ค่ำหาวดาวหายใบไม้ลู่ หดหู่โหยไห้หัวใจหาย ยิ่งดึกยิ่งเดี่ยวยิ่งเดียวดาย ทอดกายลืมตามองฝาโลง เสียงนกแสกแทรก ระแวกเถื่อน ดวงเดือนเต็มเต่งดูเหวงโหวง งูหงอยหอยทากออกจากโพรง ตาลโตงเตงแกว่งตามแรงลม มือเหี่ยวเหนี่ยวก่ายกิ่งไม้แห้ง ออกแรงลุกหลุดสะดุดล้ม ตาโหลลึกเหลือกกระเดือกจม หนอนกลมกัดกร่อนกระชอนไช คืนค่ำแห่งสัมภเวสี ภูติผีเดินดุ่มตะคุ่มไหว หายวับฉับพลันถึงบันได อยากให้ญาติกรี๊ดหรือกรีดร้อง ริมรั้วแรมไฟจึงไม่เห็น กลิ่นเหม็นลอยไหลถึงในห้อง มองผ่านม่านผ้าเบิกตาพอง ไฟส่องตาสุกขนลุกเกรียว จ้องเข้าเบ้าตาเต็มหน้าต่าง หมาครางหอนยืนในคืนเปลี่ยว ร่างลับดับรูปเพียงวูบเดียว เหงื่อเหนียวหน้าชุ่มก็คลุมโปง กระซิกผวาใต้ผ้าห่ม พรืดลมพัดมุ้งสะดุ้งโหยง ยิ่งสั่นสะท้านจนบ้านโคลง ก้มโค้งคุดคู้ปิดหูตา ......................................... คืนเย็นเพ็ญพราวและหนาวนัก ต้นสักสูงดั่งจะบังฟ้า ร่างภูติพรายกลับอย่างอัปรา เวลาหรือเราที่เขาลืม เนื้อพังหนังเอ็นก็เหม็นเน่า รักเขาแค่ไหนก็ไม่ปลื้ม ดิน น้ำ ลม ไฟ เขาให้ยืม ดูดดื่มถึงวันก็บรรลัย ทอดร่างกลางโลงอย่างโล่งจิต เลิกติดเลือดเนื้อและเชื้อไข กรรมใดใครทำรับกรรมไป ตั้งในสติอโหสิกรรม. ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๒
25 ตุลาคม 2552 18:52 น. - comment id 1056634
อ่านแล้วเกิดกลัว ขอเอาอย่างแต่งบ้างนะท่าน ลืมขอที่1
25 ตุลาคม 2552 20:18 น. - comment id 1056658
เห็นชื่อเรื่อง คิดว่าคุณฤทธิ์จะแต่งกลอนหวานๆ... เปิดมาอ่าน..ชวนให้รู้สึกปลงค่ะ ว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน
25 ตุลาคม 2552 20:23 น. - comment id 1056659
สุดๆครับ ถ่ายทอดได้อย่างอัศจรรย์พลิกความคาดหมายสุดท้ายแฝงนัยแห่งธรรมมะนี่แหละคือความฝันของนักเขียนกลอน
25 ตุลาคม 2552 20:46 น. - comment id 1056678
