*** ควันธูปแสงเทียน *** ๏นมัสการยกนอบน้อม พุทธา สองกรแนบวันทา กราบก้ม ธรรมะที่แสดงมา ซึ้งซ่าน กมลแฮ พ้นสิ่งกิเลสโน้ม ฝากไว้ดวงใจ ฯ ภาวนาให้หลุดพ้น หลักพัน ผูกแฮ หวังสู่มิขาดกัน เจิดจ้า รวมเป็นหนึ่งจิตพลัน สรรค์สู่ ธรรมเฮย เพียรก่อจิตปราศล้า มุ่งไว้คำสอน ฯ พุทธะองค์มอบไว้ ทุกตอน เห็นทุกข์เกิดลิดรอน ใฝ่รู้ อริยสัจสี่นำสอน พ้นสิ่ง เกิดแฮ ขาดต่อวัฏฏะผู้ จัดสร้างเสกสรร ฯ วิปัสสนาสู่น้อม ฝึกฝน มากนา พิศเพ่งกายาจน สู่สล้าง ตัดรอนต่อเปรอะปน ฝังอยู่ ใจเฮย หนีจากกิเลสสร้าง ซ่อนไว้ลึกหทัย ฯ จิตเจตสิกย่อมสร้าง เกิดดับ เวรย่อมเข้าประดับ อ่อนล้า จนหมกมุ่นติดกับ นำก่อ กรรมแฮ ดุจดังมีดคมกล้า ขาดแล้วซึ่งคม ฯ หากเพียรฝึกหลีกพ้น ทุกข์ภัย หนีนา สุขย่อมเข้าอาศัย สุดพลิ้ว เกิดมิก่อปราชัย ยวนยั่ว มากนา ล้างลบกิเลสกริ้ว ผูกขึ้นจองเวร ฯ อย่าหักโหมเร่งซึ้ง ฉับพลัน จงหมั่นคอยเสกสรร สู่ไว้ เพียรจิตก่อทุกวาร ผันสู่ ธรรมเฮย หากเร่งรัดแล้วไซร้ ย่อมสิ้นทางหนี ฯ พระองค์ตรัสเทิดไว้ จงเพียร มากแฮ พิศต่อกายหมุนเวียน เปลี่ยนแล้ว ควันธูปล่องดังเทียน แสงส่อง ไหวเฮย กายย่อมวางเพริศแพร้ว ลบล้างสิ่งสนอง ๚ะ๛ *** แก้วประเสริฐ. ***
20 มิถุนายน 2552 18:22 น. - comment id 1002884
สาธุ...มาขอ อนุโมทนาธรรม ด้วยคนครับ ท่านพี่
20 มิถุนายน 2552 19:50 น. - comment id 1002937
แวะมาร่วมบูชาพระสงฆ์ พระธรรม พระพุทธ ครับ
20 มิถุนายน 2552 19:51 น. - comment id 1002939
แวะมาอนุโมทนาธรรมด้วยคนค่ะ...
20 มิถุนายน 2552 20:15 น. - comment id 1002965
สาธุ... ท่านพี่นี่ทางธรรมก็เก่งนะขอรับ
20 มิถุนายน 2552 21:50 น. - comment id 1003030
สาธุ
21 มิถุนายน 2552 07:21 น. - comment id 1003077
ขอน้อมรับ ... สดับธรรม ครับผม
21 มิถุนายน 2552 07:47 น. - comment id 1003085
มารับฟังธรรมะ ด้วยคนครับ ดูแลสุขภาพดีดีนะครับ
21 มิถุนายน 2552 10:22 น. - comment id 1003137
สาธุ มารับพรด้วยคนค่ะคุณลุง
21 มิถุนายน 2552 13:09 น. - comment id 1003226
มาน้อมรับคำสอนทางธรรมจากคุณครูค่ะ ได้คิดค่ะ ต่อไปทำอะไรจะใจเย็นๆ ไม่ผลีผลาม รีบร้อน จะตรวจทานก่อนเจ้าค่ะ
21 มิถุนายน 2552 14:27 น. - comment id 1003259
พรุ่งนี้วันพระ น้อมนำแสงธรรมเข้าหาชีวิต เพื่อความสงบสุขของชีวิตนะคะ
21 มิถุนายน 2552 16:30 น. - comment id 1003309
คุณ กุลา สมัยก่อนนี้นผมเล่นกลอนใหม่ๆก็เล่นกลอน ธรรมนี่แหละครับ เพราะเขียนยาก ผมชอบหัดสิ่ง ที่ยากก่อนครับ วันนี้ครบวันเกิดผมพอดีและตรง กับวันเสียด้วยน้อยครั้งจะเป็นแบบนี้ตอนเช้าก็ตื่น มาใส่บาตรปกติผมมักนอนดึกตื่นสายครับ อีก อย่างหนึ่งกลอนธรรมคนสมัยนี้มักจะไม่ค่อยจะ สนใจเท่าไหร่หรอกครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 16:39 น. - comment id 1003314
