยของคำ (แสน)(ส)(นุก)(ศรี)(อโยธยา) แยกพยางค์คำตรง สนุก ผมมองอย่างนี้อ่ะครับ
11 พฤศจิกายน 2552 10:10 น. - comment id 1062837
ขอบคุณค่ะ ที่ให้ความรู้ในรายละเอียดเพิ่มเติม สฤษดิ์รักสลักร้อย ........ สลอยรา สวาดิพร่างสว่างพา ...... สง่าพ้อง ประหวัดติดประวิตรตา ... คณาแต่ง ระทึกในฤทัยน้อง .......... ละล่องคล้ายละลายขวัญ