***แล้วเสียแลนาย แมงคายหิ่งห้อย จ๋าเผียบเทียมดาว อยู่ฟ้า............. ***อ้ายเป๋นแฮ้งก๋า วงศาต่ำช้าใคร่แฝง แอบห้อยหงส์คำ บุญอ้ายบ่นัก...... ***ก๋าศักดิ์บ่สูง ถะกูลบ่เติง บ่เปิงยศเจ้า........... ***ชาติตระกูลตั๋ว เป๋นทองเคิ่นเบ้า บ่เหมือนคำแดง แต่งร้อย...... ***ชาติสกุลตัว เป็นคนใฝ่น้อย บ่มีที่ห้อยวางครัว เกิดมาชาตินี้....... ***บ่ได้เปนผัว ขอต๋ายเป๋นงัว ลากล้อ ลากข้าว.......... ***ขอลาก่อนเต๊อะ เจ้าม่อนตาคำ เหมือนปลาซิวฮำ ลอยหนี จากห้วย.... (ปติ ถอดจากเทปซอล่องน่าน ของคำผาย นุปิง ศิลปินแห่งชาติ จังหวัดน่าน) ผมลองจ๊อยเอื้อนเสียงฟังแล้วไพเราะมากมาก งามด้วยคำอุปมาอุปมัย กวีรุ่นหลังยังอ่อนด้อยเรื่อง การอุปมาอุปมัย ยิ่งสุนทรภู่นั้น เหมือนเทพเจ้าแห่งคำ อุปมาอุปมัย เปรียบเทียบ เปรียบเปรย ผมพยายามเอาอย่าง แต่ก็ยังห่างชั้น ต้องพยายามกว่านี้ ถ้าต้องการให้ภาษาไทยงดงามเพื่อชนรุ่นหลัง เพราะเป็นห่วงที่เขาใช้ภาษาตัวย่อกันมากเดี๋ยวนี้ *****จ๊อยของพ่อคำผาย งามด้วยอุปมาอุปมัยดังนี้ พี่เป็นหิ่งห้อย น้องเหมือนดาวเดือนบนฟ้า พี่เป็นแร้งกา น้องเป็นเหมือนหงส์ทอง กาศักดิ์ต่ำ หงส์ศักดิ์สูง ตระกูลพี่ไม่เหมาะสมกับหน้อง ตระกูลพี่เหมือนทองอยู่ในเบ้า แต่น้องเป็นทองรูปพรรณงาม พี่เป็นคนจน ไม่มีที่ทาง ให้สร้างครอบครัว พี่ขอลาน้อง เหมือนดั่งปลาซิว ลาหนีจากห้วย ไปตายที่อื่น
6 ตุลาคม 2552 12:23 น. - comment id 1047960
ไม่ทราบว่าคุณ ปติ ตันขุนทด รู้จักคุณพ่อไชยลังการ์ หรือไม่ ซึ่งท่านเป็นครูของอ้ายน้อยคำผาย นอกจากนี้ไม่ทราบว่าคุณปติ รู้หลักการผันเสียงในฉันทลักษณ์ซอเมืองน่านหรือไม่ ถ้ารู้ใคร่ขออธิบายแผนผังพร้อมทั้งยกตัวอย่างให้คนเมืองน่านคนหนึ่งซึ่งรู้ไม่จริง แต่ก็พอรับรางวัลการแต่งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย มาประมาณ 104 รางวัลรวมทั้งรางวัลพระราชทานอีก 14 รางวัล ปล.อยากเห็นคุณปติ ไปร่วมประชันกลอนสดที่ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จัดประชัน ซึ่งจะมีครูภาษาไทยและนักล่ารางวัลทั่วประเทศไทยมาร่วมประชันกัน ซึ่งมีมาตั้งแต่ พ.ศ.2536 (หรือว่าคุณปติ ตันขุนทด เคยมาแล้วและได้รางวัลพระราชทานไปหลายโล่แล้วกระมัง)
