หยาดน้ำฝนหยดน้ำตา

รำจวน

หยาดน้ำฝนที่หล่นมาจากฟ้ามุ่ง
สู่ท้องทุ่งไร่นาป่าเขาเขิน
ชุบชีวิตพืชทั่วไปให้เจริญ
คุณค่าเกินมากล้นท้นท่วมเนา
               หยาดน้ำฝนเหมือนน้ำตานางฟ้าหลั่ง
               ที่ประดังเทลงมาจากป่าเขา
               แต่หยาดน้ำที่ไหลมาจากตาเรา
               มันเกิดจากความเศร้าร้าวระบม				
comments powered by Disqus
  • อนงค์นาง

    20 กรกฎาคม 2552 04:23 น. - comment id 1016606

    หยาดน้ำฝนหล่นรินบนดินหญ้า
    ทั่วท้องนาชุ่มชื่นไม่ขื่นขม
    หยาดน้ำตาหล่นร่วงทรวงระทม
    สุดจะข่มตรมฤทัยใจขาดรอน
    
    แวะมาแจมค่ะ ขอบคุณที่ไปทักทายนะคะ
    36.gif36.gif
  • ฝากฝัน

    20 กรกฎาคม 2552 09:44 น. - comment id 1016663

    36.gif36.gif36.gif"""
    ไม่ได้เรื่อง...เล้ย
    ไม่ว่าเขียนที่ไหน..ฝนตกหรือไม่
    เพราะ...
    ๑.เร่สัมผัสและเป็นกลอนเก้า ตั้งแต่วรรคแรกเลย 
    "หยาดน้ำฝนที่หล่นมาจากฟ้ามุ่ง"
    ไม่ได้สาระเลย..ฟ้ามุ่งคืออะไร
    ๒.ทั้งสองวรรคที่เขียนได้เป็นการลอกเอามาจากเพลงเกือบทั้งหมด....
    ๓."หยาดน้ำฝนเหมือนน้ำตานางฟ้าหลั่ง
     ที่ประดังเทลงมาจากป่าเขา"
    เขียนให้นางฟ้าหลั่งน้ำตา..แต่
    ทำไมต้องประดังเทมาจากป่าเขา
    ไม่มีจินตนาการแห่งความจริง
    เลย...ตลก อ่ะ
    
    สรุป "แม้ว่าจะเขียนจากอารมณ์
    แต่เป็นอารมณ์ที่ถูกชักนำจาก
    เพลง
    มากกว่าจากบรรยากาศ..หรือ
    ความรู้สึกภายใน...
  • ไร้อันดับ

    20 กรกฎาคม 2552 10:12 น. - comment id 1016670

    ผมเคยบอกให้คุณมาลงกลอน
    จากที่คุณไปวิจารณ์กลอน
    คนอื่นเขา ผมคิดว่าคุณ
    จะทำได้ดี แต่น่าเศร้าจัง
    
    ด้วยวัยวุฒิ ขนาดนี้
    ทำได้เพียงเท่านี้
    แต่ยังกล้าไปวิจารณ์
    งานคนอื่น ผมนับถือ
    คุณจริงๆ ครับ
    
    ขอบคุณ คุณฝากฝัน
    ที่แสดงความคิดเห็น
    ที่คงพอจะทำให้คุณรู้จัก
    ตัวคุณเองดีขึ้น
  • ฉางน้อย

    20 กรกฎาคม 2552 10:56 น. - comment id 1016681

    3.....พี่ไร้อันดับ ....กลับบ้าน
    
    46.gif65.gif74.gif
  • แก้วประภัสสร

    20 กรกฎาคม 2552 11:11 น. - comment id 1016691

    มิได้หมายคล้ายย้ำซ้ำเติมเจ้า
    แต่เราเฝ้าทวนคำรำจวนหวาน
    รอยลกลอนไพเราะเจาะเจือจาน
    แต่กลับพาลผิดหวังดั่งขาดตอน
    
    หวังว่าควรหาใครฝึกใหม่เถิด
    ปัญญาล้ำจะเกิดกลางสมร
    ด้วยไมตรีมีให้ในอาทร
    อ่านบทกลอนสมหวังอีกครั้งครา
    
    ด้วยมิตรไมตรีจากใจ
    46.gif46.gif36.gif36.gif
  • อนงค์นาง

    20 กรกฎาคม 2552 11:20 น. - comment id 1016696

    น้องวา พี่ๆเขาทะเลาะกันทำไมก็ไม่รู้ เราไปหาอะไรกินกันดีมั้ย อิ อิ อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ
    ด่าอนงค์นางดีกว่า ไม่โกรธหรอกค่ะ 
    29.gif36.gif8.gif
  • ใจปลายทาง

