หลังจากที่ ผิดพลาดทางเทคนิค อิอิ ว่าไปนั่น ข้าน้อยเลย ขอโอกาสแก้ตัวให้หัวใจ (เอ้า มาแนวเพลง) แต่ต้นแบบเดิม ไม่เปลี่ยนครับ เพราะจะได้เป็นตัวอย่าง ของความประมาทเลินเล่อ ของผมเอง ผิดแล้ว ก็ต้องมีตัวอย่างความผิด ผมเลยถือโอกาสแต่งใหม่ (หวังว่าคงไม่ผิดอีกนะ) และขอโทษเป็นอย่างมาก ที่ทำให้อ่านแล้ว ระคายสายตาผู้ชม มากไปหน่อย อิอิ ในบทที่ผ่านมา บทนี้เลย มาเรียบเรียงใหม่ แต่เนื้อหา เศร้าหน่อยนึง *ท่ามดึกดื่นคืนเหงาแสงดาวดับ ซับดวงเดือนเลือนลับยากหลับใหล ไยร่ำเรียงเสียงครวญปั่นป่วนใจ ป่ายปวดจำค่ำไหนจะไร้รอน *จรรักเริ่มเพิ่มใหม่จากใจเก่า เจ่าจิตก่อนซ่อนเศร้าหากเจ้าถอน ห่อนเจียรถามความรักสลักกลอน ซ้อนเรื่องเก่าเว้าวอนจากตอนใด *ใจต้องเดียวเปลี่ยวดายความหมายหมด ขดมัวหมองจ้องจดจำบทไหน ใจบ้าหน่อยพล่อยพร่ำเสียงร่ำไร ใส่เรื่องราวยาวไกลในใจครวญ *นวลแจ้งคำย้ำขื่นค่ำคืนเหงา เค้าคงงอนอ้อนเฝ้าคอยเจ้าหวน ครวญจิตหันพลันเหอกเรรวน อ่วนรักร้าวเศร้าสรวลปั่นป่วนนัก *ปักประหนึ่งตรึงตราเวลาก่อน วอนรักเก่าเราย้อนช่วยผ่อนหนัก สักผิดไหนไตร่ตรองเพื่อครองรัก ภักดิ์คนแรกแทรกหลักมั่นภักดี *มีเพื่อนด้วยช่วยคลายวุ่นวายหมอง เว้าวอนไม่ให้ต้องนั่งหมองศรี นี้หม่นโศกโรคร้าวยามเรามี ยีรอยหม่นคนดีคราหนีไป (ยี มาจาก ย่ำยี) *ใครหนอเปลี่ยนเวียนวนมีคนอื่น หมื่นคำอ้างช่างตื้นไม่ชื่นใส ไม่ชื่นสุขทุกข์ชิดไม่ติดใจ ไม่เติมจิตคิดไกลกลัวใจคน *หล่นจากเคยเชยชิดถูกปิดกั้น ถ่านเปลวกลบลบฝันรำพันหม่น หล่นเพราะหมางร้างลาชะตาตน ชนม์ต่ำต้อยน้อยจนจำทนรอ ///////////////////////////////////////////////////////////////////// อยากขออาภัย ทุกท่านยิ่งนัก ที่ผมแต่งผิดเอง พอดี ได้คุยกับ คุณญามี่ แหะๆๆ ผิดมาทุกบท เลยครับ ผมแก้ใหม่ เอาตามแบบ แต่ฉันทลักษณ์ คือ ความหมายไม่ได้ ต้อง ขออาภัย เป็นอย่างสูง ครับ *ท่ามดึกดื่นคืนเหงาแสงดาวดับ ซับดวงเดือนเลือนลับยากหลับใหล ไยร่ำเรียงเสียงครวญปั่นป่วนใจ ป่ายปวดจำค่ำไหนจะไร้รอน (แก้ไข ปรับปรุงโดย ญามี่) *จรรักเริ่มเพิ่มใหม่จากใจเก่า เจ่าจมกาลรานเศร้าหากเจ้าถอน ห่อนเจ็บท่ามถามรักสลักกลอน สลัดเก่าเว้าวอนจากตอนเดิม *เจิมต่อดวงห้วงในหทัยมั่น หั่นท้อเมื่อเชื่อฉันในวันเหิม เนิมหวามหากฝากฝันแฝงวันเดิม เฝิมวอนด้วยช่วยเติมฤาเพิ่มพูน *หลูนเพื่อนพ้องหมองขื่นค่ำคืนเหงา เข้าคงงอนอ้อนเฝ้ายังเท่าสูญ ยูนท้อเศร้าเขาเริ่มร้างเพิ่มพูน หลูนพากเพียรเรียนคูณเกื้อกูลกัน *กั้นกาลเก่าเราคงคลายปลงตก คกปะติดชิดกกกอดอกเริ่ม เกิมอารมณ์สมเจตน์จากเหตุเดิม เจิมหวนดุ่มรุมเคลิ้มเรื่องเดิมเคย *เลยเดียวคงจงใจมอบให้เจ้า เมาหาจันทร์วันเหงาครั้งเราเผย เคยรักผุดสุดสมชิดชมเชย เฉยชื่นชอบตอบเลยไม่เคยเกรง *เความไกลใส่ร้ายเร่งป้ายสี รราแปลบเศร้าเหงานี้อกพี่เคว้ง เองพูดคำพร่ำกล่าวนอนหนาวเอง เหน่งหนาอื่นครื้นเครงร้องเพลงชัย *ไล่เพราะใช่ใครอื่นคลายคืนเหงา เค้าคนงามท่ามเศร้าบรรเทาใส ใบ้ที่สอนวอนเถิดช่วยเปิดใจ ใช่ปรุงจิตชิดใกล้คืนไกลตา ตามคำอธิบาย ของเจ้าแม่กลบท (ญามี่-โอเลี้ยง) กลบทนาคราชแผลงฤทธิ์ เป็นกลอนที่บังคับให้ใช้ เสียงพยัญชนะ ซ้ำเสียง ๓คำท้ายวรรคไปเป็นคำเริ่มต้นซ้ำวรรคถัดไป และซ้ำเสียงสระวรรคละ๓คู่ ตรงคำที่๓-๔ กับ ๕-๗ และ๘กับ๑วรรคถัดไป และ เลื่อนคำรับสัมผัสไปสัมผัสระหว่างวรรคตรงคำที่๕ ปล.