คุณ อรุโณทัย ดีมากเลยครับหากคนสมัยนี้เป็นคนอย่างคุณ โลกก็จะไม่วุ่นวายเหมือนเดี๋ยวนี้หรอกครับ เพราะ คำสอนพระพุทธองค์ทำให้เกิดปัญญาคิดอ่านมีสติ สัมปชัญญะ และทำให้คนเราใจเย็นมากครับเพราะ คำสอนนี่แหละทำให้คนใจเย็นครับ เมื่อใจเย็นแล้ว ก็เกิดความคิดอ่านรู้รักรู้อภัยกันครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 16:42 น. - comment id 1003317
คุณ white rose ครับสาธุด้วยครับแม่กุ่หลาบขาวแสนสวย ด้วยผลกุศลที่มีจงมีแด่คุณครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 16:48 น. - comment id 1003320
คุณ คนบนเกาะ เริ่มเล่นกลอนนี่ก็เพื่อหวังจะเขียนกลอนธรรม ครับเมื่อก่อนนนี้ผมเขียนไว้แยะ แต่ว่าคนเขาไม่ ค่อยจะสนใจเท่าไหร่ ก็เลยหยุดเขียนจะเขียนก็ เป็นบางโอกาสเท่านั้น การเขียนกลอนธรรมจะเข้า กับการให้ทานด้วยธรรมย่อมได้กุศลมากครับ ผม เองไม่เก่งหรอกครับ ด้านธรรมนี้เป็นนิสัยผมมา ตั้งแต่เด็กๆแล้วครับถึงเข้าใจด้วยศึกษามามากครับ ทั้งทางปริยัติและปฏิบัติครับมาระยะหลังนี้แหละ ถึงได้ห่างเหินไปนานครับ ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 16:57 น. - comment id 1003324
คุณ หมอวฤก ผมอ่านผลงานธรรมที่ลงไว้ในเวปฯดอกแก้ว แล้วเขียนได้เยี่ยมจริงๆครับ โดยเฉพาะงานด้าน โคลงนับได้ว่าเป็นยอดแห่งการเขียนครับ ผมรู้สึก ปลาบปลื้มมากที่แวะมาเยี่ยมครับ ผมเองใฝ่ศึกษา เรื่องศาสนาตลอดจนลัทธิต่างๆมามากครับ เพราะ ผมเองมีความเชื่อมั่นตนเองไม่ค่อยเชื่อใครง่ายๆ หรอกครับได้เพียงแต่รับฟัง อีกอย่างหนึ่งไม่อยาก ที่จะให้เขาว่านับถือศาสนาตามกันมา จึงค้นคว้า และศึกษาทุกๆศาสนาและลัทธิต่างๆ จนกระทั่ง ผมยอมรับว่าพุทธศาสนานี้นี่แหละสุดยอดแห่ง ศาสนาลัทธิทั้งปวงตลอดจนเข้าได้กับวิทยาศาสตร์ จนแม้กระทั่งชาวตะวันตกว่าเป็นศาสนาแห่ง ปรัชญา แปลกหากว่าผ่านมาสองพันกว่าปีแล้ว การทำนายก็ตรงกับปัจจุบันทุกๆประการครับ ส่วนศาสนาอิสลามหรือคริสตร์ก็ตามยังเอามา จากของเราเลยครับ จริงอยู่ปัจจุบันนี้พุทธกับ พรหร์มนั้นกลมกลืนกันมากครับ ส่วนศาสนา พุทธนั้นเพื่อปลดทุกข์ปวงเพื่อละกิเลสต่างๆให้ หมดจด ขอขอบคุณคุณหมอมากมาเยี่ยมผม ครับ ขอขอบคุณมากครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 17:01 น. - comment id 1003326
คุณ นักสืบไร้อันดับ ขอบคุณครับเชอร์ล๊อคโฮม การเรียนรู้ธรรม ย่อมน้อมนำความสุขมาให้เสมอๆครับ และทำให้ จิตใจเราเข้าใจเยือกเย็นลงครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 17:05 น. - comment id 1003328
คุณ ใจปลายทาง อนุโมทนาครับ ด้วยผลแห่งธรรมจงบังเกิดให้ คุณรุ่งโรจน์ในธรรมครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 17:13 น. - comment id 1003331