    20 กรกฎาคม 2552 11:35 น. - comment id 1016703

    เกิดไรขึ้น...
  • ฉางน้อย

    20 กรกฎาคม 2552 11:37 น. - comment id 1016704

    7......ใจเย็นคะๆ ไม่มีอะไรนะคะ
    
    ขอทางให้คนเจ็บหนักหน่อยค๊า
    
    ......ต๋ายแหน่ๆๆๆๆ  วี๋หว่อๆๆๆๆ 
    
    เฮีย ป.มาแระ 
    
    46.gif65.gif
  • ฉางน้อย

    20 กรกฎาคม 2552 11:41 น. - comment id 1016709

    6.....พี่สาวอนงค์นางคะ 
    
    .น้องวาไม่รุ้เรื่องไรน๊า 
    
    แค่มาวิ่งเล่นเจ๋ยๆ 
    
    ไม่กินไรแระ กินม่ายลง อิอิ   46.gif
  • ใจปลายทาง

    20 กรกฎาคม 2552 12:06 น. - comment id 1016720

    ฉางน้อย กลับห้องเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวตีตายเลย
    
    ผู้ใหญ่กำลังอารมณ์ไม่ดีรู้มั๊ย
    
    อิ อิ เด็กๆ งง อ่ะค่ะ
  • ไพรน้ำผึ้ง

    20 กรกฎาคม 2552 12:55 น. - comment id 1016739

    น้ำผึ้งอ่านกลอนคุณลำจวน ขำกลิ้งเลยค่ะ
    19.gif  เป็นไปได้ไงคะเนี่ย คุณไปติคนโน้น
    ว่าคนนี้ ทั้งที่คุณทำได้แค่เนียะ ..19.gif19.gif19.gif
    แต่ก็ชื่นชมในความหาญกล้า 
    บ่ายโมง วันนี้ มาเรียนภาษาไทย ป.6
     กับน้ำผึ้งนะคะ  น้ำผึ้งจะสอนแต่งกลอนให้ค่ะ
    36.gif36.gif36.gif
  • ธันวันตรี

    20 กรกฎาคม 2552 17:41 น. - comment id 1016753

    ก่อนอื่นต้องกล่าวชื่นชมคุณ รำจวน ที่เด็ดเดี่ยว กล้าวิจารณ์คนอื่นอย่างตรงไปตรงมา
    
    พระพุทธองค์ เคยตรัสไว้ว่า บุคคลที่ชี้ข้อผิดพลาดคือบุคคลที่ชี้ขุมทรัพย์ให้
    
    และอยากจะขอชี้แจงนิดนึงนะครับ ปกติเวลาที่ ธันวันตรี พูดคุยกับเพื่อนใน msn ย่อมมีบ้างที่จะใช้ภาษาพูดปนกับภาษาเขียน หรือใช้คำที่ไม่เป็นทางการ หรือใช้คำศัพท์เฉพาะกลุ่ม การที่คุณเข้ามาวิจารณ์การใช้คำ ต้องยอมรับว่าคุณเป็นคนที่เคร่งครัดเรื่องการใช้ภาษามาก จนบางครั้งมันอาจจะดูเป็นการสนทนาที่ดูเป็นทางการมากเกินไป แต่อยากจะชี้แจงด้วยว่า เวลาที่ ธันวันตรี เขียนงาน ออกมา ต้องตรวจแล้วตรวจอีก ว่าใช้คำได้ถูกต้องตามหลักภาษาแล้วหรือยัง
    
    การที่คุณเข้ามาวิจารณ์งานเขียนของธันวันตรี ว่าเขียนพอได้ บอกตามตรงเลยว่า รู้สึกตื่นเต้นที่มีคนมาบอกอย่างนั้น แสดงว่างานเรายังมีข้อบกพร่องหลายจุด และผู้วิจารณ์คงมีความสามารถด้านงานเขียนเข้าขั้นดีมาก แน่นอนคุณต้องถูกตรวจสอบ ว่าเป็นใครมาจากไหน แต่การตรวจสอบโดยการดูเพียงแค่อีเมล์ ทำให้ได้ข้อมูลไม่มากนัก แต่ก็พอจะทราบว่า คุณเข้ามาวิจารณ์งานเขียนของนักกลอนในบ้านกลอนไทยอยู่เรื่อยๆ แต่ยังไม่มีงานเขียนของคุณเลยสักชิ้น คำวิจารณ์ของคุณที่บอกว่า นักกลอนท่านนั้น ท่านนี้ เขียนพอได้ เขียนพอเป็น และมีการใช้สัมผัสผิดพลาดเช่น สัมผัสเลือน แสดงให้เห็นว่า ผู้วิจารณ์มีการศึกษาเรื่องการเขียนกลอน และการใช้สัมผัสมาในระดับที่ดีทีเดียว 
    
