จับปากกาเขียนกลอนตอนบ่ายๆ
กิฟท์. ท่าตะโก
จับปากกาเขียนกลอนตอนบ่ายๆ
ตอบจดหมายสำนวนหวานอาจารย์นิ่ม
อันหวานอื่นหมื่นใดเคยได้ชิม
รสหวานนิ่มหวานนานเกินหวานใด
............................................
ยินมนต์เพลงฉบับสุดท้ายจดหมายรัก
คิดถึงนักวันพี่ยาร่วมปราศัย
แว่วเสียงเพลงหดหู่ชู้ทางใจ
แสนพิไลรำพรรณในวันเยี่ยน
...................................................
เมื่องไมซอร์วันนี้ฟ้าสีหมอง
หน้าพี่น้องหม่นไหม้เหมื่อนไร้เพื่อน
หวังหยาดหยดอัมฤทธิ์สกิดเตือน
อย่าลืมเพื่อนลืมน้องชาย เมืองปลายฟ้า
................................................
Pelican วันนี้ไม่มีนิ่ม
หน้าเปื้อนยิ้มใสใสไม่เห็นหน้า
คงจะลืม Bogardi แล้วพี่ยา
ไม่เห็นหน้าเห็นหนวดแสนปวดใจ
------------------
แล้ววันที่ฟ้าสีฟ้าก้อมาถึง
ใจมันซึ้งมันซ้านสะท้านไหว
เมื่อได้รับ ส.ค.ส. จากแดนไกล
คือคำพรจากพี่ชายเมืองทมิฬ
...........................................
ประหนึ่งหยาดน้ำค้างกระจ่างใส
หยดที่ก้นบึ่งใจให้ถวิน
ดังหมูดาวสุขสกาวไร้ราคิน
มิตรภาพยังไม่สิ้นในวันนี้
.............................................
เพราะสายฝันพันกันขอบฟ้าไกล
เลือดลูกไทยไม่เคยเศร้าหม่นหมองสี
แม้ฟ้ากว้างทางไกลไร้รวี
ต่างธานีก้อเหมือนอยู่ มาตุภูมิ
........................................
PS. ประสงค์จะให้บทกวี ฉายภาพแช่มชื่นของ
มิตรภาพในอดีต ให้สว่างใสในดวงตา
ประหนึ่งว่า มันยังกลุ่นอยู่ในใจ
กิฟท์ ท่าตะโก
Mysore City, India