6 ตุลาคม 2552 13:13 น. - comment id 1047978
เอ่อ มีอะไรกันก็แนะนำกันได้นะครับ ไม่เห็นจะต้องอวด หรือ ประชดประชันกันเลยนี่ครับ เวปบ้านกลอน เอาไว้ฝึกครับ ถ้ามีน้ำใจ ก็กรุณาแนะมาเลยดีกว่า ครับ ผมว่า..กิริยาส่อสกุล คุณปติ แต่งโคลงเก่ง นะครับ
6 ตุลาคม 2552 13:44 น. - comment id 1047989
แล้วที่คุณ ปติ ว่าให้คนอื่น "อ่อนด้อย"อุปมาฯ ไม่ทราบว่าดูถูกฝีมือเขาหรือเปล่า ทั้งที่ตัวเองแต่งโคลงก็ผิดฉันทลักษณ์สัมผัสระหว่างบทก็ไม่มี ถ้าส่งประกวดที่สมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย ตกรอบแรกครับ
6 ตุลาคม 2552 14:18 น. - comment id 1048018
วิจารณ์ สามัคคี วิจารณ์... ว่างๆเอาคำจ่มพญาพรหมมาเอ่ยบ้าง คู่แข่งศรีปราชญ์เลยเทียว อหังการเทียมฟ้าท้าสวรรค์ไม่ต่างกันเลยนะ ...
6 ตุลาคม 2552 20:18 น. - comment id 1048116
***อ้อ คงจะมีการตีความกันผิด ผมว่าจ๊อยซอของพ่อคำผายเด่นในเรื่องอุปมา ก็เป็นคำชมพ่อคำผาย ถ้าพ่อคำผายมีครูเป็นใคร ก็หมายถึงครูของเขาด้วย ถ้าคุณพ่อไชยลังการ์ แต่งจีอยซอบทนี้ให้พ่อคำผายบุญก็จะตกที่พ่อไชยลังการ์เช่นกัน ***ผมไม่ได้ติเตียนใครเป็นส่วนตัว เพียงแต่ผมยังไม่ได้อ่านกลอนใครที่เทียบชั้นกับสุนทรภู่ได้ ก็เลยยกว่าเป็นเทพเจ้าแห่งอุปมา เราชนรุ่นหลังกว่าสองร้อยปีจากสุนทรภู่ ก็ไม่น่าน้อยใจ สคิดเล็กคิดน้อย ถ้าคิดว่าผมล่วงเกินท่าน ผมก็ขออภัย ***เรื่องแข่งกลอน ผมไม่แข่งกับใครหรอกครับ เพราะมันไม่บริสุทธิ์ มันเป็นกิเลสอย่างหนึ่ง และผมก็ไม่เก่งพอถึงขนาดนั้น ผมก็รู้จักประมาณตัวเอง ดูจากสถิติคนที่อ่านกลอนผม ผมก็พอใจและมีความสุขแล้ว แค่มีคนอ่านโคลงผม กลอนผมสัก สี่สิบ ห้าสิบคน ผมก็พอใจ และพอเพียง ***ผมแต่งโคลงไม่เชื่อมบทครับ ขอขอบคุณที่บอกสอน ผมไม่ใช่กวีอาชีพ และก็หัดแต่งเล่นในนี้ มันยาก ผมก็เลยบังไว้แค่ให้มันได้เอกโท เท่านั้น ถ้าฝีมือผมพัมฯนากว่านี้ คงจะได้เห็นผมเชื่อมบทอย่างแน่นอน ขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง ***ผมก็ไม่เคยทับถมหรือเหยีบกลอนใครในนี้ ถ้าเป็นคำผิดที่คิดว่าผู้แตงพลั้งเผลอ ผมก็จะบอกว่าต้องการใช้คำศัพท์ที่มีควารมหมายนี้หรือเปล่า หรือเช่น ใย กับ ไย ความหมายไม่เหมื่อนกัน คนเรามันเผลอได้ เราก็เป็นเพื่อนกัน ก็คิดว่าน่าจะบอกกันได้เพื่อประโยชน์แก่ภาษาไทยและพวกเราเอง ***ด้วยรัก
6 ตุลาคม 2552 20:34 น. - comment id 1048130