    แต่อยากจะบอกให้คุณตระหนักนิดว่า อะไรคือข้อบังคับ อะไรคือข้อชี้แนะ ข้อควรไม่ควร ของการเขียนกลอนแปด
    
    เมื่อพูดถึงการใช้สัมผัส เช่น สัมผัสซ้ำ หรือ สัมผัสเลือน จะพบว่าเป็นเพียงการกำหนดขึ้นมาของผู้เชี่ยวชาญว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่ไม่ใช่ข้อบังคับของกลอนแปด และหากคุณอ่านผลงานทุกชิ้นที่ได้รับรางวัลซีไรต์ จะพบว่าบางผลงาน มีการใช้ทั้ง สัมผัสซ้ำและสัมผัสเลือน แต่ผลงานเขาก็ได้รับรางวัล
    
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังอดไม่ได้ที่จะรอชมฝีมือเจ้าของผลงานที่ใช้เมล์ lam_juan@hotmail.com เพราะคิดอยู่ในใจว่า ฝีมือคงแน่จริงๆ ถึงได้เห็นคำวิจารณ์ของคุณในหลายๆ บทกลอน ของนักกลอนหลายๆ คน
    
    จนได้พบกับผลงานวันนี้ ก็ต้องพูดไปตามตรงครับว่า ยังไม่ประทับใจเท่าที่ควรครับ แต่ยังไงก็ชื่นชมคุณนะครับ ว่ามีความรู้ดีพอสมควร
    
    เคยคุยกับนักกลอนท่านอื่นๆ หลายๆ คนมีความรู้ดี แต่เวลาเห็นข้อผิดพลาด หรือข้อบกพร่องของคนอื่น หรือไม่เป็นไปตามที่เราอ่าน เราศึกษามา ส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่เฉยๆ และให้ผ่านเลยตามเลย นั่นหมายความว่า มีความรู้อยู่กับตัวเพียงคนเดียว ไม่คิดที่จะแลกเปลี่ยนกับผู้อื่น หรือเกรงจะทำให้เกิดกรณีพิพาทบาดหมางกันไป แต่คุณไม่ได้อยู่ในจำพวกนั้น ขอชื่นชมจริงๆ ครับ
     
    อันความรู้รู้กระจ่างแต่อย่าเดียว ... แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล
    
    เมื่อรู้แล้ว ขอให้ทำให้เป็นตัวอย่างตามที่พูดไว้ให้ได้ หากเข้าข่ายว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ก็คงต้องถูกรุมประชาทัณฑ์
    
    เพราะฉะนั้นฝากข้อคิดนิดนึงนะครับ การที่เราจะวิจารณ์คนอื่นว่า เขียนพอได้ พอเป็น วิจารณ์จุดนั้น จุดนี้ เราต้องเขียนได้ดีมากเลยทีเดียว และต้องรู้ทุกแง่ทุกมุมของข้อบังคับ ข้อควรมิควร
    
    การวิจารณ์งานของคนอื่น ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่ควรวิจารณ์โดยใช้ภาษาที่ไม่ก่อให้เกิดความบาดหมาง ขุ่นเคือง และวิจารณ์ในขอบเขตความรู้ที่เรามีอยู่
    
    ยังไงก็หวังว่า คุณจะเลือกฟังบางวิจารณ์ไปฉุกคิด และใช้ให้เกิดประโยชน์ คิดไปในทางที่ดีผลก็จะดี คิดไปในทางลบผลก็จะลบ และยังจะรอดูผลงานของคุณอยู่ ขอให้พยายามต่อไปนะครับ
  • ฉางน้อย

    20 กรกฎาคม 2552 13:50 น. - comment id 1016771

    10......46.gif...ไม่ๆๆๆ ไม่นะ คุณใจปลายทาง เค้าไม่กลับห้องอ่ะ   46.gif  
    
    ก็ต่ะเองล็อคห้องไว้ เค้าจะเข้าได้ไง อิอิ 
    
    ไปเปิดปั๊กกะตูก่องจิ แหะ.. แหะ....65.gif46.gif  
    
    ......ผู้ใหญ่อารมณ์ไม่ดี แล้วกำนันอย่างพวกเรา ต้องทำไรป่าวอ่ะ บอกหน่อยจิ.....46.gif
  • White roses

    20 กรกฎาคม 2552 15:02 น. - comment id 1016814

    แรงลมหนาว..หนาวสั่น..วันสิ้นหวัง
    ทำนบพัง..น้ำตาไหล..ไม่อาจกลั้น
    ความหม่นหมอง..สุดทน..จนกัดฟัน
    เพราะโดนหยัน..เหยียบย่ำ..จนช้ำชา
    