สวัสดีค่ะ คุณฤทธิ์ ไม่อยากแก้ตัวเลยนะคะว่าคุณตั๊กทำอารมณ์ส่วนดีๆหายไปเยอะ เวลาจะเขียนกลอนสักครั้งก็หนักใจ เพราะเค้นมาเท่าไหร่ก็ไม่มีคลังคำดีๆเลย......แต่มีกลอนคุณฤทธิ์บทหนึ่งที่อ่านแล้วก็อยากต่อกลอนด้วย นั่นคือกลอนที่คุณฤทธิ์ใช้ชื่อว่า ชายชราผู้ปราชัย และคุณตั๊กเข้าไปเม้นท์พร้อมทั้งบอกว่าอยากเขียน เรื่อง หญิงชราผู้ปรานี แต่...ยอมรับเลยค่ะว่าไม่กล้าเอาขึ้นเวปตรงๆ เพราะเขียนด้วยความเร็วสูงมาก เหมือนบังคับตัวเองให้ทำการบ้านซึ่งผิดวิสัยของคนที่ใช้ศิลปะทางอารมณ์......วันนี้ไหนๆแวะเข้ามาแล้ว ตัดสินใจฝากกลอนที่เขียนไว้กับคุณฤทธิ์ช่วยรักษาเป็นมรดกทางปัญญาเท่าหางอึ่งของคุณตั๊กด้วยนะคะ คงจำได้นะคะ " ชายชราผู้ปราชัย " คุณฤทธิ์เขียนไว้อย่างไพเราะว่า..... ดาวตกจากฟากฟ้านอกหน้าต่าง ม่านผืนบางลมลูบก็วูบไหว ตื่นจากเตียงเดียวดายยังหายใจ ไม่มีใครเคียงข้างเหมือนอย่างเคย สุดปลายตาป่าไหวจึงใจหวั่น ดวงตะวันดวงน้อยค่อยค่อยเผย ต้นไม้ใหม่ให้ดอก..การงอกเงย การระเหยแห้งของละอองน้ำ เห็นมาชั่วชีวันอันน้อยนิด เห็นชีวิตขึ้นสุดและจุดต่ำ เห็นผมขาวขึ้นปรกแทนดกดำ เห็นรอยร่ำลมพัดไม้ผลัดใบ เห็นฤดูเหมันต์ที่ผันผวน เห็นการหวนกลับมาของใบไม้ เห็นคนที่รักมากตายจากไป กับความในอยากเล่าให้เจ้ารู้ ว่ามิได้หมายแขชะแง้หาว หรือหมายดาวที่จุดไกลสุดกู่ รอสองตาเธอเลี้ยวมาเหลียวดู สำหรับผู้กลับมาอย่างปราชัย ผู้ไม่เคยเอ่ยหลอกหรือบอกว่า โค้งขอบฟ้าจบลงที่ตรงไหน ท้องทะเลราตรีสีอะไร หรือดอกไม้กี่กลีบที่ลีบโรย เป็นแค่คนป่วยไข้ที่ใกล้ฝั่ง ที่ใกล้ฝังร่างแห้งเมื่อแรงโหย ที่เพียงสัมผัสคมแห่งลมโชย แทบปลิวโปรยแหลกสลายกลางสายลม ชายชราอาภัพได้กลับบ้าน จะสงสารหรือว่าจะสาสม จบการเผชิญโชคบนโลกกลม มานอนซมซบพื้นเมื่อคืนเรือน จับมือเขาสักหนเถิดคนยาก เขาไม่อยากจากไปอย่างไร้เพื่อน นับแต่ต่อวันนี้ไม่กี่เดือน ก็คงเหมือนเป็นเงาที่เบาบาง ดวงตะวันคลายแสงอ่อนแรงถอย เขายังคอยใครมาที่หน้าต่าง หรือภาพชายมั่นคงผู้หลงทาง จะจืดจางลืมไปจากใจแล้ว ๑๖ กันยายน ๒๕๕๒ _________________________________________ และคุณตั๊ก....อิอิ.....