แสงแดดส่องกระทบใบไม้ไหว เงาวับไวทาบทามที่ใต้ต้น ใบเหลืองร่วงปลิดขั้วดั่งวายชน ล่องลอยหล่นบนดินทิ้งซากใบ แม้สายฝนจะทำให้ต้องเปียก แต่ยังเรียกความชื่นฉ่ำกลับมาได้ แม้แสงแดดทำให้ร้อนกายใจ แต่ทำให้พืชพันธุ์ได้งอกงาม ธรรมชาติเป็นสิ่งที่มีค่า แม้โรยรายังประโยชน์อย่างไพศาล ใบไม้แห้งเป็นปุ๋ยได้งอกงาม แต่อยากถามมนุษย์เล่าทำสิ่งใด เราเกิดมาเพื่อเสริมสร้างหรือเสริมสิ้น ทรัพย์ในดินสินในป่าเคยสร้างไหม เพื่อทุกสิ่งบนโลกดำเนินไป จงใส่ใจการกระทำเพื่อย้ำเตือน 6 ตุลาคม 2552 ภัทราภา
6 ตุลาคม 2552 12:34 น. - comment id 1047964
*แสงแดดส่องสีทองทาบท้องทุ่ง จำรัสรุ่งโชติช่วงสู่รวงข้าว ฝนหล่นปรอยเปียกพื้นคืนคู่ดาว วันใหม่ยาวเยิ่นเย้อนกเผลอไพร *เสียงปูปลาเล่นน้ำด้วยฉ่ำชื้น เสียงเด็กครืนเฮฮาพาสดใส วัวควายร้องเรียกหมู่อย่างรู้ใจ ใบไม้ไหวพัดพลิ้วละลิ่วลม *ธรรมชาติบรรเลงเพลงชีวิต ตามลิขิตเกิดมาคราสุขสม ฟ้าร่ำร้องทะเลครามงามน่าชม ชวนภิรมย์ร่มไพรชื่นนัยน์ตา น้องภัทร พี่ขอร่วมแจม นิดๆ ครับ พอดีพึ่งทานข้าวมา ก็เลยขอแจมด้วย ช่วงนี้คงปิดเทอมแล้ว สิครับ ว่างๆ ก็หาหนังสืออ่านด้วย หรือไม่ก็ อ่านบทกลอนไปเรื่อย พร้อมกับฟังเพลง จะได้มีอารมณ์สุนทรีย์ ดีกว่าไปเที่ยวไร้สาระ พี่อยากแนะนิดนึง คือ น้องภัทร ยังไม่ค่อยสัมผัสในเท่าไร ลองฝึกหัดสัมผัสในด้วยนะ จะได้เป็นการเริ่มต้นที่ดี ด้วยมิตรไมตรี ครับ
6 ตุลาคม 2552 21:59 น. - comment id 1048155
รูปภาพงามจริงๆ เป็นบทกลอนที่มีคุณค่าพึงสังวรค่ะ
6 ตุลาคม 2552 22:27 น. - comment id 1048169
ถึงพี่กวีน้อยที่เคารพ ขอบคุณมากที่เข้ามาร่วมแต่งกลอนค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อแนะนำดีๆ และคำสอนของพี่ และจะหัดแต่งกลอนให้ดีขึ้นค่ะ ด้วยไมตรีจิตเช่นกันค่ะ
6 ตุลาคม 2552 22:29 น. - comment id 1048171
นรสิริ ขอบคุณที่เข้ามาทักทายเสมอค่ะ ดีใจที่ชอบรูปภาพและบทกลอน ขอบคุณค่ะ
7 ตุลาคม 2552 13:02 น. - comment id 1048334
อ่านแล้วรู้สึกรักธรรมชาติขึ้นค่ะ
7 ตุลาคม 2552 13:50 น. - comment id 1048366
ภาพสวยจังเลยค่ะ อยากให้ทุกคนมีธรรมชาติในหัวใจอย่างนี้นะคะ อิอิอิ