พอล่ะครับ แต่งยากจริงๆ บทนี้ อันไหน อ่านมะรื่นหู ขอพระอภัยมณี ศรีสุวรรณ เนื่องจาก อิอิ กะหยังว่า กะยังหว่า....สุดๆ แล้ว แต่งไปแต่งมา เนื้อหา มาแนวนี้ได้ไง *ขณะนึก ระลึกรู้ พธูเที่ยง จะเรียบเรียง ประเสียงสาน ณ กาลก่อน คะนึงนิจ สถิตฐาน นะกานท์กลอน ชะเว้าวอน นะอ้อนออด จะรอดรา *จะเก็บกิน ถวิลวาด ประมาทไหม จะนอนใน ณ นัยแน่ว ชะแห้วหา จะรำร่าย บะบ่ายบิด ปะติดตา กระทั่งท้า ระอาอก สะทกสะท้อน *ถนอมหน่อย ปะปล่อยเปรียบ ละเลียบแล้ง กระซ่านแซง แสดงดล ปะสนสอน วจีจัด ตวัดว่า จะลารอน ประจานจร จะร้อนรน กระวนกระวาย *ผงกเงี่ย ละเลียลิ้น จะดิ้นด่าว ยะยืดยาว ผะผ่าวผุด ชะสุดสาย ละเอียดอ่อน จะผ่อนผัน ชะหวั่นวาย จะเอียงอาย นะหน่ายแหนง ระแวงไว *กระนั้นหนา ประชาชน ระคนค้าน ประหัตประหาร สะท้านทัก จะหนักไหน ผนึกแน่น ณ แดนด้าว นะ ท้าวไทย จะสดใส นะใบบุญ พระคุณครอง กลบทกินนรรำ เป็นกลบทที่มีกฎบังคับมากสักนิด คือ ๑. ต้องใช้เสียง อะ ตรงคำที่๑-๔-๗ ๒. ต้องซ้ำเสียงพยัญชนะ ๓ คู่ ตรงคำที่ ๒-๓ ๕-๖ ๘-๙ ๓. ซ้ำเสียงสระอีก ๒ คู่ตรงคำที่ ๓-๕และ๖-๘ทุกวรรคจนจบ ตัวอย่างบรมครูกลอนกลบทในอดีต กลบท กินนรรำ ฉบับหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) ขจัดจิต ชนิดหน่าย ระคายข้อง ระเบียบเบื้อง ตระเตื้องต้อง สนองหนุน คดีดู จะชูช่อง ประคองคุณ จะลึกลับ จะพับพูน ประมูลมี คะเนนับ สดับดู กระทู้ที จะต้านต่อ หรือรอรี คดีดู พินิจแหนง ระแวงวน ฉงนเงื่อง จะค้านคัด ประหยัดเยื้อง ณเรื่องรู้ จะหมองหมาง ระคางคิด จะชิดชู กระแสศัพท์ สดับดู จะรู้รา กลบทกินนรรำ ฉบับ (นายนกมหาดเล็ก : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) ........................................... ชะจิตรใจไฉนนางระคางเขิน ปะพบพักตร์จะทักทายชม้ายเมิน ละเลิงเหลือจะเชื้อเชิญพเอิญอาย สมรเหมือนจะเคลื่อนคลาดอนาถนัก ขะรอยเริงละเลิงรักสมัครหมาย ระทดถึงคะนึงนางจะวางวาย จะห่างเหเสน่ห์หน่ายสลายเลือน ------------------------------------------------------ หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) ขจัดจิต ชนิดหน่าย ระคายข้อง ระเบียบเบื้อง ตระเตื้องต้อง สนองหนุน คดีดู จะชูช่อง ประคองคุณ จะลึกลับ จะพับพูน ประมูลมี คะนึงนึก ตริตรึกตรอง ละบองแบ่ง ระบิลเบื้อง ยุเยื้องแย้ง แขนงหนี คะเนนับ สดับดู กระทู้ที จะต้านต่อ หรือรอรี คดีดู พินิจแหนง ระแวงวน ฉงนเงื่อง จะค้านคัด ประหยัดเยื้อง ณเรื่องรู้ จะหมองหมาง ระคางคิด จะชิดชู กระแสศัพท์ สดับดู จะรู้รา
28 ตุลาคม 2552 00:19 น. - comment id 1057503
อ่านได้อย่างเดียวแหละจ้า... ติติงไม่มีความรู้..อิอิ ดึกแล้ว....ไปนอนก่อนแล้วน๊ะ... ราตรีสวัสดิ์จ้าาาา...
28 ตุลาคม 2552 00:23 น. - comment id 1057505
ที่หาได้ ในเวปบ้านกลอน เมื่อหนอนโกรธเป็นใหญ่..ในใจ(ด้วยกลบทกินนรรำ) ญามี่ อะไรเล่าผะเผาผ่าวระนาวหนัก ประดุจด้นปะปนปักสลักหลอน สละรื่นผละชื่นไชปะไหววอน สยบยอมถนอมหนอนระร้อนไล้ ตระหนักนิ่งประวิงไว้ไฉนหนอ ปะพรมพ้อพะนอหน่อชะลอไหล สดับด่ำกระหน่ำหนักประจักษ์ใจ สนิทนิ่งละทิ้งไทผละไตร่ตรอง สนองหนอนสลอนรินถวิลว่าย กระจายจิตประดิษฐ์ดายสลายล่อง ระกำเกลื่อนเสมือนหม่นปะปนปอง ตะกอนกองสนองนองประลองล้อม ตะโบมเบื่อคละเจือเจ็บปะเก็บก่าย ละอองอวลฉนวนหน่ายกระจายจ่อม ทะนุหนอนตะลอนรู้ประตูตรอม ระคายคล้องฉลองหลอมถนอมเนือง ประดุจด่าวปะผ่าวเพลิงระเริงรัด ชะงักเงื่อนเสมือนมัดถนัดเนื่อง ประคบขมระทมทักสลักเรือง ประสมเศร้าคละเคล้าเคืองกระเดื่องดัน กลบทกินนรรำ เป็นกลอน๙ที่บังคับให้ใช้ ซ้ำเสียง อะ ในคำที่ ๑-๔-๗ ซ้ำเสียงพยัญชนะวรรคละ๓คู่ ตรงคำที่๒-๓ กับ ๕-๖ และ๘-๙ ซ้ำเสียงสระ ๒คู่ในคำที่ ๓-๕และ๖-๘ บทนี้มี่เลื่อนคำรับสัมผัสไปสัมผัสระหว่างวรรคตรงคำที่๖(เจ้าของไม่ได้บังคับไว้ แค่มี่อยากให้อยู่กลางวรรคของกลอน๙เท่านั้นเอง) ปล.บทนี้มี่เขียนตามผู้แต่งชื่อ นายนกมหาดเล็ก: ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ .. ปลดแอกความเศร้า(ด้วยกลบทกินนรรำ) โอเลี้ยง http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jiujik ประจักษ์แจ้ง แสดงดล ปะปนแปลบ ชะลอรั้ง กระทั่งแทบ แฉลบหลอน หทัยทัก สลักร้อน สลอนรอน ละเมอเหมือน สะเทือนทอน ตะลอนร้าว ผละผลักเพ้อ เสนอหนี ละพลีภักดิ์ สลัดรัก สมัครใหม่ ไฉนหนาว เสมือนหม่น คละคนค้น จะยลยาว สลดราว ผะผ่าวผุด สะดุดดัน ประสานสู้ ประตูตรม คละขมขื่น สะอื้นอิง สะอิ้งเอ่อ เสมอสรรค์ แสวงวัน สะบั้นเบื่อ ละเชื่อชัน พนันหนัก จะกักกด สลดรัก ประเดิมเดิน เผชิญช้ำ ระกำกร่อน ระรัวร้อน สะท้อนท้อ ชะลอหลัก ปะเปล่าเปลี่ยว เฉลียวเลือน สะเทือนทัก ชะงักเงียบ ละเลียบล้ม ระทมท้อ ประกาศไกล ละไหม้หมอง ประลองรุก ละลุกลน ระคนคาย สลายล่อ ประจัญเจ็บ กะเก็บกลืน ผละขื่นคลอ กระหน่ำหนัก ละรักรอ พะนอนาน ประสงค์สร้าง ระวางว่าง สว่างหวัง ระวังไว้ กระใดดล กะหนหาญ จะกรายไกล ละไล้แล