    วันพรุ่งนี้..จะมีไหม..ให้ได้หวัง
    เจ็บทุกครั้ง..เงียบหงอย..เฝ้าคอยหา
    ต้องอ่อนแอ..แพ้พ่าย..หน่ายระอา
    หยาดน้ำตา..ไม่หยุดไหล.."ใครช่วยที"...36.gif
  • พิมญดา

    20 กรกฎาคม 2552 19:04 น. - comment id 1016937

    อ่านคอมเม้นแล้ว
    
    อภัยให้ค่ะ
    
    คงคิดได้บ้างนะคะ11.gif
  • อัลมิตรา

    20 กรกฎาคม 2552 22:44 น. - comment id 1017059

    เห็นเขียนถึงฝน อัลมิตราขอขายแนวคิดบ้างค่ะ 
    ใครจะซื้อต้องซื้อด้วยรอยยิ้มนะ ใครไม่ยิ้มขอให้ท้องผูกด้วย
    
    
    สายฝนหลั่งพรั่งพรูมาครู่ใหญ่ 
    พืชพรรณไม้ผลิดอกงอกงามสวย
    ต่างแตกก้านกิ่งกลุ่มกระชุ่มกระชวย 
    ฝนอำนวยเอื้อให้ได้ชื่นบาน
    
    บ้างผลิดอกออกผลปนสีสัน 
    หลากพฤกษ์พันธ์ลุกล้มผสมผสาน
    สอดกิ่งก้านเกาะกลุ่มดั่งพุ่มพาน 
    บ้างเลื้อยคลานแตกยอดสอดแซมใบ
    
    ที่ต้นเด่นเป็นสง่าท้าแรงฝน 
    อาจลู่จนโอนเอนเช่นอ่อนไหว
    กิ่งกวัดแกว่งก้านคลอนอ่อนตามไป 
    เช่นพอใจสุขสมลมพัดพา
    
    เหล่านกน้อยภู่ผึ้งซึ่งหลบอยู่ 
    ฝนพร่างพรูเปียกปอนนอนผวา
    คงหนาวสั่นหวั่นไหวไม่นำพา 
    ยามฝนซามั่นหมายได้คืนรัง
    
    ฟ้าเริ่มงามยามฝนเบื้องบนหาย 
    เปล่งประกายแสงสีสุรีย์ปลั่ง
    เป็นรุ้งงามแต่งฟ้าโสภาดัง- 
    จิตรกรหวังวาดไว้ให้คนชม
    
    ฟ้าหลังฝนงามตาทุกคราครั้ง 
    เปรียบความหวังยามพลาดอาจขื่นขม
    หากเมื่อใดใจผ่องมิหมองตรม 
    แม้นเคยล้มคงลุกปลุกใจตน
    
    ให้กล้าแกร่งมุ่งมั่นมิหวั่นไหว 
    ผิดพลาดใดเคยพบประสบผล
    เป็นบทเรียนมีค่าอย่ากังวล 
    จงอดทนมุ่งมั่นคลายหวั่นเกรง
    
    แพ้หรือพลาดคราวก่อนดั่งสอนสั่ง 
    ให้ระวังคราวหน้าคงกล้าเก่ง
    กำจัดสิ้นความกลัวในตัวเอง 
    สิ่งข่มเหงหลอกหลอนบั่นทอนใจ
    
    แล้วคงพบความงามตามจิตหวัง 
    ดั่งฝนหลั่งสาดกระเซ็นเป็นเกร็ดใส
    ขู่กรรโชกดินฟ้าทุกคราไป 
    ข่มพืชไพรไม้ดอกหยอกรุนแรง
    
    แม้นรุมเร้าดุดันสะท้านทั่ว 
    น่าหวาดกลัวทุกครั้งดั่งกลั่นแกล้ง
    ครั้นเมื่อสิ้นฝนหายคล้ายเปลี่ยนแปลง 
    จักเห็นแสงสีงามยามฝนซา 
  • พิม

    21 กรกฎาคม 2552 12:34 น. - comment id 1017252

    ยิ้มคะพี่มิต..อิอิ11.gif
  • อนงค์นาง

    21 กรกฎาคม 2552 19:45 น. - comment id 1017375

    คุณอัลมิตราน่ารักจัง อนงค์นางเคยผิดพลาดมามากมายในบ้านกลอน ก็ยังให้กำลังใจ ไม่ซ้ำเติม ตอนนี้เป็นคนดีแล้ว ไม่ได้สร้างภาพหลอกใคร มันเป็นภาพจริงในชีวิต 
    แวะมาให้กำลังใจทุกคนอีกครั้ง ขอให้เรารักกัน อภัยให้กันนะคะคนไทยด้วยกัน ทุกคนมีโอกาสผิดพลาดกันได้ 
    36.gif29.gif16.gif
  • นรสิริ

    21 กรกฎาคม 2552 20:00 น. - comment id 1017381

    อดทนนะคะ  อย่ากังวลทำใจให้สบาย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน