ล่องลอย เคว้งคว้าง กลางเมืองกระด้างอันว้างเวิ้ง ศรัทธาเล่า ศรัทธาจางหายไปไหน จางหายไปในหมอกควันกระนั้นหรือ รำพึงรำพัน เงียบหงอยเปล่าดาย รอบรายเสียงโหวกเหวกอึง ตะครุบ! จิตวิญญาณอันรักใคร่ เปล่งแสงริบหรี่ แล้วมอดดับ ต่อหน้าต่อตา ต่อตา ต่อตา หมอกควันหนานุ่มเหมือนสายไหม ปกคลุมต้นไม้จนอึดอัด ดูสิ! กี่ต้นต่อกี่ต้น ดอกไม้ตายทั้งตูม ไยโลกไม่ปล่อยให้ชีวิตเติบโต คำถามอาจโต้กลับ ก็แล้วไยชีวิตไม่เว้นที่ว่างไว้บ้างเล่า ให้ความงดงามของจิตศรัทธา ได้มีที่ยืนบ้าง ได้มีบ้าง ได้มีบ้าง ร้องแรกแหกกระเชออยู่หน้าฝูงชน หูเขาไม่หนวก หากเราสิ เบื้อใบ้ เสียงกระซิบของอคติ ถากถางคุกคาม นี่ไม่ใช่โลกของเจ้า จงกรีดร้องเสีย แล้วอย่าลืมยืนไว้อาลัย ความงามของวันเวลา ที่บินลับไปสุดขอบฟ้าอีกด้าน สักนาที ก็พอ ก็พอ ก็พอ เศร้าบ้างไหม กับ 'ความรัก' ซึ่งขมขื่น และ 'ความไม่รัก' ซึ่งเข่นฆ่า เวทนาสิ จงเวทนา แล้วแค่นเสียงหัวเราะ เย้ยหยัน อย่างที่ใจต้องการ
26 ตุลาคม 2552 16:22 น. - comment id 1056915
ทรมานนะคะเมื่อศรัทธาหาย
27 ตุลาคม 2552 09:07 น. - comment id 1057120
มาให้กำลังใจ ครับ
27 ตุลาคม 2552 10:06 น. - comment id 1057141
จ๊ะเอ๋.....สาวน้อย มารำพึงรำพันคนเดียวได้ไง มาๆ มาบ้านพี่เลย ล๊อคคอตีเข่า...เอ๊ย หอมแก้ม...อิอิ คิดถึงนะเนี่ย หายไปนานมากๆ