กระแสซาน ประดิษฐ์ด้าน ผสานสุข สนุกนิจ และจากเวปอื่นๆ http://www.oknation.net/blog/kondee007/2008/10/03/entry-1 กลบท กินนรรำ มีข้อกำหนดให้วรรคหนึ่งมี ๙ คำ แบ่งเป็น ๓ ชุด ชุดละ ๓ คำ มีข้อบังคับให้คำแรกของทุกชุดเป็นคำ ลหุ ส่วนคำที่ ๒ และคำที่ ๓ ของแต่ละชุด ให้มีพยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน นอกจากนี้กำหนดให้สัมผัสสระภายในวรรค คือ คำที่ ๓ สัมผัสกับคำที่ ๕ คำที่ ๖ สัมผัสกับคำที่ ๘ ดังแผน เส้นที่โยงข้างบน คือ คำสัมผัสอักษร เส้นที่โยงข้างล่าง คือ คำที่ ๓ กับคำที่ ๕ และคำที่ ๖ กับคำที่ ๘ สัมผัสสระ ส่วน คำที่ ๑ คำที่ ๔ คำที่ ๗ เป็นคำ ลหุ ดังตัวอย่าง จะจากเจ้า ชะเศร้าโศก นะโลกสลาย จ จ จ ช ศ ศ น ล ล ระทึกทวย จะม้วยมรณ์ ผะอ้อนอาย จะวางวาย จะหน่ายหนี จะอีออ ร ท ท จ ม ม ผ อ อ จ ว ว จ น น จ อ อ กลบท กินนรรำ จะจากเจ้า ชะเศร้าโศก นะโลกสลาย ระทึกทวย จะม้วยมรณ์ ผะอ้อนอาย จะวางวาย จะหน่ายหนี จะอีออ ปะหมู่ไม้ จะไว้เว้น ชะเด่นเดิน ชะสรรเสริญ นะเพลินไพร กะไหนหนอ กะเกินกาล มินานนับ จะรับรอ จะเออออ พะนอนาง ณ ข้างเคียง ละลืมหลง จะคงคิด ชะจิตแจ้ง มิหน่ายแหนง จะแจ้งใจ มิไถ่เถียง จะจำใจ จะไม่มอง จะร้องเรียง นะข้างเคียง พะเอียงอาย ขจายจร นะนกน้อย ละห้อยหา พนาน้ำ จะเขินข้าม ชะตามไต่ ชม้ายหมอน ปะองค์อินทร์ ชรินทร์แรม ณ แรมรอน นะองค์อร ฉะอ้อนอินทร์ ถวิลวงศ์ นะไพรสณฑ์ พะวนวัง จะรั้งรุด ชม้ายมุด จะสุดใส จะไหลหลง ไฉนน้ำ จะถามไถ กะใครคง ณ แดนดง จะหลงใหล ชะใครครอง นะวังเวง ชะเครงคราง จะห่างเหิน จะหมางเมิน ชะเกินกลัว นะมัวหมอง จะมืดมิด นะจิตใจ ชม้ายมอง ณ หอห้อง จะหมองมัว ชะชั่วชน พะนักนึก ระทึกทน ระคนขืน สะอึกอื้น จะขืนแข่ง นะแห่งหน ระคายเคือง จะเรื่องรัก จะหมักมน ไสววน จะหม่อนหมอง นะพ้องพาล จะไปป่า จะพาเพื่อน ชะเตือนติด ระคนคิด สะกิดกัน จะสรรค์สาร นะปกป้อง จะส่องสุด วิมุติมาร จะเหิมหาญ ผสานสม สบมบาย พิชิตชิด สวิดวาย มลายหลอม จะเพียบพร้อม ถนอมนึก พิลึกหลาย จะร่วมแรง แสดงดี วจีวาย ชะใครใคร่ จะหมายมอง จะลองแล ปะพบผู้ จะรู้รัก นะศักดิ์ศรี จะดูดี จะมีมา จะหาแห จะติดตัว จะมัวมอ จะงอแง ระทวยแท้ จะแก้กล