บางบรมครูจะมีกฎเกณท์กลบทนี้ซ้ำเสียงสระแค่ตรงคำที่๓-๔และ๘กับ๑วรรคถัดไป ไม่มีซ้ำเสียงสระตรงคำที่๕-๗เหมือนของศิริวิบุลกิตต์ที่ลงบทสอนไว้ บทนี้มี่ใช้กฎหลักตามศิริวิบุลกิตต์ค่ะ //////////////////////////////////////////////////////////////// กลบทนาคราชแผลงฤทธิ์ เป็นกลบทที่บังคับ3แห่งคือ 1. ต้องซ้ำเสียงพยัญชนะ ๓ คำของท้ายวรรคให้สัมผัสกับ๓คำแรกวรรคต่อไปตลอดเรื่อง 2. สัมผัสเสียงสระ ๓ คู่ตรงคำว่า ๓-๔ กับ ๕-๗ และ ๘กับ๑ คือคำแรกวรรคถัดไป 3. เลื่อนคำสัมผัสระหว่างวรรคไปลงตรงคำที่๕(หรือ๖ ในกรณีใช้๙คำ) ส่วนกลบทนาคเกี่ยวกระหวัด จะง่ายมากกว่า แค่บังคับถอยหลัง2คำท้ายของวรรคแรกไปเป็นคำต้นวรรคถัดไปตลอดทุกวรรค ปล.ณ ที่นี้โอเลี้ยงใช้๒คำโดยไม่ได้ถอยหลังเพื่อรักษาความไว้คือคำว่า ละห้อย และอ้างว้างค่ะ //////////////////////////////////////////////////////////////////// กลบทนาคราชแผลงฤทธิ์ O O O O O X Y + X Y + O O X Y + ซ้ำเสียงพยัญชนะ ๓ คำ ท้ายวรรค กับ ๓ คำ ต้นวรรคถัดไป ซ้ำเสียงสระ วรรคละ ๓ คู่ ในคำที่ ๓-๔, คำที่ ๕ กับ ๗ และคำที่ ๘ กับคำที่ ๑ ในวรรคถัดไป เลื่อนรับสัมผัส ระหว่างวรรคมารับในคำที่ ๕ ของแต่ละวรรค กรุงกระษัตริย์ตรัสฟังแค้นคั่งจิตร คิดแค้นใจไหวหวิดในจิตรฉงน จนฉงายกายไฉงใจร้อนรน จนร้าวราญการกระมลจิตรวนเวียน เจียรวุ่นวายบ่ายพักตร์ให้หนักใจ ให้น้อยจิตรคิดไปใจหันเหียน เจียรหวนหาว่าไว้ไม่สมเพียร เมียนสุดภาคยากเจียนเวียนจิตรใน (ศิริวิบุลกิตติ์)
19 ตุลาคม 2552 09:38 น. - comment id 1053259
ผมขอนำ เครดิตและความสามารถ ของหลายๆท่าน ที่แต่งกลอนกลบทฯ นี้ นำมาเป็นตัวอย่าง เพิ่มเติม นะครับ หากท่านใดแต่งผิด ผมไม่มีเจตนา จะมาประจานนะครับ แต่ต้องยอมรับในความสามารถ ในทุกๆ ท่าน ที่แต่งออกมา และผมเอง อาจยังผิดพลาดเยอะ จึงขอ อภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยเช่นกัน กลอน ดาวโรย พี่จอมปราชญ์แดนอาคเนย์ สุรีย์ยนต์พ้นลับไร้อับแสง แฉ่งดาวใต้ไต้แสงมาแย่งฉาย หมายสุนทรีย์นี้เพียงดาวเรียงราย กลายเรื่องราวคราวกลายระคายจินต์ สิ้นสุดเหงาเศร้าสร้อยในรอยจาก ฝากรอยชื่นคืนฟากที่พรากถิ่น ชินกับช้ำย้ำหยอกดาวหลอกดิน ถวิลหยอกไซร้ใจสิ้นระรินโรย โชยแต่ช้ำกรำเศร้ามาเนาว์หนัก ปรักใจจมขมรักตระหนักโหย โรยอ่อนแรงแข่งดาวที่พราวโปรย โรยแดดิ้นสิ้นโหยร่วงโปรยปราย หมายเหมือนดาวพราวปรกแล้วตกกร้าว ยาวยอแสงแฉ่งพราวยิ่งยาวสาย ปรายโปรยทุกข์พลุกพล่านที่ผลาญกาย คลายผ่อนโศกโยกย้ายก่อนวายปราณ ...แบบว่า ////////////////////////////////////// เมื่อปลายทางคือ..