บังอาจเขียนกลอนให้ดังต่อไปนี้ แถ่น แทน แถ่น.......... " หญิงชราผู้ปรานี " ลมพัดวูบลูบไล้ผ่านใบหน้า หญิงชรากอดกายผ่อนคลายหนาว กระชับเสื้อรัดร่างเป็นบางคราว ก่อนย่างก้าวเชื่องช้าเวลาเดิน กับจุดหมายปลายฝันอันยิ่งใหญ่ มิคาดให้ใครนั้นสรรเสริญ กี่ความยากอยากเผยเคยเผชิญ ราวบังเอิญเข้ามาแล้วลาไป แต่ละบททดสอบกรอบชีวิต เหนือลิขิตขีดเขียนเจียนไม่ไหว บางเรื่องราวปวดร้าวเกินเข้าใจ ร้องร่ำไห้หลายคราความจาบัลย์ ผ่านร้อนฝนปนหนาวมากคราวครั้ง ตราบโลกยังหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนผัน สุขหรือทุกข์ร้อยเรียงมาเคียงกัน มิอาจสั่นใจแท้ให้แพ้ทาง เดินมาสุดจุดหมายบ้านชายหนึ่ง เขารำพึงบทกลอนก่อนฟ้าสาง ว่าปราชัยบั้นปลายคล้ายเลือนลาง ซ้ำเรือนร่างทั้งปวงยังร่วงโรย เป็นแค่คนป่วยไข้ที่ใกล้ฝั่ง คงถูกฝังร่างแห้งเมื่อแรงโหย เพียงสัมผัสความคมแห่งลมโชย แทบปลิวโปรยสลายตามสายลม ชายชราอาภัพกลับมาบ้าน มีหรือหาญต่อว่าให้สาสม แอบส่งยิ้มอิ่มใจหมายชื่นชม คลี่ผ้าห่มรอรับกลับคืนเรือน เมื่อจบการเสี่ยงโชคบนโลกเศร้า เหลือเพียงเงาหญิงชรามาเป็นเพื่อน ต่อแต่นี้ความปรานีที่มาเยือน จักลบเลือนปราชัยในเส้นทาง พริ้มตาหลับเถอะชายสหายรัก ถึงคราวพักอุปสรรคและขวากขวาง อดีตกาลไม่หวนควรปล่อยวาง สองมือว่างเก็บไว้ใช้สวดมนต์ มาพิสูจน์ความหมายไม้ใกล้ฝั่ง ซึ่งอาจยังเปี่ยมค่าอย่าสับสน ควรหรือนั่งท้อแท้แพ้ใจตน คำว่าคนอยู่ที่ใครจะใช้เป็น __________________________________________ แอบส่งกระแสจิตให้คุณเทียนหยดติ๋งๆซึ่งไม่เคยอ่านบทกลอนของคุณตั๊ก ได้เข้ามาอ่านด้วยนะคะ.....โอมเพี้ยง....... สำหรับกลอน คิดถึง ของคุณฤทธิ์ ผ่านๆๆๆ ไม่กล้าต่อกลอนด้วยค่ะ เขียนไปเสียวสันหลังไปวาบๆๆ ดีไม่ดีมีอะไรมายืนตัวสูงเท่าต้นตาล ไม่ต้องวิ่งกันป่าราบเหรอคะ อึ๊ยส์ นึกแล้วหวาดเสียว....... เก่งกันนักล่ะเรื่องผีๆ ทั้งคุณฤทธิ์ และคุณนักสืบไร้อันดับนี่ย พวกสาวๆ ( ฉางน้อย โคลอน เทียนหยด จะนอนคลุมโปงกันอยู่แล้ว).....ฮ่า ส่วนคุณตั๊ก เวลาอ่านต้องค่อยๆเปิดนิ้วมือที่ปิดดวงตาละนิ้วๆ นึกสภาพแล้วกัน
25 ตุลาคม 2552 20:56 น. - comment id 1056682
ทั้งๆที่บอกว่าเสียวสันหลังแต่ก็ยังกลับมาอ่านกลอน คิดถึง อีกครั้ง ปลง........เลย กลอนคุณฤทธิ์ซ่อนนัยไว้เยอะ ต้องอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งอ่านก็จะยิ่งเข้าใจ คุณตั๊กไม่ได้อ่านหลายเรื่องตอนนี้พอมีเวลาก็กลับเข้าไปอ่านใหม่ ชอบค่ะ....