มิจนใจ นลาตไหล ไสวหวิว สยิวหยด ชะงามงด จะลดลอง มิหมองใส สิร้อนแรง จะแห้งเหือด จะเดือดใด จะคลาไคล สิไม่มา ยถาโทม จะหมกไหม้ สิได้ดู นะหนูหนัก สิลืมหลัก จะมักไม่ สิให้โหม ระทดทั้ง ระวังไว้ ชะใจโจม ชะล้อมโลม พะโอมอม สิดมดอม ถนอมน้อง จะมองหา สิพาพี่ ไฉนนี้ ชะนีหน่าย จะผ่ายผอม สิโดดได้ จะหมายมอง จะลองลอม จะจับจอม นะพร้อมไพร สิไม่มี ระคนคน สิหม่อนหมอง จะข้องขัด จะแจงจัด พนัสนาม จะถามถี สิมืดมัว ชะชั่วช้า สิกากี ชะน้ำนี้ จะมีหมด จะอดทน นะลงแล้ง จะแรงร้าย จะผายผิด จะค้นคิด จะปิดป่า สิฝาฝน จะลืมโลก จะโศกเศร้า จะร้าวรน ชะแห่งหน ระทนทิศ สิมิดมัว ปะน้ำนอง จะป้องป่า สิมาหมด ชะแมงมด สิ งก งัน จะหันหัว จะถามไถ สิใครคร้าน ชะรานรัว จะตามตัว สิหัวหาย มลายเอย. ...หยาดกวี... ๓ ตุลาคม ๒๕๕๑
28 ตุลาคม 2552 00:36 น. - comment id 1057510
ขยันจังนะคะน้องชาย พี่สาวขอลาค่ะ แค่กลอนแปดยังเอาตัวไม่ค่อยรอดเลย
28 ตุลาคม 2552 11:22 น. - comment id 1057640
มาเมียงๆมองๆตาเคยค่ะคุณน้อง ยังไม่สันทัดจ้ะ
28 ตุลาคม 2552 12:32 น. - comment id 1057682
ยอดไปเลยค่ะ อิอิ....พี่ปรางก็ถือโอกาสเรียนรู้ ไปในตัว คือไม่ต้องไปค้นหาที่ไหนเลย ขอบคุณ งั้นขอเก็บไว้ก่อนนะคะ ช่วงนี้งานรุมค่ะ ขอให้น้องชายรักษาสุขภาพนะคะ
28 ตุลาคม 2552 13:29 น. - comment id 1057702
มาอ่าน ครับ ดีครับหมั่นฝึกฝนและเรียนรู้ แต่อย่าลืมค้นหาตัวเอง และแนวกลอนของ ตนเองให้เจอ ด้วย หากหวังว่าจะพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในทางบทกวี ด้วยมิตรไมตรี
28 ตุลาคม 2552 13:32 น. - comment id 1057705
ขอมาเรียนรู้ด้วยคนค่ะ ยอดเยี่ยมจริงๆ ค่ะ อิอิอิ
28 ตุลาคม 2552 15:32 น. - comment id 1057814
สงสัยจะว่างมาก แค่กลอนแปดธรรมดา เฌอก็ไม่ไหวแว้ว นี่กลบทพลิกแพลงอีก ปวดขมับแย่ คริ คริ
28 ตุลาคม 2552 15:36 น. - comment id 1057820
แวะมาให้กำลังใจครับ
28 ตุลาคม 2552 21:28 น. - comment id 1057952
กลอนกลบทอ่านแล้วเป็นจังหวะและไพเราะมากมายไปตามเอกลักษณ์ของแต่ละกลบทครับ พยายามจะฝึกเหมือนกันครับ แต่หาคำยากจริงๆ
28 ตุลาคม 2552 21:38 น. - comment id 1057956
แต่งได้เก่งจังเลย...