สายเหงา คุณญามี่ บนเส้นสายปลายเหงารุกเร้าล่อ หล่อรอยหลอนซ่อนออแนบทอถ่วง หน่วงท่วมทุกข์คลุกคล้ายทลายทรวง ท้วงเรื่องสุขปลุกกลวงมาลวงรอง มองร้าวร้างข้างเงาทิ่มเย้าหยอด ทอดเยือนยลทนกอดสร้อยสอดต้อง สองสายตาปร่าปวดเกินอวดลอง กองอวลรินกลิ่นล่องคือผองช้ำ ค่ำพบชิดพิษหงอยมาคอยเฝ้า เมาคล้ายใฝ่ไห้เศร้าผลักเผาย่ำ พร่ำพร้อมยอมจ่อมเจ็บซุกเก็บจำ ซ้ำกรายจ่อคลอคลำรอร่ำไร ไล้รอยหลอนตอนเหงาจับเจ่าเหม่อ เจอจิตเหมือนเกลื่อนเก้อละเมอไหว ไร้มุมหวานผ่านเพลินจะเดินไกล ใจด่าวกรงหลงใหลมนต์ไหม้มัว.. ////////////////////////////////////// กลอน ขอแค่แอบปอง. โอเลี้ยง กลบทนาคราชแผลงฤทธิ์ แอบมีใครในใจไม่ใช่แย่ แม้ช้ำย่ำพร่ำแพ้พบแค่เศร้า เผาขับสุขรุกหม่นทนรนเร้า เถ้าร้อนลวกบวกเหงาซุกเย้าเคียง เสียงยั่วคุ้นตุนเจ็บเหน็บเก็บกร่อน รอนใกล้กรายคล้ายอ้อนอย่าอ่อนเสียง เยี่ยงอาบโศกโยกหวังยังรั้งเรียง เยี่ยงร้อนรุกทุกข์เคียงใช่เกี่ยงไกล ใช่กลัวกลืนขื่นขมจะถมทับ จับท้อแท้แก้ปรับหวังนับได้ ไว้นอนดูรูแผลเคยแคร์ใคร ไข้เคียงข้างอย่างไรก็ไม่กลัว กลบทนาคเกี่ยวกระหวัด เมื่อมีรักช้ำเจ็บต้องได้พบ พบได้บ่อยเศร้ากลบสุมเต็มหัว หัวเต็มไปด้วยแผลช้ำหมองมัว มัวหมองหม่นระรัวใช่เลิกรัก รักเลิกยากหวังมากเฝ้าฝังฝาก ฝากฝังไว้มากมายแม้ถูกผลัก ผลักถูกแผลเก่าก่อนเหมือนศรปัก ปักศรซ่อนอุปสรรคให้ลิ้มลอง ลองลิ้มร้าวหลายคราวใช่หนีรัก รักหนีห่างไกลนักจะกลัดหนอง หนองกลัดกร่อนเท่าไรยังหวังปอง ปองหวังใครลองเหลียวแลคนคอย คอยคนใฝ่ไม่เคยอยากหยุดนิ่ง นิ่งหยุดรอกลัวอิงจิตละห้อย ละห้อยไห้อ้างว้างเศร้าตาปรอย ปรอยตาแดงแฝงร้อยแต่ทุกข์คว้าง คว้างทุกข์มากหากรักเกินไกลฝัน ฝันไกลสมไม่พรั่นเท่าจิตว่าง ว่างจิตห่างคิดถึงคงอ้างว้าง อ้างว้างอย่างหมกไหม้ไร้ชีพยัง.. ////////////////////////////////// กลอน มนต์รัก โอเลี้ยง อยากเก็บเกี่ยวเสี้ยวใจที่ไหวหวาม ท่ามวูบวาบนาบลามจนพล่ามไข้ ใจพลิ้วเคลิ้มเริ่มวุ่นหลงอุ่นไอ ไล้อิงแอบแนบใจหลงใหลรอ หล่อรอยรักทักใจอย่าไหวตื่น ยืนหวานตรึงซึ้งชื่นทำรื่นต่อ ถ่อรักติดปิดชิดไร้จิตท้อ รอเจอเธอเผลอคลอพร่ำพ้อภักดิ์ ผลักเพ้อพลางวางพล่ามมิหวามไหว ไม่หวังวนค้นใครกลับไร้หลัก กักรักรั่วรัวท่วมใจบวมนัก จักบอกหนักพักทักยากผลักทิ้ง ยิ่งเพ้อท้อขอไกลกลับไหววุ่น กรุ่นแวะวนค้นคุ้นหวังอุ่นผิง วิ่งอกเพ้อเหม่อหาหวามมาอิง วิ่งเหม่ออ่อนวอนนิ่งอย่าย้อนเพ้อ
19 ตุลาคม 2552 09:50 น. - comment id 1053260
พี่จำได้ว่าพี่เคยเขียนกลบทแค่ครั้งเดียวค่ะ กลบทครอบจักรวาล ส่วนกลบทอื่นยังไม่เคยลองค่ะ อ่านของพี่กุ้งหนามแดงบ่อยๆ คิดว่ายากเกินไปสำหรับพี่อ่ะจ้ะ ขอผ่าน คริๆ ขออ่านงานคุณน้องก็แล้วกันจ้า
19 ตุลาคม 2552 10:34 น. - comment id 1053269
ขอเรียนบ้างนะค่ะ... ช่วยสอนด้วยนะค่ะ
19 ตุลาคม 2552 11:26 น. - comment id 1053290
จริงหรือนี่...อิอิ..มีบทกลอนของพี่ด้วย..แต่ว่าดูเหมือนจะสัมผัสสระอย่างเดียวนะ...คริคริ...สงสัยจะไม่ได้ก๊อปปี้บังคับข้อแรกมาหนะ..เดี๋ยวพี่ไปแต่งมาใหม่นะ...เผื่อจะได้ร่วมวิจารณ์กัน..และได้พัฒนาฝีมือด้วย...ขอบใจกวีน้อย ฯ มาก...จุฟๆๆๆๆ
19 ตุลาคม 2552 11:32 น. - comment id 1053293
หวัดดี จ๊ะ
19 ตุลาคม 2552 11:42 น. - comment id 1053299
พี่ขอแค่อ่านก่อนดีกว่าเนาะ...รู้สึกว่ามันจะ เกินความสามารถซะแล้น...อิอิ
19 ตุลาคม 2552 11:45 น. - comment id 1053300
หวัดดีคับ...น้องท่าน กวีน้อยฯ กลบท...รจนา...ประสาเพื่อน ไม่ผ่านเผือน...เฟือนจำ...นำคำสอย มาโปรยสาร..ให้เพื่อนกานต์...ในบ้านพลอย ไม่ผิดผล็อย...เพื่อคอยนึก...ศึกษากล... ดีขอรับ...นำเกล็ดมากล่าว...ให้ไว้ศึกษากัน... เพราะ...เด็กๆ น้อง นร.ก็เข้ามาศึกษา ในบ้านกลอนกันเยอะ....น่ะ...น้องท่าน... สำหรับ...กลอนท่าน...เจ๋งจริง...ๆ...ขอรับ...
19 ตุลาคม 2552 12:35 น. - comment id 1053325
น้องซายก้าวไปอีกขั้นแล้ว.. เอาใจชวยเด้อหล้า..
19 ตุลาคม 2552 15:16 น. - comment id 1053379
ฮ่วยมาคือเทิงม่วนเทิงเก่งแท้หละฮั้นน่ะ พี่น้องข้อยแมะ
19 ตุลาคม 2552 16:32 น. - comment id 1053407
ไม่มีความรู้เรื่องกลบทเลย แต่ตามความรู้สึกที่อ่านแล้วทั้งเพราะและความหมายดีค่ะ เก่งค่ะ คุณกวี
19 ตุลาคม 2552 18:15 น. - comment id 1053445
สุดยอด นึกไม่ถึง ว่ามีกลอนอย่างนี้ด้วย ไม่เคยเรียนจริงๆๆๆๆ ขอบคุณครับที่ให้ความรู้ ไม่ผิดหวังที่สมครเป็นสมาชิกในเวปนี้
19 ตุลาคม 2552 19:38 น. - comment id 1053485
สวัสดีค่ะ คุณกวีน้อยฯ ท่ามคืนค่ำย่ำเงาความเหงาเยือน มองแสงเดือนเลื่อนลอยละห้อยหา ให้เดียวดายคล้ายวนในชลธา ร้าวอุราคราหวนคิดครวญคำ ให้คำนึงถึงคืนในดื่นดึก ความรู้สึกนึกย้อนคนอ้อนพร่ำ หนึ่งสลักภักดิ์ใจเคียงใครพรำ ในน้ำคำร่ำบอกทุกซอกใจ หวานละมุนกรุ่นไอเคยได้อุ่น คำเคยคุ้นหนุนเนืองทุกเรื่องไหว รักฝากรอยคอยหน่วงทุกห้วงใน ในคำใครเฝ้าเพ้อละเมอครวญ กาลก่อนเก่าเนาว์นามทุกความหมาย ยังส่องฉายร่ายวนให้ยลหวน เก็บรอยราวหนาวเหน็บคอยเจ็บทรวง ลงฝั่งห้วงดวงแดไม่แลกัน มองแสงดาวพราวฟ้าอุราโศก ดาววิโยคดับแสงดั่งแรงผัน เคยสกาวพราวพริ้มเอมอิ่มปัน แสงเฉิดฉันท์ผันแปรดังแพ้เงา ทุกสิ่งนั้นผันผวนให้ครวญใคร่ จะมีใครได้สมอารมณ์เร้า ต้องมีสุขทุกข์โศกบนโลกเรา ที่วนเข้าเร่าจิตลิขิตใด เขียนแบบมั่วๆมาแจม สนุกๆ คงไม่ว่ากันนะค่ะท่าน อิ อิ อิ ให้มีแต่ความสุขสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาค่ะ *
19 ตุลาคม 2552 20:13 น. - comment id 1053507
เก่งจังเลยครับ พี่อินสวนไม่มีความสามารถครับ
19 ตุลาคม 2552 20:19 น. - comment id 1053517
ขอขอบคุณ ครับพี่ เพียงจะพลิ้ว ละลิ่วลม ผมก็เคยอ่านมาบ้างในบาง กลบท ของพี่ กุ้งหนามแดง คือ กลบทสะบัดสะบิ้ง ที่ผมกำลังหัดแต่งต่อไป แต่ยากตรงที่ว่า ไม่ค่อยมีความรู้ เท่าไรน่ะสิครับ พวก กระหนุงกระหนิง กระตุ้งกระติ้ง กระวนกระวาย กระรอกกระแต (เอ๊ เกี่ยวกันไหมเนี่ย อิอิ) และอยากขอโทษด้วยครับ ที่ไม่อาจไปเม้นท์ ตอบคืนได้ ตอนนี้ใช้คอมฯ ของเพื่อน อี่กคน ชั่วคราว น่ะครับ ใช้มาก ก็เกรงใจเพื่อนๆ
19 ตุลาคม 2552 20:21 น. - comment id 1053519
ขอบคุณครับ คุณวาวเดือน เรื่องเก่งคงไม่ใช่หรอกครับ เพียงอยากทำในสิ่งท้าทายเท่านั้นเอง และส่วนเรื่องสอน คงเป็นไปไม่ได้อีกหล่ะครับ เพราะผมเอง ยังไม่รู้ว่า ผิดถูก มากแค่ไหน ยังไม่ถึงกึ๋น กลบทฯ ที่นำมาแต่งเลยครับ
19 ตุลาคม 2552 20:28 น. - comment id 1053523
ขอบคุณครับ ท่านพี่ จะเด็ด เจ็ดน้ำย่าน กลบทที่พี่แต่ง ยังผิดหลักตามที่ผมทำตามแบบ คุณญามี่ หรือ โอเลี้ยง ตรงที่ว่า *คำท้าย 3 คำ คือคำเริ่มต้นใหม่ ของบาทต่อไป เช่น สุริยนต์พ้นลับไร้อับแสง ระอุสีทวีแดงเเห่งแสงฉาย สุริยนต์ กับพ้น ลับกับ รับ คำว่าแสง ต้องเอาคำแรก ของบาทเริ่ม คือ ไร้อับแสง มาเป็น ระอุสี ผมเห็นว่า พี่มีความสามารถในกลบท เพียงแต่อาจผิดพลาดเล็กน้อย ตอนแรก ผมแต่ง ตามสไตล์เดียวกัน กับพี่เลยครับ พอคุณ ญามี แนะนำให้ ผมก็เลย พอจะเก็ดๆๆ นิดๆๆ คงไม่ว่ากันนะครับ ที่ผมอธิบายเพิ่มเติม (ไม่มีเจตนาใดแฝงครับ) นอกจาก ต้องการให้แต่งให้ถูกที่สุด ด้วยกันเท่านั้น พี่อย่าจุ๊ฟ ผมบ่อยครับ สาวๆ เขามองค้อน แระ อือื
19 ตุลาคม 2552 20:29 น. - comment id 1053524
ดี จ้า น้องอ้อม มาเเบบทักทาย ก็หายไปตามลม เลย
19 ตุลาคม 2552 20:30 น. - comment id 1053526
พี่เทียนหยด ... ติ๋งติ๋ง มองว่ายาก ก็ยากแหละครับ แต่ถ้ามองแบบเอามันส์ แต่งให้ถูกตามแบบ ก็พอ นั่นคือ จุดประสงค์ในการแต่ง ครั้งแรกครับ เอาไว้ให้พอจะรู้สึก เข้าใจดีกว่านี้ ค่อยว่ากัน ต่อไป
19 ตุลาคม 2552 20:34 น. - comment id 1053528
เขียนได้ดีมากเลย กวีน้อยฯ ฝากบอกคุณมี่ มาลงงานบ้างนะ
19 ตุลาคม 2552 20:36 น. - comment id 1053529
ขอบคุณครับ พี่กีรติ กลบทนี้ ผมได้คุยกับคุณญามี่แล้ว ก่อนแต่งเสร็จ เธอบอกผมว่า อู้ฮู้ เล่นของดีซะด้วย ผมก็นึกเอะใจ ยากตรงไหนหว่า เอาเข้าจริง 3 วันค่อยเสร็จครับ ที่ว่าเสร็จช้า ส่วนหนึ่งคือ แต่งบทหนึ่ง สองบท แล้วก็วาง เพราะมีภารกิจอย่างอื่น ผมยังไม่ได้ รับคำแนะนำ เพิ่มเติมจาก คุณญามี เลยครับ เพราะไม่ใช่คอมฯ ของผม เลยแต่งไปก่อน ผิดถูกไว้ทีหลัง กลอนนี้ คุณญามี่ บอกว่า จะใช้ศัพท์แบบตลาด (ที่ผมแต่งเสร็จ) ไม่ค่อยถูกนัก ต้องเป็นศัพท์ที่วิจิตร กว่านี้ น่ะครับ พูดง่าย ๆ ก็คือ ศัพท์ยากๆๆ เช่น ป่ายปวดจำ ค่ำไหน จะไร้รอน ของคุณญามี่ น่ะครับ ส่วนเรื่องลูกศิษย์ ของท่านพี่ กีรติ เข้ามาศึกษานั้น ผมเองขอแนะนำว่า อย่านำตัวอย่างของผมไปนะครับ ให้นำ วิธีการ และการแต่ง ของคุณ ญามี่ หรือ โอเลี้ยง จะดูมีมนต์ขลัง และมีประโยชน์มากกว่า น่ะครับ
19 ตุลาคม 2552 20:38 น. - comment id 1053530
ขอบคุณหลายๆ เด้อ เอื้อยพิมฯ อัน...ตัวข้าน้อย กะพึ่งหัดแต่ง ตามประสา ซั่นดอก บ่ได่พัตตะนา ดอก บ่ฮู้ สิผิดซำใด๋
19 ตุลาคม 2552 20:40 น. - comment id 1053533
ขอบคุณครับ เอื้อย นรสิริ บ่ฮู้ว่า ม่วนบ่ ข้าน้อยกะงง อยู่ แต่งเอง งงเอง ซั่นแหล่ว บางบท กะความหมายบ่ได้ กะอย่าว่ากันเด้ออ กะหัดแต่งไปก่อน เอาไว้มื้อหน้าฟ้าใหม่ ค่อยว่ากันอีกเทื่อนึงเนาะเอื้อย มีความสุขกับครอบครัว ตลอดไปเด้อออ
19 ตุลาคม 2552 20:43 น. - comment id 1053534
ขอบคุณครับ คุณวาวเดือน พวกกลอนกลทบ ออกแนวทางปรัชญา น่ะครับ ผมเองแต่งแค่พอผ่านๆ ให้ตรงตามแบบวิธี ให้มากที่สุด ส่วนคำชม ผมก็ขอรับไว้ด้วยใจครับ แต่ทว่า กลบท ที่ผมแต่ง แค่ระดับพื้นๆ ครับ ถ้าแบบ ฝีมือแล้ว จะไม่ค่อยใช้ศัพท์ตลาด มากสักเท่าไร น่ะครับ
19 ตุลาคม 2552 20:45 น. - comment id 1053536
ขอบคุณครับ คุณน้ำผึ้งหยดเดียว จริงๆ กลอนกลบท เท่าที่ผมคุยกับคุณญามี่มา มีทั้งหมด 104 กลฯ ใช้อยู่ 97 กลฯ ที่เหลือ อาจสูญหาย ผมเองก็อยากจะรวบรวม กลอนกลบท ให้มากที่สุด เท่าที่จะหาได้ ครับ คือจุดประสงค์แรก ว่างๆ ก็หัดแต่งร่วมกันได้นะครับ ผมว่า มันส์ และท้าทาย ไม่น้อยเลยทีเดียว
19 ตุลาคม 2552 20:54 น. - comment id 1053540
ขอบคุณครับ คุณปทุมทิพย์ กระพริบ ณแดนสรวง ไหนๆ ก็แต่งมาแล้ว ผมก็ต้องขอ อธิบายตามความเข้าใจ น่ะครับ เผื่อว่า เวลาว่างจะมาร่วมแจม ตามแบบวิธี ท่ามคืนค่ำย่ำเงาความเหงาเยือน มองแสงเดือนเลื่อนลอยละห้อยหา ให้เดียวดายคล้ายวนในชลธา ร้าวอุราคราหวนคิดครวญคำ ให้คำนึงถึงคืนในดื่นดึก ความรู้สึกนึกย้อนคนอ้อนพร่ำ หนึ่งสลักภักดิ์ใจเคียงใครพรำ ในน้ำคำร่ำบอกทุกซอกใจ **************************** *ท่ามคืนค่ำย่ำเงาความเหงาเยือน ครวญหงอยย้ำซ้ำเหมือนจะเลือนลาง จนแล้วเล่าเราพรากไปจากนาง ป่วนใจนี้พี่ครางร้องอย่างบ้า *รักไยบิดปิดบังเคยหวังวาด ค่อนวันหวังบังอาจประหลาดหา ปานหลอนให้เกินไปใช่ไหมนา ช่วยมาหน่อยคอยท่าน้ำตาคลอ กลอนกลบทฯ นี่ประมาณนี้ครับ คงไม่ว่ากันนะครับ ที่ทำตัวอย่างให้เข้าใจ เผื่อคุณดอกบัว อยากสนุกร่วมกันอีกครั้ง
19 ตุลาคม 2552 20:55 น. - comment id 1053542
แวะมาศึกษากลบท ครับ
19 ตุลาคม 2552 20:57 น. - comment id 1053544
ดีครับ พี่หมอ อินสวน คำว่าเก่ง ผมคงรับไม่ได้ครับ ค่อนข้างเกินตัวไปหน่อย เพียงแต่ว่า แต่งตามแบบให้ได้ ก็ถือว่า ดีแล้วล่ะครับ ว่างๆ ก็ลองแต่งเอามันส์ได้นะครับ ผมถือว่า มันส์ ไม่ได้คิดมากเลย อะไร เพราะจริงจัง ยังไง ก็คงไม่ต่างกันมากหรอกครับ เลยแต่งให้เสร็จๆ ไปก่อน กว่าจะได้ ก็ งง หลายตลบ ครับ อิอิ
19 ตุลาคม 2552 21:43 น. - comment id 1053612
แหะๆ ถูกบังคับมาวิจารณ์งานค่ะ มี่บอกได้ว่า "เกือบถูกค่ะ"5555 ถ้าไม่ตกหลักกฎสัมผัสไปอีกจุดหนึ่ง ก็ผ่านค่ะคุณนัด สวัสดีค่ะคุณกิ่งโศก ช่วงนี้มี่เล่นกลบทโคลงผวนอยู่ค่ะ 5555ยังไม่คล่องเลยแม้เรียนจบสิบกว่าแบบแล้วค่ะ แล้วว่างๆจะมาอัพค่ะ สวัสดีค่ะพี่ๆทุกคน
19 ตุลาคม 2552 21:46 น. - comment id 1053614
ขอบคุณครับ พี่กิ่งโศก พี่น่ะไม่วิจารณ์ แก้ไขให้น้อง เลยนะครับ แหะๆๆ ผิดมาไกล เอาไว้ มีโอกาสงามๆ จะแต่งกลบทนี้ แก้ตัวครับ อิอิ
19 ตุลาคม 2552 21:47 น. - comment id 1053615
ขอบคุณครับ พี่ อรุโณทัย ผมแต่งทีแรกผิดหมด ตอนนี้แก้ใหม่แต่ความหมายไม่ได้เลย และขอโทษครับ ที่ไม่อาจไปเม้นท์ให้ได้ มาใช้คอมฯห้องเพื่อนน่ะครับ เพื่อน นั่งรอนานแระ อิอิ
19 ตุลาคม 2552 22:05 น. - comment id 1053636
ขอบคุณ คุณญามี่ มากๆครับ ที่ช่วยแนะนำ สิ่งดีๆ ในการแต่งกลอนกลบท ถ้าหากแต่งเอง คงหลงตัวเอง ว่าถูกแล้วววววววว ขอบคุณกับน้ำใจ ที่คอยอธิบาย ขัดเกลา และปรับปรุง ชักจูง โน้มน้าว ให้แต่งกลอนกลบท (คุณมี่โหด มากๆ ครับ อิอิ มีแอบแซว ) คืนนี้ ผมขอตัว ส่งคอมฯ ให้เพื่อนก่อนนะครับ เอาไว้ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันต่อ นะครับ ทุกๆๆ ท่าน
19 ตุลาคม 2552 22:07 น. - comment id 1053637
ไพเราะเสนาะคำ หวานล้ำในทำนอง....
20 ตุลาคม 2552 01:13 น. - comment id 1053657
น้องกวีน้อยฯ คะ ฝึกวิทยายุทธ์ ไปไกลเลยค่ะ อิอิ...พี่ปรางขออ่านนะคะ แบบว่า... มึน ๆ ค่ะ
20 ตุลาคม 2552 07:39 น. - comment id 1053686
มาร่วมรายการด้วยครับ ~ ขอครวญคำร่ำร้อย คอยวอน ร้อนคิดหวั่นบั่นทอน ก่อนง้อ ท้อการแง่แม่งอน อ่อนอก หงกเอ่ยอ้างว้างพ้อ ต่อน้องคนงาม ~ หนามคมงอนอ่อนช้อย ทอยตำ ช้ำเทียบตรมคมคำ ย่ำท้อ ขออย่าถึงซึ่งลำ- นำพราก หลากนึกพร่ำกรำง้อ ย่อย้อมยอมใจ
20 ตุลาคม 2552 07:46 น. - comment id 1053687
อ้าว มีตกเอก ขอแก้ไขครับ ~ ขอครวญคำร่ำร้อย คอยวอน ร้อนคิดหวั่นบั่นทอน ก่อนง้อ ท้อการแง่แม่งอน อ่อนอก หงกเอ่ยอ้างว้างพ้อ ต่อน้องคนงาม ~ หนามคมงอนอ่อนช้อย ทอยตำ ช้ำเทียบตรมคมคำ ย่ำท้อ ขออย่าเท่าเนาลำ- นำพราก หลากนึกพร่ำกรำง้อ ย่อย้อมยอมใจ
20 ตุลาคม 2552 10:27 น. - comment id 1053758
มาแล้วจ้า..ฉบับปรับปรุง..เชิญติชมได้น้า..ไม่โกรธ..อิอิ สุริยนต์พ้นไปไร้สิ้นแสง แรงโสมสรวงดวงแดงมาแย่งฉาย หมายยื้อแฉ่งแข่งเคียงดาวเรียงราย ได้เรื่องราวคราวกลายระคายจินต์ สิ้นแรงคอยหงอยเหงาเศร้ารอยจาก ซากรอยจางห่างฟากไกลจากถิ่น กลิ่นจากเถ้าเฝ้าถ่วงเรี่ยร่วงดิน รินโรยดาวคราวสิ้นผกผินลา พาผ่านโลกโศกเศร้ามาเนาว์หนัก มักนานนมถมรักตระหนักหา ล้าอ่อนโหยโรยแรงตกแจ้งตา จ้าเต็มตื่นคืนหน้าสิ้นฟ้ามลาย หมายฝนดาวกราวปรกแล้วตกกร้าว ร้าวตกร่วงล่วงหาวยิ่งยาวสาย ย้ายโยกเศร้าเนาว์นานที่ผลาญกาย ท้ายผ่อนกาลหาญย้ายก่อนวายปราณ ...แบบว่า...อันนี้เป็นแก้ไขฉบับที่ 1 (อาจจะมีครั้งที่ 234...อิอิ.. ...แต่ยังไงก็ต้องขอบใจกวีน้อย ฯ ที่ทำให้ได้มีโอกาสมาสัมผัสงานเก่า ๆ อีกครั้ง...จุ๊ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
20 ตุลาคม 2552 10:43 น. - comment id 1053763
สำหรับของกวีน้อย ฯ...เพิ่งแต่งก็ถือว่าเยี่ยมนะ...ต่อไปก็น่ากลัวว่าจะเป็นคู่แข่งกับพี่...อิอิ..ก็ทำไงได้หละ...มีเจ้าแม่กลบทแล้วก็ต้องมีเจ้าพ่อด้วยใช่เป่า..หุหุ
20 ตุลาคม 2552 16:05 น. - comment id 1053952
กวีน้อย ได้อาจารย์ดีนี่เอง คุณญามี่ สบายดีนะครับ หวังว่าอีกหน่อยกคงได้อ่านกลบท เพื่อเปิดหูเปิดตา อีกนะ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ
20 ตุลาคม 2552 16:53 น. - comment id 1053995
สุดยอดเลยค่ะ ยายแม่มดขอคารวะ อิอิอิ
20 ตุลาคม 2552 17:21 น. - comment id 1054012
ไว้ท่าพี่ว่าง จะกลับมาซ้อมกลบทนี้ดูนะ อิอิ
20 ตุลาคม 2552 19:21 น. - comment id 1054058
ขอบคุณครับ คุณร่มแดนช้าง แค่ฝึกหัดครับ ยังไม่ค่อยจะถึงกึ๋นเลย ขอบคุณครับ ที่แวะเข้ามา
20 ตุลาคม 2552 19:23 น. - comment id 1054060