25 ตุลาคม 2552 21:44 น. - comment id 1056689
มาแล่ววววตามคำเชิญ...เหมือนได้ กลิ่นง่ะ... คุณตั๊กนี่คมในฝักแฮ่ะ.. นานๆชักที แต่ไม่มีสนิมกลับมีแต่คมมีดที่วาววับจริงๆ เอ้..เราพูดได้ไงเนี่ย..ดูดีจัง มิเสียแรงที่รออ่าน เหมือนกลอนคุณฤทธิ์ เวลาอ่านต้องคิดตามทุกตัวอักษรมันซ่อน นัยยะเอาไว้ด้วย...อ้อยชอบมากๆชอบอ่าน กลอนแบบนี้หล่ะ อ่านไปคิดไปแล้วตีความ ไปด้วย..สั้นๆแระกัน "ชอบ" ปล.กรุณาตีความคำว่า "ชอบ" ด้วย
25 ตุลาคม 2552 21:48 น. - comment id 1056691
นั่นสิคะ เห็นชื่อคิดว่ากลอนหวานแหวว แต่อ่านๆไป...........โห...รู้ซื้งในสัจธรรมของชีวิตเลยค่ะ ปลง ปลง ชอบกลอนนี้จังค่ะ
25 ตุลาคม 2552 21:50 น. - comment id 1056692
เนื้อพังหนังเอ็นก็เหม็นเน่า รักเขาแค่ไหนก็ไม่ปลื้ม ดิน น้ำ ลม ไฟ เขาให้ยืม ดูดดื่มถึงวันก็บรรลัย จริงๆชอบทุกบท แต่บทที่ยกมานี่ชอบมาก ที่สุดค่ะ มันชัดเจน แจ่มแจ้ง สว่าง และ กระจ่างใจสุดๆ...สมแระกับตำแหน่ง หัวหน้าแก๊งค์ ....
25 ตุลาคม 2552 22:45 น. - comment id 1056721
ความดีค่ะ ความดี ไม่เลือนหายไปพร้อมกับเลือดเนื้อแน่นอนค่ะ ฟันธง เอ้ย คอนเฟิร์ม
25 ตุลาคม 2552 23:48 น. - comment id 1056746
อ่านแล้วจะให้ปลงด้วยมั๊ยคะ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติค่ะ
26 ตุลาคม 2552 06:48 น. - comment id 1056776
นึกว่า กลอนคิดถึงสาว ซะอีกนะครับ แนวธรรมะ ปลงจิตปลงใจ นี่เอง แหะๆๆๆ
26 ตุลาคม 2552 14:04 น. - comment id 1056891
วันนี้ดีใจจังครับ ได้อ่านงานของคุณฤทธิ์และคุณมัส ไปพร้อมๆ กัน งานคุณฤทธิ์ ถึงจะน่ากลัว สมกับเป็นเรื่องของภูตผี แต่ก็จบลงด้วยคติธรรม ที่เตือนใจ แต่ลักษณะการเขียนกลอน คล้ายเป็นแนว ที่ปรับเปลี่ยน จากก่อนๆ อยู่บ้าง แถมมีการ ใช้คำที่มีพยัญชนะตัวเดียว ที่น่าสนใจด้วย ส่วนงานคุณมัส เป็นงานที่คล้าย ต่อเนื่องจากงาน คุณฤทธิ์ วงการลูกทุ่ง เขาเรียกว่า เป็นแก้กัน หรือ โต้ตอบกัน หลังจากที่คุณมัส หยุดการเขียนไปนานมากๆ กลับมาครั้งแรกได้ประมาณนี้ ผมว่าทำได้ดีไม่น้อย กำลังคิดว่า น่าจะอาศัยช่วงสนิมกระเทาะ เร่งสร้างงานอีกสักสองสามงาน คิดว่าคงกลับมาแวววาว ดั่งเดิมครับ ขอบคุณทั้งสองคน สำหรับงานเขียนดีดีครับ ขอบคุณครับ
26 ตุลาคม 2552 20:06 น. - comment id 1056968
ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ สุดยอดจริงๆค่ะ จะมาแอบอ่านผลงานของคุณบ่อยๆค่ะ
26 ตุลาคม 2552 22:50 น. - comment id 1057020
๑.คุณพี่ป๋องปุ๋ยครับ สวัสดีครับ ได้ที่หนึ่งสมใจแล้ว ลองแต่งมาให้อ่านบ้างซิครับ จะรออ่าน ขอให้มีความสุขครับ .. ๒.คุณวุ้นเส้น กลอนหวานๆ ไม่ค่อยแต่งครับ ยิ่งตอนนี้ไม่มีพล็อตเรื่องด้วย อยากเขียนกลอนเจ็ดครับ ก็ไล่คำไปเรื่อยๆ ก็กลายเป็นเรื่องนี้ ขอให้มีความสุขมากๆครับ . ๓.คุณเสมอจุก สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ขอให้มีความสุขมากๆครับ . ๔.คุณมัสลิน no.2 ดีใจครับที่แวะมา กลอนของคุณตั๊ก อ่านแล้วรู้เลยว่าพื้นฐานฝีมือดีมาก แต่ร้างมือนานไปนิดหนึ่ง ผมยังจำกลอนเศร้าก็แสนเศร้า กลอนเหงาก็แสนเหงา กลอนที่พูดถึงสายฝนก็เย็นฉ่ำทุกตัวอักษร ผมใช้กลอนชุดปันเหงากับเงาจันทร์เป็นกลอนครูสำหรับการเขียนกลอนรักของผมเลยนะจะบอกให้ อยากเรียกอารมณ์กลอนแบบนั้นกลับมาจังที่จริงอยู่แค่ปลายจมูกนี่เอง(ไม่ใช่ขี้มูกนะ) รู้สึกไหมว่าถ้าเราได้อ่านบทกวีที่ถ่ายทอดได้ถึงอารมณ์จริงๆ จะทำให้ผู้อ่านอิ่มใจ ซึ่งผมรู้สึกอย่างนั้นกับงานของคุณตั๊ก ไม่ใช่เยินยอในฐานะเพื่อน แต่กล่าวในฐานะนักกลอน ที่ชอบงานกลอนที่เข้าถึงอารมณ์ งานชุดนี้ร่างแรกตั้งใจจะลงต่อจากงาน ชุดหญิงชราผู้ปราณี เป็นวิญญาณของชายชรา อะไรทำนองนั้น แต่พอเห็นคุณตั๊กไม่ได้ลงกลอน ก็เลยปรับเรื่องนิดหน่อย พอดีคุณสืบลงเรื่องผี ก็เลยร่วมแจมไปด้วยเลย เขียนๆแล้วก็ไม่รู้จะจบยังไงเหมือนกัน ช่วงหลังเป็นแบบนี้บ่อยเนื่องจากงานไม่มีพล็อต ขอให้มีความสุขมากๆครับ ตอบเท่านี้ก่อนนะครับเพื่อนๆ พรุ่งนี้จะมาตอบกันใหม่ ราตรีสวัสดิ์ครับ
27 ตุลาคม 2552 09:59 น. - comment id 1057137
ฤทธิ์ ศรีดวง no.1 (แอบชูมือดีใจ...เย้...อิอิ) อ่า...โชคดีที่มาอ่านเวลานี้ บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในป่าช้า อันวังเวงวิเวกวิเหว๋โหว๋เลย.... แต่ก็เป็นสัจธรรมนะคะ พอตายไป ร่างกายก็เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลาเหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่นลงสู่ผืนดินนะคะ แต่ถ้าเข้าเมรุ ก็ไม่ต้องเน่าเปื่อยเนาะ...แหะ แต่ก็แปลกนะคะ ถ้าเป็นคนที่เรารักมากๆ ถึงเค้าจะตายไปเราก็ไม่รู้สึกกลัวสักนิด เวลาได้ยินเสียงหมาหอนในคืนเดือนมืด หรือ บรรยากาศน่ากลัวๆ ฝนจะกลัวผีคนอื่นมากกว่า ในบรรดาอารมณ์ของผีทั้งหมด ไม่ว่าจะ ผีเศร้า ผีเหงา ผีร้องไห้ ผีหัวเราะ ผียิ้ม ฝนกลัวผียิ้มที่สุดอ่ะ ฝนคิดมานานแล้วอ่ะ เวลาดูหนังหรืออ่านหนังสือ ผียิ้มนี่ล่ะ น่ากลัว ไม่รู้คิดจะทำอะไร...แฮ่....เป็นตุเป็นตะเลยเนาะno.5 ปล.ดีใจที่ในที่สุดก็ได้อ่าน "หญิงชราผู้ปราณี" ของมัสลิน อ่านแล้ว โดยเฉพาะชื่อกลอน ทำให้ฝนนึกถึง ย่า อ่ะค่ะ แม้ท่านจะจากไปตั้งแต่ฝนเป็นเด็กแต่ความเมตตาปราณีของย่า ยังฝังจำอยู่ในใจไม่ลืมเลือนเลยค่ะ หวังว่าจะได้อ่านงาน มัสลิน กับ ฤทธิ์ ศรีดวง แนวความรัก หวานๆมั่งนะคะ...เอาใจสาวโฉด เอ๊ย สาวโสด....ฮิ้ว ไปแว๊ว.....ก่อนจะเตลิดไปไกลฝ่านี้...อิอิ
27 ตุลาคม 2552 10:52 น. - comment id 1057203
:) ก็เป็นความคิดถึงอย่างหนึ่งน่ะ
27 ตุลาคม 2552 14:56 น. - comment id 1057293
เป็นกลอน 7 ที่งามจริงๆค่ะ
27 ตุลาคม 2552 21:35 น. - comment id 1057472
๕.คุณอ้อย no.4 สวัสดีครับ อ่านแต่ของคนอื่นนั่นแหละเนอะ เอาเด็ดๆมาโชว์มั่งซิ คุณอ้อยลองคลิก ที่ชื่อมัสลินดูซิ แล้วแวะเข้าไปอ่านงานดีๆของคุณตั๊กแตน ขอบคุณ และดีใจครับที่อ่านกลอนผมรู้เรื่อง ขอให้มีความสุขมากๆครับ .. ๖.ยายแม่มด สวัสดีครับ เรียกว่าสับขาหลอกครับ ที่จริงไม่ได้หลอกหรอก เพราะโดยเนื้อหาก็คือผีคิดถึงก็เลยกลับมาเยี่ยมญาติที่เคยรัก แต่ญาติกลับกลัวผี คิดว่าเนื่องในโอกาสใกล้วันฮาโลวีน ก็แล้วกันครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ .. ๗.ปิง สวัสดีครับ ความดีอยู่ชั่วกาลนานครับ ขอบคุณในน้ำใจที่มาทักทายกันเสมอ ขอให้มีความสุขทั้งตัวคุณปิงและครอบครัวครับ . ๘.คุณปรางทิพย์ ปลงได้จิตใจเป็นสุขครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ .. ๙.กวีน้อยฯ ไม่มีอะไรจะเขียนน่ะ น้องเอ๋ย ลองดูซิสนุกดีนะ จะได้มีสมาชิกร่วมก๊วนกลอนผี ขอให้มีสุขภาพดี ครับ .. ๑๐.คุณสืบ no.3 เป็นกลอนเจ็ดครับ เขียนเล่นแก้เบื่อ ประสาคนอย่างร่วมสนุก และไม่มีสาระ อ่านกลอนของผมก็ทำใจหน่อยก็แล้วกัน ช่วงนี้ยังไม่มีช็อตเด็ดมานำเสนอ สำหรับคุณตั๊ก แป๊บเดียวก็เข้าฝักครับ คอนเฟริม ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๑.ฝน no.5 หวัดดี แอบไปแวะบ้านฝนมา ไปดูรูปที่ลงใหม่ สมัยไหนล่ะนั่น หน้าตาแปลกๆ ว่าไหม คนกลัวผีมักจะไม่เคยเห็นผี แต่กลัวในจินตนาการ แต่ผียิ้มเป็นไง นึกไม่ออก ผมว่าผียืม(ตังค์) น่ากลัวกว่า กลอนชุดนี้เขียนตอนกลางคืน มองออกไปนอกหน้าต่าง ดูความมืดเพื่อบิ้วอารมณ์ครับ อยากอ่านงานหวานๆเหรอ (อันนี้ถามจริงๆ) มีของเพื่อนๆบ้านกลอนให้อ่านเยอะแยะ ของคุณฝนเองก็หวาน (กำลังดี ไม่มากเกินไป) ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๒.