คุณ แก้วประภัสสร การน้อมนำธรรมไว้ในใจเรา ย่อมทำให้เรา นั้นมีจิตใจเยือกเย็นรู้สิ่งใดควรไม่ควร หากคนเรา ไม่ใจเย็นแล้วสิ่งผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นง่ายครับจำไว้ การสร้างทางกุศลไม่ยากหรอกครับที่บ้านก็ทำได้ การไหว้พระสวดมนตร์ก็คือกุศลผลบุญประการหนึ่ง ไม่ใช่ใส่บาตรพระหรือสร้างสิ่งสารณะกุศลเป็นผล บุญอันยิ่งใหญ่ก็หาไม่ การหมั่นพิจารณากายเราให้ แจ้งและรู้เท่าทันกิเลสนั่นแหละคือบุญอันยิ่งใหญ่ สิ่งแรกคือการทำสมถะกรรมฐาน การทำลักษณะ นี้ไม่ใช่ว่าต้องนั่งขัดสมาธิทำ จะทำในลักษณะใดๆ ย่อมได้ การ ยืน เดิน นั่งและนอนหากฝึกอาปานา ณสติไว้อย่างสม่ำเสมอก็เป็นบุญอันยิ่งใหญ่มาก หากยิ่งมาพิจารณาที่เรียกว่าวิปัสสนาด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นบุญกุศลอันหาใดเทียบมิได้ กุศลเกิด จากใจเรา ใจเราเป็นประธานต่องร่างกายเรา หากฝึกใจเราให้มีธรรมเข้าย้อมนำเสมอนั่นแหละ ก็จะพบแต่ความสุขจ้า ศิษย์เราหากเรามีสมาธิ ย่อมสามารถแก้ไขปัญหาใดๆก็ได้เพราะเมื่อมี สมาธิย่อมก่อเกิดแห่งปัญญามองทางออกจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 17:18 น. - comment id 1003333
คุณ ไหมไทย ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ ใช่ครับพรุ่งนี้วัน พระเป็นวันที่ควรยิ่งในการฝึกฝนตนเองรักษาศีล แค่ศีล 5 พยายามรักษาไว้ให้มั่นก็เพียงพอแล้วหาก ทำสมาธิด้วยก็ยิ่งดีใหญ่ครับ ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 17:23 น. - comment id 1003334
คุณ แมงกุ๊ดจี่ โทษทีนะครับที่ตอบช้าเพราะทราบว่าคุณนั้น ถึงแล้วแห่งธรรม อนุโมทนาด้วยครับ ผมคิดว่าคุณ นั้นย่อมมีธรรมอยู่ในจิตใจเสมอต้นเสมอปลายครับ ด้วยผลบุญกุศลที่ผมมีและคุณมีจงเกิดแก่คุณครับ คุณมะกรูดคนสวย รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มิถุนายน 2552 20:59 น. - comment id 1003420
สาธุ สาธุ
21 มิถุนายน 2552 21:33 น. - comment id 1003441
ผมว่าโคลงกลอนนี้ยากแล้วนะครับ พอฟัง ครูแก้วประเสริฐ อธิบายธรรมะ ยากกว่าอีก ผมจะจำไว้ครับ หัดทำสิ่งที่ยาก แล้วมาง่าย แต่ปฏิบัติไม่แน่นะครับ เพราง่ายๆ ผมยังยากเลย อิอิ สาธุ ในกุศลกรรม ความหวังดีครับ
21 มิถุนายน 2552 23:40 น. - comment id 1003488
เข้ามาอวยพรวันเกิดเพื่อนแก้วช้าคงไม่เป็นไรนะครับ เข้ามาก็ได้รู้ว่าภูมิธรรมของเพื่อนแก้วนี่ไม่ใช่เล่นๆ ซะแล้วครับ แนะนำผมด้วยนะครับ
22 มิถุนายน 2552 07:55 น. - comment id 1003517
สวัสดีค่ะ คุณครูแก้วประเสริฐ เพราะจังเลยค่ะ ขอมอบเทียนให้ความสว่างด้วยคนค่ะ
22 มิถุนายน 2552 12:01 น. - comment id 1003576
คุณ ธันวันตรี ขอบคุณครับอนุโมทนาด้วยครับ ผมไปส่งงาน ที่คุณดอกแก้วก็พบและอ่านงานคุณด้วยครับ เขียน ได้ดีครับ ขอบคุณว่างๆแวะมาหน่อยนะครับ เรื่องนี้ ผมก็ไปส่งให้เขาด้วยยอดหญิงแห่งธรรม แก้วประเสริฐ.
22 มิถุนายน 2552 12:06 น. - comment id 1003578
คุณ กวีน้อยเจ้าสำราญ ครับงานกลอนธรรมจะยากกว่างานทั่วๆไปครับ ด้วยเหตุว่าการอธิบายให้คนอ่านเข้าใจนั้นยาก และอีกประการหนึ่งหากยกคำบาลีสันสฤตยิ่งยาก ไปใหญ่เพราะผมถือหลักสำคัญในการเขียนกลอน คือหากกลอนแปดต้องครบแปดคำพร้อมทำนองยก เว้นคำกล้ำมักจะไปไว้ท้ายเสมอ กลอนที่เขียนด้วย งานธรรมบางคำต้องมากกว่าเพราะออกเสียงถึงสาม หรือสี่เสียงเป็นต้นครับ เริ่มแรกผมเล่นกลอน ใหม่ๆก็หัดฝึกหัดสิ่งที่ยากไว้ก่อน หากฝึกจนเข้า ใจจับจุดได้สามารถฝึกฝนจนพอตัว พองานง่ายๆ ก็จะมองออก อย่างการทำงานเป็นต้นครับ ขอบคุณ ที่แวะมาเยี่ยมครับ แก้วประเสริฐ.
22 มิถุนายน 2552 12:48 น. - comment id 1003589
คุณ ลำน้ำน่าน ขอบคุณในคำอวยพรครับผมครบอายุเมื่อวาน นี้เองแหละครับวันนี้เริ่มต้นใหม่ว่าชีวิตเรารอดมา ได้อีกหนึ่งปีแล้วจะด้วยปัจจัยใดๆก็ตามเถอะ หากจะ บอกวิธิการฝึกให้ก็เกรงว่าจะเอามะพร้าวไปขายสวน เสีย เอาเพียงเล็กน้อยนะครับคือ ลองคิดดูแบบง่ายๆ นะครับว่าปัญญาเราเกิดจากอะไรก่อน ปัญญา เกิดได้ก็มาจากสมาธิเป็นปัจจัยคือเริ่มต้นแห่ง สมาธิคือ ขนิกษสมาธิ ด้วยทุกๆคนต้องมีหากไม่ มีก็ไม่สามารถอ่านหนังสือได้นั่นคือบ่อเกิดแห่ง สมาธิ พูดถึงเรื่องสมาธิเบื้องต้นคือ สมาธิที่สำคัญ มากคือ อุปปาจารสมาธิ แม้แต่องค์สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนจะเข้าปรินิพพานก็เจริญสมาธิ จากล่างไปถึงสูงสุดแล้วค่อยเพื่อให้เกิดความมั่น คงแน่วแน่ตรวจสอบจนแน่ใจถึงฌานต่างๆแล้ว ก็ถดถอยลงมาถึงอุปจารสมาธิและก็เสด็จเข้าสู่ ปรินิพานในสมาธินี้ครับถึงแม้จะดูว่าเป็นสมาธิ อันต่ำต้อยก็ตามด้วยเหตุอุปจารสมาธินี้จะออก ในสองแนวทางคือทางโลกและทางธรรมสามารถ มีสติสัมปชัญญะทั้งสองแนวทางครับ การฝึกหัด ควรเชี่ยวชาญจากล่างไปสู่ที่สูงคือฌานแล้วถอย ลงมาตรวจสอบถึงจะเกิดปัญญาอันแท้จริงครับ อาปานานสตินั้นส่วนใหญ่จะฝึกลมหายใจเข้า ออกจากมากเข้าสู่ละเอียดอ่อนและตั้งจิตไว้ที่ ปลายจมูกเพื่อสังเกตุลมหายใจของเรา แต่ส่วน ผมนั้นฝึกจากใจซึ่งอยู่ที่ทรวงอกเราระหว่าง ซี่โครงกระดูบรรจบกันด้านหนึ่งอยู่ตรงกลางซึ่ง เป็นที่อาศัยของใจเรามิใช่หัวใจนะครับ หากเรา ฝึกฝนจิตตรวจสอบลมหายใจเราที่นั่นได้ประโยชน์ มหาศาลเพราะหนึ่งจิตนั้นจะจับได้ง่าย สองทำให้ จิตเรามั่นคงแข็งกล้าไม่เกรงหวั่นต่อสิ่งใดๆทั้งสิ้น จิตก็พร้อมจะอาศัยอยู่ด้วย ผมทดลองหลายๆแห่ง เช่นกลางหน้าผาก ปลายจมูก ศูนย์กลางของร่าง กายเราอย่างหลวงพ่อสดคือสะดือของหลวงพ่อสด