ยังไม่ได้ตอบอีกประเด็น ผมลองหัดจ๊อยตามเทปของพ่อคำผายแหละครับ เหมือนกับที่พ่อคำผายเอื้อนเสียง เดี๋ยวนี้ก็ยังอยู่ในใจผมเลย เป็นเสียงในใจ เทปซอเกือบทุกชุดของพ่อคำผาย ผมมีเกือบทั้งหมด แต่ผมไม่ได้ถอดไว้ทั้งหมด ผมคิดว่า ผมศึกษาแบบเป็นแฟนเพลงกัน ไม่คิดจะไปว่าคนเมืองน่านไม่ศึกษาพ่อคำผายนะครับ และเรื่องรางวัลที่ท่านได้ ผมก็ดีใจด้วย แต่อย่าติดรางวัลนะครับ เพราะในโลกนี้ กวีที่ไม่ได้รับรางวัล ก็มีส่วนเติมสีสันสังคมให้งดงาม ผมเป็นเพียงดอกหญ้า ไม่อาจเทียบดอกฟ้าอย่างคนที่ชำนาญหรอกครับ เป็นสัจจริง ขอให้ท่านที่รังเกียจผมสงสารผมเถิดครับ ผมไม่คิดหารางวัลจริงๆ
6 ตุลาคม 2552 22:23 น. - comment id 1048167
อ่านความคิดเห็นและการตอบประเด็น แล้วรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อยนะครับ ตามความรู้สึกของผมเป็นข้อๆนะครับ 1.ดีใจที่มีเพื่อนต่างจังหวัดรู้จักพ่อครูคำผาย 2.การเทียบเคียงของคุณปติ...ระหว่างพ่อครู คำผายกับท่านกวีเอกสุนทรภู่ ผมว่ามันขัดๆ ความรู้สึกนิดหน่อยเนื่องจากท่านทั้งสองมีความแตกต่างในประเภทหรือแขนงในความเป็นศิลปิน และทำนองเดียวกันท่านสุนทรภู่ก็ได้รับยกย่องว่าเป็นกวีระดับโลกอีกด้วย 3.คุณปติไม่น่าจะใช้คำว่าพยายามเลียนแบบ ถึงแม้จะบอกว่ายังห่างชั้น...ในความหมายก็การเทียบชั้นกับท่าน 4.คำพูดของคุณปติหากไม่พินิจให้ถ้วนถี่อาจทำให้คนอ่านเข้าใจผิดว่า...คุณปติกำลังตำหนิเด็กรุ่นใหม่ในฐานะที่คุณปติเป็นผู้เชี่ยวชาญ 5.คุณที่ใช้ชื่อว่าคนง่าวเมืองน่าน..ก็พูดจารุนแรงไปนะครับ ถือเสียว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกันนะครับจริงๆแล้วคุณปติก็คงมีเจตนาดีนะครับ และคุณคนง่าวเมืองน่านก็คงไม่อยากให้ มีการกล่าวถึงพ่อครูคำพายแบบยกมาสั้นๆแบบนี้พ่อครูมีผลงานที่มีคุณค่ามากมายที่ยกมา เป็นเพียงเศษเสี้ยว...และคนที่ไม่รู้จักท่านดีพออาจคิดว่า...นี่หรือผลงานท่าน... ขอบคุณนะครับ
7 ตุลาคม 2552 07:59 น. - comment id 1048206