ขอบคุณครับ พี่ปรางทิพย์ ก็ฝึกมาไกล จริงๆ ด้วยแหละครับ ไกลจากความเป็นจริง ไม่ได้ตั้งใจ อ่ะไม่ได้ตั้งใจ ทำไงได้ครับ รู้ผิดต้องแก้ไข อิอิ
20 ตุลาคม 2552 19:25 น. - comment id 1054063
ขอบคุณครับ พี่พจน์ รำพัน มาแนวโคลง ผมก็ขอเลี่ยงไว้ก่อนครับ อีกอย่างช่วงนี้เวลา มีน้อยครับ เลยไม่อาจตอบเป็นเคลง (แทนโคลง) ได้นะครับ
20 ตุลาคม 2552 19:35 น. - comment id 1054070
พี่จอมปราชญ์ครับ กลอนความหมายดีครับ แต่ผมว่า น่าจะผิด 5555+ ผมเพราะผมหรือเปล่า บทแรกถูกครับ แต่บทที่สอง คือ พี่ลงท้าย สามคำ บทแรก ในบาทที่ว่า ระคายจินต์ ขึ้นต้นต้อง รินความใจ ฯลฯ และบทที่ สาม ผิดตรงที่ว่า พาผ่านโลกโศกเศร้ามาเนาว์หนัก มักนานนมถมรักตระหนักหา ล้าอ่อนโหยโรยแรงตกแจ้งตา จ้าเต็มตื่นคืนหน้าสิ้นฟ้ามลาย บาทสองพี่ลง ตระหนักหา ก็เป็น ตาเหน็บโหย ฯลฯ ท้ายบาทสาม พี่ลง ตกแจ้งตา เป็น ตา ต่า ต้า...จิตตื่น ฯลฯ นอกนั้นผมดูแล้ว น่าจะถูกหมดนะครับ อีกอย่าง ผมก็แค่หัดเขียน กลัวบอกผิดอีก จะหน้าแหกจะแตกหน้า อิอิ
20 ตุลาคม 2552 19:39 น. - comment id 1054074
ขอบคุณครับ พี่ไร้อันดับ เรื่องพัฒนา คงยังบอกไม่ได้ครับ ผมแค่อยากรวบรวมกลอน กลบท มาเป็นของตัวเอง คือ อยากเป็นกลอนเหล่านั้น เพื่อดูว่า ยากมากน้อย แค่ไหน และเอาไว้ศึกษา น่ะครับ คุณญามี่ สบายดีครับ แต่ผมจะไม่สบาย เพราะถูกเคี่ยวมากครับ ทั้งชักแม่น้ำทั้งห้า ทั้งโน้มน้าว ทั่งต่อว่า ทั้งให้กำลังใจ ครบสูตร เลยครับ อีกอย่าง ขอชมคุณ ญามี่ จากใจว่า โหดมะใช่เล่นครับ ก็ดีใจมากๆ ครับที่คุณ ญามี่ พร้อมจะแนะนำด้วยความเต็มใจ ผมเลย ถือว่าโชคดี มีอาจารย์ที่พร้อมให้ความรู้ตลอด...
20 ตุลาคม 2552 19:43 น. - comment id 1054079
ขอบคุณครับ คุณยายแม่มด อย่าพึ่งคารวะจิครับ แค่หัดแต่ง และผิดสูง เหมือนทำให้ผมหลงในความผิดของตัวเองไปไกล อิอิ
20 ตุลาคม 2552 19:45 น. - comment id 1054080
ดีครับ พี่ยา ได้ครับ พี่ยา แต่ผมคงมะตอบเป็นกลอนนะครับ เพราะมาใช้คอมฯ ของเพื่อน วันที่สองแล้ว ใช้นานเพื่อนมานจะ ว่าเอาได้น่ะครับ
20 ตุลาคม 2552 20:04 น. - comment id 1054087
แก้ใหม่แล้วดูดีแม้ถูไถ ไม่ถากถางสร้างไข้มาใส่หัว มัวเสี่ยงห่อก่อภาพไม่ทาบตัว มั่วทางตันรั้นทั่วน่าหัวเราะ ปล. มี่เพิ่งเห็นเราเขียนผิดทั้งคู่ตรงคำว่า ปั่นป่วน นะคุณนัด
21 ตุลาคม 2552 05:43 น. - comment id 1054241
รอดตัวไปแล้วนะครับ คุณญามี่ กับกลบทแรก ที่ว่า โหด มันส์ ไม่ฮา อิอิ กว่าจะถูกทีละขั้นตอนนี้ เหงื่อแตกซิกๆๆๆๆ อิอิ ขอบคุณครับ ที่แวะมา วิจารณ์งานให้ ถ้ามะมีครูสาวใจดี ป่านนี้ คงตกคลองตาย ไปนานแล้ว อิอิ
17 กุมภาพันธ์ 2553 14:15 น. - comment id 1101190
สวัสดีค่ะ มาเป็นกำลังใจให้เนอะ แต่งกลอนเก่งจังค่ะ แต่งผิดแต่งถูกเป็นครูค่ะ สงสัยต้องขอคำปรึกษาบ้างแล้ว