28 ตุลาคม 2552 23:52 น. - comment id 1058001
ระรวยริน ถวิลว้า ชะล่าหลัก ผะผ่าวผลัก ประจักษ์จ่อม ถนอมเหนื่อย ประสบโศก ชะโงกเหงา ปะเปล่าเปลือย ปะหลอนเลื้อย คละเอื่อยอ้าง ระวางเวียน ฝันดีค่ะพี่นัด "ชาร์ทไฟตัวเองเยอะๆนา"
29 ตุลาคม 2552 08:17 น. - comment id 1058045
คงอ่านอย่างเดียวครับ จะหัดแต่งคงใข้เวลามากครับ เป็นคนไม่เอาไหนอยู่ด้วยครับ
29 ตุลาคม 2552 14:12 น. - comment id 1058175
ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ แต่ทำไมยากเหลือเกินคะ
29 ตุลาคม 2552 16:52 น. - comment id 1058259
ขอบคุณครับ พี่วุ้นเส้น ที่เข้ามาทักทาย เป็นคนแรก ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ
29 ตุลาคม 2552 16:53 น. - comment id 1058260
ขอบคุณครับ พี่สาว อนงค์นาง ที่แสนดี ก็นิดๆ ครับ ไม่ถึงกับมาก เนื่องจาก ตั้งใจไว้แล้ว น่ะครับ
29 ตุลาคม 2552 16:54 น. - comment id 1058261
ขอบคุณครับ พี่ปรางทิพย์ ไม่ว่างไม่เป็นไรครับ ว่างๆ ก็ลองสนุกด้วยกันได้นะครับ
29 ตุลาคม 2552 16:56 น. - comment id 1058263
ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์... ครับ การแต่งกลอนกลบท จุดประสงค์แรก คือ อยากรุ้กลบท นี้มีเท่าไร แต่งยากง่ายแค่ไหน และการนำกลบท เหล่านี้ ไปแต่งเป็นกลอนแปด ได้อย่างไรบ้าง เท่านั้น ล่ะครับ ส่วนวิถีแนวเดิม คงไม่พ้นกลอนแปดหรอกครับ ด้วยเคารพรัก ท่านอาจารย์ คุณน้าคนกุลา ที่แสนใจดี ต่อผมเสมอ..