เหนือสะดือขึ้นมาหนึ่งนิ้ว แต่ผมทดลองมาหลายๆ วิธีสู้วิธีนี้ไม่ได้หรอกครับ คือฝึกที่ใจเราเองโดย ค้นหาต้นตอที่ใจอาศัยอยู่เป็นหลักสำคัญ การ เจริญสมาธิก็จะง่ายกว่าเพราะสามารถตรวจสอบ สิ่งภายนอกภายในได้ง่ายตลอดจนใจเราไม่ แกว่งไกวไปตามกระแสลมหายใจเข้าออกด้วย จะเกิดความเยือกเย็นนี่คือหลักของผมที่ค้นพบ เองครับ เมื่อฝึกไปนานๆเข้าปัญญาย่อมเกิดขึ้น ได้เอง คุณลองสังเกตุตัวเองซิครับว่าสิ่งแรกที่ คุณคิดต้องการเริ่มต้นจากไหนก่อน สาเหตุเกิด จากจิตซึ่งมีการสอดส่ายไปมาๆเหมือนกระแสลม พอจิตเกิดขึ้นพร้อมจะนิ่งเจตสิกนั้นก็จะเกิดมาก ขึ้นจิตกับเจตสิกเปรียบดั่งเงาของร่างกายเราเอง หน้าที่ของเจตสิกคือบันทึกจดจำในสิ่งที่จิตไปรับ รู้ในสิ่งต่างๆทั้งหลายแล้วก็นำส่งไปยังใจของคน เรา เมื่อใจทราบทั้งภายในภายนอก ซึ่งทางธรรม เรียกว่าอายตนะภายนอกและภายในนั่นเอง อายตนะภายนอก คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ อายตนะภายในคือ รูป รส กลิ่น เสียง โผสธัพพะ และธรรมมารมย์ ทั้งหมดนี้จิตเป็นผู้สอดส่าย แสวงหาทั้งสิ้น เมื่อเจตสิตบันทึกไว้ก็ส่งไปที่ใจ ใจก็จะส่งไปยังขันธ์ห้า เพื่อสนองความต้องการ ของคนเรา อันขันธ์ห้านี่ไม่ใช่พวกคนทรงเจ้า ชอบยกอ้างนะครับ ขันธ์ห้านี้ คือ รูปนาม เวทนา สัญญา สังขารและวิญญาณ เกิดได้ก็ด้วยอายตนะ ทั้งสิ้น การเข้าสู่นิพพานได้ที่ใด ผมจะบอกให้ ครับด้วยผมเคยฝึกจนรับรู้มาไม่มีในตำราหรอก รับรองได้ ขันธ์ห้า คือ รูปนาม นั่นจะสวยหรือ ไม่เสียงไพเราะหรือไม่ชื่อด้วยรวมไว้หมด ส่วนเวทนาคือการเสวยอารมณ์ของเราคือ สุข ทุกข์และไม่สุขไม่ทุกข์วางเฉยๆ สัญญาคือสิ่งที่จำ ได้หมายรู้ก็เกิดจากใจนี่แหละ สังขารคือการ ปรุงแต่งของอารมณ์เราเองคือจิตเจตสิกและใจ เมื่อปรุงแต่งเรียบร้อยมากบ้างน้อยบ้างก็ส่งไป ที่วิญญาณ วิญญาณนี่เปรียบเสมือนผ้าขาวใส สะอาดไม่มีมลทินใดๆทั้งสิ้นคือเป็นอมตะวิญญาณ เมื่อสังขารปรุงแต่งในลักษณะที่กล่าวมาแล้วก็ จะส่งไปที่วิญญาณ วิญญาณก็จะส่งไปยังรูปหาก เปรียบคือสมองของเราเองนั่นแหละสั่งการให้ รูปกระทำสิ่งผิดหรือถูกนั้นๆ การเข้าสู่นิพพาน ได้นั้นคือต้องตัดการปรุงแต่งสิ่งทั้งหลายคือ สังขารเสียให้หมดทั้งสิ้นไม่เหลือแม้แต่รากเง่า ที่ซ่อนเร้นฝังลึกในใจหรือเรียกว่าสามัญสำนึก เล็กบ้างน้อยบ้างใหญ่บ้างเป็นปัจจัย เมื่อเราหยุด ได้โดยการปล่อยวางละเสียให้สิ้นก็ย่อมไม่มีอะไร ไปส่งให้วิญญาณ วิญญาณก็จะเกิดรัศมีส่งประกาย ดั่งแก้วประภัสสรสว่างรัศมีพร่างพรายนี่คือบ่อเกิด แห่งปวงเทพทั้งหลายก่อนจะมีโลกนี้เกิดขึ้น ที่ทำ ให้เกิดกิเลส เพราะความ โลภ โกรธ หลงด้วย ต้นตอแห่งตัณหาคือความอยากนั่นเอง เมื่อขาด การปรุงแต่งแล้วก็จะเข้าสู่ปรินิพานก็ตรงที่สังขาร นี่แหละ ฌานต่างๆนั้นจะยังมีกิเลสซ่อนเร้นอยู่ ยกเว้นพระอรหัตตผลเท่านั้นที่จะพึงทำได้ แม้ แต่อรหัตต์นั้นยังแบ่งออกเป็นสองทาง คือ อรหันตมรรค และอรหัตต์ผลครับ จะไปได้ก็มี ทางเดียวคือ อุปจารสมาธิดังกล่าวนั่นเอง โอ้ย นี่เป็นเพื่อนนะถึงได้แจ้งให้ทราบไว้เพราะเห็น ว่าชอบในแนวทางเดียวกัน การทำได้อยู่ที่บารมี ของแต่ละบุคคลที่พึงปฏิบัติรวมถึงอดีตชาติด้วย เป็นปัจจัยต่อเนื่องมา เอาเท่านี้ก่อนนะครับนี่ ผมสรุปไว้แบบให้ง่ายๆตามที่ฝึกฝนและศึกษา มาแต่ อิอิ ผมยังทำไม่ถึงขั้นนั้นหรอกแต่เพียง แค่รู้และค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
22 มิถุนายน 2552 12:54 น. - comment id 1003590
คุณ ครูกระดาษทราย สวัสดีครับ ผมว่าผมนั้นอ่อนเชลาเบาปัญญา แล้วยังอุตส่าห์มาชมอีก ขอบคุณครับ เทียนนั้นผม ขอเก็บไว้นะครับ คุณดูภาพของเสงเทียนกับที่รอง เทียนซิครับยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนอารมณ์ ของคนเรามิผิดครับ ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
22 มิถุนายน 2552 13:19 น. - comment id 1003594
ต้องขอบคุณครับเพื่อนแก้วที่บรรยายไว้อย่างดีมาก ผมเองก็พยายามฝึก ไม่รู้จะได้สักแค่ไหนครับ ซาบซึ้งมากกับภูมิธรรมที่ถ่ายทอดมาให้ครับ
22 มิถุนายน 2552 13:46 น. - comment id 1003601
คุณ ลำน้ำน่าน มิเป็นไรหรอกครับสิ่งใดรู้ก็บอกสิ่งใดไม่รู้ผม ก็ไม่บอก ทุกๆอย่างอยู่ที่ใจ ใจเราเป็นประธานเป็น ใหญ่กว่าสิ่งทั้งหลายสำเร็จได้ก็ด้วยที่ใจนี่แหละครับ การฝึกฝนดังกล่าวไว้แล้ว อยากบอกอีกนิดคิดว่า ลมเข้าให้เก็บไว้ที่ใจ ลมออกให้ออกไปที่ปลายจมูก เอาแค่นี้ ส่วนองค์ภาวนาไม่จำเป็นหรอกว่าต้องใช้ แบบเขายึดติดไว้ อยู่ที่ใจเรานี่แหละชอบบทภาวนา บทใดใช้บทนั้น เพราะจะทำให้จิตใจเราไม่หวั่นไหว ต่อกระแสลมของเราเองครับ พอนานๆเข้าจิต ก็จะรวมตัวเป็นหนึ่งเหลือไว้แค่ใจเราเพียงอย่าง เดียวครับ ปัญญาก็เกิดการพิจารณาเองครับ ตอนแรกจะเกิดเป็นสองส่วนคือ ส่วนหนึ่งคอย ถามอีกส่วนหนึ่งคอยตอบภูมิปัญญาธรรมทั้งหลาย เราจะรู้ก็เกิดจากสิ่งนี้ สาเหตุเพราะการเก็บสะสม ไว้มาหลายกัลป์แล้วพอถึงในจุดๆหนึ่งมันจะแจ้ง เองแหละครับ ผมทราบก็เพราะสิ่งเหล่านี้นี่แหละ ถึงสามารถเข้าใจในกายได้พอประมาณครับ อันที่จริงคือหนึ่งเดียวคือใจนั่นเองแต่เพียงจะ แจ้งให้เรารู้ไว้เท่านั้นเองครับ รักเสมอครับ แก้วประเสริฐ.
22 มิถุนายน 2552 15:15 น. - comment id 1003649
อ้าว เกิดวันเดียวกันกับพี่ราชิกานิครับ ขอให้มีความสุขมากๆ ครับ ^ ^ เข้าไปอ่านงานของคุณแก้ว ที่นั่นเหมือนกันครับ เขียนได้ดีเหมือนเดิมเลยนะครับ ^ ^
22 มิถุนายน 2552 16:35 น. - comment id 1003710
คุณ ธันวันตรี ครับผมเกิดวันเดือนเดียวกับแฝดเพื่อนครับ และรู้สึกว่าจะตกฟากคล้ายๆกันด้วยครับ ขอบคุณ ที่อวยพรครับ งานผมนั้นไปเรื่อยๆแหละครับไม่ โลดโผนทันสมัยกับเขาหรอกครับและรู้สึกว่าจะออก แนวโบราณครับ ขอบคุณครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
22 มิถุนายน 2552 16:40 น. - comment id 1003714
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังค่ะคุณลุง
22 มิถุนายน 2552 18:06 น. - comment id 1003751
คุณ เพียงพลิ้ว หลานกานต์ที่รักยิ่ง แหม๋ๆๆเลยวันครบเกิด เวลาตกฟากพอดีเลยจ้า เกินไป 1 วันพอดิบพอดี เลย ขอบใจหลานรักมากขอให้มีความสุขสมหวัง สมปรารถนาทุกๆประการนะจ๊ะหลานรัก รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
22 มิถุนายน 2552 19:40 น. - comment id 1003791
แฝดเพื่อน....เป็นอย่างไรบ้างคะ..อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะจ๊ะ...คิดถึงและเป็นห่วงค่ะ... ..ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ...มาอวยพรวันเกิดย้อนหลัง 1 วันจ๊ะ...
22 มิถุนายน 2552 20:07 น. - comment id 1003826
คุณ ราชิกา แหม๋ๆๆๆแฝดเพื่อนที่รักยิ่ง ระยะนี้ผมไม่ได้ ไปไหนหรอกครับกลัวฝน เพราะตกทุกๆวันเลย ตกมากไม่เท่าไหร่นี่เล่นตกปรอยๆซิ อีกอย่างหนึ่ง ปกติระยะหลังนี้ผมเองไม่ค่อยชอบเที่ยวที่ไหนอีก นอกจากฟังเพลง เล่นคอมฯ ดูโน่นนี่บ้าง ให้อาหาร สัตว์ที่เลี้ยง รดน้ำต้นไม้เป็นประจำ เย็นมากหน่อย ก็บริหารร่างกายนิดๆหน่อยแก้เมื่อจ้า ไม่อยากให้ เส้นยึดมาก เมื่อก่อนขี่จักรยานวันละ 10-20เที่ยว แต่ระยะนี้ไม่ได้ขี่เลย ผมชอบขี่จักรยานมาก ได้กำลังข้อขาดีจ้า อีกอย่างหนึ่งผ่านไปอีกปีหนึ่ง แล้วนะปีสองจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้ แต่ผมเอง เป็นห่วงคุณมากเช่นกัน งานการเพลาบ้างก็ควร เพลาบ้าง การหักโหมมากนักก็ไม่ดี อยู่รพ.คงไม่ เป็นไรหรอกหยูกยาและความรู้ก็แยะ ผมเองซิ ต้องเป็นหมอเอง อิอิ ทานจนรู้ว่าต้องใช้แบบไหน รักและห่วงใยมากจ้า รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2552 09:29 น. - comment id 1004036