คุณกุ้งหนามแดง สวัสดีครับ ไม่ได้คุยกันตั้งนานแล้ว วันก่อนผมลองเขียนกลอนชุดพระเวสสันดร จบช่วงอารัมภบทแล้ว พอเริ่มเข้าเนื้อหาก็ไปเจองานของ คุณกุ้งที่เคยเขียนไว้ หลายปีแล้ว ยาวมาก ก็เลยต้องพับโครงการไว้ก่อน ขอให้มีความสุขมากๆครับ . ๑๓.น้องเฌอมาลย์ สวัสดี ที่จริงผมชอบกลอนเจ็ดนะ มันมันดี เขียนกลอนเจ็ด แปด มีความยาวของคำให้วรรคเยอะ ข้อบังคับน้อย ทำให้เล่าเรื่องได้ง่าย ขอให้มีความสุขมากๆครับ . ๑๔.คุณนรสิริ ขอโทษครับ ตกไปหนึ่งท่าน สวัสดี ดีใจที่แวะมาอ่านครับ ขอให้มีสุขภาพดี และมีความสุขมากๆครับ . เย้....ตอบหมดแล้ว
28 ตุลาคม 2552 09:34 น. - comment id 1057585
อ่ะจึ๋ย.....อ่านแล้วสะดุ้งเลย รูปนั้นฝนภูมิใจนำเหนอมากนะคะ ใช้เวลาแค่ 10 วิ กว่าจะจับเจ้าตัวเล็กมาขนาบข้างและยังทำหน้านิ่งได้พอดีเป๊ะ555 ฝนตั้งกล้องไว้อ่ะค่ะ.... กว่าจะได้ภาพนี้ ฝนถูกรุมกินหัวหลายช๊อตเลยอ่า ปล.ฝนเลือกรูปที่แปลกน้อยที่สุดแล้วนะคะเนี่ย555 ......................... ส่วนเรื่องผียิ้ม ฝนกลัวจริงๆนะ ยิ้มแบบมีเลศนัย แบบเจ้าเล่ห์ๆ แสยะยิ้มตรงมุมปาก ประมารว่า "เดี๋ยวเจอดีแน่" ปล.ถ้า ฤทธิ์ ศรีดวง กับ นักสืบฯ ชอบแต่งกลอนผีๆ ฝนแนะนำหนังสือเรื่อง เดอะริง จะเป็นเล่ม1 สไปรัล จะเป็นภาคต่อ เดอะริง ลูป แล้วก็ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แต่ความจริง แค่ เดอะริง และ สไปรัลก็เอาอยู่แล้วค่ะ น่ากลัวสุดๆเลย.....อ่านได้แค่รอบเดียว หน้าปกยังไม่กล้าดูเลยค่ะ ตอนฝนอ่านสไปรัล ฝนต้องเอาหนังสือเล่มอื่นมาปิดหน้าปกไว้ ช่วงนั้นไม่ว่าจะ ล้างหน้า สระผม อาบน้ำ ลืมตาตลอด เพราะกลัวว่าถ้าหลับตาพอลืมตาขึ้นมาจะเห็นอะไร เป้นเอามากเลยฝน อ่านตอนฤดูฝน บรรยากาศมืดครื้มพอดีเลยค่ะ เข้ากับหนังสือมากๆ ช่วงนั้นไม่รู้ทำไมอยากอ่านแต่เรื่องผีๆ..... เรื่องนี้ลึกลับมากเลยค่ะ....ชอบมากเก็บไว้เป็นหนึ่งหนังสือสะสมที่โปรด.... ........................................ ปล.เรื่องกลอนหวานๆ ที่ฝนอยากอ่านจากผลงานของ ฤทธิ์ ศรีดวง กับมัสลิน เพราะว่า ปกติคนที่ไม่ค่อยหวาน โรแมนติกแต่ไม่แสดงออก(555อันนี้คิดเอง)...เวลาแต่งกลอนรัก มันจะออกมาแนวไหน อยากอ่าน...(อันนี้ตอบจริงค่ะ...แฮ่) .......................... ขอให้มีความสุขเช่นกันนะคะ
28 ตุลาคม 2552 09:40 น. - comment id 1057589
20 เย้....แฮ๊บไข่ไปด้วย....อิอิ เมื่อวานฝนเพิ่งเสี่ยงตายไปแฮ๊บไข่ บ้านนักสืบมา... เฮ้อ.....ไร้คู่แข่ง นอนมาแบบชิลๆ