29 ตุลาคม 2552 16:57 น. - comment id 1058265
ขอบคุณครับ คุณยายแม่มด ไม่ลองแต่งบ้างล่ะครับ มาอ่านอย่างเดียว ผมก็เหงาแย่สิแบบนี้
29 ตุลาคม 2552 16:58 น. - comment id 1058266
ขอบคุณครับ คุณพลอย กะ เฌอ ก็ไม่ถือว่ามากครับ แต่จะแต่งเฉพาะ ตอนเย็นเท่านั้น ได้เท่าไรเท่ากัน พยายามให้ได้ วันละบท ยกเว้น ไม่ว่างจริงๆ น่ะครับ
29 ตุลาคม 2552 17:00 น. - comment id 1058268
ขอบคุณครับ พี่ธันวันตรี ผมหัดแต่งคนเดียว คงไม่เสร็จง่ายๆ และคงผิดหลายๆ อย่าง แต่ได้คุณญามี่ เป็นคนแนะนำ ช่วยเหลือ ในเรื่องเสียง เป็นสำคัญ และคำที่ตก บางบทบางบาท น่ะครับ
29 ตุลาคม 2552 17:01 น. - comment id 1058270
ขอบคุณครับ พี่กุ้งก้ามกราม แต่งเสร็จกลอนไหน เอามาให้ผมได้ศึกษาด้วยนะครับ ผมเองก็แค่แต่ง ตามรุปแบบ วิธีการ บางทีอาจจะผิด ถุก เพราะกลบท นี้ยากจริงๆ ครับ การพลิกแพลง ก็ยังถือว่า น้อยเหมือนกัน ถ้าคนเก่งกลอน มาแล้ว คงทำได้ดีกว่าผมแน่นอน ครับ
29 ตุลาคม 2552 17:03 น. - comment id 1058273
ขอบคุณครับ ท่าน ดอนฮวน แต่งเก่ง นี่บอกไม่ได้ครับ ถ้าแต่งตามวิธีการ ก็อาจจะจริง ล่ะครับ เพราะยังไม่มีใครมา วิพากษ์ วิจารณ์เลย ผมก็เหมือน คลำทาง ไปคนเดียวเท่านั้น
29 ตุลาคม 2552 17:05 น. - comment id 1058275
ขอบคุณครับ คุณญามี่ ในการช่วยเหลือ แนะนำ ให้กำลังใจ รวมถึงบีบบังคับ ให้พยายามแต่ง กลบทเหล่านี้ออกมา
29 ตุลาคม 2552 17:06 น. - comment id 1058276
ขอบคุณครับ พี่หมอ อินสวน พี่หมอ งานเยอะนี่ครับ จะว่าไม่เอาไหนไม่ได้หรอก เพราะคนมีหน้าที่การงานแล้ว จะให้มาเพ้อฝันรำไร เช่นผมได้ยังไง ล่ะครับ ถ้าพี่หมอ แต่งกลบท คงดีกว่าผมแน่นอน ครับ
29 ตุลาคม 2552 17:08 น. - comment id 1058278
ขอบคุณครับ พี่สาว นรสิริ ก็ต้องบอกว่ายากสิครับ เนื่องจากว่า ไม่ง่าย อิอิ ถ้าไม่มีคุณญามี่ ถ้อยคำ สำนวน ผมจะแปร่งๆ มากกว่านี้ ครับ ยังดี มีคนตรวจงานก่อน ส่งผลงาน ลงหน้าจอ และต้องขอโทษทุกๆ ท่านด้วยครับ ตอบช้าไปหน่อย มะวานลงคอมฯใหม่ เสร็จก็เที่ยงคืนแล้ว
29 ตุลาคม 2552 19:03 น. - comment id 1058335
ขณะอ่านให้พานคิด สะกิดนึก จะผนึกระทึกท้อจะต่อถ้อย จะเรียงรายขยายความมิงามรอย ชะแง้ปรอยจะร้อยขานหรือหวานคม แบบว่ามามั่วๆ อิ อิ อิ กลบทคงอีกเมินกว่าจะเขียนได้นะเนี่ย นี้เย็นย่ำค่ำแล้วนะเนี่ย มีแต่ความสุขหรรษาทุกทิวา ราตรีค่ะคุณสำรวย เจ้าสำราญ
29 ตุลาคม 2552 20:14 น. - comment id 1058356
ขอบคุณครับ คุณปทุมทิพย์ กระพริบ ณ แดนสรวง ขณะแต่ง แถลงไข หทัยชื้น ระเริงรื่น นะหมื่นกล ระคนขำ ประจักษ์จิต สถิตกลอน ละครรำ สลักคำ กระทำที จะดีไหม... มั่วๆ เหมือนกันครับ ขอให้มีความสุข ในทิวาสวัสดิ์ ทุกค่ำคืนครับ