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะค่ะคุณลุงแก้ว หลานคนนี้เอาดอกไม้มามอบให้ สุขภาพแข็งแรง หวังสิ่งใดก็สมหวังนะค่ะ
23 มิถุนายน 2552 10:07 น. - comment id 1004069
คุณ whitelily แม่ดอกลิลลี่สี่ขาวแสนสวย ขอบคุณครับใน คำอวยพรให้แก่ผม ขอให้หลานรักจงประสพแต่ ความสุขคิดอะไรสมความปรารถนาทุกประการ และผองภัยภยันตรายอย่าได้บังเกิดกล้ำกราย เจริญๆเถอะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
23 มิถุนายน 2552 22:26 น. - comment id 1004484
เพิ่งทราบว่าครูแก้ว เกิดวันเดียว เดือนเดียวกับคุณราชิกา...ถึงว่าเห็นครูแก้วเรียกคุณราชิกาว่าแฝดเพื่อน ผมขอให้ครูแก้วมีแต่ความสุขกายและใจไปตลอดนะครับ( มาช้า ต้องขออภัยด้วยครับ) ..โคลงธรรมแบบนี้ ครูเขียนได้ดีครับ..ที่จริงผมเองก้อยากเขียนโคลง แต่ลงมือเท่าไหร่ก็ไม่ดีสักครั้ง แต่ก็จะหัดฝึกฝนไปเรื่อยๆ ครับ ดูจาก กลอนครูแก้ว และคุณหมอวฤก อีกท่านหนึ่ง ..ดูแลตัวเองด้วยครับครู
24 มิถุนายน 2552 19:51 น. - comment id 1004805
คุณ กิ่งโศก หมอวฤกนั้นท่านเป็นนายแพทย์จริงๆและเก่ง เรื่องโคลงมากผมเองสู้ท่านไม่ได้หรอกครับ แต่แนว การเขียนจะคนละทางกัน แล้วแต่คนเขียนครับ ทั้งที่ผมเองเป็นคนชอบโคลงมาก แต่มาฝึกฝนทาง ด้านกลอนแปดเป็นหลักใหญ่ เพราะว่ากลอนแปด นั้นหากฝึกฝนจนชำนาญแล้วสามารถประยุกต์ไป กับสิ่งอื่นๆได้หมดครับ ศิษย์เราก็เหมือนกันนะจง ฝึกกลอนแปดให้เชี่ยวชาญและแม่นยำไว้หาก เมื่อแน่ใจว่าสามารถเอาตัวรอดได้แล้ว นั่นแหละ ถึงจะมาฝึกอะไรอีก แต่ว่าอย่าให้เกินสามอย่าง นะเพราะจะสับสน ตอนแรกผมก็ทดลองและจริง เสียด้วยซิ พอจะหันมาจับสิ่งที่กระทำก็ทำให้รู้สึก ขัดๆชอบกล หากฝึกโคลงประสานกับกลอนแปด นั้นทำให้โคลงอ่อนไหวและง่ายมากเพราะเรา รู้จักการค้นหาอักษรมาเข้ากับทำนองได้ง่ายๆขึ้น อีกประการหนึ่ง ทำนองนั้นควรรู้และอ่านได้ด้วย การฝึกการอ่านคือหาดนตรีไทยเกี่ยวกับการอ่าน โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนและร่าย มาฝึกหัดไว้ อ่านทำนองไว้ก็จะง่ายต่อการแต่งสิ่งต่างๆได้ นะ จงพยายามหามักจะมีขายแถวสนามหลวง กรมศิลปกรนั่นแหละ ส่วนผมเองนั้นฝึกมาก่อน เมื่อคราวศึกษาชั้นมัธยมสมัยก่อนจึงสามารถ ท่องทำนองและขับเสภาได้ อนึ่งกลอนแปดนั้น สามารถขับเสภาได้ด้วยนะ เพราะทำนองเสภา นั้นสำคัญอยู่ที่การเอื้อนทำนองนะจำไว้ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.