***คงจะเป็นการสื่อสารทางไกลที่ไม่อยู่ในคราวเดียวกันแล้วตอบทันที ผมว่าอย่างนี้นะ ผมอยากบอกว่าจ๊อยของพ่อคำผายยอดเยี่ยมในด้านอุปมา เช่นแมงคายหิ่งห้อย และก็ต่อๆมา ว่ากวีพื้นเมืองรุ่นเก่าเขาเก่งอุปมา ผมก็หมายความว่าเป็นกวีรุ่นเก่ากว่าผม กว่าเรา เท่านั้นเอง และเปรียบเทียบว่า สุนทรภู่เป็นเทพเจ้าแห่งการอุปมา และถ้าจะพูดก็คือว่าเป็นกวีเอก เป็นครูของครู ของเรา ก็เท่านั้น และผมก็คิดว่า กวีรุ่นหลังจะไม่รังเกียจที่ผมจะยกย่องท่านอย่างนั้น เรื่องพ่อคำผายผมบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว ถ้าผมไม่ชอบ ผมไม่ศรัทธาในผลงานของท่าน ผมไม่เอาไปสอนเด็กมัธยมในขระที่ผมเป็นครูสอนที่เชียงใหม่ เด็กไ ที่ผมสอน เขาหัวเราะเยาะผม ผมก้หัวเราะเยาะเด็กที่ไม่เห็นคุณคี่มรดกล้านนาของตน เขาได้ใหม่ลืมเก่า ผมก็ว่าคนรุ่นใหม่กำลังจะลืมรากเหง้าของตน และ การใช้ภาษาไทยในห้องแชท ก็น่าเป็นห่วง ผมก็ไม่ได้ว่าแกเสียหาย อยากจะให้แก ใช้ภาษาให้สมบูรณ์ และภาษาแผลงๆก็อย่าใช้จนผมตกใจ รับว่ากระอักกระอ่วน ขอบคุณคุณอิสวนที่คอมเม้นมา เป็นการสื่อสารที่พยายามจะทำความเข้าใจกัน คุณคนง่าวเมืองน่าน ก็ตั้งฉายาเสียจนผมไม่นึกว่าจะเป็นเช่นนั้น คุณตั้งคิดว่าผมสื่อในแง่ดีก่อน ถ้ามองกันในแง่ร้ายมันก็เลยกลายเป็นโมหะปิดบังมิตรภาพในหมู่นักกลอนด้วยกัน ผมผิดในการแต่งโคลง เรื่องเชื่อมโคลง เป็นการผิดในหลักการ ผมก็ไม่ปฏิเสธ และผมก็ได้พยายามปรับปรุงแก้ไข และก็ได้แก้ไขไปแล้วใคลง นครพิงค์เชียงใหม่ และบทอื่นไ ก็จะแก้ไขภายหลังครับ
7 ตุลาคม 2552 08:08 น. - comment id 1048208
ตอบคุณคนหวังดี.... คือว่าผมเห็นว่า นักกลอนรุ่นใหม่ถ้าอุปมอุปไมยเก่งเหมือนรุ่นโบราณ ก็จะดี แต่ผมไม่เก่ง และผมอยากจะพัฒนา และก็อยากจะให้กวีรุ่นหลังพัฒนาด้วย ถ้าคิดว่าผมดูถูกดูหมิ่นผมก็ขอโทษ ที่เราแต่งกันก็เล่นสนุกแบบซ้อมมวย ซ้อมฝีปาก ถ้าจะจับผิดแบบครูตรวจข้อสสอบก็มีให้ดูเยอะ จึงไม่ขอพาดพิงเพราะ เรามาฝึกกัน ถ้าใครขอให้ช่วยก็จะช่วย บางคนขอ ผมก็ไม่กล้ารับ ผมก็ไม่ใช่อาชีพ มีกลอนขี้เหร่ก็เยอะ ที่คิดว่าดีก็ลองเอามาให้อ่าน คนอ่านิดหน่อยเท่านั้น กลอนของผม แต่ผมก็ดีใจ
7 ตุลาคม 2552 08:09 น. - comment id 1048209
เมื่อทุกอย่างกระจ่างชัดแล้ว ผมว่าคุณปติ มีน้ำใจนักกีฬาดี ดังนั้นผมก็มีเช่นกัน ต่อไปนี้พวกเราชาวบ้านกลอนคือมิตรภาพที่ดีต่อกันตลอดไปนะครับ